ตอนที่ 400 รูปหล่อ เจ้าเป็นผู้ใดกัน (2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 400 รูปหล่อ เจ้าเป็นผู้ใดกัน? (2)

หลังจากทำข้อตกลงกับเรื่องการเคลื่อนพลในอีกสามวันต่อมาแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็สั่งให้อ๋าวอี่รีบไปที่ศาลสวรรค์ก่อน เพื่อไปเป็นตัวแทนของเผ่ามังกร ฟังบัญชาของแม่ทัพปราบปีศาจแห่งศาลสวรรค์

ทุกย่างก้าวของเขา ล้วนมีความหมายลึกซึ้ง

หลี่ฉางโซ่ววางแผนเล็กน้อยในครั้งนี้แล้วมอบความตายใส่โลงศพผลึกแก้วให้ปีศาจใต้ทะเลลึก

นี่คือการต่อสู้ของศาลสวรรค์ กรรมส่วนใหญ่ย่อมตกสู่ศาลสวรรค์ โชคชะตาอันยิ่งใหญ่ของศาลสวรรค์ย่อมไม่อาจสั่นคลอนได้ด้วยปีศาจเพียงสองตัว

“ข้าเพียงไม่รู้ว่าสำนักบำเพ็ญประจิมจะโต้ตอบอย่างไร เรื่องนี้ควรเร่งจัดการโดยเร็ว”

ร่างหลักของหลี่ฉางโซ่วพึมพำและยังคงวางแผนต่อไป

เพื่อความปลอดภัย เขาจึงได้เตรียมตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ออกไปในขณะที่ร่างหลักของเขาฉวยโอกาสนี้ แอบกลับไปที่ยอดเขาหยกน้อย

แม้ค่ายกลเวทพิทักษ์ขุนเขาที่เนียนบางของสำนักตู้เซียนอาจถูกทลายด้วยฝ่ามือเดียว แต่เขาก็ยังรู้สึกถึงความปลอดภัยในสำนักเซียนนี้อย่างไม่อาจอธิบายได้

บางที คงเป็นเพราะว่าเขาจะได้ใกล้ชิดกับปรมาจารย์จอมปราชญ์มากขึ้นเล็กน้อย

ในวันที่สองหลังจากที่ศาลสวรรค์และวังมังกรแอบเคลื่อนพล หลี่ฉางโซ่วก็ได้วางแผนสำรองอีกสองสามแผนแล้วให้อ๋าวอี่มอบให้แม่ทัพตงมู่

องค์เง็กเซียนกำลังปลอมองค์ นำคณะออกสำรวจจักรวรรดิอ้อมๆ ซึ่งตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วในศาลสวรรค์ก็จะร่วมติดตามเขาไปด้วย

ช่างเป็นคู่ร่างจำแลงแสนอัศจรรย์ที่อยู่ในรูปของเจ้าหน้าที่แห่งศาลสวรรค์

ในขณะนี้ การรบ “เล็กๆ” กำลังใกล้เข้ามา ความจริงแล้ว หลี่ฉางโซ่วอยากทำแผนสำรองฉุกเฉินเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้ศาลสวรรค์และกองทัพเผ่ามังกรตกหลุมพรางของสำนักบำเพ็ญประจิม

ทว่าก่อนที่เขาจะเริ่มเปิดความคิด จู่ๆ หลิงเอ๋อร์ก็รีบเร่งมาขอให้เขาเข้าร่วมพิธีที่ยอดเขาพิชิตสวรรค์

หลี่ฉางโซ่วไม่กล้ารั้งรอ ทันใดนั้น ร่างหลักของเขาก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วรีบไปที่ยอดเขาพิชิตสวรรค์พร้อมกับหลิงเอ๋อร์

ในขณะที่เขาทำงานขันแข็งอยู่ข้างนอก เรื่องการเป็นศิษย์ของร่างกลับชาติมาเกิดของอาจารย์ป้าของเขาก็ได้รับการตัดสินใจแล้ว

ปรมาจารย์หว่างฉิงผู้สูงส่งรับศิษย์คนหนึ่งและให้นามเต๋าแก่นางว่า ‘จิ่วซือ’ และเพื่อแยกแยะความแตกต่างของร่างกลับชาติมาเกิดของอาจารย์ป้าจากจิ่วซือ ทุกคนก็มักจะเรียกนางว่า ‘จิ๋วอวี่ซือ’

เมื่อพวกเขาได้ตัดสินใจแล้ว จึงต้องมีพิธีรับร่างกลับชาติมาเกิดของอาจารย์ป้าเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการ

เจียงหลินเอ๋อร์ยุ่งวุ่นวายมากและได้กระจายข่าวเรื่องนี้ออกไป

เหล่าผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสมาถึงที่พำนักหว่างฉิง และเจ้าสำนักซึ่งเข้าปิดด่านเพื่อพักฟื้นก็มาร่วมสนุกด้วยเช่นกัน

จิ่วเซียนทั้งเก้ามาถึงพร้อมกันและทักทายศิษย์น้องหญิงคนใหม่ พวกเขาส่วนใหญ่รู้เรื่องของอาจารย์ป้าว่านเจียงอวี่ จิ่วจิ่วรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น นางดึงจิ๋วอวี่ซือไปทางด้านข้างและบอกทุกคนว่าจิ๋วอวี่ซือเป็นน้องสาวของนาง

เมื่อหลี่ฉางโซ่วและหลิงเอ๋อร์เพิ่งขี่เมฆมาถึงหน้าที่พำนักหว่างฉิง จิ่วจิ่วก็กระโดดพรวดออกไปพร้อมกับจิ๋วอวี่ซือก่อนจะเชิดศีรษะขึ้นพร้อมกับเบ่งหน้าอก แล้วตะโกนว่า “เฮ้! มา มา ศิษย์น้องสองคนนี้ มาทักทายอาจารย์อาน้อยของท่านอาจารย์สิ!”

หลิงเอ๋อร์ยิ้มและโค้งคำนับให้ทันที

ส่วนหลี่ฉางโซ่วก็โค้งคำนับและทักทายอย่างจริงจังว่า “ศิษย์ เมื่อหลี่ฉางโซ่ว ขอน้อมพบอาจารย์อาขอรับ”

จิ่วจิ่วก็รู้สึกผิดเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ได้ เด็กสาวที่เพิ่งได้รับนามเต๋ารีบก้าวออกไปข้างหน้าแล้วโค้งคำนับให้หลี่ฉางโซ่ว แล้วชั่วเวลานั้น นางก็ไม่รู้จะเอ่ยอะไร

หลี่ฉางโซ่วแย้มยิ้มพลางหยิบโอสถออกมาสามขวดแล้วกล่าวว่า “ยินดีกับอาจารย์อาด้วยที่ได้เป็นศิษย์ของเซียนจินของสำนัก โปรดช่วยดูแลข้าในอนาคตด้วย ของเหล่านี้เป็นโอสถระงับความหิว ในสำนักต่างจากโลกมนุษย์ จะได้ไม่ทำให้รู้สึกหิว”

ที่ด้านข้างนั้น หลิงเอ๋อร์คลี่ยิ้มและกล่าวว่า “ศิษย์พี่ ท่านยังไม่รู้ อาจารย์อาอวี่ซือจะฝึกบำเพ็ญบน ยอดเขาหยกน้อยของเรา อาจารย์อาจิ่วจะเป็นผู้มอบเต๋าให้ในนามของอาจารย์ของนาง อาจารย์อาอวี่ซือจะไม่หิว!”

“โอ้?” หลี่ฉางโซ่วยิ้ม ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านอาจารย์ของเขาก็ย่อมจะมีโอกาสมากขึ้น

แล้วท่านอาจารย์ไปอยู่ที่ใดกัน?

ท่านอาจารย์ควรจะอยู่ที่นี่ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้

เมื่อหลี่ฉางโซ่วมอบโอสถให้ อวี่ซือก็หน้าแดงและหยิบมันมาจากเขาอย่างระมัดระวัง

จิ่วจิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็โน้มตัวลงมาอย่างสงสัยก่อนจะเปิดขวดออกดู แล้วขมวดคิ้ว วิญญาณ.. โอสถวิญญาณระงับความหิวคุณภาพ?

หลี่ฉางโซ่วยิ้ม แล้วเดินเข้าไปในที่พำนักหว่างฉิง หลังจากโค้งคำนับให้บรรดาผู้อาวุโสในสำนักแล้ว เขาก็ไปยืนที่มุมหนึ่งเงียบๆ

ในขณะที่หลิงเอ๋อร์กับจิ่วจิ่ว พาจิ๋วอวี่ซือไปต้อนรับแขก

เมื่อเรื่องของเผ่ามังกรจบลงแล้ว ข้าควรจะหลอกล่อศิษย์ของ สำนักตู้เซียนไปที่ศาลสวรรค์ดีหรือไม่?

หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิด

เขาคาดการณ์มานานแล้วว่า นอกจากสนามรบหลักของดินแดนเทวะทักษิณแล้ว สำนักบำเพ็ญเต๋า และสำนักเซียนก็น่าจะเผชิญกับภัยพิบัติครั้งใหญ่เช่นกัน และในช่วงภัยพิบัตินั้น สำนักตู้เซียนก็จะไม่ปลอดภัย

ดังนั้น หากเขาพาญาติสนิทมิตรสหายไปที่ศาลสวรรค์ก่อนล่วงหน้า เขาก็สามารถพยายามหลีกเลี่ยงภัยพิบัติดังกล่าวอย่างเต็มที่

เรื่องนี้นับเป็นทุกคนได้รับประโยชน์จากความพยายามของคนคนเดียวหรือไม่?

ไม่ควรนับเป็นเช่นนั้น แน่นอนว่า เขาจะไม่จัดให้ศิษย์ของสำนักตู้เซียนไปที่สำนักเทพทะเล และทำงานภายใต้บัญชาของเขา มีตำแหน่งเทพว่างมากมายในศาลสวรรค์ …

“ฉางโซ่ว แค่กๆ ข้ามาแล้ว”

จู่ๆ หลี่ฉางโซ่วก็ได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยข้างๆ เขาหันไปรอบๆ และอดจะผงะงันไม่ได้ ก่อนจะก้มศีรษะลงแล้วกระแอมไอสองครั้ง

เขาเห็นชายหนุ่มผมสีเงินเดินเข้ามาหาเขาจากอีกมุมหนึ่ง

ชายหนุ่มผู้นั้น สวมเสื้อคลุมผ้าไหมสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าหุ้มข้อสีดำ และมีเข็มขัดหยกสีทองที่เอว เขามีรูปร่างสูงตรง ใบหน้าสะอาดสะอ้าน ดวงตาสว่างไสวและทรงพลัง ถือได้ว่าเป็นบุรุษหนุ่มรูปงามที่มีคิ้วกระบี่เฉียบคมและดวงตาเป็นประกาย

หากไม่เป็นเพราะว่าเขามีกลิ่นอายของเซียนจั๋วที่คุ้นเคยมาก หลี่ฉางโซ่วคงจะถามจริงๆ ว่า “รูปหล่อ เจ้าเป็นผู้ใดกัน?” เขาคือ ฉีหยวน อาจารย์ของเขา นักพรตเฒ่าฉีหยวน!

โอ้ สวรรค์…

“ท่านอาจารย์!”

“มีอันใดผิดไปหรือไม่?” ฉีหยวนถามอย่างกังวล “แต่งกายเช่นนี้แปลกหรือไม่?”

“ไม่ ไม่ขอรับ เป็นไปได้อย่างไรกัน?” หลี่ฉางโซ่วยกนิ้วหัวแม่มือให้เขา “ท่านอาจารย์ ท่านทั้งรูปงามและสุภาพอ่อนโยนนัก ศิษย์รู้แต่แรกแล้วว่าเป็นท่าน เพียงแต่ไม่คุ้นเคยเท่านั้นขอรับ”

หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเตือนท่านอาจารย์ผ่านการส่งข้อความเสียงว่า “ท่านอาจารย์ แม้ว่าร่างกลับชาติมาเกิดจะมาจากวิญญาณเดียวกัน แต่นางก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป จึงย่อมดีกว่าที่จะปล่อยให้เป็นไปตามวิถีแห่งธรรมชาติขอรับ”

“ข้ารู้ ข้ารู้แล้ว” ฉีหยวนพยักหน้าและยืนข้างๆ หลี่ฉางโซ่ว เขายิ้มและตอบกลับผ่านการส่งข้อความเสียงว่า “วันนี้ข้าเพียงแต่งตัวเช่นนี้เพื่อดูนางเข้านิกายอีกครั้ง ข้าจะมีชีวิตอยู่ไม่เกินหมื่นปี ย่อมไม่กล้าคิดถึงศิษย์พี่หญิงในชีวิตนี้ของนางมากเกินไป ข้าเพียงอยากอยู่เคียงข้างนางและปกป้องนาง เมื่อนางกลายเป็นเซียนและถามถึงเต๋า ข้าย่อมไร้กังวลใดๆ แล้ว”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มพลางพยักหน้าและถอนหายใจเบาๆ ในใจ

เซียนจั๋ว… วิถีแห่งเซียนพิภพ…

“ท่านอาจารย์” หลี่ฉางโซ่วกล่าวผ่านการส่งข้อความเสียงว่า “มีผู้ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่าบรรพชนแห่งเซียนพิภพ หากมีโอกาส ข้าจะไปเยี่ยมเขาเพื่อถามเขาเรื่องวิธีการฝึกบำเพ็ญของเซียนพิภพ ยิ่งไปกว่านั้น หากท่านเข้าสู่ศาลสวรรค์ ท่านก็จะมีอายุขัยเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าขอรับ”

“เจ้าอย่าห่วงนักเลย” ฉีหยวนถอนหายใจเบาๆ “ฉางโซ่ว ในภายหน้า ข้าจะฝึกบำเพ็ญอย่างหนัก และกลายเป็นเซียนเสิ่นให้เร็วที่สุด

“ข้ารู้ว่าเจ้าได้ออกจากสำนักตู้เซียน และมีโอกาสได้รับผลเต๋าอายุยืน ไม่ต้องห่วงเรื่องของข้า เพียงแค่ดูแลน้องสาวของเจ้าให้ดีก็พอ”

ขณะกล่าว ฉีหยวนก็แอบมองไปที่ประตู เมื่อเห็นหญิงสาวที่ดูงดงามและเขินอาย เขาก็เพ่งมองมองดูนางอย่างสงบและกล่าวว่า “ศิษย์เอ๋ย?”

“ศิษย์อยู่นี่แล้วขอรับ”

“ขอบใจเจ้านัก”

หลี่ฉางโซ่วเงียบงัน

ท่านอาจารย์ หากท่านยังคงสุภาพเช่นนี้ต่อไป ข้าจะจัดเตรียมอาหารชุดการกลับชาติมาเกิดราคาแพงแห่งแดนยมโลกเอาไว้ให้ล่วงหน้า!

………………………………………………………………..