ตอนที่ 1065 คุณค่าในการใช้ประโยชน์ (3) ตอนที่ 1066 อย่าดื้อ (1)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1065 คุณค่าในการใช้ประโยชน์ (3) / ตอนที่ 1066 อย่าดื้อ (1)
ตอนที่ 1065 คุณค่าในการใช้ประโยชน์ (3)

พอจวินอู๋เสียได้สติกลับมา พลังวิญญาณในร่างของนางก็ทะลวงเข้าสู่ขั้นใหม่ และครั้งนี้เวลาที่นางใช้ทะลวงขั้นลดลงมากเมื่อเทียบกับในอดีต

เมื่อนางลืมตาขึ้น ใบหน้าอันหล่อเหลาของจวินอู๋เย่าก็ปรากฏอยู่ในดวงตาของนาง จวินอู๋เสียมองขึ้นไปเล็กน้อย ท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิทแล้ว และในห้องจุดเทียนเอาไว้ แสงเทียนส่องกระทบใบหน้าของจวินอู๋เย่าให้เห็นโครงหน้าที่สมบูรณ์แบบของเขา

จวินอู๋เสียมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง

“ยินดีด้วย! เสี่ยวเสียเอ๋อร์ ตอนนี้เจ้าเข้าใกล้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่แท้จริงเข้าไปอีกก้าวแล้ว” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหูของจวินอู๋เสีย จวินอู๋เย่ายื่นมือมาเกลี่ยปอยผมที่ตกลงมาที่ใบหน้าด้านข้างของนาง

ไม่รู้ว่าทำไมจวินอู๋เสียจึงรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ นางถอยไปโดยไม่รู้ตัว

นิ้วของจวินอู๋เย่าที่เกี่ยวปอยผมของจวินอู๋เสียอยู่ ความเย็นที่แล่นผ่านปลายนิ้วของเขาดึงเอาความรู้สึกลึกๆ ในใจของเขาออกมา

“เจ้ารู้สึกผิดปกติตรงไหนหรือไม่” แสงเทียนสะท้อนอยู่ในดวงตาของจวินอู๋เย่า

“มันง่ายขึ้นกว่าเดิม” การทะลวงขั้นในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะใช้เวลาน้อยลงกว่าเดิมมาก แต่การดูดซับพลังก็ยังง่ายผิดปกติด้วย

จวินอู๋เย่าพูดยิ้มๆ”ก็ต้องอย่างนั้นแหละ ครั้งแรกที่เจ้ากลืนกินจิตวิญญาณ ภูติวิญญาณตนแรกที่ใช้ก็คืออสรพิษทะยานนี่ และต่อให้อสรพิษทะยานฟื้นตัวขึ้นมา แต่การกลืนกินจิตวิญญาณเดิมอีกครั้งมันย่อมง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก อสรพิษทะยานจะไม่สามารถต่อต้านเจ้าได้ ตราบใดที่เจ้าต้องการมันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมให้เจ้ากลืนกินพลัง”

มุมปากของจวินอู๋เย่าโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มร้าย ได้เป็นพลังให้แก่จวินอู๋เสียนับเป็นเกียรติของอสรพิษทะยานแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะมันยังมีประโยชน์ เขาคงลากจิตวิญญาณของมันออกมาจากร่างของจวินอู๋เสียทันทีที่รู้ว่ามันตั้งใจจะหลอกใช้นาง และบดขยี้จิตวิญญาณของมันให้แหลกละเอียดไม่มีเหลือ

เป็นแค่ภูติวิญญาณ บังอาจหลอกใช้เสี่ยวเสียเอ๋อร์อย่างนั้นหรือ ไม่เคยเห็นความตายเสียแล้ว

“อย่างนั้นข้าสามารถใช้อสรพิษทะยานในการทะลวงขั้นพลังวิญญาณตั้งแต่นี้ไปได้อย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียถามพลางมองจวินอู๋เย่า การทะลวงขั้นกลายเป็นเรื่องง่ายมากๆ และนางก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาภูติวิญญาณมาทำการทะลวงขั้นพลังวิญญาณอีกต่อไป

“ขึ้นอยู่กับว่าอสรพิษทะยานสามารถฟื้นตัวจากการรักษาของเมล็ดถั่วของต้นไม้แห่งจิตวิญญาณได้มากแค่ไหน ถ้าการรักษาดีพอและความเร็วในการฟื้นตัวของอสรพิษทะยานสามารถตามทันพลังวิญญาณที่สะสมไว้ของเจ้าได้ มันก็ใช้งานได้ แต่ถ้าความเร็วในการฟื้นตัวของมันช้าเกินไป ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะต้องพึ่งแต่มัน กลืนกินภูติวิญญาณตัวเดิมต่อไปอาจจะง่ายกว่าก็จริง แต่มันก็ไม่ใช่ทางเลือกเดียวที่มี” จวินอู๋เย่าพูดช้าๆ ไม่ละสายตาไปจากเส้นผมที่ใบหน้าของจวินอู๋เสีย

เส้นผมสีดำยาวสลวยจนถึงสะโพก แม้ว่าร่างเล็กๆ ตรงหน้าเขาจะใส่ชุดของบุรุษและหน้าตานางก็เปลี่ยนไป แต่จวินอู๋เย่าก็รู้ดีว่าสิ่งเส้นผมนั้นปกคลุมอยู่…

จวินอู๋เย่ากลืนน้ำลายและรีบเบนสายตาออกไป เห็นใบหน้าของจวินอู๋เสียใต้แสงเทียนเช่นนั้น แม้ว่าใบหน้านั้นจะเปลี่ยนไป แต่ดวงตาคู่นั้นไม่เคยเปลี่ยน

“เจ้าเพิ่งทะลวงขั้นสำเร็จ คงจะเหนื่อย ข้าจะให้คนเตรียมอาหารเย็นแล้วให้ยกมาที่นี่” พูดจบจวินอู๋เย่าก็อุ้มจวินอู๋เสียลงจากเตียง

เขาพูดยังไม่ทันจะขาดคำ เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยก็ผลักประตูเปิดออกพร้อมด้วยอาหารร้อนๆ ควันฉุยเต็มมือ

ทั้งสองคนมีสำนึกมากพอที่จะไม่มอง พวกเขาแค่วางอาหารลงเงียบๆ และรีบพาตัวเองออกไปอย่างรวดเร็วราวสายฟ้า

ตอนที่ 1066 อย่าดื้อ (1)

จวินอู๋เสียหิวมาก การทะลวงขั้นพลังวิญญาณทำให้นางหมดแรง และเมื่อนางเห็นอาหารมากมายวางอยู่เต็มโต๊ะ นางก็หยิบตะเกียบขึ้นทันที จวินอู๋เย่าเห็นนางกินอย่างเอร็ดอร่อยก็หยิบตะเกียบขึ้นยิ้มๆ และกินเข้าไปคำหนึ่ง รสชาติอาหารในปากทำให้ราชาปีศาจถุยมันออกมาแทบไม่ทัน

“…” จวินอู๋เสียกำลังชิมโจ๊กของนาง พอเห็นจวินอู๋เย่าคายกุ้งที่เพิ่งกินเข้าไปออกมา นางก็กะพริบตาปริบๆ

“เยี่ยซา” จวินอู๋เย่าหยิบผ้าเช็ดปากจากโต๊ะขึ้นมาแตะที่มุมปากอย่างสง่างามแล้วพูดขึ้น

เยี่ยซาปรากฏตัวขึ้นในห้องทันทีและคุกเข่าลงตรงหน้าจวินอู๋เย่า

“ขอรับนายท่าน”

“เอาอาหารทั้งหมดนี้ออกไป แล้วเจ้ากับเยี่ยเม่ยไปทำอาหารจานใหม่มา” จวินอู๋เย่าสั่ง

“ขอรับ!” เยี่ยซาก้มศีรษะและนำเอาอาหารทั้งโต๊ะออกไปทันที กระทั่งชามข้าวตรงหน้าจวินอู๋เสียก็ถูกเอาออกไปด้วย เหลือแค่โจ๊กหนึ่งช้อนที่นางยังถืออยู่เท่านั้น

นางเพิ่งกินไปได้แค่สองคำเท่านั้น ทำไมจวินอู๋เย่าถึงสั่งให้เอาอาหารทั้งหมดออกไปเล่า

จวินอู๋เสียกำลังหิวมาก สายตาที่มองจวินอู๋เย่าจึงมีแววตำหนิอยู่จางๆ

จวินอู๋เย่าลูบหัวนางแล้วพูดว่า “ข้าจะให้อาหารห่วยๆ แบบนั้นมาแปดเปื้อนปากของเจ้าได้อย่างไร”

เขาสั่งให้สยงป้าสั่งให้คนเตรียมอาหารทั้งหมดนั้น แล้วมันก็ออกมาไม่ได้เรื่อง

จวินอู๋เสียอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจว่าจวินอู๋เย่าหมายความว่าอะไร

เจ้าแมวดำตัวน้อยยกเท้ามันขึ้นมาปิดตาอย่างเงียบๆ แม้ว่าอาหารที่สยงป้าจัดเตรียมให้จะเทียบไม่ได้กับอาหารชั้นเลิศจากร้านอาหารใหญ่ๆ แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่พอมันเข้าปากจวินอู๋เย่า มันก็กลายเป็นของที่กลืนไม่ลงไปเสียอย่างนั้น…

ถึงขนาดที่ว่าถ้าเขาให้จวินอู๋เสียกินมันเข้าไป เขาก็รู้สึกว่ามันจะแปดเปื้อนลิ้นของจวินอู๋เสีย!

เจ้าแมวดำตัวน้อยรู้สึกว่ามันไม่สามารถทนดูการกระทำบ้าๆ ของราชาปีศาจไปมากกว่านี้ได้แล้ว!

ประสาทรับรสของเขาถูกเยี่ยซากับเยี่ยเม่ยตามใจจนเคยตัวไปแล้ว!

ความสามารถในการทำอาหารของทั้งสองคนนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่…ไม่เอาน่า! นั่นไม่ได้หมายความว่าจะสุ่มข้ารับใช้คนไหนในโลกนี้ออกมาแล้วจะเป็นเทพแห่งการทำอาหารเสียเมื่อไร!

จวินอู๋เสียยังคงอึ้งอยู่ จวินอู๋เย่ายื่นมือมาหยิบช้อนจากมือของนางแล้วโยนออกไปนอกหน้าต่าง…

“รออีกเดี๋ยวนะ เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว” จวินอู๋เย่าพูดพร้อมกับยิ้ม

จวินอู๋เสียพูดไม่ออก นางมองโจ๊กคำสุดท้ายของนางถูกโยนออกไปพร้อมกับช้อน ตอนนี้ท้องนางร้องแล้ว ดูเหมือนมันกำลังคัดค้าน ‘การเผด็จการ’ ของจวินอู๋เย่า

“ข้าไม่คิดว่ามันรสชาติแย่อะไรนะ” จวินอู๋เสียพูดพลางมองจวินอู๋เย่า รสชาติที่ยอดเยี่ยมไม่ใช่สิ่งที่นางตามหา ตราบใดที่อาหารทำให้ร่างกายนางทำหน้าที่ได้และมีแคลลอรี่ที่เพียงพอ เรื่องอื่นๆ ก็ไม่ได้แตกต่างสำหรับนางมากนัก

“ทำไมต้องทรมานตัวเองด้วย” จวินอู๋เย่าถามยิ้มๆ

“…” นางไม่ได้คิดว่านางทรมานสักหน่อย!

เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยโยนอาหารทั้งโต๊ะเข้าไปในห้องครัวของตึกเพลิงพิโรธ พอคนงานในครัวเห็นบุรุษรูปร่างใหญ่สองคนโผล่เข้ามาในครัว พวกเขาก็มีสีหน้าตกใจ และก่อนที่พวกเขาจะทันได้ทำอะไร พวกเขาทุกคนก็ถูกเยี่ยซากับเยี่ยเม่ยโยนออกไปนอกห้องครัว

พวกคนงานพากันไปฟ้องสยงป้าทั้งน้ำตากันทันที

มือของสยงป้ายังปวดอยู่ เมื่อเขาได้ยินว่าบุรุษรูปร่างใหญ่สองคนยึดครัวในตึกเพลิงพิโรธไป ปากเขาก็เริ่มกระตุก

“ท่านหัวหน้าตึก! ท่านจะไม่ไปยุ่งจริงๆ หรือ” ชิงอวี่ถามพลางมองสีหน้าเครียดจัดของสยงป้า

สยงป้ายกมือที่ยังใส่เฝือกอยู่ขึ้นมาโบกตรงหน้าชิงอวี่

“ข้าต้องทำอะไรกับมันให้ได้ก่อน!”