บทที่ 536 พึ่งพาหลี่ฝาน

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 536 พึ่งพาหลี่ฝาน

บทที่ 536 พึ่งพาหลี่ฝาน

คำพูดที่กุ้ยซื่อพ่นออกมาล้วนน่าสังเวช แต่ทุกแง่มุมของสิ่งที่นางพูด ล้วนทำให้ผู้คนคิดไปในทางนั้นอยากชัดเจน

โดยเฉพาะหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง เมื่อเขาได้ยินชื่อหลี่ฝาน แม้แต่รอยย่นบนหน้าผากก็ผ่อนคลาย

หลังจากได้ยินสิ่งที่กุ้ยซื่อพูดก็เข้าใจทันทีว่า ถ้ากุ้ยตงเหมยเสียชื่อเสียง นางจะต้องแต่งงานกับหลี่ฝาน หากกุ้ยตงเหมยสามารถแต่งเข้าตระกูลหลี่ได้จริง ชีวิตหลังจากนี้จะมีสง่าราศีและความมั่งคั่งจะไม่มีวันหมด!

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงตื่นเต้นมาก หากเป็นเช่นนั้นจริง ในเวลานั้นหลี่ฝานก็จะกลายเป็นบุตรเขยของหมู่บ้านอู๋ซี แล้วตนเองที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้านอู๋ซี เมื่อต้องการไปทำเรื่องต่าง ๆ กับเขา มันก็จะง่ายขึ้น

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงชื่นชมทันที “กุ้ยซื่อ ไม่ต้องกังวลไป! ข้าจะไปกับเสี่ยววาน และจะพาตงเหมยกลับมาให้เจ้าแน่นอน เด็กคนนี้ไปอยู่บ้านของเขาเช่นนี้แล้ว ในอนาคตจะแต่งงานได้อย่างไร!”

กุ้ยตงเหมยจะแต่งงานได้อย่างไร? นางได้พบกับเถ้าแก่ที่ร่ำรวยอย่างหลี่ฝานแล้ว นางจะแต่งงานกับใครได้อีก!

เมื่อกุ้ยซื่อเห็นหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงตกลงที่จะช่วยตน ในใจก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก เมื่อมองไปยังกู้เสี่ยวหวานที่ใบหน้าซีดเผือด แม้ว่านางจะเกรงใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้เพื่อการตามหากุ้ยตงเหมย นางต้องทำเช่นนี้เท่านั้น!

ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานซีดลงเมื่อมองไปที่กุ้ยซื่อ นางโกรธมากจนไม่สามารถพูดอะไรได้

นอกจากนี้ยังมีกุ้ยชุนเจียวอยู่ข้าง ๆ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ แต่พวกเขากลับบอกว่าหลี่ฝานเป็นหนี้พวกเขา และการดูแลกุ้ยตงเหมยให้ดีคือการตอบแทนกุ้ยชุนเจียวที่ช่วยชีวิตลูกชายของเขาไว้

เพื่อประโยชน์ของกุ้ยตงเหมย สองแม่ลูกจึงต้องหน้าด้านมากขนาดนี้!

กู้เสี่ยวหวานโกรธมากจนนางอยากจะเล่าความจริงเกี่ยวกับเรื่องของกุ้ยชุนเจียวออกมา แต่ในเวลานี้จะมีสักกี่คนที่เชื่อนาง พวกเขาคงคิดว่านางพูดเรื่องไร้สาระ!

เพราะในเวลานั้น กู้เสี่ยวหวานไม่เคยปรากฏตัวเลยสักครั้ง!

“ตั้งแต่กุ้ยตงเหมยไปอยู่กับเถ้าแก่หลี่ ชุนเจียว เจ้าเป็นผู้มีพระคุณของเถ้าแก่หลี่ไม่ใช่หรือ? เจ้าสามารถไปหาเถ้าแก่หลี่และพาตงเหมยกลับมาได้!” กู้เสี่ยวหวานนึกถึงบางสิ่งและพูดอย่างเย็นชา

กุ้ยชุนเจียวตอบรับราวกับนางไม่ได้คาดหวังว่ากู้เสี่ยวหวานจะเตะลูกหนังลูกนี้มาที่นางอีกครั้ง ขณะที่นางกำลังคิดว่าจะตอบอย่างไร นางก็ได้ยินคำตอบของกุ้ยซื่อที่ตอบแทนตนเองว่า “เสี่ยวหวาน ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายที่ทรุดโทรมของข้า ในช่วงนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ทุกวันทำได้แค่นอนอยู่บนเตียงไปไหนไม่ได้ สามีของข้าก็ไปทำงานข้างนอกยังไม่กลับมา ถ้าชุนเจียวเข้าเมือง แล้วใครจะดูแลหญิงชราอย่างข้า!”

สิ่งที่กุ้ยซื่อพูดนั้นดูสมเหตุสมผลมาก

กุ้ยซื่อเคยอ้วนท้วนมาก่อน แต่ตอนนี้หลังจากที่ไม่เห็นนางมานานกว่าครึ่งเดือน รูปร่างของนางดูเหมือนจะผอมลง! ผอมลงจะราวกับหนังหุ้มกระดูก เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของกุ้ยซื่อ ทุกคนต่างก็ถอนหายใจราวกับว่าพวกเขาสงสารกุ้ยซื่อมาก!

“ใช่แล้ว แม่ของข้าป่วย ข้าจึงไปไม่ได้จริง ๆ และตงเหมยก็ไปที่บ้านของเถ้าแก่หลี่ และเถ้าแก่หลี่จะปฏิบัติต่อตงเหมยอย่างดี! ดังนั้นข้าจึงไม่ได้ไปตามหานาง! แต่เมื่อท่านแม่รู้เรื่องนี้ก็รู้สึกว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้ไม่ได้! ตงเหมยกลัวเจ้า หากเจ้าไม่ให้อภัยนาง เกรงว่านางก็คงไม่กล้ากลับมา!”

กลัวนาง? กู้เสี่ยวหวานยิ้มเยาะ กุ้ยตงเหมยที่ไม่กลัวอะไร จะกลัวนางได้อย่างไร!

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกขบขันอยู่พักหนึ่ง และเหลือบมองกุ้ยชุนเจียวที่กำลังโกหกอย่างเย็นชา

กุ้ยชุนเจียวตกใจกับท่าทางนั้น ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานราวกับงูพิษ สายตาที่มองมาทำให้นางเสียวสันหลังวาบ!

หากกู้เสี่ยวหวานโกรธ นางจะบอกความจริงเรื่องนี้หรือไม่?

ตอนนี้กุ้ยชุนเจียวตำหนิกุ้ยซื่อเล็กน้อย แต่เพื่อเรื่องของกุ้ยตงเหมย นางจึงมาที่นี่เพื่อบังคับกู้เสี่ยวหวาน หากกู้เสี่ยวหวานเป็นสุนัขจนตรอก ไม่เพียงแต่นางจะไม่ช่วย แต่นางกลับพูดทุกอย่างออกมา เช่นนั้นจะทำอย่างไร!

กุ้ยชุนเจียวตัวสั่นเล็กน้อยและรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากในใจ แต่กุ้ยซื่อไม่กลัว

คำพูดของนางในวันนี้ได้ถูกทิ้งไว้ที่นี่แล้ว

ถ้ากู้เสี่ยวหวานคิดถึงชื่อเสียงของหลี่ฝาน นางคงจะไม่พูดอะไรออกมาสักครึ่งคำ

กุ้ยซื่อผู้นี้คาดหวังให้กู้เสี่ยวหวานเกิดความลังเลและไม่เต็มใจ จากนั้นนางจะกลายเป็นคนชอบธรรมและใช้ประโยชน์จากความเจ็บปวดของกู้เสี่ยวหวาน

กู้เสี่ยวหวานเกลียดมาก บางคนเป็นแกะ แล้วแกะก็ห่มหนังหมาป่า ในเวลานั้น นางเคยช่วยกุ้ยชุนเจียวที่ทำผิดพลาดไปแล้วครั้งหนึ่ง หากกุ้ยชุนเจียวจำเรื่องนี้ได้ นางก็ไม่ควรทำร้ายพวกกู้เสี่ยวหวาน

แต่กู้เสี่ยวหวานคิดผิด

นางช่วยหนึ่งครั้ง นางก็ต้องช่วยครั้งที่สองและครั้งที่สาม ถ้านางไม่ช่วย หมาป่าในคราบแกะเหล่านี้จะนำคนที่นางห่วงใยมากดดันและบีบบังคับนางอีกครั้ง!

หลี่ฝานเป็นผู้มีพระคุณของกู้เสี่ยวหวาน นางไม่สามารถทนดูคนอื่นใส่ร้ายเขาและยังคงเฉยเมยอยู่ได้

ตอนนี้กู้เสี่ยวหวานรู้แล้วว่ากุ้ยตงเหมยเป็นคนเช่นไร

นางเป็นคนเห็นแก่ตัว จิตใจโหดร้าย นางจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย! ยังไม่สายเกินไปที่จะทำให้พวกนางได้รับบทเรียน

กู้เสี่ยวหวานเหลือบไปมองกุ้ยซื่อและกุ้ยชุนเจียวด้วยสายตาที่ดุร้าย ทั้งสองคนกล้ามาบีบบังคับนางหรือ!

ได้!

เช่นนั้นจะทำให้พวกนางเห็นว่า ชื่อเสียงฉาวโฉ่รสชาติเป็นเช่นไร!

กู้เสี่ยวหวานยิ้มเยาะ “ตกลง ข้าจะไปที่ร้านจิ่นฝูเดี๋ยวนี้!”

“ตกลง ตกลง! กุ้ยตงเหมยต้องอยู่ในร้านจิ่นฝูแน่ มีคนเห็นด้วยตาตัวเอง! ถ้านางไม่อยู่ที่นั่น นางคงจะต้องซ่อนตัวอยู่แน่! เสี่ยวหวานได้โปรดขอร้องเถ้าแก่หลี่ให้ทำความดีและพาตงเหมยกลับมาบ้าน!” กุ้ยซื่อยังคงพูดอย่างหน้าด้าน

เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินสิ่งนี้ นางก็รู้สึกคลื่นไส้ กุ้ยซื่อผู้นี้เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของตน นางพร้อมจะทำทุกอย่าง

ได้! หากพวกนางหมดหวังที่จะตามหากุ้ยตงเหมย เช่นนั้นนางก็จะช่วยเอง! เพียงแต่ว่ากุ้ยตงเหมยจะบริสุทธิ์หรือสกปรกก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนางหรือร้านจิ่นฝูทั้งสิ้น!

กู้เสี่ยวหวานยิ้มเยาะ รอยยิ้มนั้นไม่มีความอบอุ่นอยู่เลยสักนิด มันราวกับทะเลสาบน้ำแข็งในฤดูหนาวของเดือนสิบสอง

หลังจากนี้ หวังว่ากุ้ยซื่อจะแขวนคอและโทษตัวเองที่ไม่ควรมาบีบบังคับกู้เสี่ยวหวาน