ตอนที่ 404 ราชาแห่งบทกวี (2)
นักพรตเต๋าชราร้องตะโกนเบาๆ ทันใดนั้น แสงสีขาวสองดวงก็พุ่งออกมาจากดวงตาเหนือน้ำเต้า แล้วพุ่งปรี่ตรงไปที่หน้าผากของฮวารี่เทียน!
ทว่าก่อนที่ลำแสงสีขาวจะทันได้ตกลงไปที่ฮวารี่เทียน นักพรตเต๋าชราก็ร่ายคาถาเวทแล้ว
“สมบัติ ออกมา!”
“ช้าก่อน!”
จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่น ในขณะนั้น ก็มีร่างหนึ่งยืนอยู่หน้าฮวารี่เทียน เส้นผมสีขาวของเขาพลิ้วปลิวไสว แส้หางม้าสะบัดไปมาขณะที่เขากางแขนออกด้วยท่าทางเด็ดเดี่ยว
เขาเพียงกล่าวสั้นๆ ว่า ‘หากอยากฆ่า ก็ฆ่าข้าเลย!
นักพรตเต๋าชราชะงักงันไปชั่วขณะ ทว่าไม่คิดจะหยุดเพียงเพราะอยากให้หยุด หากเขาใช้สมบัตินั้นแล้วหยุด มันก็จะทำร้ายตัวเขาเอง
และเขาก็ได้กล่าวคำว่า ‘ร่าง’ ออกไปแล้ว!
ในขณะนั้น ลำแสงสีขาวสองสายก็พุ่งกระแทกใส่หลี่ฉางโซ่ว และจู่ๆ ก็มีลำแสงเฉียบคมพุ่งออกมาอย่างกะทันหัน ครั้นเมื่อเห็นทะเลเลือดมหึมาที่พลุ่งพล่านจากท้องฟ้า พุ่งเข้ามาหาเขา หลี่ฉางโซ่วก็ใจสั่นสะท้าน
ขณะนั้น สัมผัสวิญญาณรับรู้ของหลี่ฉางโซ่วกระตุกขึ้น เขาเกือบจะตัดการเชื่อมต่อระหว่างร่างหลักกับตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของเขาโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้น ความคิดในใจและความรู้สึกเฉียบแหลมของเขาก็หายวับฉับพลัน!
นี่คือ มีดบินสังหารเซียน? !
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วรู้สึกอับจนหนทาง เหงื่อเย็นเฉียบหยาดไหลอาบหน้าผาก…ช่างเป็นสมบัติที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ!
ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ต้านทานไม่ได้เลย!
ร่างหลักของเขาก็เกือบจะได้รับบาดเจ็บ!
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีมีดบินสังหารคนจริงๆ ทว่ามันกลับถูกใช้เพื่อมุ่งเป้าไปที่ปราณวิญญาณ เพื่อพิฆาตปราณวิญญาณ…
หลี่ฉางโซ่วไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้ เขาเปิดใช้งานตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ในแขนเสื้อของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เทพแห่งท้องทะเลทันที… แล้วเพ่งจิตกลับสู่ทะเลประจิมอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่หลี่ฉางโซ่วกลับมารู้สึกตัวนั้น เขาก็ได้ยินเสียงพิโรธลั่นของจอมทัพรี่เทียน
“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงจะสังหารเทพผู้ชอบธรรมแห่งศาลสวรรค์!”
ทันใดนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็โผล่ออกมาจากแขนเสื้ออย่างรวดเร็ว และเห็นลำแสงสีทองสาดส่องวาดโค้งข้ามพื้นผิวทะเล แล้วฟาดลงไปที่นักพรตเต๋าชราอย่างรุนแรง
ในขณะนั้น… ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็ถูกมีดบินสังหารเซียนสะบั้นทันที…
ศีรษะของมันอันตรธานหายไป!
และเสี้ยวพลังเซียนก็หลั่งไหลออกมาจากร่างอย่างรวดเร็ว
ในยามนั้น ร่างจำแลงขององค์เง็กเซียนที่แปลงกายเป็นฮวารี่เทียน ได้สวมชุดเกราะสีทองและถือกระบี่แสงสีทองในขณะที่มีร่างวิญญาณมังกรทองเก้าตัวโบยบินอยู่รอบกายเขา และไล่ล่านักพรตเต๋าชราอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
เดิมที นักพรตเต๋าชรารังเกียจเหยียดหยามการหลบหนีและต้องการต้านการโจมตีของฮวารี่เทียน แต่เมื่อแสงสีทองสาดส่องลงมา ซึ่งความจริงแล้ว มันมีพลังแห่งเต๋าสวรรค์ จึงทำให้เต๋าใหญ่ของนักพรตเต๋าชราสั่นสะท้านจนรีบถอยหนีด้วยความตื่นตกใจ
ชั่วเวลานั้น พลังลมปราณของฮวารี่เทียนเหนือกว่าในขณะที่แม่ทัพสวรรค์ทางด้านซ้ายและขวาได้ออกคำสั่งให้บรรดากลุ่มทหารสวรรค์เข้าขนาบรายล้อมและจัดตั้งค่ายกลทันที
เมื่อเหล่าปรมาจารย์เผ่ามังกรเห็นเทพแห่งท้องทะเลถูกสังหารและสะบั้นศีรษะในขณะที่แม่ทัพใหญ่แห่งศาลสวรรค์ก็เกรี้ยวกราดดุร้ายยิ่ง ทันใดนั้น ทุกคนจึงเตรียมพร้อมและอยากกระโจนเข้าไปเข่นฆ่านักพรตเต๋าชราคนนี้ให้ดับดิ้น
ทว่าปรมาจารย์เผ่ามังกรสองสามคนก็ส่งข้อความเสียงให้พวกเขาสงบลง
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ยังรู้ว่า ร่างจำแลงขององค์เง็กเซียนเป็นเซียนจินขั้นปลาย ซึ่งเทียบเท่ากับแม่ทัพเซียนจินระดับหกที่ต่อสู้ได้ดี
เวลานั้น นักพรตเต๋าชราทำได้เพียงหลบซ้ายย้ายขวาจากลำแสงสีทองนั้นอย่างน่าเวทนา
แต่ด้วยเพียงไม่กี่กระบวนท่า นักพรตเต๋าชราก็ไปปรากฏตัวห่างออกไปหลายร้อยจั้งในชั่วพริบตา บัดนั้น เขาถือน้ำเต้าสมบัติเอาไว้ในมือซ้าย ดวงตาของเขาเผยแววโหดเหี้ยมเย็นชา อยู่ในหมู่เมฆเหนือน้ำเต้าสามจั้ง!
“ตรึง!”
นักพรตเต๋าชราร้องตะโกน และฮวารี่เทียนก็หยุดชะงักกลางอากาศทันที
ในขณะนั้น นักพรตเต๋าชรากำลังจะใช้มีดบินสังหารเซียนอีกครั้ง ทว่าเสียงตะโกนของหลี่ฉางโซ่วก็มาถึงแล้ว!
“ช้าก่อน!”
ทันใดนั้น กระแสน้ำพุ่งพล่านขึ้น และร่างของหลี่ฉางโซ่วก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วที่ด้านหน้าของร่างจำแลงขององค์เง็กเซียน เขาถือแส้และมองตรงไปที่นักพรตเต๋าชราผู้นั้น.
นักพรตเต๋าชราและร่างจำแลงขององค์เง็กเซียน ต่างก็ตะลึงงันเช่นกัน และในขณะเดียวกันนั้น ก็เหลือบมองไปที่ ‘ศพหัวขาด’ เมื่อก่อนหน้านี้ และพบว่าไม่มีผู้ใดอยู่ที่นั่นแล้ว
แล้วองค์เง็กเซียนที่กลายเป็นแม่ทัพใหญ่ฮวารี่เทียนก็กล่าวอย่างเบิกบานใจว่า “เทพแห่งท้องทะเล เจ้าไม่เป็นไร!”
“เหอะ ที่แท้ก็เป็นร่างจำแลง!”
นักพรตเต๋าชราหรี่ตา เย้ยหยัน
ในขณะนั้น แสงสีทองสาดประกายไปทั่วร่างของฮวารี่เทียน เขาได้ลบล้างจนหลุดพ้นและเป็นอิสระจากเวทตรึงร่างแล้ว
หลี่ฉางโซ่วกลัวจริงๆว่า ร่างจำแลงขององค์เง็กเซียนจะรีบพุ่งออกไปข้างหน้าแล้วถูกลู่หยาสังหาร ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วเป็นพลังปราณวิญญาณของเขา เขาใช้พลังเวทขึ้นรูปตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์และเสริมสร้างด้วยเวทจำแลงกายนอกร่างที่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูถ่ายทอดให้เขา จากนั้น ก็ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องด้วยการผสานรวมกับยันต์และกฎห้ามต่างๆ
ในตอนนี้ เมื่อร่างจำแลงของเขาถูกตัดศีรษะ ก็ทำให้ตัดการเชื่อมต่อระหว่างหลี่ฉางโซ่วและร่างจำแลงของเขาทันที และเขาก็ยังสูญเสียพลังปราณวิญญาณและยังปวดศีรษะอีกด้วย
ทว่าหลี่ฉางโซ่วไม่เข้าใจหลักการเบื้องหลังของร่างจำแลงขององค์เง็กเซียน บางทีมันอาจเกี่ยวข้องกับปราณวิญญาณขององค์เง็กเซียน และอาจทำให้องค์เง็กเซียนได้รับบาดเจ็บสาหัสง่ายๆ
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วกล่าวผ่านการส่งข้อความเสียงทันที
“ฝ่าบาท ให้เทพน้อยจัดการนักพรตเต๋าชราผู้นี้เถิด น้ำเต้าในมือของเขามีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง ข้าจะส่งเขาจากไปด้วยคำพูดไม่กี่คำเอง”
“ได้!”
ฮวารี่เทียนตอบกลับทันทีและก้าวไปหาหลี่ฉางโซ่วพลางกล่าวอย่างสงบว่า “ฆ่าเขาเสีย!”
กล่าวจบ ฮวารี่เทียน ก็ไพล่มือซ้ายไว้ข้างหลังในขณะที่ถือกระบี่ยาวเอาไว้ในมือขวา
ฝ่ามือซ้ายซึ่งอยู่ด้านหลังของเขาเริ่มโปร่งใสเล็กน้อย เขาจะเปิดเผยโครงสร้างหลักของร่างจำแลงนี้ให้หลี่ฉางโซ่วเห็น
‘มันเป็นบุญ…’
ร่างจำแลงนี้เกิดขึ้นจากบุญแห่งเต๋าสวรรค์ เกิดจากพลังแห่งบุญ…ร่างทองแห่งบุญ!
หลี่ฉางโซ่วรู้สึกอิจฉาตาร้อนขึ้นมาในทันที
เขาเสี่ยงชีวิตเพื่อรับบุญจากการถวายเครื่องสักการะและไปที่ศาลสวรรค์เพื่อเป็นลูกน้องขององค์เง็กเซียน เขาได้วางแผนนี้เพื่อจะได้รับบุญและสร้างร่างทองแห่งบุญ เขาต้องการมอบเสื้อคลุมพิทักษ์ชีพนี้ให้ตัวเขาเอง ซึ่งมันจะเข้าไปพัวพันกับผู้ที่ฆ่าเขาด้วยกรรมร้าย
แต่ร่างจำแลงขององค์เง็กเซียนที่เคยสัมผัสชีวิตคือร่างทองแห่งบุญที่สร้างขึ้นมาจากบุญอย่างเดียวเท่านั้น!
วันนี้เขายังต้องการใช้ร่างทองแห่งบุญเพื่อจัดการกับนักพรตเต๋าเฒ่าผู้นี้
เมื่อมีดบินสังหารเซียนฟาดลงฟันมา การลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ก็มาถึงทันที!
………………………………………………………………..