ตอนที่ 515 ไม่มีทางแพ้

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 515 ไม่มีทางแพ้

หลังเกิดเรื่องของเกาอี้จวินจู่ พวกเขาล้วนรับรู้ว่าคนตระกูลไป๋คือเขตหวงห้ามของไป๋ชิงเหยียน

แสงตะเกียงสาดส่องใบหน้าที่ตึงเครียดของหลี่เม่าให้เห็นแบบริบหรี่ ที่ปรึกษาทั้งสองมองไปทางหลี่เม่าอย่างรอการตัดสินใจของเขา

หลี่เม่าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ มือลูบไปที่ชายเสื้อของตัวเองอย่างใช้ความคิด สักพักจึงเงยหน้าขึ้นมองไปทางที่ปรึกษาชุดเขียวอย่างตัดสินใจได้ “จื่อหยวนช่วยเดินทางไปซั่วหยางสักครั้งเถิด ออกเดินทางบัดนี้เลย! เมื่อไปถึงนั่นให้รับมือตามสถานการณ์ หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วแค่ส่งศีรษะของคนเหล่านี้กลับมา ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดอีก จื่อหยวนดำเนินการตามแผนต่ออย่างระมัดระวังได้เลย”

หลี่เม่ากล่าวอย่างชัดเจน หากไป๋ชิงเหยียนแค่ส่งศีรษะของคนเหล่านี้มาเพื่อตักเตือนเท่านั้น ให้จื่อหยวนที่ปรึกษาชุดสีเขียวอยู่ดำเนินแผนการต่อที่ซั่วหยางกับตระกูลบรรพบุรุษไป๋ ทางที่ดีควรหาความลับของไป๋ชิงเหยียนให้เจอให้ได้

ที่ปรึกษาชุดเขียวไช่จื่อหยวนรู้ดีว่าที่หลี่เม่าส่งเขาไปซั่วหยางเพราะเขาเป็นคนเสนอแผนการนี้

เขาไปเพื่อรับผิดแทนหลี่เม่า ให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วลงโทษตามใจชอบ

ที่ปรึกษาชุดเขียวไช่จื่อหยวนอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้าลงน้อยๆ เขาเป็นคนออกความคิดนี้ เขาไปรับผิดชอบเรื่องนี้ก็สมควรแล้ว

ไช่จื่อหยวนโค้งกายคำนับหลี่เม่า “จะไม่ทำให้ท่านมหาเสนาบดีผิดหวังขอรับ”

กล่าวจบ ไช่จื่อหยวนหมุนตัวเดินออกไปจากห้องหนังสือ สั่งให้คนเตรียมม้า จากนั้นพาองครักษ์สองคนขี่ม้ามุ่งหน้าไปยังซั่วหยางทันทีโดยไม่เปลี่ยนเครื่องแต่งกายแม้แต่น้อย

หลี่เม่ามีลังสังหรณ์ไม่ดี คิ้วของเขากระตุกอยู่ตลอดเวลา

ที่ปรึกษาชุดขาวเอ่ยปลอบ “ท่านมหาเสนาบดีไม่ต้องกังวลไปหรอกขอรับ พวกเรายังไม่ทันลงมือทำสิ่งใดทั้งสิ้น องค์หญิงเจิ้นกั๋วส่งศีรษะคนเหล่านั้นกลับมาเพื่อข่มขู่พวกเราเท่านั้น จื่อหยวนไปรับผิดแล้ว คงไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นหรอกขอรับ”

หลี่เม่ายกมือขึ้นนวดหัวคิ้วของตัวเองเบาๆ จากนั้นยกชาขึ้นจิบ “เจ้านั่งลงเถิด…”

“ท่านมหาเสนาบดี ข้าขอกล่าววาจาอาจเอื้อมสักนิดขอรับ! แผนการร่วมมือกับบรรพบุรุษตระกูลไป๋ทำลายองค์หญิงเจิ้นกั๋วที่ท่านและจื่อหยวนคิดขึ้นมันเป็นแผนที่ผิดพลาดขอรับ!” ที่ปรึกษาชุดขาวนั่งลง จากนั้นเอ่ยขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “ข้ารู้ว่าท่านมหาเสนาบดีกังวลที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วกุมความลับของท่านเอาไว้ ทว่า หากคิดอีกมุมหนึ่ง บัดนี้เหลียงอ๋องยังคิดว่าท่านคือคนขององค์ชายรองในตอนนั้น หากภายภาคหน้าเหลียงอ๋องได้ขึ้นครองบัลลังก์ ท่านจะกลายเป็นผู้ที่อยู่ใต้อำนาจของคนเพียงคนเดียว ทว่า มีอำนาจเหนือคนทั้งปวงนะขอรับ!”

หลี่เม่ามองไปทางที่ปรึกษาชุดขาว รอฟังเขากล่าวต่อนิ่งๆ

“องค์หญิงเจิ้นกั๋วกุมความลับของท่านเอาไว้ ขอเพียงท่านไม่ไปแตะต้องเขตหวงห้ามของนาง กระทั่งลอบให้การช่วยเหลือนางอย่างลับๆ หากวันหน้าองค์รัชทายาทได้ขึ้นครองบัลลังก์ ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ถือเป็นคนขององค์รัชทายาทเช่นกัน ไม่มีทางโดนกำจัดหรอกขอรับ องค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นเพียงสตรี ไม่มีที่ยืนในราชสำนัก นางกุมความลับของท่านซึ่งมีตำแหน่งสูงส่งในราชสำนักอยู่ นางย่อมหาวิธีให้องค์รัชทายาทให้ความสำคัญกับท่าน นางจะได้ควบคุมท่านต่ออีกทอดหนึ่งแน่นอนขอรับ”

หลี่เม่าหรี่ตาแคบ ฟังแล้วก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้

นี่คงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดไป๋ชิงเหยียนจึงไม่มอบจดหมายเหล่านั้นให้ฮ่องเต้เสียที

นางคงคิดว่ามีจดหมายเหล่านั้นอยู่ในมือ นางจะควบคุมเขาซึ่งเป็นขุนนางในราชสำนักได้ แทนที่จะมอบจดหมายเหล่านั้นออกไปจนเขาต้องจบชีวิตลง การเก็บจดหมายไว้ในมือมีประโยชน์ต่อไป๋ชิงเหยียนมากกว่า

หากเขาคือไป๋ชิงเหยียนซึ่งไม่มีที่ยืนในราชสำนัก เขาก็จะทำเช่นนี้เหมือนกัน

“ที่สำคัญพวกเรายังไม่ได้ก่อเรื่องร้ายแรงจนส่งผลกระทบต่อตระกูลไป๋ องค์หญิงเจิ้นกั๋วคงไม่คิดอยากเอาชีวิตของท่านจริงๆ หรอกขอรับ ด้วยนิสัยขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว หากนางคิดลงมือจริงๆ ย่อมต้องทำให้ผู้คนรับรู้กันทั่ว ไม่มีทางแอบส่งศีรษะมาให้ท่านเช่นนี้หรอกขอรับ”

หลี่เม่ารู้สึกคลายกังวล “เซียนเซิงกล่าวมีเหตุใด เช่นนั้นพวกเราก็ผูกมิตรกับองค์หญิงเจิ้นกั๋วไว้เถิด!”

“ข้าก็คิดเช่นนั้นขอรับ ท่านมหาเสนาบดีจะได้อยู่ตรงกลางระหว่างองค์รัชทายาทและเหลียงอ๋อง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางแพ้ก็ขอรับ” ที่ปรึกษาชุดขาวกล่าวยิ้มๆ

หลี่เม่าพยักหน้า รู้สึกสบายใจขึ้นมาก “หวังว่าจื่อหยวนไปซั่วหยางครั้งนี้จะจัดการเรื่องทุกอย่างได้อย่างเรียบร้อย”

หลี่เม่ายังไม่รู้ว่าตอนนี้ไป๋จิ่นซิ่วสั่งให้คนคัดลอกจดหมายที่หลี่เม่าเขียนถึงองค์ชายรองขึ้นมากว่าร้อยฉบับแล้ว เมื่อพับจดหมายเรียบร้อย หญิงสาวสั่งให้คนส่งจดหมายต้นฉบับไปยังจวนของเหลียงอ๋อง

ไป๋จิ่นซิ่วสั่งให้คนนำจดหมายกว่าร้อยฉบับส่งไปตามหอนางโลม โรงสุราและสถานที่ที่ครึกครื้นต่างๆ ในเมืองหลวง

คืนนั้นเมื่อบรรดาคุณชายที่หอนางโลมและโรงสุราได้รับจดหมายฉบับนี้และเห็นว่าเป็นลายมือของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายหลี่เม่าต่างก็แจกจ่ายจดหมายกันไปคนละฉบับและเปิดอ่านอย่างละเอียด

นี่คือจดหมายที่หลี่เม่าเขียนถึงองค์ชายรองที่ถูกประหารเพราะก่อกบฏในปีนั้น ในจดหมายเต็มไปด้วยคำสรรเสริญของหลี่เม่า กล่าวว่าจะรับใช้องค์ชายรองไปชั่วชีวิต ให้องค์ชายรองทรงวางพระทัย

เมื่อไป๋ชิงเหยียนส่งคนมาบอกให้ไป๋จิ่นซิ่วเลือกจดหมายของหลี่เม่าออกมาหนึ่งฉบับ ไป๋จิ่นซิ่วก็รู้ได้ทันทีว่าไป๋ชิงเหยียนยังไม่ต้องการกำจัดหลี่เม่า บางทีเก็บเขาไว้ยังมีประโยชน์อยู่ หญิงสาวทำเช่นนี้เพื่อขู่ให้หลี่เม่าอยู่อย่างสงบเท่านั้น

กลางคืน หลี่เม่ากำลังจะเข้านอนโดยมีอนุคอยปรนนิบัติ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกอย่างร้อนใจของพ่อบ้าน

เดิมทีหลี่เม่าก็นอนไม่หลับเพราะมีเรื่องไม่สบายใจอยู่แล้ว เขาลุกขึ้น แหวกมุ้งออกแล้วเอ่ยถาม “มีเรื่องอันใด”

“เกิดเรื่องแล้วขอรับนายท่าน!” พ่อบ้านกล่าว

ใจของหลี่เม่ากระตุกวูบ รีบหยิบเสื้อมาคลุมแล้วเดินออกไปด้านนอก อนุเจียงแหวกม่านตะโกนเรียก “นายท่าน!”

หลี่เม่าไม่สนใจเสียงเรียกของอนุ เร่งฝีเท้าไปด้านนอกอย่างรีบร้อน มองพ่อบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เกิดเรื่องอันใดขึ้น”

“จดหมายระหว่างท่านและองค์ชายรองในตอนนั้นแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงแล้วขอรับ!” พ่อบ้านหยิบจดหมายออกมาจากอกแล้วส่งให้หลี่เม่า “นายท่านดูเถิดขอรับ”

หลี่เม่ากระชากจดหมายมาทันที เขาเปิดอ่านพลางเดินไปยังห้องตำรา สั่งให้พ่อบ้านไปตามคุณชายใหญ่หลี่หมิงรุ่ยและที่ปรึกษาชุดขาวมาพบ

หลี่เม่าเพิ่งเข้าใจตอนนี้เองว่าไม่ว่าเขาจะทำลายตระกูลไป๋สำเร็จหรือไม่ ขอเพียงเขามีความคิดเช่นนี้ ไป๋ชิงเหยียนไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆ

ส่งศีรษะมาเพื่อตักเตือน จดหมายฉบับนี้ก็เป็นการตักเตือนเช่นเดียวกัน

ไป๋ชิงเหยียนกุมความลับของเขาเอาไว้ หญิงสาวไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวสิ่งใด ย่อมสามารถทำได้ตามอำเภอใจอยู่แล้ว

ครั้งนี้หลี่เม่าทำผิดพลาดแล้วจริงๆ เขาไม่ควรอยากกุมความลับของไป๋ชิงเหยียนเพื่อหวังจะควบคุมหญิงสาวเช่นเดียวกัน

เมื่อเผชิญหน้ากับไป๋ชิงเหยียน เขาตกเป็นรองอยู่แล้ว เขาเป็นฝ่ายที่ต้องโดนข่มขู่

ทว่า เป็นดั่งที่ที่ปรึกษาชุดขาวกล่าว ไป๋ชิงเหยียนกุมความลับและจุดอ่อนของเขาเอาไว้ ดังนั้นเขาสามารถพลิกโอกาสนี้ให้ตัวเองกลางเป็นคนกลางที่ได้ประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย

ที่ปรึกษาชุดขาวถูกปลุกให้ตื่นขึ้น เขาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้วเดินไปที่ห้องตำราของหลี่เม่า

หลี่เม่าอ่านจดหมายฉบับนั้นวนไปมาอยู่หลายรอบ เป็นจดหมายที่เขาเขียนให้องค์ชายรองจริงๆ ทว่า ไม่ใช่ลายมือของเขา ต้องมีคนคัดลอกจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาอย่างแน่นอน!