ตอนที่ 1067 อย่าดื้อ (2) / ตอนที่ 1068 สตรีอสรพิษ (1)
ตอนที่ 1067 อย่าดื้อ (2)
เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยส่งอาหารเข้าไปในห้องของจวินอู๋เสียอย่างรวดเร็ว เทียบกับฝีมือทำอาหารของสองคนนี้แล้ว อาหารจากครัวของตึกเพลิงพิโรธที่ถูกนำเข้ามาก่อนหน้านี้ก็พูดได้แค่ว่าขยะจริงๆ
ในที่สุดก็กินได้เสียที จวินอู๋เสียไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรอีก
จวินอู๋เย่ามองใบหน้าด้านข้างของจวินอู๋เสียขณะที่นางกำลังเพลิดเพลินกับอาหาร แล้วเขาก็หยิบตะเกียบขึ้นมาทั้งๆ ที่อิ่มแล้ว
ก่อนที่พวกเขาจะกินเสร็จ เสียงเคาะประตูห้องของจวินอู๋เสียก็ดังขึ้น จวินอู๋เย่าลุกขึ้นไปเปิดประตู
เมื่อชิงอวี่ที่ยืนอยู่ข้างนอกเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของจวินอู๋เย่าที่ฉาบรอยยิ้มเอาไว้ เขาก็ตัวสั่นขึ้นมาทันทีโดยไม่ได้ตั้งใจ
“มีอะไรหรือ” จวินอู๋เย่ายิ้มอยู่ก็จริง แต่สายตาของเขาดูเหมือนกำลังบอกชิงอวี่ว่า มีอะไรก็รีบพูดมา ถ้าไม่มีก็ไสหัวไปเสีย
ชิงอวี่กลืนน้ำลายดังอึกแล้วพูดว่า “คนจากหอเมฆาสวรรค์มาที่นี่ขอรับ บอกว่าพวกเขาอยากเชิญจวินเสียไปที่นั่นเพื่อรับทานอาหารเย็น”
ชิงอวี่พูดยังไม่ทันขาดคำ ดวงตาของจวินอู๋เย่าก็ทอแววอำมหิตรุนแรง!
รังสีอำมหิตทำให้ชิงอวี่กลั้นหายใจจนหน้าซีดเผือด
จวินอู๋เสียได้ยินคำพูดของชิงอวี่อย่างชัดเจน คำว่า ‘หอเมฆาสวรรค์’ ทำให้นางหมดความอยากอาหารลงในทันที
“ข้าไม่ไป” จวินอู๋เสียตอบอย่างเย็นชา ตอนนี้นางไม่รู้สึกอยากเจอชวีซินรุ่ยเลยสักนิด
“ได้ยินหรือไม่” จวินอู๋เย่าพูดพร้อมกับเลิกคิ้วมองชิงอวี่ ชิงอวี่พยักหน้าทันที เขาวิ่งหนีไปโดยไม่กล้าคัดค้านเลยสักคำ
จวินอู๋เย่าปิดประตูลงและหันไปมองจวินอู๋เสียที่หมดความอยากอาหารไปแล้ว
“เจ้าโง่เฉียวกับคนอื่นๆ ยังไม่ส่งข่าวกลับมา น่าจะหมายความว่าพวกเขาตามรอยไปแล้ว อีกไม่นานพวกเขาคงจะพบสถานที่ที่คนพวกนั้นถูกขังอยู่ ตอนนี้ข้าไม่จำเป็นต้องติดต่อกับชวีซินรุ่ยแล้ว” จวินอู๋เสียพูดแบบไร้ความรู้สึก เหมือนนางกำลังอธิบายให้จวินอู๋เย่าฟังว่าทำไมจู่ๆ นางถึงปฏิเสธคำเชิญของชวีซินรุ่ย
“ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป ดูสิ เรื่องนี้ทำเจ้าไม่อยากกินข้าวแล้ว เจ้าน่าจะมองหน้าข้า จะได้กินข้าวได้ง่ายขึ้น” จวินอู๋เย่าพูดยิ้มๆ แววตาอำมหิตเมื่อครู่เหมือนเป็นแค่ภาพลวงตา
จวินอู๋เสียมองไปที่จวินอู๋เย่าแล้วก้มหน้าลงกินต่อ
ที่นอกตึกเพลิงพิโรธ เสิ่นฉือกำลังยืนยิ้มรอที่จะพาจวินอู๋เสียไปที่หอเมฆาสวรรค์ แต่หลังจากรออยู่พักหนี่ง เขาก็เห็นชิงอวี่ออกมาจากตึกเพลิงพิโรธแค่คนเดียว
“ขออภัยขอรับ คุณชายจวินเพิ่งกินอาหารเย็น ข้าเกรงว่าวันนี้เขาคงไปกินข้าวกับท่านยายไม่ได้” ชิงอวี่พูดอย่างเสียใจขณะมองไปที่เสิ่นฉือ
รอยยิ้มบนใบหน้าของเสิ่นฉือเปลี่ยนเป็นไม่พอใจในทันที เขามองเข้าไปในตึกเพลิงพิโรธแล้วก็เหยียดยิ้ม “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็คงต้องขอตัวกลับก่อน”
“แล้วพบกันใหม่ขอรับ” ชิงอวี่พูดอย่างสุภาพ
เสิ่นฉือหันหลังเดินจากไป ชิงอวี่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกกังวล สีหน้าของเสิ่นฉือตอนที่กลับไปดูไม่ดีเลย ถ้าแม้แต่เสิ่นฉือก็ยังมีปฏิกิริยาแบบนั้น แล้วถ้าเรื่องที่จวินอู๋เสียปฏิเสธไปถึงหูของชวีซินรุ่ยมันจะเกิดอะไรขึ้น
ในหอเมฆาสวรรค์ เสิ่นฉือบอกเรื่องที่จวินอู๋เสียไม่มาให้ชวีซินรุ่ยฟัง นางกำลังนั่งให้เหล่าชายหนุ่มคนโปรดหวีผมนางอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง สีหน้าของชวีซินรุ่ยเปลี่ยนเป็นขุ่นมัวในทันที
“เขาไม่มาอย่างนั้นหรือ”
“ใช่” เสิ่นฉือตอบ
ชวีซินรุ่ยร้องหึออกมาอย่างดูถูก บรรยากาศรอบตัวนางเปลี่ยนเป็นอันตรายขึ้นอย่างมาก ชายหนุ่มคนโปรดที่ยืนอยู่ข้างหลังนางมือสั่นและพลาดทำผมของนางขาดไปหนึ่งเส้น
ชวีซินรุ่ยลุกพรวดขึ้นทันทีและเตะบุรุษผู้นั้นล้มลงกับพื้น
“เจ้าสวะไร้ประโยชน์!”
ตอนที่ 1068 สตรีอสรพิษ (1)
ชายหนุ่มคนโปรดคนนั้นกุมท้องหน้าซีด แต่เขาไม่กล้าส่งเสียงร้องออกมา เขารีบคุกลงเข่าอ้อนวอนขอความเมตตา
“ท่านยาย ข้าผิดไปแล้ว ท่านยายได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย”
ชวีซินรุ่ยจ้องชายหนุ่มผู้นั้นด้วยสีหน้าน่ากลัว ผ้าไหมที่พันรอบข้อมือนางตกลงบนพื้นช้าๆ ผิวเรียบเนียนที่แขนนางมีผิวส่วนหนึ่งที่มีรอยเหี่ยวย่นเหมือนผิวของคนแก่ ตอนแรกก็มีอยู่แค่รอบๆ ข้อมือของนาง แต่ตอนนี้มันลามสูงขึ้นไปตามแขนของนางแล้ว ถ้าใครมาเห็นแค่แขนส่วนนั้นของนาง คนผู้นั้นคงคิดว่านั่นเป็นแขนของหญิงชราที่แก่หงำมากแล้ว
“เอาตัวมันออกไป” ชวีซินรุ่ยพูดอย่างเย็นชา
ชายหนุ่มผู้นั้นร้องอ้อนวอนไม่หยุด แต่เขาก็ถูกคนคุ้มกันของหอเมฆาสวรรค์ลากตัวออกไป
ชวีซินรุ่ยลดแขนลงแต่สีหน้าของนางยังดูกังวล
เสิ่นฉือมองไปที่ผิวส่วนที่มีรอยย่นบนแขนของชวีซินรุ่ยแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ดูเหมือนเจ้าจะแก่เร็วขึ้นทุกทีแล้วนะ”
ชวีซินรุ่ยสะดุ้ง นางก้มลงมองแขนที่โผล่ออกมาให้เสิ่นฉือเห็น สีหน้าแข็งทื่อ แล้วนางก็ดึงแขนเสื้อมาคลุมแขนเอาไว้ทันที
“บัดซบ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ข้าใช้สิ่งนั้นไปเมื่อไม่กี่วันก่อน แล้วทำไมมันถึงยังเป็นแบบนี้อยู่อีก” ชวีซินรุ่ยพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว สีหน้านางดูโมโหมาก ปกติหลังจากใช้สิ่งนั้นแล้ว นางจะได้ความเยาว์วัยกลับคืนมา แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ ครั้งนี้มันถึงไม่ได้ผล
“ไอ้นี่มันเริ่มขึ้นตั้งแต่วันงานเลี้ยงวันเกิด วันนั้นชวีหลิงเย่ว์เข้ามาในหอเมฆาสวรรค์หรือเปล่า” ชวีซินรุ่ยถาม
เสิ่นฉือส่ายหน้า “สิ่งนั้นไม่สามารถเข้าใกล้สตรีนางอื่นได้นอกจากเจ้า แล้วเราจะให้ชวีหลิงเย่ว์เข้ามาข้างในได้อย่างไร นางแค่ทำเหมือนเดิมอย่างที่เคยทำเมื่อปีก่อนๆ คารวะอยู่นอกประตูแล้วกลับไป”
“คราวหน้าอย่าให้นางมาคารวะที่หน้าหอเมฆาสวรรค์อีก” ชวีซินรุ่ยพูดแล้วหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า “ถ้านางอยากอวยพร ก็ให้ทำที่อีกฟากของถนนโน่น”
“แล้วก็เอาเจ้าคนที่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงนี่ไปสังเวยเสีย บางทีที่สังเวยไปเมื่อเร็วๆ นี้อาจจะน้อยเกินไป พลังของสิ่งนั้นเลยลดลง” น้ำเสียงของชวีซินรุ่ยฟังดูสับสนเล็กน้อย ตอนนี้แค่แขนที่ดูแก่ แต่ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ นางไม่รู้ว่ามันจะแพร่กระจายไปทั่วร่างของนางหรือไม่ ถ้าผิวนางเหี่ยวย่นทั้งหมด นางคงรับไม่ได้
“ข้าสังเวยไปมากกว่าจะได้ความงดงามเยาว์วัยนี้มา ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายมันเด็ดขาด”
“ถ้าเจ้าอยากสังเวย ข้าเกรงว่าแค่คนเดียวคงไม่พอ” เสิ่นฉือรู้ว่าชวีซินรุ่ยพูดถึงอะไร
ชวีซินรุ่ยพูดว่า “อย่างนั้นก็ไปเอามาเพิ่มอีกสักสองสามคนจากพวกนั้นก็ได้ เจ้าตัดสินใจเองได้เลย”
พวกนั้นที่ชวีซินรุ่ยพูดถึง ก็คือเหล่าชายหนุ่มคนโปรดที่อยู่ในหอเมฆาสวรรค์ ทุกเดือนชวีซินรุ่ยจะเลือกชายหนุ่มหน้าตาดีของเมืองพันอสูรหลายคนให้เข้ามารับใช้นางที่หอเมฆาสวรรค์ แต่จำนวนเหล่าชายหนุ่มในหอก็ไม่ได้มากเกินไป เหล่าชายหนุ่มทั้งหมดที่ถูกรับเข้ามาในหอเมฆาสวรรค์ ไม่มีสักคนที่ได้ออกไปจากที่นี่
ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากชวีซินรุ่ย ก็ไม่มีใครเข้าไปในหอเมฆาสวรรค์ได้ และก็ไม่มีใครเข้ามาติดต่อกับเหล่าชายหนุ่มของหอเมฆาสวรรค์ได้ ดังนั้นคนข้างนอกจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ถูกรับเข้าหอเมฆาสวรรค์
“ได้ ข้าจะจัดการให้เดี๋ยวนี้” เสิ่นฉือพูด ดวงตาทอแววโหดเหี้ยม
“อีกเรื่อง เจ้าคิดจะทำอย่างไรเรื่องจวินเสีย จากที่ข้าเห็น ดูเหมือนเขาจะไม่อยากรับข้อเสนอของเจ้านะ” เสิ่นฉือพูดพร้อมกับมองชวีซินรุ่ยยิ้มๆ