บทที่ 483 จุดจบของลินดา

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

หลังจากที่เศร้าเสียใจ พิชิตก็กำลังจะกดวางสาย

แต่นวิยาก็ต้องตะลึง

เดิมทีที่เธอต่อว่าเขาว่าเป็นคนขี้ขลาดตาขาว ก็แค่อยากจะพูดยั่วยุกระตุ้นเขา ให้เขาตอบตกลงที่จะช่วยเหลือเธอ

ไม่คิดว่า เขาจะยอมรับมันเสียเองว่าตัวเองเป็นคนขี้ขลาด

เขายินยอมรับมัน แต่ไม่ยินยอมที่จะช่วยเหลือเธอ!

นวิยาเกลียดพิชิตที่สุด เกลียดที่ขนาดว่ายอมตัดขาดกับพิชิตเลยก็ได้

แต่เธอทำอย่างนั้นไม่ได้ เธอในตอนนี้ยังต้องพึ่งพาอาศัยเขา เธอจะด่าว่าเขา หรือจะขึ้นเสียงใส่เขายังไงก็ได้ แต่จะตัดขาดกับเขาไม่ได้โดยเด็ดขาด

เมื่อคิดได้ดังนั้น นวิยาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ระงับความกรุ่นโกรธที่มี ฝืนแสดงรอยยิ้มจางๆออกมาบนใบหน้า“พิชิต คุณจะใจดำ ไม่สนใจฉันจริงๆเหรอ ?”

เมื่อได้ฟังน้ำเสียงที่อ่อนลงของนวิยา พิชิตก็ถอนหายใจ “นวิยา ผมช่วยอะไรคุณไม่ได้ คุณในตอนนี้ ใครก็เอาไม่อยู่ทั้งนั้น คุณเข้าใจไหม?”

“ฉันไม่เข้าใจ ฉันก็แค่คลั่งรัก มันจะผิดอะไรขนาดนั้น พิชิต คุณต้องช่วยฉัน หากฉันยังถูกขังเอาไว้แบบนี้ ฉันต้องเป็นบ้าแน่ๆ ตอนนี้ฉันรู้สึกตัวเองไม่มีสติยั้งคิด พิชิต ช่วยฉันด้วย ได้โปรดช่วยฉันด้วยเถอะนะ ?” น้ำเสียงของนวิยาสะอึกสะอื้นและเต็มไปด้วยการวิงวอน

เดิมทีพิชิตก็เป็นคนใจอ่อนอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ ในใจก็ย่อมจะรู้สึกไม่สบายใจ“ผมจะช่วยคุณยังไง คุณทำผิด……”

“ฉันรู้ว่าตัวเองทำผิด ฉันจะปรับปรุงตัว แต่ฉันไม่อยากถูกขังและปรับปรุงตัวในที่แบบนี้ ให้ฉันได้ปรับปรุงตัวอยู่ข้างนอกเถอะนะ พิชิต ได้โปรด ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องบ้าตายแน่ๆ” นวิยาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าโศกและสิ้นหวัง

“แต่ว่า……”พิชิตยังคงลังเล

ใบหน้าของนวิยาเย็นชา“หากคุณไม่ต้องการที่จะเห็นฉันเป็นศพ คุณก็ตอบตกลงซะ คุณเองก็รู้ สำหรับคนที่คิดอยากจะตาย มีร้อยพันวิธีที่จะฆ่าตัวตายได้”

พิชิตก็ถึงกับตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเยาะออกมา“ บางทีผมอาจจะติดหนี้คุณในชาติที่แล้วก็ได้ ตกลง ผมจะช่วยคุณ”

นวิยายกยิ้มออกมา “พิชิต ฉันรู้ว่าคุณดีกับฉันที่สุด ขอบคุณนะ ”

พิชิตเหยียดยิ้มมุมปาก และไม่ได้พูดอะไรต่อ

นวิยาก็ไม่ได้สนใจ เมื่อได้รับความยินยอมจากเขา เธอก็กดวางสาย

เมื่อเห็นโทรศัพท์กลับเข้าสู่โหมดหน้าจอปรกติ พิชิตก็รู้สึกเหนื่อยล้ามากยิ่งขึ้น หัวสมองที่ผ่านการผ่าตัดมาร่วมสิบชั่วโมง ตอนนี้ก็รู้สึกปวดมากขึ้น

อันที่จริงแล้วเขารู้ดี ว่านวิยาไม่คิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่หากจะฆ่าตัวตาย เธอก็ทำมันได้

เขากลัวว่าหากเธอฆ่าตัวตายขึ้นมาจริงๆ เขาจะช่วยเธอเอาไว้ไม่ทัน แล้วเธอก็จะเสียชีวิต

และยังกลัวว่าตอนที่เธอฆ่าตัวตาย ไม่รู้หนักเบา แล้วตายไปเลยทันที

ดังนั้น เขาจึงตอบตกลงที่จะช่วยเธอ

หวังเพียงหลังจากที่นวิยาออกมาได้ จะทำตามอย่างที่พูดจริงๆ แก้ไขปรับปรุงตัวเอง ไม่คิดทำเรื่องโง่ๆอีก

หากทำได้อย่างนั้นจริงๆ เขาก็จะใช้ชีวิตของตัวเองเพื่อชดใช้ความผิดนั้น แลกกับการที่เขาปล่อยตัวเธอออกมา

เมื่อคิดได้ดังนั้น พิชิตก็ทอดถอนใจ ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ตู้ยา เปิดประตูของตู้ยา แล้วหยิบขวดยาที่มีคำว่าอีเทอร์กำกับอยู่

ในต่างประเทศ วารุณีรู้ข่าวที่ขงเบ้งถูกจับกุมแล้ว นัทธีเป็นคนบอกเธอเอง และเธอเองก็รู้สึกยินดีกับนัทธีด้วย

เพราะเขาเองได้ล้างแค้นเอาคืนแทนพ่อแม่ตัวเองแล้ว

ก็แค่ไม่รู้ว่า นิรุตติ์จะปรากฏตัวหรือไม่

เชื่อว่านิรุตติ์ในตอนนี้ ก็คงจะรู้เรื่องที่ขงเบ้งถูกจับตัวแล้ว และรู้เรื่องที่นัทธีหาพินัยกรรมเจอแล้วด้วย

ไม่แน่ นิรุตติ์อาจจะปรากฏตัวก็ได้

ไม่ใช่เพื่อขงเบ้ง แต่เพื่อหนังสือโอนหุ้นในพินัยกรรม

จะว่าไป แม่ของนัทธี ยอมยกบริษัทที่เป็นสินสมรสของตัวเองให้กับนิรุตติ์ ไม่ใช่ให้กับลูกชายแท้ๆอย่างนัทธี ซึ่งมันก็น่าประหลาดใจมาก

คำตอบนี้ เธอกับนัทธีต่างก็อยากจะรู้เหมือนกัน

แต่นิรุตติ์ไม่ปรากฏตัว อยากรู้ก็ทำอะไรไม่ได้

“วารุณี ทางผู้จัดการแข่งขันแจ้งให้นักออกแบบไปร่วมประชุมกันที่สนามแข่ง”ในตอนนี้เอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เสียงของเชอรีนดังลอดผ่านประตูเข้ามา

วารุณีเดินไปเปิดประตู “ประชุม?”

“ใช่”เชอรีนพยักหน้าให้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น“ ได้ยินว่าลินดาถูกจับแล้ว ดังนั้นที่เรียกประชุม ก็น่าจะพูดเรื่องนี้”

วารุณีหรี่ตาลง จากนั้นมุมปากก็ยกหยัก“ฉันรู้แล้ว จะไปเดี๋ยวนี้”

“ประชุมเสร็จแล้วมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะ ”เชอรีนกำชับ

วารุณีรับคำ แล้วลงไปยังด้านล่าง

ไม่นาน เธอก็มาถึงที่สนามแข่ง

ในตอนที่มาถึง นักออกแบบคนอื่นๆต่างก็มากันเกือบจะครบแล้ว

วารุณีเลือกที่นั่งแล้วนั่งลง

นั่งไปได้ไม่นาน การประชุมก็เริ่มขึ้น

เป็นอย่างที่เชอรีนพูด เนื้อหาของการประชุม คือเรื่องที่ลินดาถูกจับ

ลินดาถูกจับในโรงแรมแห่งหนึ่ง บางทีเธออาจจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะถูกจับ ดังนั้นในตอนที่ถูกควบคุมตัว ก็จึงไม่ได้ขัดขืนและถูกนำตัวไปแต่โดยดี

หลังจากที่ถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ ก็ไม่ได้พูดตลบตะแลงอะไร อธิบายทุกอย่างๆตรงไปตรงมา

ที่แท้พิชญาก็บังเอิญมาจับจุดอ่อนของลินดาได้ เลยใช้มันมาข่มขู่เธอ ให้ลินดามาเป็นตัวช่วยของเธอ และให้เธอมีชื่อเสียงในวงการออกแบบโดยเร็วที่สุด

ลินดาไม่มีทางเลือก จำต้องทำตาม

การแข่งขันของก่อนหน้านี้ พิชญาใช้ต่างหูหูฟังแบบไร้สาย บอกหัวข้อการแข่งขันนั้นๆให้กับลินดาที่ซ่อนตัวอยู่ในสนามแข่ง พอลินดาวาดภาพเสร็จ ก็ใช้เทคโนโลยีการฉายภาพโฮโลแกรม ส่งภาพนั้นให้กับพิชญาผ่านแว่นตาของเธอ

มันเป็นเทคโนโลยีตัวใหม่ ตอนนี้ในสังคมยังไม่เป็นที่นิยม ดังนั้นคนจำนวนมากก็จึงไม่รู้ พิชญาก็อาศัยลินดาถึงได้แว่นตัวนี้มา

ดังนั้นมีหูฟังกับแว่นตา พิชญาก็สามารถวาดภาพตามแบบได้ จากนั้นก็จึงไต่เต้ามาถึงจุดนี้ได้

“อย่างนี้นี่เอง ไม่แปลกที่เวลาปรกติโสรยาจะไม่ใส่แว่น แต่พอต้องเข้าแข่งขันก็จะสวมมันทันที ไม่คิดว่าจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ ”วารุณีกลับมาถึงที่คฤหาสน์ บอกเล่าเรื่องราวที่ประชุมมาให้เชอรีนได้ฟัง หลังจากที่เชอรีนฟังแล้ว ก็เข้าใจทุกอย่างในที่สุด

วารุณีดื่มน้ำผลไม้“ใช่ ใครจะไปคิด ว่าวิธีการโกงของเขาจะล้ำเลิศขนาดนี้ ตอนนี้เพราะเรื่องนี้ทางผู้จัดการแข่งขัน ก็ได้เพิ่มกฎขึ้นมาอีกหนึ่งข้อ เครื่องประดับแว่นตากระดุมของนักออกแบบทุกคนต้องได้รับการตรวจสอบ ตรวจดูว่ามีปัญหาอะไรไหม หากไม่มี ก็ถึงจะปล่อยตัวให้เข้าสนามแข่งได้”

“ก็สมควรอยู่หรอก หากมีคนเลียนแบบทำตามจะทำยังไง ”เชอรีนพยักหน้า เห็นด้วยในเรื่องนี้

วารุณีถึงกับหัวเราะ“ นอกจากนี้ ลินดายังได้สารภาพว่าคนที่ทำร้ายเธอจนสลบในห้องควบคุม ไม่ใช่ทิฟฟานี่ แต่เป็นตัวเขาเอง แล้วยังได้พูดเรื่องที่พิช……โสรยาปิดประตูห้องน้ำของฉัน ออกมาจนหมดเปลือก”

“จริงเหรอ?”เชอรีนตกใจจนเบิกตากว้าง

วารุณีพยักหน้า “เรื่องจริง ในส่วนที่ลินดาทำร้ายเธอนั้น ทางผู้จัดการแข่งขันจะดำเนินการฟ้องร้องให้ ถึงตอนนั้นจะเอาค่าเสียหายมาให้เธอ ”

“ค่าเสียหายอะไรพวกนั้นมันไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือ ฉันอยากรู้จุดจบของลินดากับโสรยา” เชอรีนกล่าว

วารุณียกแก้วน้ำผลไม้ขึ้นจิบ“โสรยาถูกคุมขังแล้ว แต่ถูกขังไว้ที่ไหน ไม่สะดวกที่จะพูด ส่วนลินดา เรื่องที่เขามาเป็นตัวช่วยให้ เพราะถูกข่มขู่ ดังนั้นจึงไม่มีโทษร้ายแรงอะไร อย่างมากก็คงถูกสังคมพิพากษา แต่เมื่อก่อนเขาก็เคยถูกสังคมพิพากษามาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นคิดว่าน่าจะไม่มีผลกระทบกับเขาเท่าไร ”

“ห๊า งั้นก็สบายเขาเลยสิ?”เห็นชัดว่าเชอรีนไม่พอใจเท่าไร

วารุณีหัวเราะ“ ไม่หรอก เขาเจตนาทำร้ายเธอ และข้อหากระทำการโดยเจตนาในต่างประเทศ รุนแรงกว่าบ้านเรามาก วางใจเถอะ อีกหลายปีเลยล่ะกว่าจะถูกปล่อยตัวออกมาได้ ”

เมื่อเชอรีนได้ยิน ก็ถึงได้ยิ้มด้วยความพึงพอใจ “แบบนี้ก็ค่อยยังชั่วหน่อย ”

“ในที่สุดเรื่องพวกนี้ก็จบลงได้เสียที ”วารุณีกล่าว

เชอรีนมองดูเธอ“แล้วเอมี่กับทิฟฟานี่พวกเขาล่ะ จะถูกปล่อยตัวออกมา แล้วกลับเข้าสู่การแข่งขันอีกครั้งใช่ไหม ?”

“ไม่แล้วล่ะ”วารุณีส่ายหน้า

เชอรีนกะพริบตาปริบๆ “ทำไมล่ะ? พวกเขาก็เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่ใช่เหรอ ?”