เมื่อได้ยินเช่นนั้นดวงตาของยู่เฉิงไห่ก็เบิกกว้าง“ถ้าหากเป็นเขาจริง ข้าอยากที่จะพบเขา! ศิษย์น้องผู้หลักแหลมของข้า ไว้ข้าจะกลับมาทีหลัง!” ทันทีที่พูดจบยู่ฉางตงก็เตรียมบินออกจากรถม้าลอยฟ้า
สีวู่หยาได้คว้าแขนของยู่เฉิงไห่เอาไว้ก่อน“แต่ศิษย์พี่ใหญ่ พวกเราควรจะให้ความสำคัญกับภาพรวมก่อนนะ”
ในตอนนี้สำนักอเวจีกำลังพิชิตมณฑลยู่ในตอนนี้สำนักอเวจีกำลังชิงความได้เปรียบเอาไว้ได้ แต่ถึงแบบนั้นมันก็ไม่อาจวางใจได้ มียอดฝีมือมากมายกำลังซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครรู้เลยว่าจะมียอดฝีมือผู้เก่งกาจปรากฏตัวขึ้นมาตอนไหน เมื่อถึงเวลานั้นถ้าหากไม่มีผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบอย่างยู่เฉิงไห่คอยนำทัพ กระแสการต่อสู้อาจจะเปลี่ยนทิศไปก็ได้ นอกจากยอดฝีมือมากมายแล้วในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ยังมีแม่ทัพทั้งแปดอาศัยอยู่ ตราบใดที่ยู่เฉิงไห่ยังอยู่ที่นี่ ทุกคนจากสำนักอเวจีก็จะสามารถวางใจได้
ยู่เฉิงไห่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“น่าเสียดายจริงๆ …ฮั๊วจงหยาง”
“ครับท่านเจ้าสำนัก”
“ไปช่วยสหายของพวกเราซะถ้าเป็นไปได้ข้าอยากที่จะดื่มกับเขา เมื่อเวลาแห่งชัยชนะมาถึงพวกเราจะดื่มด่ำกันให้เต็มที่!” ยู่เฉิงไห่พูดขึ้น
“ครับท่านเจ้าสำนัก”
ฮั๊วจงหยางกระโดดลงจากรถม้าก่อนที่จะเร็วความเร็วตัวเขาไม่ลังเลเลยที่จะใช้พลังอวตารดอกบัวเจ็ดกลีบ
เมื่อได้เห็นพลังอวตารของฮั๊วจงหยางเหล่าทหารรวมไปถึงผู้ฝึกยุทธผู้ปกป้องเมืองต่างก็หวาดกลัว พวกเขาได้แต่วิ่งหนีไป โชคยังดีที่เป้าหมายของฮั๊วจงหยางไม่ใช่พวกเขา
ฮั๊วจงหยางได้บินไปยังประตูเมืองทางใต้เพียงแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้นฮั๊วจงหยางและพลังอวตารขนาดใหญ่ก็เดินทางมาถึงจุดหมาย
ยู่ฉางตงมองเห็นพลังอวตารดอกบัวเจ็ดกลีบจากหางตาเมื่อเห็นแบบนั้นตัวเขาก็ได้แต่ส่ายหัว “ช่างน่าเบื่อซะจริง” หลังจากนั้นยู่ฉางตงก็ตั้งใจชะลอความเร็วของดาบพลังงานที่ตัวเขาสร้างขึ้น
ตู๊ม!
พลังจากการระเบิดจุดพลังลมปราณของเซียวซานได้ซัดเข้าใส่ยู่ฉางตง
ยู่ฉางตงกระเด็นถอยกลับมา
“ท่านยอดฝีมือ!”ฮั๊วจงหยางได้ร้องเรียกยู่ฉางตง ตัวเขารู้สึกเคารพยกย่องยู่ฉางตงในฐานะยอดฝีมือมาก แม้ว่าฮั๊วจงหยางจะมีพลังอวตารดอกบัวเจ็ดกลีบก็ตาม แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ไม่กล้าแสดงท่าทีที่โอ้อวดต่อหน้าผู้ที่มีพลังอวตารไร้ดอกบัวห้ากลีบแบบเขาได้ ฮั๊วจงหยางเองก็ยังไม่เห็นใบหน้าของยู่ฉางตง
ยู่ฉางตงที่กระเด็นกลับได้ทรงตัวอย่างรวดเร็วไม่นานนักพลังอวตารของเขาก็ได้จางหายไปก่อนที่ยู่ฉางตงจะบินไปยังป่าด้านนอกเมือง
“จงออกมา!”ฮั๊วจงหยางไม่รอช้ารีบใช้พลังอวตารที่มีอย่างเต็มพลัง พลังอวตารของเขาขยายใหญ่มากยิ่งขึ้น
ฮั๊วจงหยางได้มองลงมาตัวเขาเห็นเซียวซานที่กำลังตกลงสู่พื้น เซียวซานในตอนนี้ถูกจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เซียวซานแห่งสถานศึกษาไท่ชู เจ้าปฏิเสธที่จะเดินบนทางที่ถูกต้องยังไม่พอ กลับเลือกที่จะเดินทางผิดแบบนี้? ดูเหมือนว่าบทเรียนที่ผู้อาวุโสจีได้สั่งสอนกับเจ้ามันจะยังไม่พอสินะ!”
ฮั๊วจงหยางที่พูดจบใช้พลังฝ่ามือจู่โจมเข้าใส่เซียวซานอย่างไม่หยุดพัก
ตู๊ม!
เซียวซานล้มลงกับพื้น
ตัวเขาที่โจมตีเสร็จไม่ได้มองไปที่เซียวซานฮั๊วจงหยางเลือกที่จะเร่งความเร็วไปทางป่าทางใต้แทน
หลังจากที่คลื่นพลังหายจางไปก็ไม่มีร่องรอยของยอดฝีมือที่ฮั๊วจงหยางได้ตามหาหลงเหลืออยู่
“เร็วจริงๆ” ฮั๊วจงหยางได้แต่พึมพำกับตัวเองก่อนที่จะเก็บพลังอวตารที่ใช้ไป ตัวเขามองเข้าไปในป่าอย่างลังเล ท้ายที่สุดฮั๊วจงหยางก็ไม่เลือกที่จะเดินเข้าไป ตัวเขาคารวะก่อนที่จะใช้พลังลมปราณสร้างเป็นคลื่นเสียง “เจ้าสำนักของพวกเราชื่นชมท่านยอดฝีมือมาก ท่านเจ้าสำนักได้ส่งข้ามาที่นี่ก็เพื่อที่จะเชิญท่านไปพบปะพูดคุย ท่านจะยอมรับคำเชิญนี้ไหม”
ในป่ายังคงเงียบสงัดไม่มีเสียงตอบรับอะไรกลับมา
ฮั๊วจงหยางรู้จักสถานะของตัวเองดียอดฝีมือผู้ที่ตัดดอกบัวทองคำก่อนที่จะฝึกฝนตัวเองจนกลายเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวห้ากลีบอีกครั้งไม่ใช่ผู้ที่อ่อนแอ คงจะไม่มีประโยชน์อะไรถ้าหากตัวเขายังคงไล่ตาม หลังจากนั้นไม่นานฮั๊วจงหยางก็ได้เปลี่ยนมาพูดชมเชยแทน “ทักษะดาบของท่านยอดเยี่ยมมากจริงๆ แม้ว่ามันจะน่าเสียดายที่ทักษะของท่านยังคงเทียบกับยู่ฉางตง ศิษย์คนที่สองแห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าไม่ได้ แต่มันก็ยอดเยี่ยมมากแล้ว น่าเสียดายที่ข้าไม่มีโอกาสได้พบท่าน ข้าคงต้องขอตัวก่อน” เมื่อพูดจบฮั๊วจงหยางก็จากไปอย่างรวดเร็ว..
ทั่วทั้งป่ายังคงเงียบสงบเช่นเดิม
ครู่ต่อมาฮั๊วจงหยางก็หันกลับมาเพื่อตรวจสอบ
“เขาไปแล้วจริงๆสินะ” ฮั๊วจงหยางได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ตัวเขาไม่รอช้ารีบหันหลังกลับไปยังมณฑลยู่
ณต้นไม้ใหญ่ภายในป่าอันเงียบสบบ ยู่ฉางตงถือดาบยืนยาวก่อนที่จะพึมพำออกมา “ทักษะหยาบๆ และลูกเล่นที่น่าเบื่อเองก็ไม่ได้ดีกว่าข้าหรอก”
สิ้นสุดเสียงพูดยู่ฉางตงก็เอามือจับหน้าอกตัวเขาต้องปรับสมดุลการไหลเวียนของพลังลมปราณอีกครั้ง ไม่ว่าจะเคยเป็นใครมาก่อนแต่ผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวห้ากลีบก็ยังเป็นเพียงผู้มีพลังอวตารดอกบัวห้ากลีบเท่านั้น ต่อหน้าผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวเจ็ดกลีบอย่างเซียวซาน การที่จะจัดการเขาโดยการทำลายจุดพลังลมปราณของเซียวซานและหลบหนีการจู่โจมครั้งสุดท้ายได้มันก็ดีมากแล้ว บางทียู่ฉางตงอาจจะเคยชินกับการเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบมากจนเกินไป คราวนี้ตัวเขาลงไปเสี่ยงจนเกินตัว
ยู่ฉางตงจับดาบยืนยาวก่อนที่จะยิ้มออกมาจางๆ“ไม่จำเป็นจะต้องรีบร้อน ยังไงซะข้าก็ต้องกลับไปยังจุดสูงสุดแน่”
…
หลังจากที่กลับรถม้าลอยฟ้าฮั๊วจงหยางก็ได้คำนับให้กับยู่เฉิงไห่ “ท่านเจ้าสำนัก ข้าไม่อาจไล่ตามเขาได้ทัน ยอดฝีมือผู้ลึกลับคนนั้น…รวดเร็วจนเกินไป”
ยู่เฉิงไห่ได้พูดออกมาอย่างไม่พอใจ“จงหยาง…ระยะหลังมานี้เจ้าทำตัวเฉื่อยชาไปหน่อยไหม ข้าคงดูแลเจ้าไม่ดีอย่างงั้นสินะ?”
ฮั๊วจงหยางรีบคุกเข่า“ข้าน้อยไม่กล้า! ข้ามัน…ข้ามันไร้ประโยชน์”
สีวู่หยาที่เห็นแบบนั้นรีบพูดแทรก“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านจะตำหนิพี่จงหยางอย่างเดียวก็ไม่ได้หรอกนะ ยอดฝีมือที่ฝึกฝนตัวเองจนมีพลังอวตารไร้ดอกบัวห้ากลีบอีกครั้งได้ย่อมไม่ถูกจับง่ายๆ แน่ จริงไหมละศิษย์พี่”
ยู่เฉิงไห่พยักหน้า“เจ้าพูดมีเหตุผล ศิษย์น้องผู้หลักแหลมของข้า”
ฮั๊วจงหยางเองก็รู้สึกผิดหวังไม่ต่างกันตัวเขารู้สึกว่าพักหลังมานี้กำลังพบกับความโชคร้ายไม่หยุดพัก ก่อนหน้านี้ฮั๊วจงหยางก็เคยทำภารกิจบนแท่นบูชาสวรรค์ล้มเหลว นอกจากนั้นตัวเขายังพาจีเทียนเด๋ากลับมายังสำนักอเวจี และเพราะแบบนั้นทำให้เจ้าสำนักของตัวเองถูกทำโทษ นอกจากนี้การที่ไล่ตามผู้ที่มีพลังอวตารไร้ดอกบัวห้ากลีบไม่ได้ก็ยังเป็นความผิดเช่นกัน
ยู่เฉิงไห่บอกให้ฮั๊วจงหยางลุกขึ้น“ลุกขึ้น เจ้าจะต้องทำงานให้หนักกว่านี้”
ฮั๊วจงหยางลุกขึ้น“ข้าจะทำให้ดีกว่านี้ ท่านเจ้าสำนัก”
ในตอนนั้นเองสีวู่หยาก็ได้ชี้ไปยังเมืองก่อนจะพูดออกมา“พวกเรามาถึงคฤหาสน์ของแม่ทัพแล้ว ศิษย์พี่ใหญ่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่านแล้ว”
ทุกๆคนมองไปที่คฤหาสน์แม่ทัพตามสัญชาตญาณ
สาวกจากสำนักอเวจีได้ล้อมรอบคฤหาสน์แม่ทัพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากการคำนวณที่สีวู่หยาคาดไว้จี้ชิงชิงน่าจะต้องปรากฏตัวอยู่ในสนามรบก่อนหน้านี้ แต่สีวู่หยาก็คาดผิดไป จนถึงตอนนี้แม่ทัพของฝ่ายศัตรูยังไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเลย
ไม่นานนักยู่ฮงยอดฝีมือลำดับที่สองของโถงมังกรฟ้าก็ได้บินกลับมา “คฤหาสน์ว่างเปล่าครับท่านเจ้าสำนัก”
“ไม่มีใครอยู่ข้างในเลยอย่างงั้นเหรอ”ยู่เฉิงไห่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
สีวู่หยาครุ่นคิดพักหนึ่งก่อนที่จะพูดออกมา“เจ้าพวกนี้เป็นคนที่มีไหวพริบดี ไม่น่าแปลกเลยที่พวกเขาจะเคลื่อนไหวเร็ว จี้ชิงชิงคงจะยอมแพ้ให้กับการปกป้องมณฑลยู่ก่อนที่จะหนีไปกลางดึกแล้วแน่”
ยู่เฉิงไห่ที่ได้ฟังแบบนั้นรู้สึกกระปรี้กระเปร่า
สาวกจากสำนักอเวจีบนรถม้าลอยฟ้าต่างก็โค้งคำนับให้“ขอแสดงความยินดีด้วยที่ท่านพิชิตมณฑลยู่ได้แล้ว”
…
เช้าวันรุ่งขึ้นภายในป่าไผ่สีม่วงที่อยู่ทางเหนือของมณฑลยู่
จี้ชิงชิงหนึ่งในแปดแม่ทัพใหญ่กำลังนั่งอย่างสง่างามท่ามกลางต้นไผ่
มีทหารสี่คนคอยเฝ้าระวังอยู่ใกล้ๆตัวนาง
“ท่านแม่ทัพมณฑลยู่ล่มสลายแล้ว”
“ข้ารู้แล้ว”จี้ชิงชิงเช็ดน้ำดื่มจากริมฝีปาก จากนั้นนางก็ค่อยๆ ลุกขึ้นก่อนที่จะมองไปยังทิศที่มณฑลยู่ตั้งอยู่ ในตอนนี้ใบหน้าของนางไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธเกรี้ยวอะไรออกมา
“นี่มันก็สายมากแล้วพวกเราควรจะเดินทางต่อไปเลยดีไหมท่านแม่ทัพ”
“อย่าได้รีบร้อนไปรออีกหน่อย”
“รอ”รองแม่ทัพทั้งสี่ต่างก็งุนงง ทุกคนได้ยอมแพ้ที่จะปกป้องมณฑลยู่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วทำไมทุกคนถึงยังไม่รีบเดินทางกัน?
“การหนีทหารถือเป็นโทษสถานหนักท่านแม่ทัพ ถ้าหากพวกเรายังไม่รีบหนีพวกเราจะต้องถูกประหารแน่”
“การต่อสู้มันช่างไร้ความหมาย”จี้ชิงชิงตอบกลับมา
ในตอนนั้นเองชายผู้ใช้ดาบชุดเขียวก็เดินเข้ามาหาทุกคนอย่างช้าๆตัวเขาเดินมาจากป่าไผ่ที่อยู่ทางตอนใต้
ใบหน้าของรองแม่ทัพทั้งสี่เปลี่ยนสีไปในทันทีทุกคนกลับมารวมตัวใกล้ๆ กับจี้ชิงชิงก่อนที่จะชักดาบออกมา
จี้ชิงชิงเหลือบมองไปที่ชายผู้ใช้ดาบชุดเขียว“ถอยกลับมาซะ”
“ท่านแม่ทัพ”
“ข้ารู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร”จี้ชิงชิงพูดย้ำ
รองแม่ทัพทั้งสี่ได้ถอยได้ด้านหลังนางแทน
จี้ชิงชิงได้เผชิญหน้ากับชายผู้ใช้ดาบชุดเขียวจากในระยะไกล“เจ้าอยู่ที่นี่เองอย่างงั้นเหรอ”
“เมื่อข้าได้ให้สัญญาข้าก็จะไม่คืนคำได้” ชายผู้ใช้ดาบชุดเขียวได้ยิ้มจางๆ
จี้ชิงชิงพูดต่อ“ข้าจะรักษาสัญญาณที่มีไว้กับเจ้า…ข้าหวังว่าพวกเราจะไม่ต่อรองอะไรกันอีก”
ยู่ฉางตงตอบกลับ“เมื่อข้าได้พูดอะไร ข้าก็จะทำตามนั้น เมื่อข้าได้ทำอะไร ข้าก็จะทำต่อไป ตั้งแต่ที่เจ้าออกมาจากมณฑลยู่ เจ้าก็ไม่อยู่ในรายชื่อของข้าอีก”
เมื่อได้ยินแบบนั้นรองแม่ทัพทั้งสี่ก็รู้ตัวตนของชายผู้ใช้ดาบชุดเขียวได้ในทันทีเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวมาว่า ยอดฝีมือผู้ใช้ดาบคนหนึ่งกำลังคิดที่จะเลียนแบบดาบปีศาจ เขาคนนั้นตั้งใจสร้างรายชื่อขึ้นมาเหมือนกับที่ยู่ฉางตงเคยทำ มันเป็นรายชื่อของผู้ที่อยู่ในมณฑลยู่ ทุกคนที่มีชื่อต่างก็ถูกสังหาร จี้ชิงชิงและรองแม่ทัพทั้งหมดต่างก็มีชื่ออยู่ในนั้น และเพราะแบบนั้นรองแม่ทัพทั้งหมดที่เหลือจึงรู้สึกกลัวจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าชายผู้ใช้ดาบจะเป็นยอดฝีมือลึกลับคนนั้น
“เจ้ารู้ไหมทำไมข้าถึงสัญญากับเจ้าว่าข้าจะออกจากมณฑลยู่”จี้ชิงชิงถามด้วยรอยยิ้ม
“เพราะอะไรล่ะ”
“เพราะวิธีการเคลื่อนไหวของเจ้าวิธีที่เจ้าได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง วิธีการพูดหรือแม้แต่วิธีการเคลื่อนไหวของเจ้ามันคล้ายกับผู้ที่ข้าชื่นชอบน่ะ” จี้ชิงชิงตอบกลับมาอย่างตรงไปตรงมา
“…”
จี้ชิงชิงเหลือบมองไปที่ชายผู้ใช้ดาบก่อนจะพูดต่อ“เจ้าคงคิดว่าผู้ที่อยู่แต่ในสนามรบอย่างข้าจะไร้หัวใจอย่างงั้นสินะ เจ้าน่ะคิดผิดแล้วล่ะ…ชายผู้ที่ข้าตามหาที่เป็นผู้ที่คู่ควรกับจี้ชิงชิง เขาเป็นคนเดียวที่เหมาะสมพอที่จะกลายเป็นผู้ชายของข้า แต่ถึงแบบนั้นเขาก็มาจากศาลาปีศาจลอยฟ้า พวกเราต่างก็มาจากคนละฝ่าย…สีหน้าของเจ้าทำไมเป็นแบบนั้นกัน? เจ้ากำลังคิดดูถูกข้าอย่างงั้นเหรอ?”