บทที่ 567 ลำบากแต่คุ้มค่า

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

ทางด้านซูซานเห็นข่าวเรื่องบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปได้ร่วมงานกับบริษัทแมกซ์เวลเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิคส์บนอินเทอร์เน็ต ก็โทรไปเรียกตัวอลันกลับมาทันที

อลันเพิ่งเข้ามาในบ้าน ก็ได้ยินซูซานด่าเขาว่าไอ้ขยะ

“นายนี่มันเป็นขยะไร้ค่า ไหนบอกฉันว่าจะทำสำเร็จไง? นายทำงานไม่สำเร็จ ก็ช่วยอะไรฉันไม่ได้ แล้วฉันจะเข้าใกล้เขาได้ยังไง? นายไม่มีความสามารถที่จะช่วยฉันได้ ก็ไม่ต้องมารับปากฉัน”

อลันเห็นซูซานท่าคลุ้มคลั่งอย่างนี้ ก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เขาเดินเข้าไปกอดซูซาน อยากปลอบใจเธอ แต่เมื่ออลันแตะโดนตัวเธอ เธอก็ผลักอลันออกอย่างแรง

“นายยังกล้ามาแตะต้องตัวฉันอีกเหรอ ไอ้ขยะไร้ค่า มีสิทธิ์อะไรมาแตะตัวฉัน”

อลันยิ่งเสียใจมากขึ้น ในใจยิ่งริษยาและเคียดแค้นลี่จุนถิงมากขึ้นไปอีก แต่ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่พูดแก้ตัวไปเท่านั้น

“ซูซาน ฉันก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเองก็คิดไม่ถึงว่าลี่จุนถิงจะตกลงกับเวียร์ได้เร็วขนาดนั้น เธอวางใจเถอะนะ ฉันจะหาโอกาสเล่นงานพวกเขาอีก”

ซูซานอยากจะต่อเขาต่ออีก แต่ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ซูซานเห็นเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ก็ถามอย่างไม่สบอารมณ์ว่า :

“เธอเป็นใคร?”

ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะออกมา “ฉันคือคนที่จะมาช่วยพวกเธอไงล่ะ ไม่เชิญฉันเข้าไปนั่งหน่อยเหรอ”

ซูซานเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งยอมปล่อยให้เธอเข้ามา แล้วถามเธอว่า :

“เธอเป็นใคร? เธอมีวิธีไหนที่จะช่วยฉัน?”

ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในห้อง แล้วนั่งลงที่โซฟา ทำท่าเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของห้อง

“สิ่งที่ลี่จุนถิงแคร์มากที่สุดก็คือเจียงหยุนเอ๋อ พวกเธอจัดการเจียงหยุนเอ๋อซะก็สิ้นเรื่อง”

ซูซานถามความเป็นมาของผู้หญิงคนนี้ตลอด แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่ยอมบอกอะไร ท่าทางมีลับลมคมใน บอกเพียงแค่เป็นคนที่สามารถช่วยเธอได้ก็เท่านั้น

ทางลี่จุนซินเมื่อคุยโทรศัพท์กับพวกพันธมิตรของบริษัทเสร็จ ก็ได้รับสายของโม่เสี่ยวฮุ่ยที่โทรจากคฤหาสน์ตระกูลลี่

“ค่ะ แม่ ตอนนี้พวกเราอยู่ระหว่างทางกลับบ้าน อีกเดี๋ยวก็ถึงแล้วค่ะ”

เมื่อมาถึงคฤหาสน์ตระกูลลี่ พวกลี่จุนถิงเพิ่งลงจากรถ ก็เห็นโม่เสี่ยวฮุ่ยยืนรออยู่ที่หน้าประตูแล้ว

เมื่อเห็นลี่จุนถิงลงจากรถ โม่เสี่ยวฮุ่ยก็รีบเข้าไปหาทันที เธอกอดลี่จุนถิงแล้วร้องไห้ออกมา

“ลูกชายของแม่ ในที่สุดจุนถิงของแม่ก็กลับมาแล้ว ก่อนหน้านี้แกไปอยู่ที่ไหนมา แม่เป็นห่วงแกแทบแย่นะรู้ไหม”

ลี่จุนซินเห็นลี่จุนถิงมีท่าทางขัดขืนเล็กน้อย ก็รีบเข้าไปดึงโม่เสี่ยวฮุ่ยออกมา

“แม่คะ มีอะไรพวกเราค่อยเข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่าค่ะ จุนถิงเพิ่งกลับมา ค่อนข้างอ่อนเพลีย”

โม่เสี่ยวฮุ่ยได้ยินว่าลี่จุนถิงเหนื่อย ก็รีบปล่อยเขาออก แล้วเช็ดน้ำตา จากนั้นก็พาลี่จุนถิงเข้าไปในบ้าน

หลังจากที่ทั้งสี่คนเข้ามาในบ้านแล้ว ลี่จุนซินก็มองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ทั้งหมดให้โม่เสี่ยวฮุ่ยฟัง แต่ปิดบังเรื่องที่ลี่จุนถิงความจำเสื่อมเอาไว้

เมื่อโม่เสี่ยวฮุ่ยได้ฟังเรื่องทั้งหมด ก็แทบจะเป็นลมล้มพับไป น้ำตาที่เพิ่งเช็ดไปก่อนหน้านี้ก็ได้ไหลออกมาอีกครั้ง เธอจับมือลี่จุนถิงเอาไว้แน่น กลัวว่าลี่จุนถิงจะหายไปอีก

“ลูกชายสุดที่รักของแม่ ลำบากลูกแย่เลยนะที่ต้องเจอเรื่องมากมายขนาดนี้”

ถึงแม้ลี่จุนถิงไม่ค่อยชอบที่โม่เสี่ยวฮุ่ยร้องไห้อย่างนี้ แต่เขาก็เข้าใจความรู้สึกของโม่เสี่ยวฮุ่ยดี จึงได้แต่ปลอบโยนเธอ แล้วดึงทิชชูมายื่นให้โม่เสี่ยวฮุ่ยหนึ่งแผ่น เพื่อให้เธอเช็ดน้ำตา

“แม่ครับ อย่าร้องไห้เลยนะ ผมก็กลับมาโดยปลอดภัยดีนี่ไง คืนนี้ยังมีงานเลี้ยงที่แม่ต้องไปร่วมงานอีกนะครับ อย่าร้องเลยนะ เดี๋ยวตาบวม”

หลังจากที่ทั้งสามคนสลับกันปลอบใจโม่เสี่ยวฮุ่ย ในที่สุดเธอก็สงบนิ่งลง แล้วปรับอารมณ์เป็นปกติ

“ตอนค่ำมีงานเลี้ยงใช่ไหม ไป หยุนเอ๋อจุนซิน ตามแม่ขึ้นไปเลือกเสื้อผ้าด้านบน ช่วงนี้แม่ซื้อเสื้อผ้าให้พวกแกเยอะมาก รอให้พวกแกกลับมาดูอยู่ตลอด แต่พวกแกเอาแต่บอกว่างานยุ่ง ครั้งนี้หนีไปไหนไม่ได้แล้วนะ”

โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดจบก็ลากเจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนซินขึ้นไปชั้นบน ลี่จุนถิงนั่งอยู่คนเดียวด้านล่างก็ไม่มีอะไรทำ เลยตามขึ้นไปด้วย

เมื่อเข้าไปในห้องแต่งตัว ลี่จุนซินและเจียงหยุนเอ๋อก็ตกใจมาก ตอนแรกคิดว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยซื้อเสื้อผ้าแค่ไม่กี่ชุด แต่เมื่อมาเห็นปรากฏว่าซื้อมาจนเต็มห้องเลยทีเดียว

โม่เสี่ยวฮุ่ยเดินเข้าไปในกองนั้นแล้วเลือกเสื้อผ้าหลายชุดออกมามอบให้เป็นของขวัญแก่เจียงหยุนเอ๋อ

“เธอไปลองเสื้อผ้าพวกนี้ดู ถึงแม้ท้องเธอจะใหญ่ แต่น่าจะใส่ได้นะ”

จากนั้นโม่เสี่ยวฮุ่ยก็หยิบออกมาอีกหลายชุดให้ลี่จุนซิน หลังจากที่ทั้งสองคนลองใส่แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา โม่เสี่ยวฮุ่ยนี่ช่างตาแหลมเหลือเกิน ไม่ว่าพวกเธอจะใส่ชุดไหนก็สวยไปหมด

ตอนค่ำ ณ ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมโรงแรมหย่าก่างเซิ่งอี้ บรรดาพวกที่มีหน้ามีตามีชื่อเสียงในเมืองจิ่งเฉิงต่างถูกเชิญให้มาร่วมงานเลี้ยงฉลองของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป

เวียร์ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย แขกจากทั่วทุกสารทิศที่มารวมตัวกัน ล้วนเป็นพันธมิตรที่เคยร่วมงานกับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมาก่อนทั้งนั้น

เมื่อลี่จุนถิงเห็นว่าแขกมางานกันพอสมควรแล้ว ก็ได้พาเจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนซินลงไปในงาน

ทั้งสามคนเดินลงมาจากบนโถงบันได วินาทีนั้นทุกสายตาล้วนจับจ้องไปที่พวกเขา พวกเขาเห็นลี่จุนถิงคอยประคองเจียงหยุนเอ๋อให้เดินลงมาอย่างระมัดระวัง ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลี่จุนถิงที่ปกติเป็นคนเคร่งขรึมแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าภรรยากลับอ่อนโยนได้ถึงขนาดนี้เลย

เจียงหยุนเอ๋อสวมชุดเดรสปาดไหล่สีขาวล้วนทั้งชุด กระดูกไหปลาร้าที่โผล่ออกมาดูสวยงามมาก เนื้อผ้าของชุดเดรสขาวราวกับโปร่งแสง และสะท้อนแสงเล็กน้อย เหมือนกับปีกของนางฟ้า แต่กลับดูไม่โป๊เลยสักนิด กระโปรงทำเป็นระบายโค้ง ๆ เป็นชั้น ๆ ตั้งแต่ด้านบนจนถึงด้านล่าง ดูหรูหราสง่างามมาก เผยให้เห็นขาสวยเรียวยาวขาวผ่องดั่งหยกของเด็กสาว ตามมุมกระโปรงประดับเต็มไปด้วยเพชร เพชรเม็ดเล็ก ๆ เหมือนดวงดาว สวยเหมือนน้ำค้างยามเช้าที่มีจำนวนนับไม่ถ้วน

“เธอดูคุณนายลี่สิขนาดท้องอยู่ แต่ใส่ชุดราตรีแล้วยังสวยเนี้ยบขนาดนั้น ประธานลี่จะไม่อ่อนโยนได้ยังไงล่ะ”

เวียร์ยืนอยู่ในกลุ่มคน ก็มองไปยังโถงบันได แต่ในสายตาของเขามีเพียงลี่จุนซินเท่านั้น เขาอึ้งมากที่เห็นลี่จุนซินเปลี่ยนไปขนาดนี้ เสื้อผ้าที่แตกต่างกันก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันออกไป

ลี่จุนซินสวมชุดเดรสยาวสีม่วงทั้งชุด กระโปรงยาวลากพื้น เปล่งประกายสดใส เนื้อผ้าเป็นผ้าไหมเนื้อเนียนเรียบมาก แนบชิดลำตัวจนเผยส่วนเว้าส่วนโค้งได้อย่างชัดเจน ทรงผมถักเป็นเปียยุ่ง ๆ ยาว ๆ ดูสง่างามมาก

ในมุมหนึ่งของงานเลี้ยง มีผู้หญิงคนหนึ่งมองดูเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ด้วย สายตาเปล่งประกายความชั่วร้ายออกมา ราวกับว่าจะกลืนกินพวกเขาเข้าไปในท้อง

เมื่อพวกลี่จุนถิงขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีแล้ว และเมื่อแน่ใจว่าเจียงหยุนเอ๋อปลอดภัยดี ก็ได้ก้าวเดินมาตรงหน้าไมโครโฟน แล้วเอ่ยพูด :

“สวัสดีครับทุกท่าน ผมคือลี่จุนถิง ผมดีใจมากที่ทุกท่านให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยงฉลองบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปของพวกเรา ผมทราบดีว่าทุกท่านเป็นกังวลเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมก่อนหน้านี้ เพื่อความสบายของทุกท่าน ผมจะอธิบายให้ทุกท่านฟังเองครับ”

“ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้หายตัวไป เพียงแต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นเล็กน้อยที่ต่างประเทศ จากนั้นผมจึงต้องอยู่รักษาตัวที่บ้านตลอด แต่ไม่คิดเลยว่าจะทำให้เกิดความวุ่นวายขนาดนี้”

“ผมต้องขอขอบคุณพันธมิตรของผมไว้ ณ ที่นี้ด้วย ที่เชื่อมั่นในตัวผมมาโดยตลอด และหวังว่าต่อไปจะสามารถร่วมงานกันได้อย่างมีความสุข”

ผู้คนด้านล่างต่างพากันยินดีต้อนรับการกลับมาของลี่จุนถิง ทำให้เห็นว่าลี่จุนถิงมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมขนาดไหน

เจียงหยุนเอ๋อที่ยืนดูทุกอย่างอยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกว่าก่อนหน้านี้ที่ลำบากไปถือว่าคุ้มค่าแล้ว