บทที่ 572 เสียงที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 572 เสียงที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน

บทที่ 572 เสียงที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน

ตัดกลับมาที่เรือนของซูอัน

ขณะที่เรื่องทั้งหมดกำลังเกิดขึ้น ซูอันกำลังยุ่งอยู่กับการบ่มเพาะในห้องของเขาเอง ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในห้อง

เขาไม่รู้ว่าชายชราผู้นี้เข้ามาได้อย่างไร แต่เขาคุ้นเคยกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของผู้เฒ่ามี่มานานแล้ว เขาประสานมือคารวะทันที แล้วพูดว่า “ท่านผู้อาวุโส!”

“ไม่นึกเลยว่าเด็กดื้ออย่างเจ้าจะขยันขันแข็งขนาดนี้” ผู้เฒ่ามี่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “เจ้าฝึกฝนวิชาวัฏจักรหงส์อมตะถึงขั้นไหนแล้ว?”

“ข้าคิดว่าน่าจะประมาณระดับที่สาม” ซูอันรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองแทบจะกระโจนออกมา เขารู้ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะซ่อนอะไรจากผู้เฒ่ามี่ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงช่องว่างขนาดใหญ่ในการบ่มเพาะระหว่างพวกเขาทั้งสอง

อย่างไรก็ตาม อีกเสียงหนึ่งในตัวชายหนุ่มได้กระซิบว่าเขาไม่สามารถเปิดเผยระดับการบ่มเพาะที่แท้จริงของเขาให้อีกฝ่ายรู้ได้ มันอันตรายเกินไป

ซูอันไม่สามารถอธิบายได้ว่าความคิดนี้มาจากไหน มันอาจมาจากสัญชาตญาณ เขาเป็นคนที่ระมัดระวังอยู่เสมอ ดังนั้นรอบคอบเอาไว้ก่อนดีกว่ามาเสียใจภายหลัง…

โชคดีที่เขาสามารถปกปิดกลิ่นอายและคลื่นพลังของตัวเองได้ด้วยวิชาบดบังเร้นซ่อนที่ชิวฮัวเล่ยสอนเขา และมันก็คุ้มค่าที่จะเดิมพัน

ผู้เฒ่ามี่ถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ “ข้าไม่คิดเลยว่าคนอย่างเจ้าจะเป็นอัจฉริยะด้านการบ่มเพาะที่เลิศล้ำขนาดนี้! เจ้าสามารถบ่มเพาะถึงระดับนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้น! ดูเหมือนว่าใกล้จะถึงเวลาแล้ว”

“ถึงเวลาสำหรับอะไร?” ซูอันตกตะลึง

“ไม่มีอะไร หึหึ” ผู้เฒ่ามี่ยิ้ม “ข้าแค่ดีใจมากไปหน่อยที่เจ้าไม่ได้หลอกข้า”

ซูอันตัวสั่นภายใน เขายิ้มทันทีและพูดว่า “ผู้อาวุโสแสดงความเมตตาต่อข้าเช่นนี้ ข้าจะกล้าปิดบังอะไรท่านได้ยังไง?”

ขอบคุณสวรรค์ วิชาบังบดเร้นซ่อนนี้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก ถ้ามีโอกาสข้าต้องจูบชิวฮัวเล่ยสักครั้งเพื่อเป็นการขอบคุณ!

“ดี ดีมาก” ผู้เฒ่ามี่ชมเชยด้วยความพอใจ “ข้าจะให้โอกาสเจ้าทำความดีอีกครั้ง”

“โอกาสทำความดีอีกครั้ง?” ซูอันถามกลับอย่างสงสัย

ผู้เฒ่ามี่มองไปที่ทิศทางหนึ่งภายในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ “มีบางอย่างเกิดขึ้นกับฉินหว่านหรู เจ้าควรรีบไปช่วยนางตอนนี้”

เขาวางแผนที่จะยึดร่างของซูอันและยึดครองการดำรงอยู่ของเขา ถ้าฉู่เทียนเซิงประสบความสำเร็จในการยึดอำนาจ ซูอันจะเหลือสถานะอะไรในตระกูลฉู่?

เขาจะถูกไล่ออกจากตระกูลในทันที!

หากสิ่งนั้นเกิดขึ้น แผนการทั้งหมดของเขาในการเป็นนายน้อยของตระกูลฉู่ ได้เพลิดเพลินกับภรรยาที่งดงามรวมไปถึงหยอกล้อกับบรรดาหญิงสาวชั้นเลิศคงจะสลายกลายเป็นฝุ่นผง!

เขาไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่!

อย่างไรก็ตาม เว่ยต้านอยู่ในเมืองจันทร์กระจ่างแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีทางที่ผู้เฒ่ามี่จะออกหน้าช่วยด้วยตัวเองอีกครั้ง ดังนั้นทางเลือกเดียวของเขาในตอนนี้คือส่งซูอันไปช่วยฉินหว่านหรู

เมื่อจัดการความวุ่นวายนี้ได้แล้ว ตำแหน่งของซูอันในตระกูลจะยิ่งมั่นคงมากขึ้นไปอีก

ความรุ่งโรจน์ของซูอันก็คือความรุ่งโรจน์ของเขา และภรรยาของซูอัน คือภรรยาของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างของซูอันก็จะเป็นของเขา!

ซูอันซึ่งยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เขามองผู้เฒ่ามี่ด้วยสายตาแปลก ๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้ยินว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับฉินหว่านหรู เขารู้ว่าไม่อาจเสียเวลาได้แล้ว จึงรีบวิ่งออกไปในทันที

ฉินหว่านหรูยอมจำนนต่อชะตากรรมของนางเรียบร้อย และขณะเดียวกันนางยังรู้สึกโล่งใจขึ้นบ้างที่นางไม่ต้องถูกฉู่เทียนเซิงย่ำยีศักดิ์ศรี

แต่แล้วจู่ ๆ เสียงตะโกนก้องดังขึ้นจากระยะใกล้ “ไอ้คนทรยศ! เจ้ากล้าดียังไง!?”

ฉินหว่านหรูรู้สึกว่าเสียงนี้ดูคุ้นเคย อย่างไรก็ตาม ฤทธิ์ยาได้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของนางแล้ว และนางก็เริ่มไม่ได้สติ โดยที่ยังนึกไม่ออกว่าเป็นเสียงของใคร

หงจงตกใจ เขารีบหันไปทางต้นเสียง แล้วก็ได้เห็นหินก้อนใหญ่พุ่งมาหาเขาแทน

เขาชกหินแตกเป็นชิ้น ๆ ด้วยหมัดเดียว แล้วหันกลับมาหาฉินหว่านหรู อย่างรวดเร็ว ขณะนี้มีชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างนาง

ซูอันสังเกตเห็นผนึกบนร่างกายของนางและทำลายมันอย่างรวดเร็ว โชคดีที่หงจงไม่ได้ใช้วิชาพิเศษใด ๆ ดังนั้นการคลายผนึกจึงไม่ยากเกินไป

ฉินหว่านหรูตกอยู่ในผลของฤทธิ์ ‘ยาน้ำนมกระทิง’ อย่างสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นเมื่อจุดชีพจรของนางถูกเปิด ขาของนางก็พับล้มลงทันที

“ท่านแม่ยาย!” ซูอันเอื้อมมือออกไปประคองนาง

กลิ่นอายของผู้ชายในอ้อมกอดทำให้จิตใจของนางว้าวุ่น นางอยากจะดิ้นรนให้เป็นอิสระ แต่นางกลับพบว่าตัวเองไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย อย่างไรก็ตาม นางก็ผ่อนคลายขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร “อาซู เป็นเจ้า…”

หลังจากเผชิญกับเรื่องหลอกลวงและการทรยศที่นางได้รับในวันนี้ นางจึงเชื่อว่าไม่เหลือใครอีกแล้วที่นางสามารถไว้วางใจได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ที่นางเอนอิงกายอยู่ในอ้อมแขนของซูอัน นางกลับรู้สึกโล่งใจอย่างแปลกประหลาดและหาคำอธิบายไม่ได้

บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่ลูกสาวของนางพูดก่อนที่จะจากไป หรือบางทีอาจเป็นเพราะความใกล้ชิดขึ้นจากการได้ออกไปผจญภัยร่วมกันในคืนที่เข้าร่วมประมูลใบอนุญาตค้าเกลือ

นางเต็มไปด้วยความเสียใจ แทนที่จะตามหาหงจง นางน่าจะไปหาซูอัน ก่อน สิ่งต่าง ๆ อาจไม่กลายเป็นแบบนี้

ซูอันไม่จำเป็นต้องถามไถ่เรื่องใดจากนาง เขาเป็นคนฉลาดคนหนึ่งจึงเข้าใจสถานการณ์ได้ไม่ยาก

หงจงเป็นพ่อบ้านของตระกูลฉู่ ซึ่งหมายความว่าอย่างน้อยอีกฝ่ายน่าจะมีระดับการบ่มเพาะอยู่ในระดับหกขั้นสูงสุด หรือไม่อาจจะสำเร็จไปถึงระดับเจ็ดแล้วด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าหงจงเป็นคนทรยศด้วย ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เขาจะสู้อีกฝ่ายได้ หากปะทะกับอีกฝ่ายตรง ๆ มันคงไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซูอันจึงไม่รอช้า เขาใช้โคจรพลังใช้จ้าววายุพาฉินหว่านหรูหนีไปทันที

“หืม? ทำไมร่างกายนางร้อนแบบนี้?” ร่างกายของฉินหว่านหรูไม่เพียงแต่นุ่มเหมือนฝ้ายเท่านั้น แต่ทั้งร้อนและมีกลิ่นที่เข้มข้น ซูอันงุนงง แต่นี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

“เจ้าคิดว่าจะหนีไปได้งั้นเหรอ!?” หงจงไล่ตามทันที หากซูอันช่วยฉินหว่านหรูได้สำเร็จจะทำให้แผนการทั้งหมดยุ่งเหยิง

แม้ว่าการเคลื่อนที่ในพริบตาของซูอันจะรวดเร็ว แต่ระยะทางที่เขาสามารถเคลื่อนไปได้แต่ละครั้งนั้นจำกัด และจำนวนครั้งที่เขาสามารถใช้งานได้ก็จำกัดเช่นกัน ไม่เพียงแค่นั้น เขากำลังอุ้มใครบางคนอยู่อีกด้วย

ไม่นานแผ่นหลังของซูอันก็เข้าสู่ระยะการโจมตี ความลังเลใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหงจง

ตัวหงจงเองไม่ได้เป็นคนโหดร้ายโดยสันดาน ดังนั้นการฆ่าผู้บริสุทธิ์ยังคงทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด ไม่เพียงเท่านั้น สองคนนี้เป็นบุคคลที่เขารับใช้อย่างขยันขันแข็งมาก่อน

แต่แล้วทันใดนั้น ก็มีเสียงตะโกนดังมาจากด้านข้าง “หงจง เจ้าวิ่งตามเฉย ๆ เพื่ออะไร?!”

ขณะนี้ ฉู่เทียนเซิงตามมาถึงเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้เขาลดความระมัดระวังลง และเกือบจะตายเพราะฉินหว่านหรู

อาการบาดเจ็บของเขาไม่ใช่น้อย และต้องใช้เวลาพักหนึ่งเพื่อฟื้นฟู ดังนั้นจึงตามมาช้าไปสักหน่อย