บทที่ 499 ราวกับปีศาจ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

“ได้สิ”ปาจรีย์พยักหน้าให้ แล้วดึงวารุณีให้นั่งลง พูดน้ำไหลไฟดับขึ้นมาทันที

ตอนที่กลับมาถึงที่โรงพยาบาล ท้องฟ้าก็มืดแล้ว

เด็กน้อยทั้งสองคนก็ตื่นแล้ว และกำลังดูของเล่นกันอยู่บนเตียง

เมื่อวารุณีเห็นเด็กๆยิ้มแย้มแจ่มใส ก็ถึงได้โล่งใจ

ตามแนวโน้มนี้ การฟื้นตัวของเด็กทั้งสองคน ก็เป็นไปในแนวทางที่ถือว่าดีมาก

“หม่ามี๊”เด็กทั้งสองคนเอ่ยเรียกวารุณีเสียงหวาน

วารุณีเดินเข้าไปหาแล้วก้มลงหอมหัว“เด็กดี”

“ผมด้วย”จู่ๆ เสียงที่เสนาะหูของชายหนุ่มก็ดังขึ้นจากข้างหลัง

วารุณีหันไปมอง ก็ประจันเข้ากับใบหน้าที่หล่อเหลาของนัทธี“ คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ทำไมไม่ได้ยินเสียงเลย ?”

“หม่ามี๊ คุณพ่อเพิ่งจะมาถึงครับ ผมจะบอกหม่ามี๊แล้ว แต่คุณพ่อห้ามเอาไว้ก่อน ”อารัณหัวเราะแหะๆ

ไอริณก็พยักหน้า “ หนูเป็นพยานให้พี่อารัณได้ค่ะ”

วารุณีถลึงตาใส่ “เจ้าเด็กแสบสองคนนี้ กล้าหลอกหม่ามี๊เหรอ ?”

พูดจบ ก็จะเข้าไปจี้เอวของเด็กน้อยทั้งสอง

นัทธีรีบขวางเธอเอาไว้“อย่าทำอะไรลูกเลยนะ ลูกยังไม่หายดีเลย ”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันรู้ ฉันแค่จะแกล้งพวกเขาเท่านั้น ไม่ตั้งใจจะทำอะไรพวกเขาหรอกค่ะ”วารุณีรีบดึงมือกลับทันที

นัทธีชี้ไปที่ใบหน้าของตัวเอง “เร็วเลย เมื่อกี้คุณหอมพวกเขาไปคนละที คุณต้องหอมผมสองทีนะ”

วารุณีถึงกับจนใจ“ จริงๆเลย กับลูกคุณก็ยังจะหึงอีก คุณ……”

“เร็วเข้า”นัทธีพูดขัดเธอ

วารุณีหมดคำจะพูดมือกุมไปที่หน้าผาก แต่แล้วก็ต้องเขย่งเท้า แล้วหอมแก้มซ้ายและแก้มขวาของชายหนุ่ม ไปข้างละหนึ่งที

และชายหนุ่มก็ถึงได้ยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างพึงพอใจ

“เออนี่คุณ ผมมีอะไรจะให้ด้วย ”จู่ๆนัทธีก็นึกอะไรขึ้นมาได้ หันหลังแล้วเดินไปที่โต๊ะน้ำชา หยิบแฟ้มเอกสารที่อยู่ข้างๆยื่นให้กับวารุณี

วารุณีรับมันมา เปิดออกดูด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่าเป็นผลตรวจของพิชญากับปวิช ก็หัวเราะออกมา

“ที่แท้ พ่อแท้ๆของพิชญาก็คือปวิช ไม่ใช่สุภัทร ”สีหน้าของวารุณีเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

ลูกสาวที่สุภัทรรักนักรักหนามากว่ายี่สิบปี ไม่ใช่ลูกแท้ๆของเขาเอง

ถ้าเขารู้ เห็นทีคงต้องเป็นบ้าแน่ๆ

“เรื่องนี้ คุณคิดจะจัดการมันยังไง ? จะบอกให้สุภัทรรู้เมื่อไหร่ ?”นัทธีมองวารุณีแล้วถามออกไป

วารุณีส่ายหัว“ ไม่ต้องรีบค่ะ อย่างน้อยก็ต้องรอให้สุภัทรล้มหมอนนอนเสื่อเสียก่อน ตอนนี้ขยานีก็วางยาเขาอยู่ คิดว่าอีกไม่นานเวลานั้นก็น่าจะมาถึง ถึงตอนนั้นฉันค่อยปรากฏตัวแล้วบอกเรื่องนี้กับเขา ว่าที่สภาพของเขาเป็นแบบนี้เพราะฝีมือของขยานี แล้วบอกเขาเรื่องขยานีกับปวิช และเรื่องที่พิชญาไม่ใช่ลูกของเขาด้วย คุณคิดว่าสุภัทรจะเป็นยังไงคะ?”

“ก็พอจะนึกภาพออก”นัทธีเลิกคิ้วขึ้น

ไม่บ้า ก็คงจะอกแตกตาย

“ในเวลานั้น สุภัทรที่รู้เรื่องทุกอย่าง จะเป็นเวลาที่เขาเกลียดขยานีมากที่สุด ฉันก็จะบอกเขา ว่าฉันสามารถแก้แค้นเอาคืนแทนเขาได้ ขอแค่เขาบอกฉัน ว่าแม่ฉันตายยังไง เป็นอุบัติเหตุจริงๆ หรือเพราะพวกเขาสมคบคิดกันทำร้าย ถึงตอนนั้นเขาก็จะบอกฉันทุกอย่างแน่ เพราะเขารู้ ว่าตัวเองก็คงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน และไม่กลัวเรื่องคดีความทางกฎหมายแล้ว” วารุณีกำมือแน่น แล้วพูดอย่างเย็นชา

นี่คือแผนการของเธอ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

ไม่เพียงได้แก้แค้นเอาคืนพ่อชั่วๆและแม่เลี้ยงเลวๆ แต่ยังได้รู้ความจริงเรื่องการตายของแม่ด้วย

แล้วทำไมเธอจะไม่ทำมันล่ะ

นัทธีพยักหน้า “ใช้ได้ วิธีนี้ถือว่าไม่เลว”

“ใช่มะ”วารุณีมองเขาแล้วยิ้ม

ดวงตาของนัทธีมืดมน เชยคางเธอขึ้น แล้วประกบริมฝีปากจูบลงไปทันที

แต่เพราะมีเด็กทั้งสองคนอยู่ด้วย จึงจูบกันนานไม่ได้ ดังนั้นนัทธีก็จึงรีบปล่อยวารุณี แล้วพูดชมว่า“ นี่เป็นรางวัลสำหรับคุณ”

วารุณีทั้งโกรธและขำ

รางวัลอะไรกัน

เห็นชัดว่าอยากจะฉวยโอกาสกับเธอ

บนเตียง เด็กทั้งสองคนที่เห็นฉากนี้ ต่างก็พากันหัวเราะคิกคัก

“พี่อารัณ คุณพ่อกับหม่ามี๊กัดปากกันอีกแล้ว”ไอริณพูดเสียงเบา

อารัณพยักหน้าให้“พี่เห็นแล้ว ปล่อยให้พวกเขากัดกันเถอะ พวกเขากัดปากกันเป็นเรื่องที่ดี ”

มันหมายความว่าพ่อแม่รักกันมาก

ไม่มีเด็กคนไหนที่จะไม่ชอบเห็นพ่อแม่รักกันหรอก

ยิ่งไปกว่านั้น ที่สำคัญที่สุด พ่อแม่รักกัน และก็ยังรักพวกเขาที่เป็นลูกด้วย

พวกเขาก็ย่อมต้องรู้สึกว่าครอบครัวแบบนี้เป็นครอบครัวที่มีความสุข

วันรุ่งขึ้น ในตอนที่วารุณีตื่นจากโซฟา นัทธีก็ไปแล้ว

ป้าส้มบอกว่า เหมือนจะได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง สนทนากันในสาย เรื่องเกี่ยวกับการพิจารณาคดีในขั้นตอนสุดท้ายของขงเบ้ง ดังนั้นก็จึงรีบไป

วารุณีเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา เมื่อเห็นเด็กทั้งสองคนยังไม่ตื่น ก็ไม่ได้ไปกวน เดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

พรุ่งนี้ต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อร่วมการแข่งขันต่อ

กลับมาเมื่อวาน ก็คอยดูแลและอยู่กับลูกๆตลอด มีเรื่องมากมายที่ยังไม่ได้ไปจัดการ

อาทิเช่น เรื่องการเรียนของเด็กๆ และเรื่อง ไปหาทารีนา

เรื่องพักการเรียนของเด็กๆไม่ได้ยุ่งยากอะไร ปรึกษาพูดคุยกับทางโรงเรียน แล้วเซ็นสัญญาก็เรียบร้อย

ดังนั้นแค่เพียงไม่นาน วารุณีก็ออกจากโรงเรียนอนุบาล จากนั้นก็ขับรถไปหาคุณหญิงทารีนา

เมื่อคุณหญิงทารีนารู้ว่าเธอกลับมาแล้ว ก็ดีใจมาก รีบพาเธอไปที่เรือนจำหญิงเพื่อเยี่ยมทารีนา

“คุณวารุณี”ทารีนายืนอยู่หลังกระจก หยิบหูฟังโทรศัพท์ขึ้น ใจจดใจจ่อมองมาที่วารุณี “คุณวารุณี อีกนานแค่ไหนกว่าฉันจะได้ออกไปคะ ?”

“คงอีกสักระยะหนึ่งค่ะ สามีของฉันตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานเอาผิดตระกูลผดุงธรรมอยู่ คุณเองก็รู้ เบื้องหลังของนวิยามีตระกูลผดุงธรรมหนุนอยู่ หากไม่จัดการกับตระกูลผดุงธรรม เล่นงานแค่นวิยาคนเดียวมันจะไม่เกิดประโยชน์อะไร ตระกูลผดุงธรรมก็จะสามารถช่วยนวิยาออกไปได้ทุกเมื่อ ”วารุณีกล่าว

แม้นวิยาจะลอบฆ่าเธอมาแล้วถึงสองครั้ง แต่ก็เป็นการพยายามกระทำความผิดแต่ไม่บรรลุผล ตัดสินโทษประหารไม่ได้ สูงสุดก็จำคุกยี่สิบปี

ตระกูลผดุงธรรม จะทนดูนวิยาเดินเข้าคุกไปได้จริงๆหรือ ?

เธอคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะตระกูลที่ให้ที่หลบซ่อนตัวกับฆาตกรได้ ยังมีอะไรที่ทำไม่ได้อีก ต่อให้จะเป็นครอบครัวที่มีอำนาจและอิทธิพล แต่เมื่อทำผิดกฎหมาย ครอบครัวที่มีอำนาจและอิทธิพลนี้ ก็จะเต็มไปด้วยความสุ่มเสี่ยง

ดวงตาของทารีนาก็มืดมน“ฉันทราบแล้วค่ะ”

วารุณีมองดูท่าทีที่ผิดหวังของเธอ ในใจก็รู้สึกลำบากใจ ในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนความคิด ไม่บอกเธอเรื่องที่นวิยาหนีไปแล้วให้รู้

มิฉะนั้น เธอจะยิ่งผิดหวังมากขึ้นไปอีกก็เท่านั้น

“ขอโทษด้วย แต่ไม่ว่าจะยังไงฉันก็จะช่วยคุณออกมาให้ได้”วารุณีพูดอย่างรู้สึกผิด

ทารีนาส่ายหัว “เรื่องนี้จะโทษคุณวารุณีคงไม่ได้ เป็นเพราะฉันที่โง่เอง นี่คือบทลงโทษกับความโง่ของฉัน และนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ต้องรอไปอีกสักหน่อยก็คงจะไม่เป็นไร ถูกขังอยู่ที่นี่อีกสักพัก เพื่อชดใช้ก็ดีเหมือนกัน”

คำพูดของเธอทำเอาวารุณีหลุดขำ“เอาล่ะ ที่ฉันจะพูดก็พูดไปหมดแล้ว เดี๋ยวฉันจะไปตามคุณหญิงทารีนามา ให้พวกคุณได้คุยกันนะ”

“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณวารุณี”ทารีนาพยักหน้าให้

วารุณีวางหูโทรศัพท์ลง เดินออกจากห้องเยี่ยม แล้วเรียกคุณหญิงทารีนาเข้าไป

คุณหญิงทารีนาใช้เวลาอยู่ด้านในประมาณสิบนาทีได้ ดวงตาแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งจะผ่านการร้องไห้มา

วารุณียื่นกระดาษทิชชูให้“ เช็ดสักหน่อยเถอะนะคะ”

“ขอบคุณค่ะคุณวารุณี” คุณหญิงทารีนายิ้มออกมาอย่างเขินอาย

วารุณีก้มมองลงพื้น“ไม่ต้องห่วงนะคะ ยังไงคุณทารีนาก็จะต้องได้ออกมาค่ะ”

“ฉันรู้ ฉันแค่โกรธที่เด็กคนนี้โง่เกินไป ทำไมถึงได้ไปทำข้อตกลงกับปีศาจของตระกูลแก้วสุทธิได้ และมามีจุดจบแบบนี้”คุณหญิงทารีนาถอนหายใจ

วารุณียกยิ้ม “เธอก็ทำเพื่อครอบครัว อีกอย่างก่อนหน้านั้นเธอก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคือนวิยา”

“ฉันรู้ ฉันถึงได้โกรธอยู่นี่ไงคะ อีกฝ่ายเป็นใครก็ยังไม่รู้ แต่ตกปากรับคำไปอย่างไม่คิด เฮ้อ……” คุณหญิงทารีนาก็ถอนหายใจอีกครั้ง “ไม่รู้จริงๆว่าครอบครัวตระกูลแก้วสุทธิ เลี้ยงลูกที่ใจคอโหดร้ายแบบนี้มาได้ยังไง เห็นๆกันอยู่ว่าสามีภรรยาคู่นี้ ก็เป็นคนดีกันทั้งคู่ แต่ทำไมลูกที่เกิดมาถึงได้……”

“คุณหญิงทารีนารู้จักกับพ่อแม่ของนวิยาเหรอคะ?” วารุณีเกิดความสนใจขึ้นมา