บทที่ 547 เยือนหอสุขนิรันดร์อีกครั้ง

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 547 เยือนหอสุขนิรันดร์อีกครั้ง

บทที่ 547 เยือนหอสุขนิรันดร์อีกครั้ง

ซูอันรีบดึงนางกลับมาด้วยความตื่นตระหนก “ด…เดี๋ยว! เจ้าฟังข้าอธิบายก่อน เจ้าต้องเข้าใจว่าข้ายังเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลฉู่ ถ้าพวกเขาล่มจม ข้าก็ต้องแย่ไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นข้าจึงต้องพยายามช่วยพวกเขาผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้ มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด! ข้าไม่ได้แค่พยายามช่วยชูเหยียน แต่ช่วยตัวเองด้วย…”

อันที่จริงแม้แต่ตัวชายหนุ่มเองก็ยังไม่สามารถรับพฤติกรรมที่ไร้ยางอายของตัวเองตอนนี้ได้ไหว เขาเพิ่งจะร่ำลาฉู่ชูเหยียนพร้อมกับครอบครัวของนางไปเมื่อเช้า แต่ตอนนี้เขากลับกำลังง้อผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ไม่ต้องพูดถึงว่าทั้งสองตระกูลยังเกลียดชังกันอีกด้วย!

เจิ้งตานพ่นลมหายใจ “ท่านก็แค่ออกจากตระกูลฉู่ก็ได้ ทำไมท่านต้องทนอยู่ที่นั่นด้วย?”

ซูอันถอนหายใจ “ถ้าข้าออกจากตระกูลฉู่แล้ว ข้าจะเข้าร่วมตระกูลเจิ้งของเจ้าได้ไหมล่ะ?”

เจิ้งตานอ้าปากจะพูด แต่นางก็นึกถึงสถานการณ์ของตัวเอง และไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา

ซูอันกล่าวต่อ “ข้าจะไม่ขอให้เจ้าช่วยข้าโดยเปล่าประโยชน์ ข้าจะคืนสิ่งนี้ให้เจ้าถ้าเจ้าบอกข้าว่าใบอนุญาตค้าเกลือเหล่านั้นอยู่ที่ไหน?”

เขาดึงตั๋วหนี้มูลค่าห้าแสนตำลึงออกมา ซึ่งเขาได้รับมาจากงานประลองระหว่างตระกูล ย้อนกลับไปในตอนนั้น บ่อนที่เขาวางเดิมพันได้จ่ายเงินมาให้แค่ครึ่งเดียวก่อนคือห้าแสนตำลึง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเขาได้รับมาเป็นตั๋วหนี้แทน

เจิ้งตานรู้สึกไม่สบายใจ “ตั๋วหนี้นี้เกี่ยวอะไรกับข้า?”

ซูอันกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูเจิ้งที่รัก เรายังจำเป็นต้องแสร้งทำอยู่อีกเหรอ? เราอยู่ด้วยกันมานานมากแล้ว ข้ารู้แล้วว่าบ่อนนั้นมีความผูกพันกับตระกูลเจิ้งของเจ้า”

เจิ้งตานสูดหายใจเข้าอย่างโกรธจัด “แล้วนี่คืออะไร? ท่านเห็นข้าเป็นคณิกาหรือไงถึงมาให้เงินข้าแบบนี้?”

ซูอันตกตะลึงอย่างเต็มที่

“เจ้าพูดให้ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ? ข้ารักเจ้าอย่างบริสุทธิ์ใจนะ!”

“รัก?” เจิ้งตานหัวเราะเยาะ “ท่านเชื่อตัวเองอย่างนั้นจริงเหรอ?”

ซูอันจับมือนางและมองเข้าไปในดวงตาของนาง “ข้าเชื่อ!”

ใบหน้าของเจิ้งตานเปลี่ยนเป็นสีแดง “ท่านนี่มัน…พยายามจะล่อลวงข้าอยู่เสมอ!”

ซูอันถอนหายใจ “ข้าไม่ได้มีความคิดที่จะเป็นศัตรูกับตระกูลเจิ้งของเจ้า ดังนั้นไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ทำอะไรเสียหายต่อผลประโยชน์ของตระกูลเจิ้ง”

“ฮึ่ม! การช่วยเหลือตระกูลฉู่ก็เหมือนกับการทำร้ายตระกูลเจิ้ง” เจิ้งตานรู้สึกไม่มีความสุขอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม นางยังคงพูดว่า “ข้าไม่รู้ว่าใบอนุญาตค้าเกลือเหล่านั้นอยู่ที่ไหน เฉินเซวียนไม่ได้โง่พอที่จะให้ใบอนุญาตค้าเหลือแก่เราล่วงหน้า แต่จากการคาดเดาของข้า ใบอนุญาตค้าเกลือเหล่านั้นควรอยู่ในมือของค่ายเมฆาทมิฬ”

ซูอันตกตะลึง เขานึกถึงกลุ่มคนที่เคยอยู่กับเฉินเซวียนในหอสุขนิรันดร์

“เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาไหม?” ซูอันถาม เจิ้งตานเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มวาฬมาก่อน แม้ว่ากลุ่มวาฬจะถูกทำลาย แต่นางก็น่าจะยังคงรักษาช่องทางข้อมูลของตัวเองไว้

“ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น” เจิ้งตานหัวเราะอย่างเย็นชา “เป็นไงล่ะ? รู้สึกเสียดายเสียเงินห้าแสนตำลึงของท่านแล้วหรือยัง?”

“ข้าไม่เสียดาย!” ซูอันดึงนางเข้ามากอด “ต่อให้ข้าจะให้เจ้าแบบเปล่า ๆ มันก็ไม่เสียเปล่า อย่างน้อยตอนนี้ข้าก็รู้ว่าใบอนุญาตค้าเกลืออยู่กับค่ายเมฆาทมิฬ”

“ฮึ่ม! ข้าก็แค่พูดการคาดเดาของข้า” อย่างไรก็ตามการแสดงออกของเจิ้งตานก็อ่อนลง

ซูอันปลอบประโลมนางด้วยคำพูดหวาน ๆ อีกรอบ จากนั้นเจิ้งตานก็ยิ้มอีกครั้ง

เมื่อชั้นเรียนวันนี้หมดลง ซูอันจึงรอฉู่ฮวนเจากลับคฤหาสน์ตระกูลฉู่ด้วยกัน

เมื่อนางเห็นเขา ฉู่ฮวนเจาก็พูดทันทีว่า “ข้าได้ยินมาว่าวันนี้ท่านไปหานางจิ้งจอกเจิ้งตานตัวนั้น”

ซูอันตกใจมาก “นี่ข่าวไปถึงเจ้าเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?”

“แน่นอน! ท่านไม่รู้หรือว่าข้ามีสถานะอะไรในชั้นเรียน?” ฉู่ฮวนเจาทำท่าทางอวดดีแล้วถามเสริม “ท่านตามหานางทำไม? ทุกคนในสถาบันจันทร์กระจ่างต่างเรียกท่านว่าจอมชีกอ!”

ซูอันพูดไม่ออกชั่วขณะหนึ่ง

คำว่า ‘ชีกอ’ มีอยู่ในโลกนี้ด้วยเหรอ?

ฉู่ฮวนเจายิ่งโกรธมากขึ้น “พี่ใหญ่ไม่ดีพอสำหรับท่านหรือไง? ทำไมท่านต้องเที่ยวไปเอาใจผู้หญิงคนโน้นคนนี้ไปทั่ว? พี่ใหญ่เพิ่งไปวันนี้เองนะ!”

ท่านยั่วยุฉู่ฮวนเจาสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +33… +33… +33…

ซูอันรู้สึกปวดหัวขึ้นมา “ข้าไปคุยกับนางเกี่ยวกับการช่วยเหลือตระกูลฉู่ให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปให้ได้”

“ตระกูลเจิ้งเกลียดตระกูลฉู่ของเรา นางจะมาช่วยเราทำไม?” เห็นได้ชัดว่าฉู่ฮวนเจาไม่เชื่อเขา “พี่เขยหน้าเหม็น อยากจะอ้างก็หาข้ออ้างดี ๆ หน่อย!”

“มันเป็นเพราะว่าพี่เขยของเจ้าหล่อเกินไป ผู้หญิงคนไหนก็เลยอยากจะช่วยทั้งนั้น!” ซูอันยืดอกอย่างภาคภูมิใจ

“ไร้ยางอาย!” ฉู่ฮวนเจาสาปแช่ง อย่างไรก็ตาม คำตอบที่หน้าไม่อายนี้ทำให้ตัวนางเองลืมคำพูดที่จะใช้ด่าเขาสนิท

เมื่อพวกเขากลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลฉู่ ซูอันบอกให้นางเข้าไปข้างในคนเดียว

“ท่านกำลังจะไปไหน?” ฉู่ฮวนเจาเริ่มสงสัยเมื่อนางเห็นว่าเขาไม่ได้คิดจะกลับไปที่ห้องของตัวเอง

“ข้า…” ซูอันกำลังจะตอบเมื่อมีความคิดเกิดขึ้น เขาทำท่าดุดัน

“อย่าถามให้มาก! ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องดูแล”

“ท่านจะไปดื่มกับสาว ๆ ล่ะสิ!” ฉู่ฮวนเจาโต้กลับ “ฮึ่ม!”

นางจงใจเดินกระทืบเท้าไปตลอดทางเข้าคฤหาสน์

ซูอันมองร่างของนางที่ลับหายไปอย่างพูดไม่ออก

สัญชาตญาณของผู้หญิงช่างเฉียบคมเสียจริง!

จริง ๆ แล้วเขากำลังวางแผนที่จะไปที่หอสุขนิรันดร์ แต่ไม่ใช่เพื่อสังสรรค์ แต่เพื่อดูว่าตัวเองจะได้รับข้อมูลอะไรดี ๆ จากชิวฮัวเล่ยหรือไม่?

ยังไงซะ นางก็เป็นคนแรกที่ให้ข่าวเกี่ยวกับเฉินเซวียน นางอาจรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับที่อยู่ของใบอนุญาตค้าเกลือเช่นกัน

เมื่อซูอันไปถึงหอสุขนิรันดร์ ข่าวการมาถึงของชายหนุ่มก็แพร่ไปอย่างรวดเร็ว และสาวใช้ก็นำซูอันไปที่ห้องของชิวฮัวเล่ย

เมื่อมองไปที่หญิงสาวผู้งดงามซึ่งกำลังนั่งเหม่อลอย ซูอันไม่สามารถระงับปากของตัวเองไว้ได้ “ฮัวเล่ย ดูเหมือนจะมีเรื่องบางอย่างอยู่ในใจของเจ้า”

ชิวฮัวเล่ยจ้องมองอย่างว่างเปล่าครู่หนึ่ง นางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นายน้อยซูช่างมีดวงตาที่เฉียบคม ไม่คิดเลยว่าจะมองข้าได้อย่างทะลุปรุโปร่งเช่นนี้”

ซูอันไม่สามารถอดกลั้นความคับข้องได้อีกต่อไป “ฮัวเล่ย ก่อนเราแยกจากกันครั้งก่อน เจ้าเคยเรียกข้าว่าอาซู”

ชิวฮัวเล่ยพูดไม่ออกครู่หนึ่ง ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงคาดเดาไม่ได้เสมอ?

โชคดีที่นางคุ้นเคยกับบุคลิกนี้ของเขาแล้ว นางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อาซู ท่านอาจจะไม่เห็นข้าอีกภายในสองวัน”

ซูอันรู้สึกประหลาดใจ “เจ้ากำลังจะไปไหน?”

อันที่จริง ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าความรักที่นางมีต่อเขานั้นเป็นเพียงเรื่องปลอม ๆ โดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังรู้สึกเสียใจเมื่อรู้ว่านางกำลังจะจากไป

ชิวฮัวเล่ยส่ายหัว แต่ไม่พูดอะไร

เมื่อเห็นนางไม่เต็มใจที่จะบอกอะไรเขา ซูอันก็ไม่กดดันนางต่อไป

บรรยากาศของความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งห้องอย่างรวดเร็ว

ชิวฮัวเล่ยเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบงันนี้ “แล้วทำไมวันนี้ท่านถึงมาที่นี่?”

“ข้ามาหาเจ้าโดยไม่มีเหตุผลพิเศษไม่ได้เหรอ?” ซูอันไม่สามารถหยุดมองนางได้ นางยังคงงดงามเหมือนเมื่อก่อน แต่หลังจากนี้ในไม่ช้านางจะจากเขาไป

เฮ้อ เจ้าโง่…เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่าทุกอย่างที่นางแสดงให้เจ้าเห็นมันปลอมทั้งหมด ทำไมเจ้าต้องรู้สึกผิดหวังด้วย!

ชิวฮัวเล่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าอยู่ที่นี่มาโดยตลอด แต่ข้าไม่เคยเห็นท่านจะอยากมาพบข้าโดยไม่มีเหตุผลสักครั้งเลย”

ซูอันยิ้มแหย ๆ เขาทำได้เพียงเปิดเผยเหตุผลที่แท้จริงในการมาครั้งนี้

ชิวฮัวเล่ยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ท่านมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่จริง ๆ ท่านกำลังเสาะหาความช่วยเหลือจากทุกที่เพื่อนาง”

ซูอันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของนาง “ฮัวเล่ยหึงเหรอ?”

ชิวฮัวเล่ยสบตากับเขา “อาซู ท่านอยากให้ข้าหึงเหรอ?”

ซูอันหัวเราะ “ผู้ชายคนไหนในโลกนี้ที่ไม่ต้องการให้คนสวยอย่างฮัวเล่ยหึงหวงพวกเขา?”

ชิวฮัวเล่ยยิ้ม “ฝีปากของท่านช่างหวานเสมอ ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่จะตกหลุมรักท่าน”

หลังจากหยุดชั่วคราวนางกล่าวเสริม “ข้าเพิ่งจะรู้เรื่องหนึ่งหรือสองอย่างเกี่ยวกับใบอนุญาตค้าเกลือ แต่ว่าข้าไม่สามารถบอกท่านได้”

“ทำไม?” ซูอันตกตะลึง

“ข้ามีเหตุผลของข้า” หลังจากลังเลเล็กน้อย นางพูดว่า “ข้าขอแนะนำให้ท่านเลิกตามหามัน เพราะมันจะนำพาหายนะครั้งใหญ่มาสู่ตัวท่าน”