บทที่ 512 คำนวณ

บทที่ 512 คำนวณ

ซูซื่อเลี่ยงพูดไม่ออก อันที่จริงเขาไม่รู้จะพูดอะไรด้วยอยู่พักหนึ่ง

แต่จู่ ๆ ก็คิดขึ้นมา ไม่ว่าน้องเล็กจะทำอะไร เธอเป็นเด็กที่มีความมั่นใจและพูดออกมาอย่างสมเหตุสมผล

ทำไมเขาไม่มีความสามารถแบบนั้นบ้างนะ?

หลังจากนี้ต้องเรียนรู้จากน้องบ้างแล้ว ในภายภาคหน้าอาจมีโอกาสได้รับรางวัลมากกว่านี้

เจียงเยว่ซานดึงแขนเสื้อผู้เป็นอาจารย์อย่างประหม่า

“อาจารย์ ทำยังไงดีคะ?”

“เธอรอก่อนนะ!”

เฉาเกาซวนยืนขึ้นและเดินขึ้นในบนแท่นนั่น ท่ามกลางสายตาประชาชี

แต่เพราะบรรยากาศกำลังคึกคัก หลายสายตาจดจ้องไปที่ซื่อเลี่ยงเพื่อรอฟังว่าเขาจะพูดอะไร มันจึงไม่มีใครสังเกตการณ์กระทำของเฉาเกาซวน

ทว่าทุกคนนั่งกันหมด แต่กลับมีคนมึนยืนขึ้นแถมเป้าหมายยังเป็นแท่นรับรางวัลด้วย จากนั้นพวกเขาก็มองไปยังชายผู้นี้ โดยเฉพาะพวกผู้นำและคณะกรรมการที่นั่งขมวดคิ้วมองอยู่ข้างล่าง เนื่องจากพวกเขาไม่รู้จักอีกฝ่ายอีกทั้งยังไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไรขึ้นไปบนเวทีในตอนนี้ด้วย

แต่ซูซื่อเลี่ยงรู้ดี…

ชายหนุ่มเริ่มประหม่าเหมือนเห็นผู้เป็นอาจารย์

เฉาเกาซวนคิดจะทำอะไร?

“คุณย่า รู้จักเขาไหมคะ?” เสี่ยวเถียนรีบถามเมื่อรู้สึกผิดปกติ

อวี่รุ่ยหยวนขมวดคิ้ว

เธอเคยเห็นแต่ไม่สนิท เขาก็คืออาจารย์ของซื่อเลี่ยงไม่ใช่หรือไง? แต่ดูจากหน้าตาแล้วเขาไม่น่าจะมีเจตนาดีอย่างแน่นอน

“เขาตั้งใจจะโชว์ตัวบนเวทีแน่เลย พี่รองเป็นศิษย์เขาไหมคะ?”

หญิงชราไม่ได้พูด

เธอไม่เชื่อหรอกว่าไอ้คนไม่มีบรรทัดฐานจะขึ้นเวทีมา เพื่อบอกว่าตนเป็นอาจารย์ซื่อเลี่ยงหรอก เพราะคนที่สอนไม่ใช่เขาอยู่แล้ว

เสี่ยวเถียนที่ไม่ได้รับคำตอบเฝ้าหยุดถาม แล้วเฝ้ามองภาพบนเวทีด้วยความกระวนกระวายใจ

สองพิธีกรจ้องมองคนที่เพิ่งปรากฏตัวด้วยความแปลกใจ พวกเรารู้จักกันอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ อาจารย์ก็ขึ้นมาบนเวที หรือจะมีความสัมพันธ์กับผู้ชนะคนนี้?

สองพิธีกรมองหน้ากัน รู้สึกว่าสิ่งที่พวกเราคาดเดาน่าจะถูก

จากนั้นพิธีกรหญิงก็รีบเข้าไปหาเฉาเกาซวนด้วยความว่องไวทันที

“อาจารย์เฉา อาจารย์ขึ้นมาบนแท่นรับรางวัลมีอะไรอยากพูดกับผู้ชมหรือเปล่าคะ?”

เพื่อหลีกเลี่ยงความอึดอัด เธอจึงพยายามทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นกันเอง

เฉาเกาซวนมองซูซื่อเลี่ยง แววตามีนัยทำเขาตื่นตระหนก

หมายความว่ายังไง? ทำไมมองแบบนั้น?

เพราะเรื่องที่แอบลงสมัครหรือ?

ซื่อเลี่ยงเป็นเด็กจิตใจดีต่อให้สงสัยเฉาเกาซวน แต่ตอนนี้กลับนึกถึงคนอื่นมากกว่า

ทว่าความรู้สึกนั้นกลับมอบให้คนผิด เฉาเกาซวนรับไมค์มาจากพิธีกรด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย

ชายหนุ่มตะลึงงัน

ตอนนั้นรู้แล้วว่าอาจารย์กำลังจะสร้างปัญหาแน่นอน แถมผลที่ตามมาอาจร้ายแรงกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่นั้นทุก ๆ คนก็รู้สึกเหมือนกัน

การที่จู่ ๆ ก็ขึ้นมาบนเวทีแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องดีอยู่แล้ว

บางคนที่รู้จักเฉาเกาซวนเริ่มคิดไปต่าง ๆ นานาแล้วว่า คนที่ไม่มีจรรยาบรรณความเป็นครูคิดจะทำอะไร ส่วนคนที่รู้จักเฉาเกาซวนดีก็รู้ว่าซื่อเลี่ยงเป็นศิษย์ของเขา

แต่นักเรียนคุณมีความสามารถนะ ทำไมต้องทำท่าแบบนั้นล่ะ?

พิธีกรที่โดนฉวยไมค์ในมือไปตอบสนองไม่ทันชั่วขณะ

เธอมองมืออันว่างเปล่าและหมายจะเอาคืน แต่อาจารย์กลับทำเป็นไม่เห็นเธอในสายตา

ตอนนั้นเองเฉาเกาซวนรู้สึกเวลาใกล้จะหมดลง จึงเอ่ยขึ้นมา

“ซื่อเลี่ยง เธอทำให้ฉันผิดหวังมาก”

ประโยคเดียวทำสถานการณ์ชุลมุนทันที!

ผิดหวังมาก

หมายถึงอะไร?

คนชนะเลิศอันดับหนึ่งทำให้เขาผิดหวังหรือ?

แล้วการที่พวกเรามีชีวิตอยู่มันหมายถึงอะไรล่ะ?

เพื่อให้คนอื่นผิดหวังหรือ?

ชายวัยกลางคนอีกสองท่านที่ได้รับรางวัลที่หนึ่งเหมือนกันก็ยังมองหน้าด้วยความตกใจ

ชายหนุ่มอายุไม่ถึงยี่สิบได้ทั้งรางวัลที่หนึ่งและสามพร้อมกัน ทำให้เขาผิดหวังเนี่ยนะ?

ต้องคาดหวังสูงขนาดไหนน่ะ?

ตอนเราอายุเท่านั้น เราทำอะไรอยู่?

ความสามารถเท่าไอ้หนุ่มตรงหน้านี้หรือยัง?

ทุกคนเริ่มกระซิบกระซาบ

พวกผู้นำที่เป็นฝ่ายมอบรางวัลให้กับผู้ชนะก็ยังตกใจ

หรือเด็กคนนี้จะเก่งกว่านั้น? แต่ชนะอันดับหนึ่งนี่ยังไม่ได้พออีกหรือ?

ซูซื่อเลี่ยงที่อยู่บนเวทีมีสีหน้าไม่ดีเท่าไร เขาถึงกับเหงื่อแตกพลั่กแม้ในฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศหนาวเย็นเล็กน้อย

ส่วนเฉาเกาซวนมีความสุขเมื่อเห็นความกังวลใจของซูซื่อเลี่ยง!

แค่รู้ว่ากลัวก็นับว่าดีแล้ว กลัวก็แค่กล้าหาญต่อ แต่ไม่รู้จักกลัวเนี่ยสิ

แล้วถ้าครั้งนี้ซื่อเลี่ยงทำตามความคิดของตัวเอง เขาสัญญาว่าจะให้โอกาสอีกฝ่ายได้มาอยู่ข้างเขาอีกสักครั้ง

“อาจารย์เฉา…” ชายหนุ่มคิดจะพูด แต่ก็โดนขัดจังหวะ

“ซื่อเลี่ยง ฉันรู้ว่าเธอเป็นเด็กชนบทจากตะวันตกเฉียงเหนือและอยากมีชื่อเสียง แต่การจะมีได้นั้นก็ต้องมาด้วยความสามารถและมีคุณธรรมด้วย จะมาใช้งานคนอื่นเพื่อเข้าแข่งขันได้ยังไง?”

เฉาเกาซวนเป็นนักแสดงตัวจริง น้ำเสียงเสียใจและสีหน้าเศร้าสร้อยทำให้คนสะเทือนใจ

และในเวลาเดียวกัน สายตาคมกริบของพวกเขาก็ได้จ้องมองไปที่ซูซื่อเลี่ยงด้วย

หรือผลงานที่ชนะจะไม่ใช่ของเขา แต่เป็นชายวัยกลางคนผู้นี้

งั้นก็เข้าใจได้

เพราะเด็กอายุไม่ถึงยี่สิบที่ไหนจะเก่งถึงขนาดนี้?

เสี่ยวเถียนได้ยินประโยคนั้นก็แทบปรี๊ดแตก หมายความว่ายังไง?

ภาพของพี่รองเป็นของคนอื่นหรือ?

ตลกหรือ?

ต่อให้ไม่เคยเห็นงานพี่เขาทั้งหมดแต่เธอก็ยังได้เห็น

ในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์ ทำไมจะไม่รู้ว่าพี่เขาทุ่มเทแรงใจไปขนาดไหน เพื่อให้ได้รางวัลนี้มา?

ชายหนุ่มได้แต่ยืนตะลึงงัน ไม่คิดว่าอาจารย์จะทำกันแบบนี้

เขาไม่ได้โง่ เขารู้เรื่องด้วยซ้ำตอนที่ได้ยินว่า ‘ภาพอาทิตย์อัสดง’ ของเจียงเยว่ซานได้ที่สอง

แต่ก็ไม่คิดว่าอาจารย์จะขึ้นมาพูดจาไร้ยางอายแบบนี้ หรือความไร้ยางอายมันอยู่ยงคงกระพัน?

“อาจารย์เฉาหมายความว่ายังไงครับ? ผมไม่เข้าใจ?” ซื่อเลี่ยงระงับความโกรธเอาไว้

เพราะยังไงอีกฝ่ายก็เป็นครูของเขา ภายใต้สายตาที่จับจ้องมา เขาจะทำให้ทุกคนคิดว่าเขาไม่เคารพครูไม่ได้!

แต่สีหน้าเฉาเกาซวนกลับน่าเกลียดกว่าเดิม ซื่อเลี่ยงไม่ยอมตามน้ำเลย

“ซื่อเลี่ยง เธอเป็นเด็กบ้านนอกฉันเข้าใจนะ แต่เธอจะหลอกคนอื่นแบบนี้ไม่ได้ นั่นไม่ใช่งานของเธอ เธอควรจะยอมรับความผิดไว้สิ!”