ตอนที่ 1039 กรรมตามสนอง (3) ตอนที่ 1040 กรรมตามสนอง (4)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1039 กรรมตามสนอง (3) / ตอนที่ 1040 กรรมตามสนอง (4)
ตอนที่ 1039 กรรมตามสนอง (3)

“พูดเพราะเมาอย่างนั้นหรือ” ชวีซินรุ่ยหัวเราะเยาะ “ว่ากันว่าคนจะพูดความจริงออกมาก็ตอนเมานี่แหละ คำพูดพวกนี้ต้องถูกเก็บเอาไว้ในใจของเขามานานมากแล้วเป็นแน่”

“ข้าน้อยไม่กล้า…” หลินเชวียคุกเข่าตัวสั่นระริก ครั้งนี้ชวีซินรุ่ยโกรธมากจริงๆ

“หลินเชวีย เจ้าไม่ได้คิดเหมือนกันหรอกหรือ” ชวีซินรุ่ยพูดพร้อมกับยิ้มเครียด

หลินเชวียโขกศีรษะลงกับพื้นทันที “ข้าน้อยไม่กล้า! ทำไมข้าน้อยถึงจะคิดเช่นนั้นเล่าขอรับ ข้าน้อยจงรักภักดีต่อท่านยาย ไม่เคยกล้าคิดแบบนั้นเลยสักครั้งขอรับ”

“ฮึ่ม” ชวีซินรุ่ยไม่เชื่อที่หลินเชวียพูดเลยสักคำ

“ไม่กล้าอย่างนั้นหรือ มีอะไรที่เจ้าไม่กล้าทำด้วยหรือ!”

หลินเชวียสะดุ้งอย่างแรง เขาโขกศีรษะกับพื้นต่อไปพลางย้ำถึงความจงรักภักดีของเขา แต่มันก็ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด

ส่วนหลินเฟิงนั้นเกิดตกใจจากโทสะของชวีซินรุ่ยขึ้นมากะทันหัน เขามองอย่างมึนงงอยู่ที่เดิม สีแดงจางหายไปจากใบหน้าของเขาแล้วเปลี่ยนเป็นซีดขาวแทน

นี่ข้าพูดอะไรออกไป!

หลินเฟิงไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเพิ่งพูดอะไรกับชวีซินรุ่ย เขาเคยคิดอย่างนั้นก็จริงแต่ก็ทำได้แค่บ่นอยู่ในใจกับตัวเอง ไม่เคยกล้าพูดออกมาเลยสักคำ แต่จู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนมีไฟสุมอยู่ในอกทำให้เขาระเบิดทุกอย่างที่อยู่ในใจออกมา หลังจากชวีซินรุ่ยโกรธจัดขึ้นมานั่นแหละ ไฟในอกเขาถึงได้หายไป

หลินเฟิงทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นเสียงดังลั่น ตัวของเขาสั่นระริกราวกับต้นหลิวลู่ลม

“ท่านยาย…ท่านยายขอรับ…ข้า…ข้าไม่ได้หมายความอย่างที่พูด ข้าไม่ได้ตั้งใจ…” หลินเฟิงหน้าซีดตัวสั่น

“ไม่ได้หมายความอย่างที่พูดอย่างนั้นหรือ แล้วหมายความว่าอะไรเล่า” ชวีซินรุ่ยเยาะหยัน “ทั้งเจ้าและบิดาของเจ้าทำงานให้ข้าเนี่ย คงหนักหนามากเลยสินะ!”

“ไม่ขอรับ! ไม่ใช่อย่างนั้นเลยขอรับ!” หลินเฟิงรีบส่ายหน้า สีหน้าของชวีซินรุ่ยทำให้เขาเหงื่อตก ไม่คิดเลยว่าเขาจะโพล่งความคับข้องใจของตัวเองออกมาดังๆ

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรือ เหอะ” ชวีซินรุ่ยก้าวเข้ามายืนตรงหน้าหลินเฟิงช้าๆ

หลินเฟิงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นด้วยซ้ำ เขาทำได้แค่นั่งก้มหน้าตัวสั่นมองปลายเท้าของชวีซินรุ่ย

ทันใดนั้นชวีซินรุ่ยก็ยกเท้าขึ้นเตะหลินเฟิงลอยละลิ่วไปในอากาศ!

ลูกเตะจากผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง ไม่ใช่สิ่งที่หลินเฟิงสามารถรับได้ ทันทีที่เขาถูกเตะกระเด็นไปกระแทกพื้น หลินเฟิงก็กระอักโลหิตออกมา โลหิตสีแดงของเขาตัดกับสีขาวบริสุทธิ์ของพรมขนจิ้งจอกบนพื้น

“เจ้าเป็นอะไรกับข้า บังอาจพูดกับข้าด้วยท่าทีเช่นนั้นอย่างนั้นหรือ บิดาเจ้าเป็นหัวหน้าตึกแห่งเมืองพันอสูรแล้วอย่างไร เขาก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ที่ข้าเก็บเอาไว้ใช้งาน เมื่อข้าอยากให้เขามีชีวิตอยู่ เขาก็อยู่ ถ้าข้าอยากให้เขาตาย เขาก็ต้องตาย ต่อหน้าข้า เจ้าไม่มีสถานะจะมาพูดด้วยซ้ำ!” ชวีซินรุ่ยพูดพร้อมกับจ้องมองหลินเฟิงที่นอนกระอักโลหิตไม่หยุดอยู่บนพื้น ไม่มีแววสงสารอยู่ในสายตาของนางเลยสักนิด

ก่อนหน้านี้เพื่อเห็นแก่หลินเชวีย นางจึงยอมผ่อนปรนไม่เอาเรื่องหลินเฟิงที่ทำให้มังกรมายาตาย แต่หลินเฟิงกลับมาถอนหงอกนาง ดูหมิ่นนางในงานเลี้ยงวันเกิดของนางเอง แล้วนางจะยอมทนอยู่ได้อย่างไร

“ท่านยาย ท่านยายโปรดเมตตา…หลินเฟิง…หลินเฟิงไม่ได้ตั้งใจ” เมื่อหลินเชวียเห็นสภาพน่าสงสารของบุตรชาย เขาก็ปวดใจมากจนแทบจะขาดใจ แต่เขาไม่กล้าไปช่วยบุตรชายต่อหน้าชวีซินรุ่ย

“ไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้นหรือ หลินเชวีย ข้าให้โอกาสเจ้าแล้วให้คอยดูลูกชายเจ้าให้ดีๆ แต่เจ้าจัดการอย่างไรเล่า จวินเสียเป็นแขกพิเศษที่ข้าเชิญมา แล้วลูกเจ้าบังอาจมาพูดจาหมิ่นประมาทแขกของข้าแบบนี้ คิดว่าแค่ตำแหน่งนายน้อยกระจอกๆ จะเทียบกับจวินเสียที่เป็นถึงฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนได้อย่างนั้นหรือ!” ชวีซินรุ่ยพูดพร้อมกับยิ้มอย่างดูถูก

ตอนที่ 1040 กรรมตามสนอง (4)

ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน!

หลินเฟิงที่นอนอยู่บนพื้นมองจวินอู๋เสียอย่างเหลือเชื่อ

จวินอู๋เสียนั่งนิ่งอยู่กับที่โดยไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกใจอะไรออกมาเลย แต่สายตาของสยงป้ากับชิงอวี่ที่มาจากรัฐเหยียนพร้อมกับจวินอู๋เสียนั้นเต็มไปด้วยความตกใจสุดขีด!

จวินเสียคือฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน! เป็นไปได้อย่างไรกัน ตอนที่พวกเขากลับมาพร้อมกับจวินเสีย พวกเขาไม่ได้ยินข่าวลือแบบนั้นเลยสักนิดนี่นา!

ภายนอกจวินอู๋เสียดูสงบนิ่ง แต่ในใจนั้นงุนงงเป็นอย่างมาก นางรู้ดีกว่าใครว่านางไม่ได้ยอมรับคำขอร้องของเหลยเชิน และไม่ได้รับตำแหน่งฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนมาอย่างแน่นอน แต่จากท่าทีของชวีซินรุ่ยดูเหมือนว่ามันเป็นเรื่องที่ยืนยันแล้วว่าจริง

ถ้านั่นเป็นความจริง ถ้าอย่างนั้นก็รู้เหตุผลแล้วที่ชวีซินรุ่ยพยายามดึงนางไปเป็นพวก

จวินอู๋เสียไม่รู้ว่านางกลายมาเป็นฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนได้อย่างไร แต่ตำแหน่งนั้นก็ดึงดูดความสนใจจากชวีซินรุ่ยได้อย่างมากมาย เรื่องของมังกรมายาก็คงเป็นเพราะชวีซินรุ่ยรู้เรื่องนี้เข้าถึงได้ยกโทษให้และแสดงเจตนาดีต่อนางอยู่หลายครั้งในวันนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อดึงนางไปเป็นพวก แต่เป้าหมายคือรัฐเหยียนที่อยู่เบื้องหลังนางต่างหาก

จวินอู๋เสียรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันน่าหัวเราะมาก แต่เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้แล้ว มันก็เป็นสิ่งที่ดีที่ชวีซินรุ่ยเข้าใจผิด และจวินอู๋เสียก็ไม่คิดที่จะอธิบายให้นางฟัง

หลินเฟิงเจ็บปวดไปทั่วทั้งตัว แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดพวกนั้น ความเจ็บปวดทั้งหมดก็ถูกลืมเลือนไป เขามองไปที่บิดาของเขาอย่างมึนงง แล้วก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที

ทำไมชวีซินรุ่ยจึงไม่เอาเรื่องที่ต้องสูญเสียมังกรมายาไป และทำไมหลินเชวียจึงไม่พูดถึงจวินอู๋เสียอีกเลยหลังกลับมาจากหอเมฆาสวรรค์ หลินเฟิงคิดได้ว่าบิดาของเขาต้องรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของจวินอู๋เสียเข้าแล้วแน่ และไม่กล้าหาเรื่องเขาอีก แต่เนื่องจากหลินเฟิงถูกกักบริเวณอยู่ตลอด หลินเชวียจึงไม่มีโอกาสบอกให้เขารู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของจวินอู๋เสีย

เหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ทำให้เรื่องทุกอย่างดำเนินมาถึงจุดนี้

ใครจะไปคิดว่าฮ่องเต้แห่งรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจะเป็นแค่เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขานี้

แม้แต่ชวีเหวินเฮ่าก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้จากชวีหลิงเย่ว์เลย

“ไม่ จะเทียบอย่างไรก็สู้ไม่ได้ขอรับ บุตรชายของข้าโง่เขลา ข้าน้อยจะพาเขากลับไปอบรมสั่งสอนให้เข้มงวดที่สุด จะไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอนขอรับ” หลินเชวียให้สัญญา ในใจของเขาตอนนี้ไม่อาจกังวลเรื่องของตัวเองกับจวินอู๋เสียได้ ได้แต่วิงวอนขอความเมตตาให้ชวีซินรุ่ยไว้ชีวิตหลินเฟิง

แต่ทว่า…

ชวีซินรุ่ยไม่ใช่คนใจดีแบบนั้น

“เอากลับไปสั่งสอนอย่างนั้นหรือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าได้ยินคำพูดแบบนี้ การที่หลินเฟิงกล้าก่อความวุ่นวายในวันนี้ ทำให้แขกพิเศษของข้าต้องตกใจ ถ้าเจ้าคิดว่าจะลบเรื่องในวันนี้ได้ง่ายๆ ละก็ ข้าเกรงว่ามันจะไม่ได้ผลสำหรับข้านะ” ชวีซินรุ่ยพูดพร้อมกับหรี่ตาลง นางตบมือ แล้วบุรุษผู้หนึ่งก็เดินขึ้นบันไดมาทันที

เมื่อหลินเชวียเห็นบุรุษผู้นั้น ใบหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นสีขาวด้วยความหวาดกลัว บุรุษผู้นั้นมาที่เมืองพันอสูรพร้อมกับชวีซินรุ่ย เขาเองก็มีพลังวิญญาณขั้นสีม่วงเช่นกัน ในเมืองพันอสูรบุรุษผู้นี้เป็นคนที่คอยจัดการคนที่ ‘ไม่เชื่อฟัง’ ให้ชวีซินรุ่ย

เมื่อเห็นบุรุษผู้นี้ปรากฏตัวขึ้น หลินเชวียก็แทบเป็นบ้า

“ท่านยายโปรดละเว้นหลินเฟิงสักครั้งเถอะขอรับ! เขาจะไม่มีวันทำอย่างนั้นอีกเด็ดขาด!” หลินเชวียรีบโขกศีรษะลงกับพื้นอย่างแรง ขนาดมีหนังจิ้งจอกปูพื้นอยู่ เขาก็ยังเอาหัวโขกจนเกิดบาดแผลเลือดออก

แต่ชวีซินรุ่ยเมินหลินเชวียโดยสิ้นเชิง

“ลากเจ้าเด็กเหลือขอนั่นออกไปจากที่นี่แล้วสั่งสอนบทเรียนให้เขาเสีย ในเมื่อหลินเชวียไม่สามารถสั่งสอนบุตรชายของตัวเองได้ ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะเป็นคนสั่งสอนให้เอง”

ก่อนที่หลินเฟิงจะทันได้สติ เขาก็ถูกบุรุษผู้นั้นลากตัวออกไปด้วยมือเพียงข้างเดียว!