ตอนที่ 521 ระวังตัว

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 521 ระวังตัว

อาจเป็นเพราะไม่ได้นอนทั้งคืน ดวงตาที่ล้ำลึกของเซียวหรงเหยี่ยนจึงดูเคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิม เส้นเลือดฝอยในดวงตาของชายหนุ่มแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด

ช่วงนี้ต้าเยี่ยนไม่ค่อยสงบสักเท่าใด

จักรพรรดิองค์ใหม่ของเป่ยหรงส่งทูตไปยังต้าเยี่ยน เสนอการแต่งงานเชื่อมไมตรีกับองค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนเพื่อรักษาความมั่นคงของทั้งสองแคว้น เป่ยหรงยินดีมอบหนังแกะและเสบียงอาหารให้แก่กองทัพต้าเยี่ยนที่ตั้งค่ายทหารอยู่ในเป่ยหรง อีกทั้งมอบสูตรยาลับรักษาอาการหนาวในช่วงฤดูหนาวของเป่ยหรงให้ต้าเยี่ยนอีกด้วย

กองทัพต้าเยี่ยนซึ่งตั้งทัพอยู่ในเป่ยหรงคือเครื่องมือสำคัญที่สุดที่ต้าเยี่ยนใช้ควบคุมเป่ยหรงให้ยอมสวามิภักดิ์ ทว่า บัดนี้กองทัพต้าเยี่ยนล้มป่วยเพราะอากาศหนาว ภายนอกดูแข็งแกร่งแต่ภายในอ่อนแอแล้ว ตอนนี้ต้าเยี่ยนยังต้องการกำลังจากกองทัพต้าเยี่ยน ดังนั้นพวกเขาจึงเสนอการแต่งงานแลกเปลี่ยนกับการรักษา ทั้งสองฝ่ายจะได้รู้สึกสบายใจ

ทว่า ฤดูหนาวกำลังใกล้เข้ามาแล้ว หนานหรงและเป่ยหรงไม่อาจทำสงครามกันต่อได้เนื่องจากขาดแคลนเสบียง หากนานเข้า แม้จะมีหนานหรงคอยจ้องอยู่ ทว่า เป่ยหรงอาจเกิดความหวาดระแวงในตัวต้าเยี่ยนได้

จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนไม่มีธิดา จวิ้นจู่ไม่รู้ว่าอ๋องเก้ามู่หรงเหยี่ยนไม่ได้อยู่ในต้าเยี่ยน ทว่า ออกเดินทางไปตามแคว้นต่างๆ เพื่อต้าเยี่ยน

เพราะอยากแก้ปัญหาเรื่องเสบียงให้กองทัพต้าเยี่ยน จวิ้นจู่เสนอตัวเดินทางไปแต่งงานเชื่อมไมตรีด้วยตัวเองต่อหน้าทูตของเป่ยหรง ทูตของเป่ยหรงดีใจมาก จักรพรรดิต้าเยี่ยนเห็นว่าโน้มน้าวหญิงสาวไม่ได้แล้วจึงแต่งตั้งจวิ้นจู่เป็นองค์หญิงเพื่อแต่งงานกับเป่ยหรง ตอนที่เซียวหรงเหยี่ยนรับรู้ข่าวนี้ องค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนอยู่ระหว่างทางไปแต่งงานเชื่อมไมตรีแล้ว

เซียวหรงเหยี่ยนไม่เคยเห็นด้วยกับการแต่งงานเชื่อมไมตรี ที่สำคัญเขาส่งหมอและยาไปที่เป่ยหรงแล้ว ตอนนี้กำลังเตรียมเสบียงอาหารสำหรับส่งไปเป่ยหรงอยู่ องค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนไม่จำเป็นต้องเดินทางไปแต่งงานเชื่อมไมตรีสักนิด!

ที่สำคัญจวิ้นจู่คือนางอันเป็นที่รักของเซี่ยสวิน แม่ทัพที่เก่งกาจและดุดันที่สุดของต้าเยี่ยนในตอนนี้! ไม่ว่าอย่างไรเซียวหรงเหยี่ยนก็ต้องเดินทางไปดักขบวนขององค์หญิงต้าเยี่ยนก่อนที่พวกเขาจะไปถึงเป่ยหรงและ ช่วยสตรีที่เซี่ยสวินรักไว้ให้ได้

ฝนตกปรอยๆ เส้นผมของเซียวหรงเหยี่ยนเปียกชื้น เสื้อคลุมกันลมที่ไป๋ชิงเหยียนสวมอยู่ก็เปียกน้ำฝนเช่นกัน

“เดิมทีตั้งใจว่าจะออกเดินทางเร็วกว่าเดิมครึ่งชั่วยามเพื่อไปร่ำลาเจ้าที่จวนไป๋ก่อน…” แววตาดำขลับที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเซียวหรงเหยี่ยนสะท้อนกับแสงไฟที่ไม่หลับใหลทั้งคืนของเมืองซั่วหยาง

แสงไฟสีเหลืองนวลส่องลงบนใบหน้าสมบูรณ์แบบของเซียวหรงเหยี่ยน ยิ่งทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มคมคายมากขึ้น ไม่ได้ดูสุขุมเหมือนดั่งทุกที กลับดูน่าเกรงขามอย่างบอกไม่ถูก

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าน้อยๆ กำบังเหียนแน่น “ข้าก็เตรียมจะออกไปส่งท่านนอกเมือง”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ เซียวหรงเหยี่ยนเอื้อมมือไปกุมมือเล็กของไป๋ชิงเหยียนอย่างแผ่วเบา นิ้วหัวแม่มือลูบไปที่กระดูกข้อมือของหญิงสาว รอยยิ้มในดวงตาเด่นชัดกว่าเดิม ชายหนุ่มพยายามควบคุมอารมณ์ที่อยากจะรั้งหญิงสาวมานั่งบนหลังม้าตัวเดียวกันเอาไว้

“ข้าจะไปส่งท่านที่นอกเมือง”

สิ้นเสียงของไป๋ชิงเหยียน จู่ๆ ลมก็พัดหมวกกันลมสีดำที่ไป๋ชิงเหยียนสวมไว้ที่ศีรษะจนหลุดร่วงจากศีรษะ เผยให้เห็นปิ่นปักผมหยกลายห่านป่าที่เซียวหรงเหยี่ยนทำให้ไป๋ชิงเหยียนด้วยตัวเองปักอยู่ที่มวยผมของหญิงสาว

ชายหนุ่มรั้งตัวของไป๋ชิงเหยียนซึ่งไม่ทันตั้งตัวจนหญิงสาวเซมาทางตน ไหล่ของหญิงสาวกระทบลงที่อกของชายหนุ่ม

เมื่อเห็นปิ่นหยกห่านป่าบนผมของไป๋ชิงเหยียน เซียวหรงเหยี่ยนรวบตัวของหญิงสาวมานั่งบนหลังม้าตัวเดียวกับตนอย่างอดใจไว้ไม่อยู่

ไป๋ชิงเหยียนถูกเซียวหรงเหยี่ยนกอดไว้ในอ้อมแขนแน่น กลิ่นกายของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวทำตัวไม่ถูก

ทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกันมาก ใกล้จนเมื่อไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าจะเห็นขนตาเรียวยาวของเซียวหรงเหยี่ยนทันที ใกล้จนหากเซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้าลงมา ริมฝีปากของชายหนุ่มจะแตะกับริมฝีปากของไป๋ชิงเหยียนพอดี

ไป๋ชิงเหยียนกุมบังเหียนม้าแน่นไม่ยอมปล่อยมือ

สายตาของเซียวหรงเหยี่ยนหยุดอยู่ที่ริมฝีปากของไป๋ชิงเหยียน ลำคอของชายหนุ่มร้อนผ่าว ลมหายใจติดขัด ชายหนุ่มขยับหน้าเข้าไปใกล้เพื่อหยั่งเชิง

อากาศยามเช้าในวันฝนตกเย็นชื้น ทว่า เมื่อจมูกของเซียวหรงเหยี่ยนสัมผัสกับปลายจมูกของไป๋ชิงเหยียน ใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าวขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้

หญิงสาวจับแขนกำยำของเซียวหรงเหยี่ยนแน่น พยายามควบคุมไม่ให้ใจเต้นรัว หันหน้าหนีพลางกล่าวขึ้น “นี่มันบนถนน!”

เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ฝนตกอยู่ ร่างกายเจ้าไม่แข็งแรง รีบกลับไปพักผ่อนที่จวนเถิด ข้าจะไปส่งเจ้าที่จวน”

กล่าวจบ เซียวหรงเหยี่ยนกระโดดลงจากหลังม้า จากนั้นประคองไป๋ชิงเหยียนลงมา ทั้งสองคนจูงม้าเดินกลับไปยังจวนไป๋

“หวังจิ่วโจวยังอยู่ที่ซั่วหยางอีกสักพัก นอกจากเรื่องที่เหมืองแล้ว หากเจ้ามีเรื่องอื่นที่ไม่สะดวกลงมือด้วยตัวเอง เจ้าเรียกใช้หวังจิ่วโจวได้ เขาทำงานไม่เลวทีเดียว” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน

“ที่นี่คือซั่วหยาง ไม่มีทางลงมือไม่สะดวกหรอก ท่านเดินทางไปหรงตี๋คราวนี้มีแต่อันตราย ระวังตัวด้วย”

เซียวหรงเหยี่ยนหันไปมองไป๋ชิงเหยียนที่กล่าวอำลาด้วยท่าทีจริงจัง รอยยิ้มบนใบหน้าเด่นชัดกว่าเดิม “เจ้าไม่ต้องห่วงข้า ข้าออกเดินทางเป็นประจำ ข้าดูแลตัวเองได้ เจ้าสิ ทานยาตามกำหนดหรือไม่”

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนไม่เอ่ยตอบ เซียวหรงเหยี่ยนก็รู้ทันทีว่าหญิงสาวลืม “เพิ่งเริ่มใช้ยาตัวนี้ ทานเฉพาะหลังอาหารเย็นจะทำให้เจ้าหลับสบายขึ้น”

“ข้าจะจำไว้”

ไป๋ชิงเหยียนหยุดลงหน้าซอยที่จะเลี้ยวเข้าไปในจวนไป๋ “ส่งแค่นี้ก็พอ ท่านระวังตัวด้วย อย่าใจร้อน คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก”

เซียวหรงเหยี่ยนขยับเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียน สวมหมวกที่ถูกลมพัดหล่นให้หญิงสาวอีกครั้ง มือใหญ่วางลงที่บ่าเรียวเล็กของหญิงสาวอย่างเป็นธรรมชาติ เอ่ยเสียงแผ่วเบา “รวบรวบใต้หล้าเป็นหนึ่งได้เร็วเท่าใด เหยี่ยนก็จะได้อาเป่ามาเป็นภรรยาเร็วเท่านั้น เหยี่ยนจะไม่ใจร้อนได้อย่างไร”

ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกคันยิบๆ ที่ฝ่ามือ เงยหน้าสบตากับดวงตาที่สงบนิ่งและล้ำลึกของชายหนุ่ม ใจเต้นรัวขึ้นเรื่อยๆ

ตั้งแต่ทำสัญญาใจกัน เซียวหรงเหยี่ยนพยายามเข้าหานางมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน ไป๋ชิงเหยียนจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร

ต่อให้บนบ่ามีภาระหน้าที่ที่หนักอึ้ง ทว่า สมองไม่อาจควบคุมความรู้สึกได้ เมื่อเริ่มรักความรู้สึกก็ถาโถมมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเห็นว่ารอบกายไม่มีผู้คน ไป๋ชิงเหยียนขยับเข้าไปใกล้ชายหนุ่ม เอื้อมมือไปจับแขนของเขา เขย่งปลายเท้าของตนขึ้น ตากระพริบรัวเพราะความประหม่า

เซียวหรงเหยี่ยนคาดไม่ถึงว่าไป๋ชิงเหยียนจะขยับเข้ามาใกล้เขา ชายหนุ่มเอื้อมมือไปโอบเอวของหญิงสาวอย่างอดใจไม่อยู่ จากนั้นก้มหน้าไปหาหญิงสาวอย่างให้ความร่วมมือ

เมื่อริมฝีปากของไป๋ชิงเหยียนสัมผัสกับริมฝีปากร้อนของเซียวหรงเหยี่ยน เสียงระฆังบอกเวลาดังมาจากถนนหมิงหยาง ไป๋ชิงเหยียนรีบลดปลายเท้าลง ผลักชายหนุ่มออกด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

นี่เป็นครั้งแรกที่ไป๋ชิงเหยียนเข้าหาเขาก่อน เซียวหรงเหยี่ยนจะยอมปล่อยหญิงสาวได้อย่างไร เขากระชับมือที่โอบเอวหญิงสาวแน่นกว่าเดิม รั้งตัวหญิงสาวเข้ามาแนบชิด ก้มหน้าประทับริมฝีปากลงไปอีกครั้ง อีกมือหนึ่งเอื้อมไปกระชากบังเหียนม้า ม้าสองตัวขยับเข้ามาใกล้ ล้อมคนทั้งสองไว้ตรงกลาง

หมวกบนศีรษะของไป๋ชิงเหยียนหล่นลงอีกครั้ง มือของหญิงสาวซึ่งวางอยู่บนแผงอกของเซียวหรงเหยี่ยนกำชายเสื้อของชายหนุ่มแน่น หญิงสาวสัมผัสได้ถึงใจที่เต้นรัวและอุณหภูมิที่ร้อนผ่าวจากร่างของชายหนุ่ม

ลมหายใจหอมราวกับกลิ่นของดอกมู่หลานจากตัวของชายหนุ่มแทรกซึมไปในหัวใจของหญิงสาว ไป๋ชิงเหยียนไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศหนาวของวันที่ฝนตกหรือเป็นเพราะสาเหตุอื่นกันแน่ ร่างกายรวมไปถึงลำคอของนางถึงได้ขนลุกซู่เช่นนี้