ตอนที่ 1063 คุณค่าในการใช้ประโยชน์ (1) / ตอนที่ 1064 คุณค่าในการใช้ประโยชน์ (2)
ตอนที่ 1063 คุณค่าในการใช้ประโยชน์ (1)
“แต่ข้าทดลองกับหินวิญญาณอื่นๆ แล้ว มันไม่เกิดปฏิกิริยาแบบเดียวกันเลยนะ” จวินอู๋เสียค่อนข้างสับสนกับเรื่องทั้งหมด ถ้าบอกว่านางสามารถกลืนกินจิตวิญญาณผ่านหินวิญญาณได้จริง แล้วทำไมหินวิญญาณชนิดอื่นๆ ถึงไม่ได้ผลเลย
จวินอู๋เย่าหัวเราะแล้วพูดว่า “ถึงหินวิญญาณจะมีพลังวิญญาณ แต่พวกมันก็ไม่ใช่ร่างวิญญาณที่แท้จริง เจ้าไม่สามารถดูดกลืนหินวิญญาณโดยตรงได้ มีเพียงเมล็ดถั่วจากต้นไม้แห่งจิตวิญญาณเท่านั้นที่สามารถดึงพลังวิญญาณออกจากหินวิญญาณให้เจ้าดูดซับได้ แต่ตอนนี้เมล็ดถั่วของต้นไม้แห่งจิตวิญญาณยังเล็กมาก ความสามารถของมันเลยมีจำกัด ถ้าไม่ใช่เพราะความรู้สึกที่รุนแรงของอสรพิษทะยานไปกระตุ้นความสามารถของเมล็ดถั่วนั่น มันก็คงไม่ใช้พลังของมันกับหินวิญญาณก้อนไหนทั้งนั้น นอกจากนั้นสัตว์วิญญาณตัวอื่นก็ไม่มีพลังพิเศษแบบนี้ ต้นไม้แห่งจิตวิญญาณจะมีปฏิกิริยากับจิตวิญญาณที่พิเศษเท่านั้น”
ถ้าจวินอู๋เสียอยากกลืนกินจิตวิญญาณของสัตว์วิญญาณผ่านหินวิญญาณ นางก็ต้องให้เมล็ดถั่วของต้นไม้แห่งจิตวิญญาณแปลงมันก่อน แต่เมล็ดถั่วของต้นไม้แห่งจิตวิญญาณจะมีปฏิกิริยาเฉพาะกับหินวิญญาณของสัตว์วิญญาณบางชนิดเท่านั้น
จวินอู๋เสียคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เข้าใจถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ได้ในขั้นต้น
“ภูติวิญญาณตนที่สอง มันจะเป็นอะไรหรือ” จวินอู๋เสียก้มลงมองที่นิ้วของนาง ถึงนางจะไม่สามารถเห็นแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณของนางได้ แต่นางก็รู้ว่ามันอยู่ที่นิ้วของนาง
“พวกภูติวิญญาณมีจิตสำนึกของมัน ภูติวิญญาณทุกตนจะเลือกเจ้านายของตัวเอง เสี่ยวเสียเอ๋อร์เก่งกาจขนาดนี้ ภูติวิญญาณตนที่สองของเจ้าจะต้องไม่เลวแน่” จวินอู๋เย่าพูดพลางลูบหัวจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เย่า
“ภูติวิญญาณของท่านเป็นอะไร”
นางไม่เคยเห็นจวินอู๋เย่าใช้ภูติวิญญาณเลย อาจจะเป็นเพราะเขาแข็งแกร่งมากอยู่แล้วจึงสามารถจัดการทุกสิ่งได้ด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องให้ภูติวิญญาณของเขาจัดการ
รอยยิ้มของจวินอู๋เย่าสดใสขึ้นเล็กน้อย เขามองจวินอู๋เสียนิ่ง ดูเหมือนเขากำลังคิดอะไรอยู่
“ข้าไม่มีภูติวิญญาณ” เขาพูดช้าๆ
จวินอู๋เสียตกใจเล็กน้อย ในโลกนี้มีบางคนที่ภูติวิญญาณไม่ตื่นขึ้นมาอยู่ แต่…คนที่ไม่มีภูติวิญญาณนั้นพลังวิญญาณของพวกเขาจะพัฒนาได้ช้ามาก และการที่พวกเขาจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างจวินอู๋เย่าก็เป็นไปไม่ได้เลย
แต่จวินอู๋เย่าเพิ่งบอกนางว่าเขาไม่มีภูติวิญญาณ…
สายตาที่จวินอู๋เย่ามองจวินอู๋เสียเปลี่ยนเป็นอยากรู้ เขาถามยิ้มๆ ว่า “พอรู้ว่าข้าไม่มีภูติวิญญาณ เสี่ยวเสียเอ๋อร์จะดูถูกข้าหรือเปล่า”
จวินอู๋เสียส่ายหน้าทันที
“ต่อให้ไม่มีภูติวิญญาณ เสี่ยวเสียเอ๋อร์ก็ต้องเชื่อว่าข้าจะสามารถปกป้องเจ้าได้นะ” แววตาของจวินอู๋เย่าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาพูดด้วยความมั่นใจอย่างถึงที่สุด!
จวินอู๋เสียก้มหน้าลงและไม่ได้ตอบอะไร จวินอู๋เย่าเห็นจวินอู๋เสียเป็นแบบนั้น ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกก็ผุดขึ้นมา เขายื่นมือออกมากอดจวินอู๋เสียเอาไว้
“อสรพิษทะยานอยากหนีก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีเหตุผล ทุกๆ วันที่มันยังอยู่ในร่างกายเจ้า เจ้าจะกลืนกินพลังของมันต่อไปเรื่อยๆ ต่อให้เมล็ดถั่วของต้นไม้แห่งจิตวิญญาณจะรักษามัน แต่มันก็ยังถูกดูดกลืนพลังอยู่ดี ตราบใดที่เจ้าทำให้มันอยู่ในร่างกายของเจ้า มันก็จะช่วยเจ้าได้อย่างมากมายมหาศาล กระทั่งถึงจุดที่…การทะลวงขั้นพลังวิญญาณในอนาคตของเจ้าไม่จำเป็นต้องไปกลืนกินภูติวิญญาณตนอื่นอีกเลย แค่ดูดกลืนพลังจากมันตัวเดียวก็พอแล้ว” ดวงตาของจวินอู๋เย่าลุกโชนขึ้นเป็นประกายชั่วร้าย เป็นแค่ภูติวิญญาณคิดจะหลอกต้มเด็กน้อยของเขาอย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นนางก็ควรทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อใช้ประโยชน์จากมันให้คุ้มค่าที่สุด
“ทำได้หรือ” จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้น ถ้านั่นเป็นความจริง มันก็จะสะดวกขึ้นมากเลย
ตอนที่ 1064 คุณค่าในการใช้ประโยชน์ (2)
“ได้อยู่แล้วสิ เจ้าแค่สั่งสมพลังวิญญาณของเจ้าให้ขึ้นสู่จุดสูงสุด แล้วก็ใช้วิธีเดียวกับที่เคยใช้อีกครั้ง” จวินอู๋เย่าพูดพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่คำพูดของเขากลับร้ายกาจมาก
อสรพิษทะยานต้องไม่คิดแน่ๆ ว่าการเปิดเผยตัวเองออกมาด้วยความร้อนใจในตอนนั้นจะเป็นการทำให้ราชาปีศาจพิโรธขึ้นมา
“ข้าทะลวงขั้นตอนนี้ได้” จวินอู๋เสียพูดอย่างจริงจัง นางอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นสีเขียวมานานแล้ว และยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นต่อไปเพราะยังไม่พบเวลาที่เหมาะสมจะทำการเลื่อนขั้น แต่ตอนนี้จวินอู๋เย่าอยู่ข้างๆ นาง ทำให้นางรู้สึกสงบและปลอดภัยเหมือนตอนที่นางอยู่ที่จวนหลินอ๋อง
“ได้สิ ข้าจะคอยปกป้องเจ้าเอง” จวินอู๋เย่าพูดพลางบีบจมูกของจวินอู๋เสีย แม้ว่าหน้าตาของนางตอนนี้จะแตกต่างออกไป แต่ดวงตาคู่นั้นที่จ้องทะลุเข้าไปในจิตใจของคนยังดูเหมือนเดิม ถูกจ้องมองแค่ครั้งเดียวก็ลืมไม่ลงไปทั้งชีวิต
พวกเขาลงมือกันทันที จวินอู๋เสียขึ้นไปนั่งขัดสมาธิบนเตียงโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ส่วนจวินอู๋เย่านั่งเฝ้าเงียบๆ อยู่ทางด้านหนึ่ง
จวินอู๋เสียดึงจิตของนางเข้าไปในทะเลจิตวิญญาณของนาง ภายในความมืดมิดอันกว้างใหญ่นั้น นางเห็นดวงตาอสรพิษคู่เดิมส่องสว่างเหมือนเปลวไฟ
“เด็กน้อยเจ้ามาอย่างนั้นหรือ เจ้าหามังกรมายาพบแล้วหรือยัง” ร่างอันมหึมาของอสรพิษทะยานโผล่ออกมาจากความมืดมิด ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความโลภและกระวนกระวาย
จวินอู๋เสียมองอสรพิษทะยานโดยไม่พูดอะไร นางแค่ทำอย่างที่นางเคยทำตอนที่กลืนกินจิตวิญญาณของอสรพิษทะยานครั้งแรก
อสรพิษทะยานรู้สึกได้ในทันที ความรู้สึกที่มันเคยสัมผัสมาก่อนเข้าครอบคลุมจิตวิญญาณมันอีกครั้ง! มันเพิ่งฟื้นพลังวิญญาณมาได้บางส่วนด้วยความยากลำบาก แล้วตอนนี้มันกำลังถูกดูดออกไปทีละนิดๆ!
“เด็กน้อย! เจ้ากำลังทำอะไร!”
พลังวิญญาณของมันไหลออกไปอย่างต่อเนื่องทำให้อสรพิษทะยานตกใจมาก มันอยากหนีไปจากจวินอู๋เสียด้วยความกลัวแต่ก็ติดอยู่ในจิตวิญญาณของนาง ไม่มีที่ไหนที่มันจะหนีไปได้เลย!
ความมืดรอบตัวกำลังหายไป เรี่ยวแรงของมันกำลังลดลงด้วยความเร็วที่น่าตกใจ
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและมองไปยังอสรพิษทะยานที่กำลังตื่นตระหนก
“ขอโทษ แต่ก่อนที่เจ้าจะใช้ข้า ข้าต้องใช้เจ้าก่อน”
อสรพิษทะยานใจหายวาบ มันรู้สึกคับแค้นใจมาก มันคิดว่าจวินอู๋เสียจะใช้ภูติวิญญาณตัวอื่นเพิ่มพลังวิญญาณของนางต่อไป ไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะหันกลับมาสนใจมันอีก เทียบกับภูติวิญญาณตัวอื่นๆ แล้ว อสรพิษทะยานแข็งแกร่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แม้กระทั่งตอนนี้ที่จิตวิญญาณของมันไม่สมบูรณ์ พลังวิญญาณของมันก็ยังเหนือกว่าภูติวิญญาณตัวอื่นๆ ที่จวินอู๋เสียกลืนกินเข้าไปหลังจากกลืนกินมัน!
ความอยากของอสรพิษทะยานทำให้ตัวมันต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอย่างช่วยไม่ได้ มันถูกจวินอู๋เสียกลืนกินไปแล้ว ตอนนี้จิตวิญญาณของมันไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของมัน พูดได้ว่าที่นี่จวินอู๋เสียสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจนาง
“ไม่! ไม่! มันกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร! กลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร!” อสรพิษทะยานบิดตัว พยายามสลัดความรู้สึกออกไปแต่ก็เปล่าประโยชน์
มันอยากหลอกจวินอู๋เสียเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของมัน แต่มันไม่คิดว่ามันจะหลอกเด็กสาวคนนี้ไม่ได้ ทำให้มันสูญเสียทุกอย่างกระทั่งตัวของมันเอง
จวินอู๋เย่ากอดอกพิงเตียงอยู่ในห้อง ดวงตาเขาจับจ้องไปที่จวินอู๋เสียซึ่งยังอยู่ในทะเลจิตวิญญาณของนาง เขามองไปที่ริมฝีปากอันหอมหวานสีแดงของจวินอู๋เสียโดยไม่รู้ตัวแล้วแววตาของเขาก็มีรอยยิ้มแวบผ่าน เขาก้มลงเข้าหาใบหน้าของจวินอู๋เสียช้าๆ
ในขณะที่นางไม่รู้สึกอะไร เขาก็แอบจุมพิตเบาๆ ที่ริมฝีปากนั้น
จากนั้นก็หยุดแค่ชิมเบาๆ โดยไม่ได้ลิ้มรสอย่างเต็มที่