บทที่ 506 สุชาดาทำงาน

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

ยังไงคนที่ร่างกายไม่สมประกอบ ถึงแม้ไม่ใช่เป้าหมายหลักที่เหล่าดีไซเนอร์ออกแบบ แต่อย่าลืมว่า พวกเราก็เป็นคน คนร่างกายไม่สมประกอบในโลกนี้ ก็มีไม่น้อย

ตอนนี้ยังไม่มีกระแสที่จะออกแบบเสื้อผ้าให้คนที่ร่างกายไม่สมประกอบ ไม่ได้หมายความว่าต่อไปจะไม่มี

นึกถึงตรงนี้แล้ว จู่ๆวารุณีก็หรี่ตาลง มองนางแบบสองสามคนบนเวทีอีกครั้ง ตระหนักถึงอะไรได้

ไม่แน่สมาคมการออกแบบ สำนักงานใหญ่ อาจจะมีไอเดียออกแบบแฟชั่นให้คนไม่สมประกอบแล้วก็ได้ นางแบบสองสามคนบนเวทีนั้น ไม่แน่อาจจะเป็นคนที่สมาคมสำนักงานใหญ่ใช้มาทดลองก็ได้

ถ้าเสื้อผ้าที่พวกเขาออกแบบให้คนเหล่านี้ ปกปิดจุดด้อยของคนเหล่านี้ได้สำเร็จ แสดงด้านดีออกมาได้ งั้นก็มีความเป็นไปได้จริงๆว่าสมาคมจะพัฒนาส่วนนี้

ต่อไปในเหล่าดีไซเนอร์ ก็จะมีดีไซเนอร์ที่ออกแบบเสื้อผ้าให้คนพิการ คนไม่สมประกอบโดยเฉพาะแล้ว

แต่สรุปว่าใช่หรือไม่ ก็ต้องรอการแข่งขันสิ้นสุดลงถึงจะพิสูจน์ได้

พอคิดแล้ว เอเลน่าก็พาสองสาวฝาแฝดตัวติดกันลงมา ก็ได้รับการมองบนจากดีไซเนอร์คนอื่นๆ

แต่มองบนก็มองบนกลับ คนก็เลือกมาแล้ว จึงได้แต่ยอมรับ

“ประชุมดีกว่า เข้าใจสองพี่น้องคู่นี้สักหน่อย ดูว่าจะออกแบบให้พวกเธออย่างไร พวกเราก็ต้องรวบรวมสไตล์ด้วย ไม่อย่างนั้นสไตล์ก็จะไม่ราบเรียบเสมอกัน ระยะห่างของคะแนนก็มากขึ้น ถึงตอนนั้นโดนกลุ่มอื่นแซงขึ้นมาก็คงแย่แน่”วารุณีเสนอก่อน แสดงออกอย่างจริงจัง

คนอื่นๆฟังแล้ว ก็รู้สึกมีเหตุผล จากนั้นจึงไปยื่นเรื่องกับทางผู้จัดงานขอห้องประชุมเล็กห้องหนึ่งเพื่อประชุมโดยเฉพาะ

การแข่งขันครั้งนี้ ไม่เหมือนอย่างปกติ ที่จบภายในหนึ่งวัน แต่เป็นหนึ่งสัปดาห์

น่าจะเป็นเพราะว่าฝ่ายจัดงานเข้าใจว่าทุกคนต่างไม่เคยออกแบบเสื้อผ้าให้คนไม่สมประกอบ ดังนั้นจึงให้เวลาหนึ่งสัปดาห์ต่อกลุ่มพวกนี้โดยเฉพาะ ให้ทุกคนออกแบบเสื้อผ้า ตัดเสื้อผ้า มาใช้เดินแบบวันสุดท้าย

หลังจากรับข่าว ดีไซเนอร์ทุกคนก็โล่งอก เพราะตอนนี้พวกเธอไม่มีแรงบันดาลใจเลย เวลาหนึ่งวันไม่มีทางที่จะออกแบบออกมาได้ หนึ่งสัปดาห์ก็พอได้อยู่

หลังประชุมกับเพื่อนร่วมทีมของทีมAเสร็จ วารุณีก็เอาข้อมูลเบื้องต้นของสองสาวฝาแฝดสยามไป แล้วออกไปจากสถานที่แข่งขันกับเชอรีน

“วารุณี ต่อไปจะไปไหน?”เชอรีนถาม

วารุณีดูเวลา“ตอนนี้ยังไม่ถึงเที่ยงเลย หาที่กินข้าวสักหน่อยละกัน กินเสร็จฉันจะไปดูโสรยา ดูโสรยาเสร็จ ก็จะไปรับศรัณย์ที่สนามบิน”

“น้องชายเธอเหรอ?”เชอรีนถามอย่างแปลกใจ

ตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยจันทร์ เธอได้ยินวารุณีพูดว่ามีน้องชายคนหนึ่ง แต่ไม่เคยเห็น

“ใช่”วารุณีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

เชอรีนหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์“หน้าตาเป็นไง?หล่อแน่ๆ ยังไงวารุณีเธอก็สวยขนาดนี้”

พูดถึงตรงนี้ เธอก็ต้องถอนหายใจต่อพระเจ้าจริงๆ ที่ทำให้วารุณีเกิดมาสวยขนาดนี้

อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย แค่บางครั้งเธอเผชิญหน้ากับใบหน้านั้นของวารุณี ก็มีเสียสติไปบ้าง สวยมากจริงๆ

รอยยิ้มของวารุณีชัดขึ้น“อยากรู้เหรอ ตอนดึกเธอก็เห็นเอง โอเค ไปกินข้าวเถอะ”

เห็นเธอไม่อยากพูดมาก ในใจของเชอรีนก็อยู่ไม่เป็นสุข แต่จะทำอะไรได้ล่ะ บังคับให้เธอพูดก็ไม่ได้

ได้แต่รอไปดูตอนดึกอีกที

ทั้งสองคนหาร้านอาหารฝรั่งเงียบๆแห่งหนึ่ง สั่งสเต๊กมาสองชุด

ระหว่างที่กินข้าว จู่ๆเชอรีนก็มองเห็นอะไร กะพริบตาอย่างตกใจ“วารุณี นั่นใช่สุชาดาไหม?เธอมาเป็นบริกรที่นี่ได้อย่างไร?”

วารุณีหันไปมองด้านหลัง เห็นสุชาดาสวมเครื่องแบบของบริกรร้านอาหาร กำลังถือผ้าขี้ริ้วเช็ดโต๊ะ

เหมือนจะไม่ชอบงานนี้ ใบหน้าสุชาดามีแต่ความสะอิดสะเอียน แต่ก็ยังก้มหน้าทำไป

แป๊บเดียววารุณีก็ละสายตากลับ“นางแบบที่มาร่วมการแข่งขันนานาชาติ มีแค่ส่วนน้อยที่เป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังส่งมา ส่วนมากก็เป็นดีไซเนอร์ที่หาเอง สุชาดาคือคนที่โสรยาหา ยังไงบริษัทที่อยู่เบื้องหลังสุชาดาก็ไม่มีความสามารถมากขนาดนั้น พูดตรงๆนะ แบบนี้คือการรับงานส่วนตัว”

“ฉันรู้ แต่ฉันไม่นับรวมนะ ฉันคือคนที่ประธานนัทธีแนะนำให้เธอเองวารุณี หึหึ รับค่าจ้างสองอันนะ”เชอรีนยิ้มอย่างภูมิใจ

วารุณีรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“ใช่ รับงานส่วนตัวปกติแล้วจะผิดสัญญากับบริษัท บริษัทก็ไม่ให้เงินทุนสนับสนุนแก่สุชาดา ดังนั้นเงินเดือนของสุชาดาสองสามเดือนนี้ ต่างเป็นโสรยาที่จ่าย แต่โสรยาเกิดเรื่องแล้ว เลยจ่ายเงินเดือนให้เธอไม่ได้ เธอก็ไม่มีเงินอีก กลับไม่ได้ ได้แต่อยู่ทำงานที่นี่”

ซึ่งนี่เธอก็ได้ยินนัทธีพูดก่อนหน้านี้

ยังไงสุชาดาก็เป็นนางแบบของพิชญา พิชญาถูกจับ เธอก็ต้องถามสถานการณ์ของสุชาดา

เชอรีนเข้าใจทันที“ที่แท้ก็แบบนี้เอง แสดงว่าแบบนี้ เธอซวยไปเพราะโสรยาด้วยสินะ”

ยังไงนอกจากที่สุชาดามักจะคอยพูดจาเสียดสีใส่พวกเธอแล้ว ก็ไม่เคยทำเรื่องอะไรที่มากเกินไป

ตีเธอสลบ ขังวารุณีในห้องน้ำ ล้วนแต่เป็นโสรยากับลินดาที่ทำ

“โอเค ไม่ต้องสนเธอหรอก รอวีซ่าเธอหมดอายุ เธอก็ถูกส่งกลับประเทศเอง”วารุณียกนมวัวขึ้นมาดื่ม ไม่อยากพูดถึงสุชาดาอีก

เชอรีนเห็นเธอไม่พูดอีก ก็เลยไม่พูด

และไกลออกไป สุชาดาก็มองเห็นพวกเธอทั้งสอง เกลียดพวกเธอแทบตาย

เดิมทีเธอยังเป็นนางแบบที่สวยมีเสน่ห์ สุดท้ายเป็นพวกเธอที่เล่นงานโสรยา เลยทำให้เธอไม่สามารถอยู่ในการแข่งขันระดับนานาชาติได้อีก

เพราะว่าถูกเจ้าภาพการแข่งขันระดับนานาชาติไล่ออกมา ทำให้พวกนายทุนด้านแฟชั่นหลายที่ไม่สนเธอ เธอไปหาถึงที่เอง ก็ถูกปฏิเสธ บอกเธอไม่มีชื่อเสียง และสองบอกว่าไม่มีออร่าความเป็นนางแบบ มีแต่ความโลภ และสามบอกว่าเธอเคยเป็นนางแบบของโสรยา ลูกน้องก็ต้องไม่ใช่คนดีแน่ ไม่กล้าใช้เธอ

เธอโกรธจนหมดหนทาง ได้แต่ไปรับงานถ่ายนิตยสารธรรมดาๆ ตัดหนทางการกลายเป็นนางแบบระดับต้นๆ ต้องมาทำงานแลกกับค่าใช้จ่ายประจำวันที่นี่

และทั้งหมดนี้ ต่างเป็นวารุณีเชอรีนกับโสรยาคนพวกนี้ที่ทำให้เธอ

รอก่อนเถอะ พวกเขาทำลายอาชีพนางแบบของเธอ เธอจะปล่อยไปง่ายๆแบบนี้ไม่ได้

สุชาดากัดฟันส่งเสียงไม่พอใจ ถือถาดแล้วหมุนตัวออกไป

วารุณีไม่รู้ว่าตัวเองโดนสุชาดาแค้นเสียแล้ว คิดเงินเสร็จ ก็แยกกับเชอรีน ไปโรงพยาบาลจิตเวชคนเดียว

อือ……ก็ไม่ได้คนเดียวหรอก ด้านหลังยังมีบอดี้การ์ดอีกสองคน ที่ขับรถตามมาด้วย

วารุณีมาถึงโรงพยาบาลจิตเวช เข้าไปในห้องของพิชญาโดยตรง

พยาบาลจำเธอได้ ดวงตาเป็นประกาย“คุณหญิงวารุณี!”

พยาบาลคนนี้ก็คือคนนั้นที่ครั้งที่แล้วเอาเส้นผมให้วารุณี

วารุณียิ้มให้เธอ“เธออยู่ด้านในไหมคะ?”

“อยู่ค่ะ เพิ่งตื่น”พยาบาลพยักหน้า

“ฉันเข้าไปได้ไหมคะ?”วารุณีถามอีกครั้ง

“ได้อยู่แล้ว เชิญคุณหญิงวารุณี”พยาบาลเปิดประตู

วารุณีเข้าไปในห้อง

พิชญาพิงอยู่ที่หัวเตียง ดวงตากำลังปิด

ได้ยินเสียงฝีเท้า เธอจึงลืมตาขึ้นมา เห็นคนที่มาเป็นวารุณี ก็ระวังตัวขึ้นมาทันที“เธอเองเหรอ!”

“ฉันเอง”วารุณียิ้ม สายตานั้นมองไปที่ท้องของเธอ“ได้ยินว่าเธอท้องแล้ว เลยมาดูเธอหน่อย”

“หึ เธอหวังดีขนาดนี้เชียว?”พิชญาเยาะเย้ย

วารุณีนั่งลงบนเก้าอี้ที่บอดี้การ์ดดึงมาให้“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ฉันอวดตัวเองมากเลยนะว่าตัวฉันจิตใจดีกว่าเธอเยอะ ไม่เหมือนเธอ เพื่อที่ไม่ให้ลูกทั้งสองคนของฉันรู้ว่าพวกเขาเป็นลูกแท้ๆของนัทธี ก็ร่วมมือกับหมอตรวจร่างกายและครูอนุบาล เปลี่ยนตัวอย่างDNAของลูกทั้งสองของฉัน และยังทำเรื่องชั่วร้ายอื่นๆอีก แต่ฉันกลับไม่ได้ทำเลย”

“นัทธีรู้ว่าลูกของเธอเป็นของพวกเขาแล้ว?”สีหน้าพิชญาเปลี่ยนไปอย่างมาก เสียงก็แหลมคมขึ้นมา

วารุณีพยักหน้า“ถูกต้อง รู้แล้ว“

ทันใดนั้นพิชญาก็หัวเราะขึ้นมา เสียงหัวเราะกลับเต็มไปด้วยความเสียดสีและด้อยค่าตัวเอง แม้แต่น้ำตาก็ไหลออกมา“ไม่ยุติธรรมมากไปแล้ว พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลย ฉันพยายามปกปิดอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าจะถูกเขารู้ได้ วารุณี เธอดีใจมากใช่ไหม ลูกทั้งสองคนของเธอ กลายเป็นลูกแท้ๆของนัทธีแล้ว ตำแหน่งคุณหญิงวารุณีของเธอนี้มั่นคงโดยสมบูรณ์แล้ว”