บทที่ 537 ข้าคือหัวหน้าหมู่บ้าน

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 537 ข้าคือหัวหน้าหมู่บ้าน

บทที่ 537 ข้าคือหัวหน้าหมู่บ้าน

ฉินเย่จือเอาวัวเทียมเกวียน และพากู้เสี่ยวหวานกับหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเข้าไปในเมือง

กุ้ยชุนเจียวเฝ้าดูเกวียนวัวหายลับไปจากสายตาของนางทีละน้อย จากนั้นนางเหลือบไปมองกุ้ยซื่อด้วยความขุ่นเคืองและพูดอย่างโกรธจัด “ท่านแม่ เพื่อตงเหมยแล้ว ท่านเลยไม่สนใจชื่อเสียงของข้าแล้วใช่หรือไม่!”

กุ้ยซื่อไม่ได้คาดหวังว่ากุ้ยชุนเจียวจะพูดเรื่องนี้ นางจึงไม่สามารถตอบคำถามของกุ้ยชุนเจียวได้

สีหน้าของกุ้ยซื่อหลันเปลี่ยนไป! ใช่แล้ว นางไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลยในตอนนี้ นางรู้แค่ว่าต้องขอให้กู้เสี่ยวหวานไปหาหลี่ฝาน เช่นนั้นจะได้หากุ้ยตงเหมยพบ!

แต่ถ้าเรื่องนี้ทำให้หลี่ฝานโกรธจริง ๆ ล่ะ?

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหลี่ฝานปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือพวกนาง และเล่าความจริงเกี่ยวกับเรื่องของกุ้ยชุนเจียวขึ้นมาล่ะ?

แม้ว่าหลี่ฝานจะไม่พูดอะไร แต่กู้เสี่ยวหวานล่ะ?

ในครั้งนี้กุ้ยซื่อรู้ว่านางได้ทำให้กู้เสี่ยวหวานขุ่นเคืองใจจริง ๆ และใช้ชื่อเสียงของหลี่ฝานเพื่อบีบบังคับกู้เสี่ยวหวานให้ไปหาหลี่ฝาน นางไม่รู้ว่าการกระทำนี้ถูกหรือผิด!

ทุกคนมาถึงที่ร้านจิ่นฝู ในเวลานี้ไม่มีใครมาทานอาหารในร้าน เช่นนั้นก็ดี ไม่มีใครอยู่ในร้านอาหาร ดังนั้นเมื่อพูดถึงเรื่องนี้จะได้รู้สึกสบายใจมากขึ้น! เพราะเกรงว่าคนที่มาทานอาหารจะบังเอิญได้ยินเรื่องนี้เข้า แล้วจะพูดอะไรที่ไม่ดีออกไป

เมื่อเห็นว่าใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานไม่ค่อยดี และนางได้พาชายชราคนหนึ่งมาด้วย เสี่ยวเซิ่งจื่อเคยเห็นเขาในหมู่บ้านอู๋ซีเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นเขาจึงรู้ได้ทันทีว่าคนผู้นี้เป็นหัวหน้าของหมู่บ้านอู๋ซี

“เสี่ยวหวาน…” เสี่ยวเซิ่งจื่อรีบก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยถามกู้เสี่ยวหวานว่า “เกิดอะไรขึ้น!” กู้เสี่ยวหวานจึงมาที่ด้านข้างและเอ่ยถามเบา ๆ “ท่านลุงหลี่อยู่หรือไม่?”

“เถ้าแก่หลี่กำลังดูบัญชีอยู่ชั้นบน! แล้วทำไมเขาถึงมาที่นี่…” เสี่ยวเซิ่งจื่อดูไม่มีความสุขเล็กน้อย

“หึ เจ้าเคยได้ยินเรื่องราวของชาวนากับงูบ้างหรือไม่?” กู้เสี่ยวหวานยิ้มเยาะ “ครั้งล่าสุดที่พวกเราช่วยเหลือครอบครัวกุ้ยด้วยเจตนาดี แต่ไม่คาดคิดว่าพวกเราจะโดนแว้งกัดเช่นนี้!”

กู้เสี่ยวหวานไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ยังคงถามต่อไปว่า “กุ้ยตงเหมยอยู่ในร้านจิ่นฝูหรือไม่?”

กุ้ยตงเหมย? เสี่ยวเซิ่งจื่อรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานกำลังพูดถึงใคร!

เขาคิดแล้วก็พูดว่า “กว่าครึ่งเดือนก่อน นางมารอที่หน้าร้านอยู่หลายวันเพื่อมาพบเถ้าแก่หลี่ แต่เถ้าแก่หลี่ไม่สนใจและไม่อยากเจอนาง หลังจากนั้นนางจึงจากไป!”

ไม่น่าแปลกใจที่กุ้ยซื่อบอกว่ามีคนเห็นกุ้ยตงเหมยในร้านจิ่นฝู กลายเป็นว่ากุ้ยตงเหมยเคยที่มารอหลี่ฝานที่ประตูร้านจิ่นฝูจริง ๆ

“อืม! คนผู้นี้ต้องการพบท่านลุงหลี่ ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากพาเขามาที่นี่!” กู้เสี่ยวหวานอธิบายสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นในหมู่บ้านวันนี้ ดวงตาของเสี่ยวเซิ่งจื่อจึงเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ!

“คนผู้นี้ไร้ยางอายเกินไป…”

อย่างไรก็ตาม ไร้ยางอายก็คือไร้ยางอาย คนเหล่านี้กล้าใช้ความบริสุทธิ์ของกุ้ยตงเหมยเพื่อใส่ร้ายหลี่ฝาน แน่นอนว่าพวกเขาตัดสินใจที่จะพึ่งพาหลี่ฝาน

ในเวลานั้นที่กู้เสี่ยวหวานมาขอความช่วยเหลือจากหลี่ฝาน ย่อมมีเรื่องยุ่งยากตามมา นางต้องการช่วยหลี่ฝานแก้ปัญหาที่ตามมา เพื่อไม่ให้เขาเป็นเหมือนขนมปังหอมที่ไม่ว่าใครก็สามารถมากัดกินได้

กู้เสี่ยวหวานเหลือบมองที่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงอย่างมีความหมาย และจากสายตาของเขาที่ส่องประกายด้วยดวงดาวสีทอง นางก็เห็นว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไร!

“ได้ พวกเราไปเถอะ! เรื่องนี้เถ้าแก่ทำดีแล้ว ราวกับโดนกอเอี๊ยะแปะ ไม่ว่าจะสะบัดอย่างไรก็ไม่หลุด! ไม่เป็นไรหรอกน่า! เขามาก็ดีแล้ว มาทำให้เรื่องนี้กระจ่างขึ้น หากพวกเขาใจร้ายก่อนก็อย่าโทษพวกเราที่ไม่ยุติธรรม!” เสี่ยวเซิ่งจื่อเหลือบมองที่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงด้วยความรังเกียจและพูดอย่างโกรธเคือง

กู้เสี่ยวหวานพาหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงขึ้นไปชั้นบน รอจนกระทั่งเสี่ยวเซิ่งจื่อเข้าไปข้างในและพูดคุยกับหลี่ฝานเพื่อทำให้เรื่องนี้ชัดเจนขึ้นเล็กน้อย

การแสดงออกของหลี่ฝานเปลี่ยนไปอย่างมากในทันที

กุ้ยซื่อผู้นี้ช่างไร้ยางอายเสียจริง!

คราวนี้นางยังใช้ชื่อเสียงของเขาเพื่อบีบบังคับให้กู้เสี่ยวหวานมาหาเขา!

“คนในตระกูลกุ้ยมาหรือ?” หลี่ฝานเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ

“ไม่ คราวนี้พวกนางไม่ได้มาด้วย! แต่ให้หัวหน้าหมู่บ้านอู๋ซีมาแทน!” เสี่ยวเซิ่งจื่อตอบ เมื่อคิดถึงหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงที่มองไปรอบ ๆ ราวกับว่าเขาไม่เคยเห็นโลกมาก่อน ความโลภในดวงตาของเขาช่างน่าขยะแขยงยิ่งนัก!

“เสี่ยวหวานล่ะ?”

“คราวนี้แม่นางกู้โกรธจริง ๆ นางบอกข้าว่า ตอนนี้ถ้าสะบัดไม่หลุดจริง ๆ เช่นนั้นก็ให้ทิ้งทุกอย่างออกไปให้หมด และรอดูว่าพวกนางจะกล้ามาที่นี่อีกหรือไม่!” เสี่ยวเซิ่งจื่อกล่าว

หลังจากที่หลี่ฝานได้ยินเช่นนั้น คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน พอคิดได้ก็บอกว่า “เชิญเสี่ยวหวานเข้ามาก่อน!”

เสี่ยวเซิ่งจื่อตอบรับและรีบออกไปทันที

กู้เสี่ยวหวานและหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงกำลังรออยู่ด้านนอก แต่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงยังคงไม่ยอมหยุดมองสิ่งต่าง ๆ ภายในร้าน

มองซ้ายมองขวา ซ่อนความโลภในสายตาไม่ได้!

“โอ้ สาวน้อยเสี่ยวหวาน เจ้าโชคดีมาก ทำไมเจ้าถึงรู้จักเถ้าแก่หลี่ผู้นี้ล่ะ?” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงพูดพึมพำแล้วพูดกับตัวเองว่า “ถ้ากุ้ยตงเหมยโชคดีพอที่จะแต่งเข้าครอบครัวหลี่ นางก็จะมีความรุ่งโรจน์และเป็นสง่าราศีของหมู่บ้านอู๋ซีของเรา!”

ความรุ่งโรจน์?

กู้เสี่ยวหวานเยาะเย้ยในใจ กุ้ยตงเหมยจะกลายเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีและมีความรุ่งโรจน์อย่างนั้นหรือ?

หัวหน้าหมู่บ้านนี้เหลียงอยากจะร่ำรวยจนเนื้อเต้นแล้ว!

ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานมืดลงและเหลือบมองที่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงด้วยความรังเกียจ

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงมองดูการตกแต่งร้านรอบ ๆ ตัวเขา เขาจึงไม่เห็นความรังเกียจในสายตาของกู้เสี่ยวหวานเลย

ในขณะนี้ เสี่ยวเซิ่งจื่อก็ออกมา “เสี่ยวหวาน เถ้าแก่เชิญเจ้าไปพบเขาข้างในหน่อย!”

กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า ยกเท้าขึ้นและเข้าไป เมื่อเสี่ยวเซิ่งจื่อเห็นนางเข้าไป เขาก็ปิดประตูทันที

เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานเข้าไป แต่ไม่ได้พาตัวเองเข้าไปด้วย หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็อยากจะผลักประตูเข้าไปทันที แต่เสี่ยวเซิ่งจื่อจะปล่อยให้เขาเข้าไปได้อย่างไร เสี่ยวเซิ่งจื่อผลักเขาออกไปด้านข้างและพูดอย่างรังเกียจว่า “รอก่อน รอก่อน เถ้าแก่ของข้าไม่ได้เรียกเจ้าเข้าไป!”

“เฮ้ ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านของกู้เสี่ยวหวาน!” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเห็นเสี่ยวเซิ่งจื่อขวางเขาไว้ไม่ให้เข้าไป เขาก็โกรธมากและจ้องไปที่เสี่ยวเซิ่งจื่ออย่างไม่พอใจราวกับเขากลัวว่าเสี่ยวเซิ่งจื่อจะไม่รู้จักตัวตนของเขา!

“เหอะ…” เสี่ยวเซิ่งจื่อกลอกตาและกอดอกอย่างดูถูกเมื่อได้ยินว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงแนะนำตัว เขาเฝ้าประตูเหมือนกับเทพแห่งประตู “หัวหน้าหมู่บ้านหรือ? เป็นขุนนางยศใหญ่อะไรเช่นนี้! ข้าชักจะกลัวขึ้นมาเล็กน้อยแล้วสิ!”