ตอนที่ 1013 หอเมฆาสวรรค์ (1) / ตอนที่ 1014 หอเมฆาสวรรค์ (2)
ตอนที่ 1013 หอเมฆาสวรรค์ (1)
หลินเชวียหรี่ตาลง การตายของมังกรมายาไม่ใช่เรื่องที่จะปกปิดได้ง่ายๆ สิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คือคิดหาทางทำให้ความโกรธของท่านผู้นั้นลดลง เขาจะได้เอาบุตรชายออกจากสถานการณ์ยุ่งยากครั้งใหญ่นี้ได้
“เจ้ารู้ร่างเดิมของสัตว์วิญญาณตัวนั้นหรือไม่”
หลินเฟิงส่ายหน้า
“ข้ารู้แค่ว่าสัตว์วิญญาณตัวนั้นมีรูปร่างเป็นหมาป่าสีขาวที่มีหางเก้าหาง มัน…มันเป็นแค่แกะตัวเล็กๆ ตอนที่มันปกปิดร่างจริงของมันและดูไม่น่าแข็งแกร่งอะไรเลย”
หลินเชวียคิดหนักอยู่พักหนึ่งแล้วดึงหลินเฟิงให้ลุกขึ้นจากพื้น “บอกข้ามา เจ้าเด็กจวินเสียนั่นรู้ว่าเจ้าเป็นคนที่เอามังกรมายาไปตั้งแต่ต้นเลยใช่หรือไม่”
หลินเฟิงรีบพยักหน้า
“อย่างนั้นเจ้าก็จำสิ่งที่ข้ากำลังจะบอกไว้ให้ดี เรื่องคราวนี้จวินเสียเป็นคนวางแผนเล่นงานเจ้ามาตั้งแต่ต้น เขาให้สัตว์วิญญาณของตัวเองโจมตีสัตว์วิญญาณของซั่งกวนเหมี่ยวทำให้ซั่งกวนเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บ ส่วนเจ้าก็แค่ลงมือทำไปแบบหุนหันพลันแล่นเพราะต้องการแก้แค้นให้พี่น้องของเจ้า จึงตกหลุมพรางของจวินเสียทำให้มังกรมายาถูกฆ่าตาย เข้าใจหรือไม่” หลินเชวียสั่งพลางหรี่ตาลงมองหลินเฟิง
หลินเฟิงนิ่งอึ้ง
หลินเชวียตะโกนเสียงดังอย่างหงุดหงิด “เจ้าได้ยินชัดหรือไม่!”
หลินเฟิงตัวสั่นและรีบพยักหน้ารัวๆ
“ข้าได้ยินขอรับ! ได้ยินชัดแล้วขอรับ!”
“ดีมาก เอาล่ะ อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็เกี่ยวพันกับเจ้า ตอนที่ท่านผู้นั้นลงโทษก็ทนหน่อยแล้วกัน ข้าจะพยายามอ้อนวอนขอความเมตตาให้เจ้าอย่างเต็มที่ แต่เจ้าต้องยืนกรานว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำของจวินเสีย จวินเสียเป็นแขกของตึกเพลิงพิโรธ พวกตึกเพลิงพิโรธก็มักจะคอยขัดท่านผู้นั้นอยู่แล้ว มีอยู่ไม่กี่คนหรอกที่รู้เรื่องของมังกรมายา คนบางคนในตึกเพลิงพิโรธก็รู้เรื่องนี้ด้วย พวกมันบอกข้อมูลนี้ให้จวินเสีย ทำให้เขาวางอุบายกระตุ้นให้เจ้าลงมือ จำทั้งหมดนี้เอาไว้ให้ดีๆ เล่า! ถ้าท่านผู้นั้นส่งคนมาซักถามเจ้า ก็ตอบให้ถูกอย่างที่ข้าบอกไป อย่าได้ผิดพลาดแม้แต่คำเดียว!” หลินเชวียพูดอย่างน่ากลัว
“ท่านพ่อคิดจะโยนความผิดทั้งหมดให้จวินเสียหรือ” หลินเฟิงยังคงแปลกใจ
“แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า! ถ้าไม่โยนความผิดให้เขา ถึงเป็นข้าก็ไม่สามารถช่วยเจ้าจากท่านผู้นั้นได้หรอก! เจ้าสวดมนต์ภาวนาไว้ให้ดีเถอะว่าขอให้สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติของจวินเสียเพียงพอที่จะทำให้ท่านผู้นั้นพอใจ ถ้าสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตัวนั้นสามารถระงับความโกรธของท่านผู้นั้นได้ เจ้าก็ปลอดภัย” หลินเชวียพูดอย่างเย็นชา
หลินเฟิงหดคออย่างเกรงกลัวและไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
“เจ้าคนไม่ได้เรื่อง! กลับเข้าห้องไปทบทวนความผิดของตัวเองเดี๋ยวนี้!” หลินเชวียตวาดเสียงดัง ยิ่งมองหลินเฟิงเขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น
หลินเฟิงรีบเช็ดน้ำมูกน้ำตาแล้วเดินคอตกกลับเข้าห้องไปแบบเงียบๆ แต่แววตาหวาดกลัวค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆ ถ้าหลินเชวียสั่งให้เขาอยู่แต่ในห้อง ก็แสดงว่าหลินเชวียมั่นใจในระดับหนึ่ง ด้วยเหตุนั้นหลินเฟิงจึงรู้ว่าเขารอดพ้นจากหายนะในครั้งนี้แล้ว
หลินเชวียมองตามแผ่นหลังของบุตรชายและอดรู้สึกหดหู่สิ้นหวังไม่ได้ เขาน่าจะทำให้ตำแหน่งของเขากับท่านผู้นั้นมั่นคงแข็งแรงขึ้นได้ด้วยมังกรมายา แต่ตอนนี้มันพังพินาศหมดแล้วเพราะเจ้าบุตรชายไม่เอาไหน แล้วเขายังต้องมาคิดหาทางชดเชยมันอีก
“ทหาร!” หลินเชวียเรียก
“ท่านหัวหน้าตึกมีอะไรจะสั่งพวกเราหรือขอรับ”
“ไปที่คลังแล้วเอาสมบัติที่ข้านำกลับมาเมื่อวานมาให้ข้า แล้วไปที่หอเมฆาสวรรค์ด้วยกันกับข้า” หลินเชวียสั่งทหารแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ขอรับท่านหัวหน้าตึก!”
หลินเชวียเตรียมสมบัติไว้มากมายและขึ้นรถม้าเดินทางไปที่หอเมฆาสวรรค์ในเมืองพันอสูร
หอเมฆาสวรรค์ในเมืองพันอสูรแต่เดิมเป็นสถานที่ที่พวกเขาใช้กราบไหว้บูชาเทพ แต่หลังจากที่ท่านผู้นั้นกลับมาก็สั่งให้รื้อแท่นบูชาและป้ายจารึกวิญญาณออกทั้งหมด แล้วเปลี่ยนให้เป็นที่พำนักของท่านผู้นั้น และพื้นที่ทั้งหมดที่หอเมฆาสวรรค์ตั้งอยู่ อาคารทั้งหมดที่สูงกว่าสองชั้นจะถูกทุบทิ้งเนื่องจากท่านผู้นั้นรู้สึกว่าอาคารพวกนั้นบดบังทิวทัศน์นอกหน้าต่างของนาง
ตอนที่ 1014 หอเมฆาสวรรค์ (2)
หลินเชวียรอให้เรียกตัวอยู่ด้านนอกหอเมฆาสวรรค์ ขณะที่ลูกน้องและคนรับใช้ของเขาถือสมบัติอยู่ข้างๆ เขา
ครู่ต่อมาชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผิวพรรณดีก็ออกมาจากหอเมฆาสวรรค์ ชุดอาภรณ์ของเขาบางเบา ท่าทางของเขาก็ดูหยิบโหย่ง เมื่อเขาเห็นหลินเชวีย เขาก็เริ่มพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ท่านยายกำลังยุ่งเกินกว่าจะให้เจ้าเข้าพบวันนี้ ถ้าไม่มีธุระสำคัญก็ไปได้แล้ว”
หลินเชวียหรี่ตาลง ในหอเมฆาสวรรค์นั้น นอกจากคนที่แข็งแกร่งมากไม่กี่คนที่ท่านผู้นั้นพามากับนางด้วย นางยังเลี้ยงชายหนุ่มหล่อเหลาเอาไว้กลุ่มหนึ่ง ชายหนุ่มพวกนั้นถูกเก็บเอาไว้ที่นี่เพื่อคอยรับใช้ท่านผู้นั้นทุกวัน ท่านผู้นั้นเป็นสตรีเพียงคนเดียวในหอเมฆาสวรรค์ นอกนั้นเป็นบุรุษทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่คนเดียว
ตามกฎของหอเมฆาสวรรค์ สตรีคนอื่นจะเข้าไปข้างในไม่ได้ แม้แต่ชวีหลิงเย่ว์ก็ทำได้แค่รออยู่ข้างนอกหอเมฆาสวรรค์
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาพวกนั้นส่วนใหญ่ถูกเลือกมาจากในเมือง พวกเขาไม่ได้เก่งกาจหรือมีพลังวิญญาณมากมายอะไร แต่ทุกคนต่างมีรูปร่างหน้าตาที่ดี ท่านผู้นั้นชอบชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาเช่นนี้
และนั่นก็ทำให้คนที่มีอำนาจอย่างหัวหน้าตึกน้ำค้างเหมันต์ก็ยังไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามกับ ‘คนโปรด’ พวกนี้
หลินเชวียกล้ำกลืนความโกรธของเขาลงไปแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าต้องขอให้คุณชายอวิ๋นช่วยส่งข้อความให้ข้าอีกครั้งนะ บอกว่าที่ข้ามาที่นี่วันนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องของมังกรมายา ข้าเชื่อว่าท่านยายจะสนใจเรื่องนี้อย่างแน่นอน” ขณะที่พูดหลินเชวียก็ดึงเอากล่องกำมะหยี่สี่เหลี่ยมยาวออกมาวางลงบนมือของคุณชายอวิ๋น
คุณชายอวิ๋นเลิกคิ้วและเปิดกล่องออกดู เขาเห็นคทาหรูอี้ทองคำแวววาวอยู่ข้างใน สีหน้าหงุดหงิดของเขาก็หายไปทันทีและถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มพอใจอย่างรวดเร็ว
“ในเมื่อหัวหน้าตึกหลินมีเรื่องสำคัญ ข้าก็จะพยายามช่วยท่านอย่างเต็มที่แม้ว่าจะยากเย็นก็ตาม” พอพูดจบคุณชายอวิ๋นก็เก็บกล่องเข้าไปในแขนเสื้อและเดินบิดก้นเข้าไปข้างในหอเมฆาสวรรค์
ทันทีที่ชายหนุ่มคนนั้นหันหลังเดินจากไป ดวงตาของหลินเชวียก็ทอประกายมุ่งร้ายทันที
“ท่านหัวหน้าตึก ทำไมต้องสุภาพกับคนแบบนั้นด้วยขอรับ” คนรับใช้ข้างๆ หลินเชวียถามขึ้นด้วยความไม่พอใจในท่าทางหยิ่งยโสของคุณชายอวิ๋น
หลินเชวียยิ้มเยาะและพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก “เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้าทำกับคนพวกนี้ด้วยความเคารพ ถ้าพวกมันไม่ใช่คนโปรดของท่านผู้นั้น ขยะไร้ประโยชน์แบบนี้ไม่มีค่าพอจะเช็ดรองเท้าข้าด้วยซ้ำ!”
หลังจากนั้นสักพัก คุณชายอวิ๋นก็ออกมาและบอกกับหลินเชวียว่าท่านยายให้เขาเข้าพบได้แล้ว
หลินเชวียยิ้มประจบประแจงขอบคุณคุณชายอวิ๋นซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะนำคนของเขาเข้าไปในหอเมฆาสวรรค์
หอเมฆาสวรรค์สูงเจ็ดชั้น ท่านผู้นั้นพักอาศัยอยู่ที่ชั้นบนสุด
หลินเชวียเดินตามหลังคุณชายอวิ๋นไปตลอดทางพร้อมกับถามถึงอารมณ์ของท่านผู้นั้นในวันนี้ คุณชายอวิ๋นที่ยอมรับของขวัญย่อมบอกทุกสิ่งที่เขารู้ออกมา และเมื่อพวกเขาไปถึงชั้นบนสุด หลินเชวียก็หุบปากเงียบทันที
ที่ชั้นบนสุดของหอเมฆาสวรรค์ ทั้งชั้นปูด้วยพรมขนจิ้งจอกหิมะสีขาว ทุกตารางนิ้วในห้องเต็มไปด้วยสิ่งของหรูหราฟุ่มเฟือย เครื่องประดับทั้งหยกและทองคำกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกแห่ง ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในชุดอาภรณ์บางเบาหลายคนนั่งอยู่ทางด้านหนึ่ง บางคนเล่นพิณ บางคนดีดผีผา และบางคนก็เป่าขลุ่ยหยก
ชายหนุ่มหน้าตาดีอีกกลุ่มกำลังเอนพิงด้านข้างตั่งยาวหรูหราประณีตตัวหนึ่งพร้อมกับยกจานผลไม้และสุราขึ้นส่งให้ ใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มประจบสอพลอ
สตรีในชุดสีแดงเพลิงนอนพิงเอกเขนกอยู่บนตั่งยาวโดยมีชายหนุ่มมากมายคอยรับใช้ นางมีใบหน้างดงาม หางตาชี้ขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนอายุแค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้น เส้นผมสีดำยาวสยายอยู่ที่ด้านหลังโดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังคุกเข่าหวีผมอย่างพิถีพิถันอยู่บนพื้น
หลินเชวียชำเลืองมองหญิงงามนางนั้นครั้งหนึ่งแล้วยิ้มอย่างระวัง
ใครจะไปคิดว่าหญิงสาวผู้งดงามคนนี้แท้จริงแล้วคือคนแก่อายุเกินร้อยปีไปแล้ว