บทที่ 570 ที่พึ่งสุดท้าย
บทที่ 570 ที่พึ่งสุดท้าย
ฉินหว่านหรูไม่อาจเถียงคำใดได้ คำพูดของฉู่เทียนเซิงเป็นเหมือนมีดที่เจาะลึกเข้าไปในหัวใจของนางครั้งแล้วครั้งเล่า…
เมื่อตอนที่นางยังเป็นสาว นางตกหลุมรักฉู่จงเทียนตั้งแต่ครั้งแรกที่นางสบตาเขา ทั้งสองก็ได้พัฒนาความรู้สึกให้กันและกัน งานแต่งงานของทั้งคู่ก็เต็มไปด้วยความสุข เรื่องนี้ดำเนินไปจนกระทั่งเขาประสบเหตุการณ์ร้ายแรง บาดเจ็บเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว…
อย่างไรก็ตาม ด้วยความรักที่มีต่อฉู่จงเทียนอย่างล้นเหลือ ปัญหาดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
แต่เมื่อเวลาเริ่มล่วงผ่านไป นางซึ่งยังคงเป็นผู้หญิงและอยู่ในช่วงวัยยังมีความต้องการ
บางครั้งนางจะตื่นขึ้นกลางดึกโดยอารมณ์ที่ร้อนรุ่ม อย่างไรก็ตาม นางได้แต่ทนเก็บอาการอย่างเงียบ ๆ มาโดยตลอด ไม่กล้าที่จะแสดงออกเพราะไม่ต้องการทำร้ายความรู้สึกของสามีตนเอง
ความรู้สึกที่รุนแรงและขัดแย้งกันเช่นนี้ทำให้อารมณ์ของนางร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีหลายกรณีที่นางรู้ว่านางไม่สามารถแสดงออกได้ แต่บางครั้งนางก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
ดังนั้นถ้ามีโอกาสจริง ๆ ที่นางสามารถทำได้อย่างลับ ๆ…โดยที่ทุกอย่างแนบเนียนจนไม่มีใครจับได้ บางทีมันอาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้าย…
ฉินหว่านหรูตื่นตระหนกทันทีที่ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในหัวของนาง นางรู้ว่ายาในร่างกายของตัวเองเริ่มมีผลร้ายแรง และมันก็เริ่มส่งผลกระทบต่อความคิดและการตัดสินใจของนางด้วย
อย่างไรก็ตาม นางรู้ว่าไม่มีทางที่ตัวเองจะสามารถเอาชนะฉู่เทียนเซิง ทั้ง ๆ ที่ร่างกายเป็นอย่างนี้ได้ นางจึงทำได้แค่แกล้งทำเป็นเล่นตามน้ำเท่านั้น
นางปัดปอยผมออกจากแก้มแล้วทัดไว้หลังใบหู การเคลื่อนไหวง่าย ๆ นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ฉู่เทียนเซิงเบิกตากว้าง เขารู้สึกปากแห้ง และหัวใจเต้นเร็วขึ้น ถ้าเขาไม่กลัวว่านางจะตอบโต้ เขาอาจจะกระโจนใส่นางไปแล้ว
เมื่อเห็นความปรารถนาในดวงตาของเขา ฉินหว่านหรูก็เต็มไปด้วยความรังเกียจ อย่างไรก็ตาม นางยังคงสงบและพูดว่า “ข้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเจ้าจะไม่บอกใคร?”
“อะไรนะ?” ฉู่เทียนเซิงตกตะลึง ไม่สามารถตอบสนองได้ชั่วขณะ เขาคิดว่าเขาคงได้ยินผิดไป
ฉินหว่านหรูอดทนต่อความรู้สึกแย่ ๆ ที่พลุ่งพล่านอยู่ภายในกาย นางจงใจทำน้ำเสียงของนางให้อ่อนหวานขณะที่พูดว่า “ข้ากำลังถามเจ้า ถ้าข้าเชื่อฟังเจ้า ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าจะไม่ละเมิดข้อตกลงของเราและแอบบอกให้คนอื่นรู้ นั่นจะไม่ทำลายข้าอย่างสมบูรณ์เหรอ?”
“อ้อ…นี่คือสิ่งที่ท่านกังวลสินะ” ฉู่เทียนเซิงในที่สุดก็เข้าใจ ในที่สุดเทพธิดาที่เขาโหยหาทั้งวันทั้งคืนก็ใจอ่อน ความปีติยินดีเพิ่มขึ้นในตัวเขา “ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่บอกใครแน่นอน!”
ฉินหว่านหรูเย้ยหยัน “ปากของผู้ชายคือสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือที่สุด ทำไมข้าถึงต้องเชื่อคำสัญญาที่ว่างเปล่าของเจ้า เว้นเสียแต่ว่า…เจ้าจะไม่ใช้หินนั่นบันทึกการกระทำของเรา!”
ความเป็นชายของฉู่เทียนเซิงชูชันทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ น้ำเสียงของนางบ่งบอกชัดเจนว่านางยอมรับกับคำขอของเขา!
เขาตอบตกลงอย่างรวดเร็ว “แน่นอน แน่นอน ข้าจะไม่ใช้หินบันทึก!”
ถ้าฉินหว่านหรูตกลงที่จะยอมบำเรอความต้องการของเขาจริง ๆ หินบันทึกก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
จุดเด่นของหินบันทึกคือการสามารถเก็บภาพประสบการณ์ในคืนเดียวได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ถ้าฉินหว่านหรูตกลงตามเงื่อนไขของเขา ก็จะสามารถเรียกหานางได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการนาง…
นอกจากนี้ เมื่อไหร่ที่พวกเขาร่วมเตียงกันสักสองสามครั้งจนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว นางอาจจะไม่ปฏิเสธการเข้าหาของเขาอีกต่อไป เพียงแต่ในตอนนี้นางมีเรื่องกังวลมากมาย
“ถ้าอย่างนั้น…เจ้าต้องรักษาคำพูดของเจ้า” ฉินหว่านหรูกล่าวอย่างอ่อนหวาน
“แน่นอน! หากข้าผิดคำพูดให้ทัณฑ์สวรรค์ผ่าลงกลางกระหม่อมข้าได้เลย” ฉู่เทียนเซิงตอบรับน้ำเสียงหนักแน่น “พี่สะใภ้ สิ่งเดียวที่ข้าต้องการคือท่าน…เมื่อท่านตกลงตามคำขอของข้า ทำไมข้าจะต้องผิดสัญญาให้เสียเรื่อง? ฉู่จงเทียนไร้น้ำยาไปแล้ว ดังนั้นข้าก็ไม่รังเกียจเลยที่จะรับท่านเป็นภรรยาลับ ๆ ของข้า และยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้จะยิ่งทำให้เรื่องต่าง ๆ น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นสำหรับเราสองคนอย่างแน่นอน!”
เขารั้งตัวเองไว้ไม่ไหวแล้ว เขาพุ่งเข้าหานาง “พี่สะใภ้ ท่านไม่รู้หรอกว่าข้าโหยหาวันนี้มากี่ปี…”
เขายังคงสงสัยในตัวนางอยู่เล็กน้อย เนื่องจากฉินหว่านหรูดูเหมือนจะทำตัวแตกต่างไปจากเดิมอย่างกะทันหัน แต่ตัณหาได้ครอบงำเขาแล้ว นอกจากนี้ นางกำลังได้รับความทุกข์ทรมานจาก ‘ยาน้ำนมกระทิง’ จึงตัดสินใจเชื่อนาง
เมื่อเห็นสีหน้าที่เย้ายวนของนางและคิดว่าร่างกายที่อวบอัดและงดงามนี้กำลังจะอยู่ในอ้อมกอดของเขาในไม่ช้า สิ่งนี้ทำให้ฉู่เทียนเซิงรู้สึกตื่นเต้นมาก เขารู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิด เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้เขาตัดสินใจถูกแล้ว!
แม้ว่าดูจากภายนอกฉินหว่านหรูจะยังคงเขินอายอยู่ แต่เขามั่นใจว่าภายในของนางขณะนี้เร่าร้อนอยู่แน่นอน
แต่ในขณะที่ ฉู่เทียนเซิงกำลังจะโอบกอดนาง ฉินหว่านหรูก็ทุ่มแรงซัดฝ่ามือใส่กลางอกของเขาอย่างจัง นางทุ่มสุดตัวกับการโจมตีแบบหวังผลเพียงครั้งเดียวนี้!
“อ๊าา…” ฉู่เทียนเซิงร้องออกมาอย่างน่าเวทนาในขณะที่เขากระเด็นถอยหลัง เขาไม่คาดคิดเลยว่าดอกฟ้าที่อยู่ตรงหน้าของเขาซึ่งดูเหมือนพร้อมจะให้ตัดเอาดอกแล้ว จู่ ๆ กลับกลายเป็นพืชกินคน
ฉินหว่านหรูเต็มไปด้วยความผิดหวัง หากร่างกายของนางอยู่ในสภาพสมบูรณ์ การโจมตีของนางจะต้องทำให้อีกฝ่ายพิการอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ความแรงและความเร็วของนางลดลงด้วยผลของยาพิษ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฝ่ามือของนางถึงสร้างความเสียหายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จากนั้น ในขณะที่นางกำลังจะฉวยโอกาสนี้เพื่อตามไปโจมตีซ้ำจบชีวิตของอีกฝ่าย คลื่นความร้อนในกายของนางกลับปะทุขึ้นมาทันทีที่นางก้าวออกไปเพียงก้าวเดียว และร่างกายของนางก็อ่อนแรง
“บัดซบ!” นางสบถพร้อมกับเอาตัวพิงเสาที่อยู่ด้านข้างเพื่อรักษาสมดุล หากนางรอต่อไปอีกนางคงถูกชายที่น่าขยะแขยงคนนี้ทำให้เป็นมลทิน
นางสูญเสียโอกาสในการฆ่าคู่ต่อสู้ไปแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่กล้ารออีกต่อไป นางพุ่งไปที่หน้าต่างและซัดฝ่ามือให้มันเปิดออก จากนั้นนางกระโดดออกไปอย่างรวดเร็ว
นางมองไปรอบ ๆ อย่างสับสน ขณะที่นางลงมาที่พื้นนอกห้อง เกิดความวุ่นวายขนาดนี้ ทหารยามน่าจะรีบมาดูได้แล้ว
แต่มันน่าแปลกที่ไม่มีทหารสักนายเดียวอยู่ในสายตา ไม่มีแม้แต่คนรับใช้ด้วย!
นางตกใจมาก ดูเหมือนว่าแผนของฉู่เทียนเซิงจะลึกล้ำ เขาติดสินบนคนในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ไปแล้วกี่คน?
นางไม่กล้าเสียเวลาอีกต่อไป นางวิ่งตรงไปยังที่พักของหงจง
มีคนสองคนที่ฉินหว่านหรูและสามีของนางไว้วางใจมากที่สุดใน คฤหาสน์ตระกูลฉู่คือพ่อบ้านหงจง และหัวหน้ากองทหารคุ้มกันตระกูล เยว่ซาน
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ เยว่ซานเพิ่งถูกส่งออกไปทำภารกิจสอบสวนเรื่องบางอย่าง…
นางขนลุกทันทีเมื่อคิดถึงตรงจุดนี้ นางตระหนักได้ว่าการที่เยว่ซานถูกส่งออกไปทำภารกิจ มันน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของฉู่เทียนเซิงด้วยแน่นอน!
ขอบคุณสวรรค์ที่นางยังมีหงจง!
หากไม่มีเยว่ซาน คนเดียวที่นางไว้วางใจคือหงจง
ในขณะที่คนอื่นอาจทรยศต่อสามีของนาง หงจงจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน
ความเชื่อใจไม่ใช่เกิดจากเพียงเพราะหงจงรับใช้ตระกูลฉู่มาแล้วหลายชั่วอายุคน มันเป็นเพราะนางยังมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับนิสัยของเขาหลังจากมีปฏิสัมพันธ์กับเขามานานหลายปี
เขาแก่ ฉลาด และรอบคอบมาก ยิ่งไปกว่านั้น บุคลิกของเขาซื่อตรงและมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง
นางวิ่งอย่างบ้าคลั่งไปยังที่พักของหงจงโดยสะดุดหลายครั้งตลอดทาง
ความรู้สึกแปลก ๆ คุ้นเคยแต่กลับไม่คุ้นเคย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในตัวนาง ทำให้นางรู้สึกทั้งละอายและโกรธเคือง สิ่งเดียวที่นางคิดในตอนนี้คือตามหาหงจงและขอความช่วยเหลือจากเขา ตระกูลฉู่กำลังเผชิญกับมรสุมใหญ่!