บทที่ 566 เรื่องร้ายเกิดขึ้น
บทที่ 566 เรื่องร้ายเกิดขึ้น
“แต่ว่า…” ชายชุดเขียวเริ่มลังเล “แม้ว่าข้าจะสามารถหาวิธีนำตระกูลฉู่ มาอยู่ภายใต้การควบคุมของข้าได้ แต่ถ้าฉู่จงเทียนกลับมา ข้าคงทำอะไรเขาไม่ได้”
ฉู่จงเทียนเป็นผู้บ่มเพาะระดับแปดที่แสนจะแข็งแกร่ง แผนการและกลอุบายย่อมไร้ประโยชน์เมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งที่แท้จริง!
“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้” ซ่างหงกล่าวอย่างจริงจัง “ตราบใดที่เจ้าสามารถควบคุมตระกูลฉู่ได้ เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องฉู่จงเทียน”
ชายชุดเขียวตกใจ “ท่านผู้ตรวจการ หรือว่าท่านมีแผนจะ…”
ซ่างหงโบกมือหยุดเขาไม่ให้พูดอีกต่อไป “ข้าได้มอบโอกาสนี้ให้เจ้าแล้ว เจ้าจะคว้ามันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง”
ความปีติยินดีแวบผ่านดวงตาของชายชุดเขียว “ได้ ข้าจะลงมือ!”
ซ่างหงเดินไปที่หน้าต่างและมองไปทางคฤหาสน์ตระกูลฉู่ “เจ้าแน่ใจหรือว่าตระกูลฉู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดมืด?” เขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ชายชุดเขียวส่ายหัว “ข้าอยู่ในตระกูลฉู่มาหลายปีแล้ว แต่ข้าไม่เคยได้ยินถึงความเกี่ยวโยงระหว่างทั้งสองเลย และยิ่งไปกว่านั้น ฉู่จงเทียนก็ยึดมั่นในหลักคุณธรรมมาก คนอย่างเขาไม่มีทางเข้าใกล้ธุรกิจที่ไม่ซื่อสัตย์เหล่านี้ แต่แน่นอนว่า มีโอกาสเช่นกันที่เขาจะเป็นนักบุญจอมปลอม ทว่าโอกาสนั้นมีค่อนข้างต่ำ”
“แล้วฉินหว่านหรูไปเอาใบอนุญาตค้าเกลือพวกนั้นมาได้ยังไง?” ดวงตาของซ่างหงฉายแววชั่วร้าย ความคิดนี้ทำให้เขาโกรธมากขึ้น ใบอนุญาตค้าเกลือที่นางได้รับนั้นเป็นชุดเดียวกันกับที่กลุ่มคนชุดดำได้แย่งไปจากลูกชายของเขา เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
ดังนั้นเขาจึงต้องจัดการกับตระกูลฉู่ให้ได้ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม ลูกชายคนเดียวของเขาอยู่ในอาการวิกฤตซึ่งเติมเต็มความโกรธของเขาให้มากขึ้น ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะจะใช้วิธีการที่รุนแรงที่สุด
“ข้า…ก็ไม่รู้เหมือนกัน” ชายชุดเขียวเกาหัว “สมาชิกตระกูลฉู่ที่เหลือก็งุนงงในเรื่องนี้เช่นกัน เมื่อพวกเขาถามฉินหว่านหรูเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางก็เอาแต่ยืนยันว่านี่เป็นเรื่องสำคัญและขอเก็บเป็นความลับไว้”
“ฮึ่ม! เดี๋ยวนางก็บอกไม่ช้าก็เร็ว” ซ่างหงแค่นเสียงหัวเราะเย็นชา “วันนี้ข้ายื่นมือเข้าช่วยเหลือเจ้า แต่หลังจากนี้ เจ้าควร…”
ชายชุดเขียวเดินเข้ามาใกล้ เขาพยักหน้าหลายครั้งเมื่อได้ฟังสิ่งที่ซ่างหงพูด “ผู้ตรวจการซ่าง ช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกลจริง ๆ”
…
ในบ้านพักอาจารย์ สถาบันจันทร์กระจ่าง
ซูอันกำลังพัวพันกับเจิ้งตาน แต่ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูดังมาจากทางเข้า ตามด้วยเสียงของฉู่ฮวนเจา “หือ ทำไมกุญแจใช้ไม่ได้? พี่เขย! พี่เขย! เปิดประตูให้ข้าที!”
เมื่อได้ยินเสียงของฉู่ฮวนเจา เจิ้งตานก็ตกใจ นางกอดซูอันแน่น ร่างกายของนางสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
อย่างไรก็ตาม นี่กลับกลายเป็นการกระตุ้นซูอันมากกว่าเดิมอีก…
“พี่เขย ท่านทำบ้าอะไร? ออกมาเดี๋ยวนี้ มีเรื่องร้ายเกิดขึ้น!” เสียงของฉู่ฮวนเจาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ไม่นานต่อมา ซูอันก็แง้มประตูออกไปครึ่งหนึ่งโดยยืนบังอยู่หน้าทางเข้า “เป็นอะไรไป เจ้าจะตะโกนทำไม?” เขาพูด
“ทำไมกุญแจถึงใช้ไม่ได้แล้ว!?” ฉู่ฮวนเจาโพล่งด้วยความโกรธ
—
ท่านยั่วยุฉู่ฮวนเจาสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233!
—
ซูอันหัวเราะอย่างเชื่องช้า “ มีบางอย่างเกิดขึ้นกับการรักษาความปลอดภัยรอบ ๆ ที่พักนี้ สถาบันจันทร์กระจ่างจึงเปลี่ยนกลอนให้ข้า”
“จริงเหรอ เอ๊ะ ทำไมหน้าท่านแดงจัง? นั่นเหงื่อออกเหรอ?” ฉู่ฮวนเจายืนเขย่งปลายเท้าและมองเข้าไปข้างในอย่างสงสัย “ท่านกำลังทำอะไรไม่ดีอยู่ข้างในหรือเปล่า?”
หัวใจของซูอันเต้นแรงด้วยความประหม่า แต่เขาก็อดทนไม่แสดงออกทางสีหน้า “ข้าเพิ่งออกกำลังกายมา ใช่ ข้ามีเหงื่อออกนิดหน่อย!”
เจิ้งตานซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังประตู ลอบพ่นลมหายใจ ‘ออกกำลังกาย’ ที่เจ้าหมายถึง คือออกการขยับไปมาบนร่างกายข้าสินะ…
ซูอันกลัวว่าฉู่ฮวนเจาจะเซ้าซี้ถามต่อ เขาจึงเปลี่ยนประเด็นถามกลับ “ฮวนเจา ทำไมเจ้าถึงหน้าตาตื่นมาหาข้า?
ในที่สุด ฉู่ฮวนเจาก็จำได้ว่านางมีเรื่องสำคัญที่จะบอกซูอัน “ใช่ ๆ มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นที่ตระกูล พวกเรารีบกลับไปกันเถอะ!”
นางจับมือเขาแล้วเริ่มวิ่ง
“เดี๋ยวก่อน บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น!?” ซูอันกล่าวขณะที่เขาแอบโยนกุญแจกลับไปให้เจิ้งตาน นี่เป็นการบอกเป็นนัยว่านางควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนจะออกไป
ใบหน้าของเจิ้งตานเปลี่ยนเป็นสีแดง ข้ายังมีสาวใช้รออยู่ที่ประตูหน้าสถาบัน ข้าจะอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
นางรีบจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยด้วยอาการหายใจหอบถี่ พลางขมวดคิ้ว
ทำไมเขาชอบทิ้งข้าไว้แบบนี้เรื่อยเลย…
…
ซูอันฟังคำอธิบายของฉู่ฮวนเจาไปด้วยระหว่างเดินทางกลับ
ทหารกลุ่มใหญ่ได้เข้าค้นคฤหาสน์ตระกูลฉู่ จากนั้นคนในตระกูลจึงส่งคนมาที่สถาบันจันทร์กระจ่างเพื่อแจ้งข่าวนี้ให้คุณหนูรองและนายน้อยทราบ
อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้เจอคุณหนูรอง แต่กลับไม่พบนายน้อย
ฉู่ฮวนเจาสงสัยว่าซูอันอาจจะอยู่ในบ้านพักอาจารย์ ดังนั้นนางจึงอาสาออกตามหาเขา ด้วยเหตุนี้ นางจึงเกือบจะรู้ความสัมพันธ์ของเขากับเจิ้งตาน
ซูอันดีใจมากที่ตัดสินใจเปลี่ยนกุญแจหลังจากบทเรียนครั้งที่แล้ว
“ทำไมกล้าถึงขนาดมาบุกค้นคฤหาสน์อ๋อง?” ซูอันตกใจ แม้ว่าฉู่จงเทียนจะถูกควบคุมตัวจากปัญหาใบอนุญาตค้าเกลือ พวกคนของทางการก็ไม่น่าจะกล้ามาบุกค้นถึงคฤหาสน์เช่นนี้ นี่มันไม่มีเหตุผลเลย
“ข้าได้ยินมาว่าซ่างหงพาทหารมาด้วยตัวเอง” ฉู่ฮวนเจากล่าว น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความกังวล
“ซ่างหง?” ซูอันตะลึง ต่อจากนี้ไปพวกเขาจะเป็นศัตรูกันอย่างเปิดเผยแล้วงั้นเหรอ? “พวกเขาใช้ข้ออ้างอะไร?”
“พวกเขาบอกว่ากำลังตามล่าผู้กระทำความผิดที่กำลังหลบหนี” ฉู่ฮวนเจาตอบ
“ผู้กระทำความผิดที่กำลังหลบหนี?” ซูอันตกตะลึง
ถึงเวลานี้ ทั้งคู่เดินมาถึงประตูทางออกสถาบันแล้ว ทหารคุ้มกันที่รออยู่บังเอิญได้ยินคำถามของซูอันพอดี เขาจึงตอบแทนว่า “ซ่างหงมาพร้อมกับคำสั่งของจักรพรรดิและกองทหารลาดตระเวนลำน้ำ เขาอ้างว่า ทหารของเขาถูกโจมตีกลางถนน และแม้แต่ผู้บัญชาการซ่างก็เกือบเสียชีวิต คดีนี้ใหญ่โต และต้องมีการสอบสวนอย่างละเอียด ผู้ตรวจการจึงใช้สิ่งนี้เป็นเหตุผลในการค้นทุกตระกูล และตระกูลฉู่ของเราเป็นหนึ่งในนั้น”
ทหารคุ้มกันอีกคนพยักหน้า “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเมืองเป็นผู้ริเริ่มให้ผู้ตรวจการตรวจสอบพื้นที่ของเขาก่อน นอกจากเขาแล้ว ตระกูลเจิ้งและตระกูลหยวนก็ยังให้ความร่วมมือในการตรวจสอบด้วยเช่นกัน”
ซูอันพ่นลมหายใจ “อาจดูเหมือนว่าซ่างหง ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แต่จริง ๆ แล้วเขาตั้งเป้ามาที่ตระกูลฉู่โดยเฉพาะ!”
ตระกูลเจิ้งและตระกูลหยวนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลซ่าง ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะให้ความร่วมมือหรือไม่
สำหรับตระกูลเซี่ย เซี่ยอี้เป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาอาจต้องการใช้ซ่างหงเพื่อขับไล่ตระกูลฉู่ให้ไปจนมุมอยู่ในมุมหนึ่ง และด้วยวิธีนี้ ตระกูลฉู่จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยืนเคียงข้างราชันฉี
เมื่อกลุ่มของพวกเขากลับไปที่ตระกูลฉู่ พวกเขาจึงพบว่าซ่างหงได้เริ่มค้นคฤหาสน์ตระกูลฉู่แล้ว เมื่อซูอันเห็นว่าพวกเขารื้อค้นและทำให้ทุก ๆ ที่ยุ่งเหยิง ก็แอบขอบคุณสวรรค์ที่ได้เก็บของส่วนใหญ่ของตัวเองไว้ในดวงแก้วผู้รอบรู้ มันคงยากที่จะอธิบายตัวเองหากถูกคนอื่นพบพวกมันเข้า
“ท่านแม่!” เมื่อฉู่ฮวนเจามองเห็นฉินหว่านหรู นางก็วิ่งเข้าไปกอดทันที
“เด็กดี ฮวนเจา… ” ฉินหว่านหรูตบหลังลูกสาวเบา ๆ จากนั้นนางก็มองซ่างหงอย่างเย็นชา “ท่านซ่าง ค้นหาเสร็จแล้วหรือยัง?”
“คฤหาสน์ตระกูลฉู่ค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นคงจะใช้เวลานานกว่านี้อีกเล็กน้อย ข้าหวังว่าฮูหยินจะไม่ถือโกรธ” ซ่างหงกล่าวด้วยท่าทางขอโทษ
ใบหน้าของฉินหว่านหรูเย็นชา “ท่านซ่าง ข้าหวังว่าท่านจะไม่จงใจกลั่นแกล้งผู้หญิงคนนี้ในขณะที่สามีของนางไม่อยู่!”
“ฮูหยินพูดแบบนี้ได้ยังไง เรากำลังตามล่าผู้กระทำผิดคนสำคัญ ดังนั้นเราจึงต้องค้นให้ละเอียด และตระกูลของท่านไม่ใช่ตระกูลเดียวที่ถูกตรวจค้น” ซ่างหงตอบอย่างเป็นธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ยิ่งเขาแสดงพฤติกรรมสบาย ๆ มากเท่าไหร่ ฉินหว่านหรูก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น “ได้ ข้าจะจำเรื่องครั้งนี้ไว้!”
ซ่างหงยิ้ม แต่ไม่มีการพูดจารักษาน้ำใจใด ๆ เพิ่มเติม เห็นได้ชัดว่าเขาได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลฉู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรักษาท่าทีไว้หน้าแบบปลอม ๆ อีก
ทันใดนั้นก็มีเสียงโห่ร้องมาจากลานด้านหลัง “เกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าพบอะไร?” ซ่างหงถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง