ตอนที่ 1011 ความคิดถึงก็ถือเป็นอาการป่วยแบบหนึ่ง (3) ตอนที่ 1012

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1011 ความคิดถึงก็ถือเป็นอาการป่วยแบบหนึ่ง (3) / ตอนที่ 1012 เจ้าเล่ห์เพทุบาย
ตอนที่ 1011 ความคิดถึงก็ถือเป็นอาการป่วยแบบหนึ่ง (3)

จวินอู๋เย่าอ่านทุกๆ คำในจดหมายนั้นอย่างละเอียด แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของเขา รอยยิ้มนี้แตกต่างจากรอยยิ้มร้ายกาจราวปีศาจร้ายก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง แต่มันเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนมาก ทำให้ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบนั้นดูงดงามน่าหลงใหลมากขึ้น

“คุณหนูใหญ่มีเรื่องอะไรหรือขอรับ” เยี่ยเม่ยถามเมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของนายท่านของเขาและเดาได้ทันทีว่าข้อความในนั้นเกี่ยวกับอะไร ในโลกนี้คนเพียงผู้เดียวที่ทำให้นายท่านของเขายิ้มแบบ ‘ธรรมดา’ ได้ก็มีแต่คุณหนูใหญ่เท่านั้น

“ดูเหมือนเด็กน้อยจะคิดถึงข้า” จวินอู๋เย่าพูดพร้อมกับยิ้ม น้ำเสียงของเขาดูจะปลื้มใจมาก

“คราวนี้นายท่านจากมานานที่สุดเลยนี่ขอรับ เป็นธรรมดาที่คุณหนูใหญ่จะคิดถึงนายท่าน พวกเราหาที่ตั้งหนึ่งในของพวกนั้นได้แล้ว อย่างนั้นเรากลับไปก่อนแล้วมอบมันให้คุณหนูใหญ่ดีหรือไม่ขอรับ” เยี่ยเม่ยถามพร้อมกับมองจวินอู๋เย่า

จวินอู๋เย่าใช้นิ้วลูบจดหมายนั้นเบาๆ แล้วมันก็กลายเป็นฝุ่นกระจายไปในสายลม

“อย่าเพิ่งบอกนางเรื่องของพวกนี้ แต่…ก็ได้เวลาที่พวกเราจะกลับไปดูทางนั้นสักหน่อย เด็กน้อยช่างไม่อยู่นิ่งเลยจริงๆ แค่ช่วงเวลาสั้นๆ นางก็วิ่งไปทั่วเมืองพันอสูรแล้ว”

“นายท่านขอรับ! มีคนจากสิบสองตำหนักอยู่ที่เมืองพันอสสูรด้วยไม่ใช่หรือขอรับ ถ้านายท่านไปที่นั่นตอนนี้…” เยี่ยเม่ยอดกังวลไม่ได้ เขาไม่กลัวสิบสองตำหนัก แต่มันยังไม่ใช่เวลาที่นายท่านของเขาจะเปิดเผยตัวต่อหน้าพวกสิบสองตำหนัก ถ้าข่าวเรื่องนายท่านยังมีชีวิตอยู่รั่วไหลออกไป เขากลัวว่า…

“ไม่เป็นไร” จวินอู๋เย่าโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ

“ถ้าข้าฆ่าพวกมันทั้งหมด ก็ไม่มีใครหน้าไหนพูดอะไรได้แล้ว” จวินอู๋เย่าพูดพร้อมกับยิ้มอย่างร้ายกาจ

ในโลกนี้มีเพียงคนตายเท่านั้นที่เก็บความลับได้ดีที่สุด

……

ที่ตึกน้ำค้างเหมันต์ หลินเฟิงเดินวนรอบห้องของตัวเองไม่หยุด สีหน้าของเขาทั้งวิตกกังวลและหวาดกลัว

“คุณชาย…” คนรับใช้ทักพร้อมกับเดินเข้ามา

หลินเฟิงรีบพุ่งเข้าไปหาทันทีและถามอย่างร้อนใจว่า “เจ้าพบท่านพ่อหรือยัง”

คนรับใช้ส่ายหน้า

“ตอนนี้ท่านหัวหน้าตึกกำลังยุ่งอยู่ขอรับ ข้าไปขอเข้าพบนายท่านแต่นายท่านก็ไม่อยู่ที่นั่น”

“บัดซบ!” หลินเฟิงทุบโต๊ะดังปัง มังกรมายาตายไปแล้ว เขาจะตอบคำถามท่านพ่ออย่างไรดี

ต่อให้ท่านพ่อให้อภัยเขาเพราะเขาเป็นบุตรชายจึงปรานีให้ แต่มังกรมายาเป็นสิ่งที่ตั้งใจจะมอบเป็นของขวัญให้แก่ท่านผู้นั้น ตอนนี้มังกรมายาตายไปแล้ว เขาจะเผชิญหน้ากับเรื่องนี้อย่างไรดี

“เจ้าออกไปเฝ้าที่ประตู! พอท่านพ่อกลับมาให้รีบมารายงานข้าทันที!” หลินเฟิงพูดอย่างกระสับกระส่าย

คนรับใช้ออกจากห้องไปทันที

หลินเฟิงทิ้งตัวลงบนเก้าอี้พร้อมกับยกมือขึ้นทึ้งหัวตัวเอง

ถึงเขาจะเป็นบุตรชายของหัวหน้าตึกน้ำค้างเหมันต์ แต่ถ้าท่านผู้นั้นรู้ว่าเขาคือคนที่ทำให้มังกรมายาที่นางต้องการถูกฆ่าตาย ถึงเป็นท่านพ่อก็คงไม่สามารถปกป้องเขาได้

เมื่อคิดถึงว่าท่านผู้นั้นโหดเหี้ยมร้ายกาจมากขนาดไหน หลินเฟิงก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งสันหลัง ในใจรู้สึกเสียใจอย่างถึงที่สุด

ถ้าเขารู้ว่าสัตว์วิญญาณของจวินอู๋เสียเป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ เขาคงเลือกเจ็บใจอยู่เงียบๆ มากกว่าจะส่งมังกรมายาออกไป

ขณะที่หลินเฟิงกำลังรอคอยอย่างกระวนกระวายอยู่ข้างใน หัวหน้าตึกน้ำค้างเหมันต์หลินเชวียก็กลับมาจากข้างนอกในที่สุด พอเขาก้าวเท้าเข้ามา คนรับใช้ก็รีบไปรายงานหลินเฟิงและหลินเฟิงก็รีบวิ่งออกมาทันที

หลินเชวียเพิ่งก้าวเข้ามาในลานด้านหลัง เขาก็เห็นบุตรชายของตนเองก้าวยาวๆ ตรงเข้ามาหาและคุกเข่าลงกับพื้นตรงหน้าเขาอย่างแรง

“ลูกพ่อ เกิดอะไรขึ้น” หลินเชวียถามพร้อมกับมองบุตรชายอย่างงุนงง

สีหน้าของหลินเฟิงเศร้าสลด เขาพูดด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกมากว่า “ท่านพ่อได้โปรดช่วยลูกด้วย!”

ตอนที่ 1012 เจ้าเล่ห์เพทุบาย

หลินเชวียตกใจกับการกระทำของหลินเฟิง เขารีบถามขึ้นทันทีว่า “เกิดอะไรขึ้น ลุกขึ้นมาเล่าให้พ่อฟังก่อน”

หลินเฟิงยังคงคุกเข่าอย่างดื้อรั้นและพูดว่า “ท่านพ่อ มังกรมายา…มังกรมายา…ตายแล้วขอรับ…”

“อะไรนะ!” ดวงตาของหลินเชวียเบิกกว้าง เขามองไปที่หลินเฟิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“หมายความว่าอย่างไรที่ว่ามังกรมายาตายแล้ว เกิดอะไรขึ้น”

หลินเฟิงเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้หลินเชวียฟัง ใบหน้าของหลินเชวียก็เปลี่ยนจากสีขาวเป็นเขียวคล้ำ

“เจ้าคนไม่ได้เรื่อง!”

หลินเชวียตบหน้าหลินเฟิงอย่างแรง ทิ้งรอยนิ้วมือห้านิ้วเอาไว้บนใบหน้าของหลินเฟิง

หลินเฟิงไม่กล้าร้องออกมา เขาทำได้เพียงยกมือขึ้นกุมหน้าไว้ขณะที่ยังคุกเข่าอยู่ที่เดิม

“ใครให้เจ้าบังอาจถึงขนาดนี้ กล้าดีอย่างไรมาเอามังกรมายาไปที่ลานประลองสัตว์วิญญาณ ไม่รู้หรืออย่างไรว่าใครคือคนที่ต้องการมังกรมายา เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ รู้หรือไม่ว่าเพื่อมังกรมายาตัวนั้นข้าต้องลงทุนลงแรงไปมากแค่ไหน ต้องเสียคนไปเท่าไร แล้วเจ้ายังกล้าทำให้เสียมังกรมายาไปเพราะความโกรธโง่ๆ แค่ชั่ววูบเนี่ยนะ! ข้าบอกท่านผู้นั้นเรื่องมังกรมายาไปหมดแล้ว แล้วข้าก็สัญญาไปแล้วด้วยว่าจะส่งมังกรมายาให้ตอนวันครบรอบวันเกิดของท่านผู้นั้นในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า แล้วเจ้า แค่เรื่องดูถูกเหยียดหยามแค่นี้ เจ้าถึงกับต้องมาก่อเรื่องเอาตอนนี้ด้วยรึ! เจ้าแค่กำลังตบหน้าบิดาของเจ้าเองไม่ใช่หรืออย่างไร!” หลินเชวียตวาดก้อง คราวนี้เขาโกรธจนถึงสุดขีดจริงๆ

ถ้าเป็นของอย่างอื่น ถึงจะเสียหายไปก็คงไม่เป็นไร เขาสามารถหาอีกอันมาทดแทนได้

แต่มังกรมายาทำให้เขาใช้เวลาไปเกือบสิบปีและต้องลำบากมากมายกว่าจะหามันพบ และเพื่อจับตัวมันกลับมาที่นี่ เขาต้องเสียคนเก่งๆ ไปหลายคนและพวกลูกน้องธรรมดาอีกนับไม่ถ้วน ตอนแรกเขาคิดว่าจะสามารถใช้มังกรมายาทำให้ท่านผู้นั้นโปรดปรานเขาได้ แต่สุดท้ายพอเขารายงานท่านผู้นั้นเรื่องมังกรมายา เขาก็กลับเรือนพักมาพบว่ามังกรมายาตายแล้ว!

แล้วเขาจะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้อย่างไร

ความโกรธของหลินเชวียทำให้หลินเฟิงรู้สึกไม่สบายใจมาก เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของหลินเชวีย หลินเชวียจึงแทบจะไม่ดุด่าว่ากล่าวเขาเลย เมื่อก่อนเวลาเขาก่อเรื่องเลวร้าย หลินเชวียก็มักจะช่วยเขาแก้ปัญหาพวกนั้นแบบเงียบๆ แต่คราวนี้สถานการณ์มันแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง

“ท่านพ่อ! ท่านพ่อ! ท่านต้องช่วยข้านะขอรับ” หลินเฟิงอ้อนวอนคร่ำครวญอยู่แทบเท้าของหลินเชวียพร้อมกับกอดขาบิดาของเขาเอาไว้ด้วยความกลัว

“ข้าไม่กล้าทำอีกแล้ว ไม่ทำอีกเด็ดขาด ท่านพ่อช่วยข้าด้วยเถิดนะ”

หลินเชวียมองบุตรชายไม่เอาไหนของเขาแล้วอยากจะทุบตีเจ้าเด็กโง่นี่ให้ตายจริงๆ แต่เขาก็ไม่อาจลงมือรุนแรงแบบนั้นกับบุตรชายได้ ทำได้แค่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างจำยอม

“เฮ้อ! นี่ข้าทำผิดตรงไหนกัน”

“เจ้าบอกว่ามังกรมายาถูกสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติฆ่าตายใช่หรือไม่ แล้วสัตว์วิญญาณตัวนั้นก็เป็นของเด็กหนุ่มที่สยงป้าพาเข้ามาในเมืองพันอสูรด้วย” เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่อาจปล่อยให้บุตรชายแบกรับความผิดนี้ได้ ดังนั้นเขาต้องคิดแผนอื่นขึ้นมา

หลินเฟิงพยักหน้า

“เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าสัตว์วิญญาณของเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ” หลินเชวียถาม

หลินเฟิงรีบตอบว่า “แน่ใจสิท่านพ่อ! ข้าไม่ใช่คนเดียวที่เห็นนะ! ทุกคนที่ลานประลองสัตว์วิญญาณวันนี้ก็เห็นเหมือนกัน! สัตว์วิญญาณตัวนั้นเป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติแน่ๆ ไม่อย่างนั้น…ไม่อย่างนั้น ทำไมมังกรมายาถึงแพ้มันเล่า ลูกไม่รู้ระดับของสัตว์วิญญาณตัวนั้นมาก่อนเลย คิดว่ามันเป็นแค่สัตว์วิญญาณระดับต่ำ คิดว่า…คิดว่าพลังของมังกรมายาจะกำจัดคู่ต่อสู้ได้แบบไม่มีปัญหาอะไร ข้าไม่คิดว่าจวินเสียจะชั่วช้าขนาดจงใจปกปิดระดับสัตว์วิญญาณของตัวเอง ข้าก็เลยตกหลุมพรางของมัน” หลินเฟิงร้องโวยวายและโยนความผิดทั้งหมดให้จวินอู๋เสีย