ตอนที่ 563 ตามหาหมอผี!
แต่ก็เป็นปฏิกิริยาในชั่วขณะเท่านั้น อาการที่ตามมาคือทั้งตกใจและโกรธเกรี้ยว นึกถึงบุตรคนนั้นของตนที่ถูกลักพาตัวไป ทางนี้เพิ่งจะให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง คนผู้นี้ก็มาอีกแล้ว
นางแผดเสียงร้องไปตามกลไกตอบสนอง ราวกับแม่แก่กางปีกปกป้องลูก “อู๋ฮวา อย่าให้เขาเข้าใกล้ลูก อย่า…”
หลีอู๋ฮวาพลันพุ่งตัวเข้าไป ยื่นนิ้วไปกดจุดบนร่างนางทำให้นางเข้าสู่สภาวะนิทราทันที ด้วยสุขภาพของนางไม่สามารถรับความสะเทือนทางอารมณ์ได้
จากนั้นก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้นางเป็นอย่างดี
หนิวโหย่วเต้าที่เดินเข้ามาข้างเตียงพินิจดูสีหน้าของไห่หรูเยวี่ยอย่างละเอียด เห็นได้ชัดว่าป่วยหนัก เอ่ยถามไปว่า“เกิดอะไรขึ้น?”
“ออกไปคุยกันข้างนอก” หลีอู๋ฮวาผานมือเชิญเล็กน้อย
ทั้งสองออกมาจากห้อง เดินไปตามเฉลียงทางเดินจนมาหยุดยืนด้านข้าง หนิวโหย่วเต้าเอ่ยถาม “นี่น่าจะมิใช่อาการหลังคลอดกระมัง?”
เขาทราบชัดเจนดี อาการหลังคลอดตามปกติไม่มีทางคณามือผู้บำเพ็ญเพียรสวรรค์หมื่นวิมานกลุ่มนี้
หลีอู๋ฮวาเอ่ยด้วยสีหน้าตึงเครียด “น่าจะถูกพิษเข้าแล้ว”
“ถูกพิษหรือ?” หนิวโหย่วเต้าหรี่ตาลงเล็กน้อย มองไปรอบๆ “ที่นี่คุ้มกันหนาแน่น ต่อให้มีสภาวะสูงเพียใดก็เป็นไปไม่ได้ที่จะบุกเข้ามาโดยไม่ถูกพบตัวเลย ถูกคนวางยาพิษได้อย่างไรกัน?”
หลีอู๋ฮวากัดฟัน โกรธจนแทบจะมีไฟลุกออกมาจากดวงตาแล้ว “น่าจะเป็นฝีมือของจ้าวเซิน”
“จ้าวเซิน?” หนิวโหย่วเต้าไม่เข้าใจจึงลองถามดู “จ้าวเซิน เจ้ากรมราชยานแห่งแคว้นจ้าวคนนั้นน่ะหรือ?”
กับบางคนแม้จะไม่เคยพบมาก่อน แต่เขามาถึงจุดนี้แล้ว จำเป็นต้องสืบข่าวบุคคลสำคัญบางส่วนในแคว้นต่างๆ เอาไว้บ้าง
“นอกจากเขาแล้วยังจะมีจ้าวเซินอีกสักกี่คนที่เข้ามาถึงที่นี่ได้ ล้วนเป็นความผิดของข้า ข้าสะเพร่าไปแล้ว ปล่อยให้เขาฉวยโอกาสำร้ายพวกนางแม่ลูกได้…” หลีอู๋ฮวาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดในตอนนั้นออกมา
แรกเริ่มนึกว่าไห่หรูเยวี่ยเพียงสะท้อนอารมณ์เพราะเรื่องในอดีต ต่อมาลูกน้อยก็เกิดอาการเช่นกัน สองแม่ลูกปรากฏอาการผิดปกติไปทั้งคู่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังดีๆ อยู่ แต่หลังจากจ้าวเซินมาก็เกิดปัญหาขึ้น จะเป็นเรื่องบังเอิญงั้นหรือ เมื่อประกอบเข้ากับจุดยืนของทางราชสำนักแล้ว จะไม่ให้ทางนี้สงสัยจ้าวเซินเลยก็คงยาก
ตั้งข้อสงสัยว่าจะมีการเล่นลูกไม้กับของที่จ้าวเซินมอบให้ แต่ทางนี้ก็ยังตรวจสอบไม่พบลูกไม้ใดๆ
ทางฝั่งทารกน้อยไม่ได้แตะต้องของที่จ้าวเซินมอบให้เลย ทางนี้คาดว่าทารกน้อยน่าจะติดมาจากตอนที่ไห่หรูเยวี่ยให้นม
หนิวโหย่วเต้ายังคงไม่เข้าใจอยู่ดี “ตามที่ท่านเล่ามา คนที่เคยแตะต้องของพวกนั้นไม่ได้มีเพียงแค่องค์หญิงใหญ่ แล้วเหตุใดคนอื่นๆ ไม่เป็นอะไร มีเพียงพวกนางสองแม่ลูกที่เกิดอาการเล่า?”
หลีอู๋ฮวากล่าวว่า “นี่ก็เป็นจุดที่ข้าไม่เข้าใจเช่นกันอีกทั้งเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้คนเขาฉวยโอกาสเล่นงานได้ ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่คงไม่บังเอิญถึงเพียงนั้น ต้องเป็นจ้าวเซินเล่นลูกไม้อันใดที่ข้าคิดไม่ถึงไว้แน่นอน ตอนนี้เขายังอยู่ที่เรือนอวลสุคนธา อ้อยอิ่งไม่ยอมจากไป คาดว่าคงรอข่าวเหตุร้ายของทางนี้อยู่”
หนิวโหย่วเต้าใคร่ครวญเงียบๆ อยู่พักหนึ่ง เอ่ยเนิบๆ ว่า “ท่านไม่มีหลักฐานยืนยันในเรื่องนี้ ต่อให้หาหลักฐานได้ ถึงตายอีกฝ่ายก็ไม่มีทางยอมรับ ของพ้นจากมือเขาไปแล้ว อยู่กับทางฝั่งท่านตลอด เขาสามารถอ้างได้ว่าถูกปรักปรำ ท่านได้ตัวเขามาก็ทำอะไรไม่ได้”
หลีอู๋ฮวาเอ่ยด้วยความชิงชัง “อย่าทำให้ข้าร้อนใจกว่าเดิม หากข้าร้อนใจขึ้นมาจะไปจับกุมเขาเสียเดียวนี้ บังคับให้เขามอบยาถอนพิษให้”
หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “ไม่มีประโยชน์ หากเรื่องเช่นนี้แพร่ออกไปจะมิใช่เรื่องเล็กๆ ถึงตีเขาให้ตายเขาก็ไม่ยอมรับว่าเป็นฝีมือตน ท่านลองคิดดูเถิด ใครบ้างจะไม่รู้ว่าเขามีไห่อู๋จี๋หนุนหลังอยู่ หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากไห่อู๋จี๋เขาจะกล้าทำเรื่องเช่นนี้ได้หรือ หากเขายอมรับว่าเป็นฝีมือตนก็เท่ากับเผยว่าไห่อู๋จี๋ต้องการลอบสังหารน้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง ชื่อเสียงฉาวโฉ่นี้ไห่อู๋จี๋แบกรับไม่ไหว หากจ้าวเซินกล้าสารภาพก็ตายสถานเดียว ไม่ว่าจะเป็นฝั่งจินโจวหรือไห่อู๋จี๋ล้วนไม่มีทางปล่อยเขาไป ดังนั้นต่อให้เขามียาถอนพิษก็ไม่มีทางยอมมอบให้”
หลีอู๋ฮวาโมโหแล้ว ชี้ไปทางเรือนด้านหลัง “หากพวกนางแม่ลูกเป็นอะไรขึ้นมา คิดว่าข้าจะไม่กล้าสังหารเขาหรือ?”
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยโน้มน้าวห้ามปรามทันที “อย่าวู่วามไป ฐานะของจ้าวเซินไม่ธรรมดา หุนหันสังหารไปจะไม่ต่างกับก่อกบฏ หากเรื่องนี้เป็นบัญชาจากไห่อู๋จี๋จริงๆ ก็แปลว่าไห่อู๋จี๋คิดลงมือกับจินโจวแล้ว ท่านสังหารจ้าวเซินไปก็ไม่อาจชดเชยเรื่องของพวกนางแม่ลูกได้ กลับจะกลายเป็นข้ออ้างให้ไห่อู๋จี๋ส่งทัพมา เมื่อถึงเวลาแม้แต่สามสำนักหลักแห่งแคว้นจ้าวก็ล้วนไม่อาจว่าอันใดได้ อีกอย่าง วังสวรรคืหมื่นวิมานก็ไม่มีทางยอมให้ท่านทำเช่นนี้ มิเช่นนั้นท่านจะแบกรับผลที่ตามมาไม่ไหว จ้าวเซินกล้ารั้งอยู่ที่นี่ก็เพราะแน่ใจว่าท่านไม่กล้าแตะต้องเขา”
หลีอู๋ฮวาเอ่ยอย่างเศร้าหมอง “หรือว่าจะให้ข้าเบิกตามองพวกเขาสองแม่ลูกสิ้นใจตายเล่า?”
พอนึกถึงสภาพของลูกน้อยที่พอลืมตาก็ร้องไห้จ้าไม่ยอมหยุด เพิ่งจะถือกำเนิดก็ต้องรับเคราะห์เช่นนี้แล้ว หัวใจเขาดุจถูกมีดกรีดแทง รวดร้าวเข้าไปถึงในกระดูก
ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าสิ่งใดที่เรียกว่ากรรมตามสนอง บาปกรรมที่ตนก่อไว้ สุดท้ายก็ย้อนกลับมาสนองตัวเขาเอง
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “ท่านคงไม่คิดจะรออยู่ที่นี่โดยไม่คิดหาวิธีอื่นกระมัง?”
หลีอู๋ฮวากล่าวว่า “แจ้งต่อทางสำนักไปแล้ว คนของสำนักน่าจะใกล้มาถึงแล้ว”
หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “ตอนนี้อาการของพวกนางแม่ลูกเป็นอย่างไรบ้าง?”
หลีอู๋ฮวาเอ่ยด้วยสีหน้าย่ำแย่ “เลือดลมบกพร่องทรุดตัวลงรวดเร็ว ตามหลัแล้วว่าจะยื้อไว้ได้อีกไม่กี่วัน ตอนนี้ข้าให้ศิษย์ในสำนักผลัดเปลี่ยนกันคอยใช้พลังปราณช่วยเหลือพวกนางแม่ลูกตลอดทั้งวัน ประกอบกับใช้ลูกกลอนวิญญาณคอยเสริมเลือดลม อ้างอิงจากสถานการณ์ตอนนี้ก็คงยืนหยัดต่อได้อีกไม่นานนัก ฝั่งแม่เกรงว่าคงอยู่ได้ไม่ถึงลูกครบเดือน ฝั่งลูก เกรงว่าอย่างมากก็ยืนหยัดอยู่ได้เพียงสิบวันเท่านั้น” พอพูดถึงก็น้ำตารื้นขึ้นมา
เขาได้บุตรชายในวัยชรา แต่กลับต้องมาพบเจอเรื่องเช่นนี้ ซ้ำยังเป็นเพราะความสะเพร่าของเขาที่ทำให้คนเขาฉวยโอกาสได้ จะให้เขาทนรับไหวได้อย่างไร ในใจพร่ำโทษตัวเองอย่างยิ่ง จนใจที่โลกนี้ไม่มียาย้อนเวลา
หนิวโหย่วเต้าวางสองมือยันกระบี่ ก้มหน้าใคร่ครวญเงียบๆ เขาก็ไม่ชำนาญการแก้พิษเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นพิษร้ายที่แม้แต่วังสวรรค์หมื่นวิมานก็ยังไม่ทราบแน่ชัด
“หงเหนียง เจ้าไปตรวจสอบดูอาการของพวกนางสองแม่ลูกอย่างละเอียดที” หนิวโหย่วเต้าพลันเงยหน้าขึ้นเอ่ยสั่งการหงเหนียงที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นชี้ขึ้นไปบนฟ้า “เมื่อทราบอาการแน่ชัดแล้วให้ส่งข่าวไปหาทางนั้น ถามพวกเขาว่าพอจะมีวิธีใดบ้างหรือไม่”
ก่วนฟางอี๋พยักหน้าเล็กน้อย ทราบดีว่าเขาหมายถึงหอจันทร์กระจ่าง ทางนั้นเชี่ยวชาญการลอบสังหาร เรื่องวายาพิษเช่นนี้ก็เคยทำอยู่บ่อยครั้ง ไม่แน่ว่าอาจจะมีทางแก้ได้
ท่าทีของหลีอู๋ฮวาเสมอืนคว้าฟางช่วยชีวิตเอาไว้ได้ ยื่นมือไปจับแขนหนิวโหย่วเต้าทันที “เจ้ามีหนทางหรือ?”
“ท่านอย่าเพิ่งร้อนใจไป หากยังไม่ถึงที่สุดพวกเราก็ไม่อาจถอดใจได้ ลองคิดหาวิธีไปด้วยกันเถอะ” หนิวโหย่วเต้าเอ่ยปลอบ ชี้ไปทางหงเหนียง “ให้คนของท่านอำนวยความสะดวกแก่นาง หากทราบอาการของพวกนางแม่ลูกแน่ชัดก็นำไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นถูก”
“ได้!” หลีอู๋ฮวาพยักหน้าถี่รัว พาหงเหนียงเข้าไปด้วยตัวเอง ตอนนี้ต่อให้เป็นความหวังเพียงเศษเสี้ยวเดียว เขาก็ไม่คิดจะปล่อยผ่าน
หนิวโหย่วเต้ายืนอยู่ใต้ชายคามีสีหน้าตึงเครียด รับรู้ได้ว่ามรสุมกำลังมาเยือน
มีข้อหนึ่งที่มองออกชัดเจน หลายปีมานี้ไห่อู๋จี๋ยากจะลงมือกับมณฑลจินโจวได้ จู่ๆ มาลงมือในเวลานี้ หากไม่มีความมั่นใจคงไม่บุ่มบ่ามลงมือ ต้องเป็นเพราะสบจังหวะลงมือแล้วถึงได้ตัดสินใจลงมือ
ใคร่ครวญอยู่นานพักใหญ่ สุดท้ายก็พึมพำเสียงแผ่ว “ถอนผมเส้นเดียวสะเทือนทั่วสรรพางค์!”
จากนั้นก็ให้ฟางเจ๋อกลับไปก่อน ให้ฟางเจ๋อออกไปติดต่อกับทางด้านนอก เลี่ยงไม่ให้คนด้านนอกเข้าใจผิดว่าเขาเกิดเหตุร้ายอันใดขึ้นในนี้ อีกทั้งให้เรียกตัวอู๋เหล่าเอ๋อร์ที่พกปีกทองสื่อสารกับโลกภายนอกมา
ส่วนตัวเขาตอนนี้ยังไม่คิดจะออกไปจากที่นี่ ต้องการรอคนของวังสวรรค์หมื่นวิมานที่จะมาถึง อยากเห็นว่าวังสวรรค์วิมานจะมีวิธีการใดหรือไม่ เขาต้องการเข้าใจสถานการณ์ในที่แห่งนี้ อยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าหวานไม่อาจปล่อยให้ถูกปกปิดได้
คนของวังสวรรค์หมื่นวิมานมาถึงภายในเย็นวันนั้น ประมุขซือถูเย่าพาคนกลุ่มหนึ่งในสภาพเปื้อนฝุ่นมอมแมมมาด้วยตัวเอง
เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาเสียได้ นับเป็นเรื่องใหญ่หลวง ประมุขอย่างซือถูเย่าไหนเลยจะอยู่เฉยได้ จำเป็นต้องมาด้วยตัวเอง พาหมอที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากทั้งวังสวรรค์หมื่นวิมานมาด้วย
เขาก็เพิ่งเคยพบหน้าหนิวโหย่วเต้าเป็นครั้งแรกเช่นกัน หลังพบหน้าก็ไม่ทันได้พูดคุยตามมารยาทมากนัก ซือถูเย่าก็เข้าไปตรวจดูอาการของสองแม่ลูกด้วยตัวเองแล้ว
หนิวโหย่วเต้าก็พอจะเข้าใจได้ วังสวรรค์หมื่นวิมานมิได้โง่ ย่อมตระหนักได้ถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามา ร้อนใจอยู่เช่นกัน ไหนเลยจะมีอารมณ์มารับรองแขกอย่างเขาอีก
หลังจากซือถูเย่าตรวจอาการสองแม่ลูกด้วยตัวเองแล้ว ก็ให้ผู้ที่เชี่ยวชาญการรักษาที่สุดในสำนักคิดหาวิธีช่วย ส่วนตัวเขาออกมาจากห้อง เรียกตัวหลีอู๋ฮวาออกมาด้วย
จากนั้นก็ก่นด่าตำหนิอยู่ยกหนึ่ง “ตัวไร้ประโยชน์ แม้แต่ลูกไม้กระจอกเช่นนี้ก็ยังป้องกันไม่ได้ ให้เจ้าประจำการณ์อยู่ที่นี่แล้วจะมีประโยชน์ใด?”
หลีอู๋ฮวาอับจนวาจาอีกทั้งไม่คิดจะแก้ตัว ล้วนเป็นความผิดมหันต์ของตนที่ทำให้ลูกเมียต้องประสบเคราะห์
“ดีแต่ทำเรื่องเหลวไหลผิดซ้ำผิดซาก หากแก้ไขปัญหาไม่ได้ เจ้าจงตายเพื่อชดใช้เสีย!” เขาชี้หน้าด่าหลีอู๋ฮวา
หลีอู๋ฮวาก้มหน้าเงียบงัน
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยขึ้นว่า “ประมุขซือถู ตอนนี้มิใช่เวลามาซักไซ้หาความรับผิดชอบจากผู้ใด ท่านเองก็ได้เห็นอากรแล้ว ท่านคิดว่ามีความมั่นใจในการรักษาหรือไม่?”
ซือถูเย่าเงียบงันสีหน้าเย็นชา
หนิวโหย่วเต้าเข้าใจแล้ว ไม่คาดหวังมากอีก
ซือถูเย่าเงียบอยู่พักหนึ่งในที่สุดก็เอ่ยออกมาประโยคหนึ่ง “ท่าไม่ดีแล้ว!”
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยไปทันที “ลือกันว่าบนโลกนี้ไม่มีโรคภัยหรือพิษใดที่หมอผีรักษาไม่ได้มิใช่หรือ? ตามหาหมอผีเถอะ!”
ซือถูเย่าแบสองมือออกมา “น้องหนิว หากข้ารู้ว่าหมอผีอยู่ที่ใด หากข้ารู้ว่าจะไปตามหาหมอผีได้จากไหน ยังจะต้องร้อนอยู่ที่นี่ไปไย? เจ้าพูดน่ะง่าย แต่เฒ่าประหลาดคนนั้นไปมาไร้ร่องรอย พวกเราจะไปตามหาจากไหนได้? เจ้าหาตัวมาได้หรือ?”
หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “ข้าไม่ทราบจริงๆ ว่าจะไปหาได้จากที่ใด แต่ก็คงมีวิธีที่จะตามหาได้กระมัง”
หลีอู๋ฮวาพลันเงยหน้าถาม “น้องหนิว มิใช่ว่าเจ้าติดต่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่นไปแล้วหรือ? มีข่าวตอบกลับมาหรือยัง?”
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “ตอนนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับ คาดว่าจะได้ในวันพรุ่งนี้ แต่เรื่องนี้จะหวังพึ่งทางเดียวไม่ได้ จำเป็นต้องดำเนินการหลายทางเข้าไว้ วังสวรรค์หมื่นวิมานทุ่มกำลังช่วยรักษา ทางข้าก็จะทุ่มกำลังติดต่อขอความช่วยเหลือ อีกทั้งจะคิดวิธีตามหาตัวหมอผีด้วย”
ซือถูเย่าถามกลับ “ถึงข้าอยากตามหาหมอผีแล้วจะไปตามหาได้อย่างไร?”
หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “ส่งข่าวแจ้งต่อผู้หอไร้ขอบเขตและกลุ่มอิทธิพลผู้บำเพ็ญเพียรขนาดใหญ่แห่งต่างๆ ประกาศข่าวต่อสาธารณะว่าตามหาตัวหมอผีมาช่วยแก้พิษให้องค์หญิงใหญ่ หากแจ้งเบาะแสของหมอผีได้จะมีรางวัลให้อย่างงาม! มิใช่ว่าหมอผีพาบุตรชายขององค์หญิงใหญ่ไปหรอกหรือ? ผู้เป็นมารดาล้มป่วย หมอผีทราบข่าวแล้วอาจจะมาหาก็ได้ ตอนนี้แม้จะเป็นเพียงเสี้ยวความหวังก็ไม่อาจปล่อยผ่านได้”
“ประกาศข่าวต่อสาธารณะงั้นหรือ?” ซือถูเย่าตกใจ “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? ทันทีที่ประกาศข่าวนี้ออกไป จินโจวจะเกิดความโกลาหลแน่นอน ปิดความลับแทบจะไม่อยู่แล้ว ไหนเลยจะประกาศออกไปได้! เจ้าอย่าลืมเสียเล่าว่าหากจินโจวพินาศลง หนานโจวของเจ้าก็ต้องรับศึกสองทางเช่นกัน”
หนิวโหย่วเต้าโต้กลับไปทันที “ท่านคิดว่าจะปิดข่าวนี้ไว้ได้หรือ? หากเป็นฝีมือของทางราชสำนัก เป้าหมายในการลงมือกับองค์หญิงใหญ่ก็เพราะต้องการให้จินโจววุ่นวาย ท่านเก็บเป็นความลับไว้ก็จะมีคนเปิดเผยแทนท่านอยู่ดี พอถึงเวลานั้นเขตต่างๆ ในจินโจวต้องมาพิสูจน์ยืนยันอาการองค์หญิงใหญ่แน่นอน แล้วท่านจะปล่อยให้พบได้หรือไม่เล่า? ทางราชต้องการลงมือกับจินโจว จะต้องระดมกำลังไว้แน่ ไพร่พลจำนวนมากไม่อาจระดมพลในระยะเวลาสั้นๆ ได้ มิสู้พวกเราฉวยโอกาสนี้ประกาศข่าวตามหาหมอผีจะดีกว่า”
“แทนที่จะปล่อยให้ราชสำนักปล่อยข่างก่อความวุ่นวายในจินโวหลังจากเตรียมการพร้อมแล้ว จากนั้นก็ถือโอกาสเข้ารุกรานสังหาร มิสู่ชิงประกาศข่าวออกไปเองก่อนดีกว่า บางทีอาจจะพอช่วงชิงความหวังในการรักษาองค์หญิงใหญ่มาได้ พวกเราไม่ปล่อยให้ราชสำนักจูงจมูกควบคุมจังหวะได้ จำเป็นต้องทำลายขั้นตอนที่ราชสำนักจะลงมือ เช่นนี้อาจจะทำให้ราชสำนักหยั่งเชิงของทางนี้ได้ไม่กระจ่าง พอจะทำให้กริ่งเกรงต่อภายนอกได้”