ตอนที่ 1077 ขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณ (2) ตอนที่ 1078 ขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณ (3)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1077 ขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณ (2) / ตอนที่ 1078 ขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณ (3)
ตอนที่ 1077 ขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณ (2)

ชวีเหวินเฮ่าต้องใช้พลังวิญญาณของตัวเองเพื่อใช้พลังของขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณ การบิดเบือนจิตใจของสัตว์วิญญาณไม่ใช่งานยากอะไรนัก แต่เมื่อเป้าหมายเป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่ทรงพลังอย่างมาก มันก็กลายเป็นงานที่อันตรายสำหรับผู้ลงมือ

แม้ว่าชวีเหวินเฮ่าสามารถใช้ขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณบิดเบือนและควบคุมความคิดของสัตว์วิญญาณได้ แต่ยิ่งสัตว์วิญญาณแข็งแกร่งมากเท่าไร ก็ยิ่งมีจิตสำนึกและพลังใจแข็งแกร่งมากเท่านั้น ทำให้ต้องใช้พลังวิญญาณในการควบคุมจิตใจของมันมากขึ้นด้วย! และต่อให้ควบคุมได้สำเร็จ หากเลินเล่อเพียงนิดเดียวก็ทำให้สัตว์วิญญาณตัวนั้นหันกลับมาเล่นงานเขาแทนได้

ตั้งแต่ก่อตั้งเมืองพันอสูรมา เจ้าเมืองหลายรุ่นที่ครอบครองขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณนั้น แทบไม่มีใครกล้าเล่นงานสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติเลย พวกเขายอมใช้เวลาเพิ่มขึ้นเพื่อควบคุมสัตว์วิญญาณระดับสูงหลายๆ ตัวดีกว่าไปเผชิญหน้ากับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตัวเดียว

เพราะเมื่อสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติต่อต้านจนถึงตาย มันก็จะสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ใช้ขลุ่ยเช่นกัน!

“ท่านเจ้าเมือง! ทำแบบนี้ไม่ได้นะขอรับ!” สยงป้าเรียกและมองไปที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่กำลังร้องอย่างเจ็บปวดอยู่บนเตียง เขาอยากจะกระโดดเข้าใส่ชวีเหวินเฮ่าเพื่อหยุดเขาจากสิ่งที่กำลังทำอยู่

แต่พอเขาจะขยับเข้าไปใกล้ ก็มีคนอีกสองคนปรากฏตัวขึ้นที่ด้านซ้ายและขวาของเขา พวกเขาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นหัวหน้าตึกอีกสองตึกนอกจากเขาและหลินเชวียนั่นเอง!

ในเมืองพันอสูร นอกจากหลินเชวียที่เป็นพวกเดียวกับชวีซินรุ่ยไปแล้ว หัวหน้าตึกคนอื่นต่างมีความคิดเช่นเดียวกับสยงป้าและจงรักภักดีกับชวีเหวินเฮ่ามาก สยงป้าไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่เขาจะถูกสองคนนี้จับตรึงเอาไว้กับพื้น!

สยงป้ามองออกไปข้างนอกทางหางตาและต้องตกใจเมื่อเห็นชิงอวี่ก็ถูกรองหัวหน้าตึกของอีกสองตึกจับตัวเอาไว้โดยไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่นิ้วเดียวเหมือนกับเขา

“สยงป้า อย่าพยายามก้าวก่ายเรื่องนี้ไปมากกว่านี้เลย ท่านเจ้าเมือง…ที่ทำเช่นนี้ท่านย่อมมีเหตุผล” หัวหน้าตึกคนหนึ่งพูดกับสยงป้าด้วยสีหน้าเจ็บปวด

“บัดซบ! ปล่อยข้า! ท่านเจ้าเมือง! ท่านทำแบบนี้กับสัตว์วิญญาณของจวินเสียไม่ได้! เราเป็นพันธมิตรกันนะ! จวินเสียเป็นสหายที่เราเชิญมาให้ช่วยเรา!” ถึงเขาจะหัวทึบแค่ไหน เขาก็รู้ว่าชวีเหวินเฮ่าเตรียมตัวมาที่นี่อย่างดีโดยให้หัวหน้าตึกกับรองหัวหน้าตึกจากอีกสองตึกจำกัดการเคลื่อนไหวของเขากับชิงอวี่

เสียงอันไพเราะของขลุ่ยดังไม่หยุดผสานไปกับเสียงร้องอย่างน่าสงสารของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะและเสียงตะโกนอย่างเสียใจของสยงป้า

ชิงอวี่กับสยงป้าอยากจะหยุดการกระทำทั้งหมดนี้ แต่พวกเขาถูกจับตรึงเอาไว้ทั้งแขนและขาแถมยังถูกอุดปากเอาไว้ด้วย พวกเขาได้แต่มองใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะดิ้นรนอย่างไม่อาจช่วยอะไรได้ เสียงร้องของมันค่อยๆ น้อยลงไปเรื่อยๆ

เหงื่อออกเต็มหน้าผากของชวีเหวินเฮ่า หน้าของเขาเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาว ตั้งแต่เขาได้เป็นเจ้าเมืองแห่งเมืองพันอสูร นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เผชิญหน้ากับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ ระดับความอันตรายและความกดดันที่เขากำลังเผชิญอยู่ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้เลยสักคน

กระต่ายโลหิตยืนงงอยู่ที่พื้น มันมองใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่คอยเตะมันอยู่ตลอดส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด มันยังเด็กมากและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันรู้ว่าใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกำลังเจ็บปวดทรมาน

มันกระโดดขึ้นไปบนเตียงโดยลืมเรื่องที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะรังแกมันไปเสียสนิท มันยื่นเท้าเล็กๆ ไปสัมผัสตามตัวของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ หวังให้ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะรู้สึกดีขึ้น เสียงหายใจเล็กๆ อย่างกังวลของมันดังออกมาจากปาก เหมือนว่ามันกำลังเป็นห่วงอาการของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะอย่างมาก

ตอนที่ 1078 ขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณ (3)

สยงป้าพยายามใช้พละกำลังทั้งหมดของเขาสลัดให้หลุดจากการจับกุมแต่ก็ไม่มีประโยชน์

การตอบสนองของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะอ่อนแอลงเรื่อยๆ พื้นหินที่เท้าของชวีเหวินเฮ่าก็มีเหงื่อเต็มไปหมด เสื้อผ้าของเขาก็เปียกเหงื่อจนชุ่มและยังหยดลงบนพื้นอีกด้วย

ในที่สุดใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็ล้มลงหมดสติ ขณะเดียวกันชวีเหวินเฮ่าก็หยุดเป่าขลุ่ย เมื่อเขาลดมือที่ถือขลุ่ยลง เขาก็เซถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างอ่อนแรง โชคดีที่หัวหน้าตึกคนหนึ่งประคองตัวเขาไว้ได้

ชวีเหวินเฮ่าผลักชายคนนั้นออกไปและยืนหอบขณะที่มองไปที่เตียง

“เอาตัวมันไปด้วย” ชวีเหวินเฮ่าพูด

หัวหน้าตึกคนหนึ่งเดินไปที่เตียงทันที เขาคิดที่จะอุ้มใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่หมดสติขึ้นมาจากเตียง

สยงป้าทิ้งตัวลงกับพื้นพลางมองไปที่ชวีเหวินเฮ่าอย่างสิ้นหวัง

เขาไม่อยากจะเชื่อว่าท่านเจ้าเมืองที่เขาเคารพมากที่สุดมาตลอดจะใช้ขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณเพื่อเอาสัตว์วิญญาณของจวินอู๋เสียไป…

ชิงอวี่หลับตาลงอย่างเจ็บปวดในใจ เขาไม่อยากจะเห็นอะไรมากไปกว่านี้แล้ว

ชวีเหวินเฮ่าไม่กล้าเบนสายตาออกไปและไม่กล้ามองไปทางสยงป้า เขานึกภาพแววตาผิดหวังของสยงป้าได้อย่างชัดเจน เขาสูดลมหายใจเข้าลึกและบังคับตัวเองให้ทำใจแข็งเข้าไว้

หัวหน้าตึกที่เดินไปที่เตียงอุ้มใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่นอนอยู่ขึ้นมา เจ้ากระต่ายโลหิตที่อยู่ข้างตัวใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะมองชายคนนั้นอุ้มใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะขึ้นอย่างกระวนกระวายด้วยดวงตาใสซื่อไร้เดียงสา มันกระโดดสองครั้งด้วยความอยากจะตามพวกเขาไป

หัวหน้าตึกคนนั้นดูจะทำอะไรไม่ถูกไปครู่ เขามอง ‘เจ้ากระต่ายหูใหญ่’ ที่มีแผลเป็นหลายแห่งตามร่างกายแล้วหันไปมองชวีเหวินเฮ่าอย่างลังเล

“ท่านเจ้าเมืองขอรับ เจ้ากระต่ายหูใหญ่ตัวนี้…”

“ไม่ต้องเอาไป” ชวีเหวินเฮ่าพูดอย่างเย็นชา

หัวหน้าตึกคนนั้นไม่มีทางเลือกนอกจากปัดเจ้ากระต่ายหูใหญ่ออกไปให้พ้น

เจ้ากระต่ายโลหิตที่ถูกผลักออกไปรีบกระโดดกลับเข้ามาและกระโดดขึ้นลงอีกหลายครั้ง มันอยากจะกระโดดขึ้นไปอยู่ข้างๆ ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ

หัวหน้าตึกคนนั้นเริ่มหงุดหงิดจึงยกเท้าขึ้นเตะเจ้ากระต่ายโลหิตกระเด็นออกไป!

กระต่ายโลหิตตัวน้อยตกลงไปที่พื้นอย่างแรงและส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ

หัวหน้าตึกคนนั้นอุ้มใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะไว้แล้วหันหลังจากไป ชวีเหวินเฮ่าสูดหายใจเข้าลึกอีกครั้งก่อนจะหันหลังจากไปเช่นกัน

แต่ทันทีที่ชวีเหวินเฮ่าก้าวออกจากห้อง คลื่นพลังอันแข็งแกร่งของสัตว์วิญญาณก็ระเบิดขึ้นที่ด้านหลังของเขา!

เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากด้านหลัง เขาหันกลับไปอย่างงุนงง และทันได้เห็นหัวหน้าตึกที่อุ้มใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะล้มลงกับพื้น!

กระต่ายสีแดงโลหิตตัวหนึ่งก้มอยู่ที่คอของเขา ปากของมันยังกัดอยู่ที่กระดูกคอที่มีโลหิตไหลออกมา!

ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นมองตรงไปที่ชวีเหวินเฮ่า เจ้ากระต่ายโลหิตที่ตอนนี้ชุ่มโชกไปด้วยโลหิตเหยียบลงบนแอ่งของเหลวสีแดงเหนียวข้นที่ไหลออกมาสดๆ พร้อมกับคายกระดูกคอที่เพิ่งจะฉีกกระชากออกมาจากคอของชายคนนั้น จากนั้นมันก็คาบใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่หมดสติอยู่ขึ้นมา สายตาแหลมคมของมันยังคงจ้องเขม็งอยู่ที่ชวีเหวินเฮ่า!

ชวีเหวินเฮ่ามองกระต่ายสีแดงโลหิตด้วยความตกใจ ชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในใจเขาทันที…กระต่ายโลหิต!

ในฐานะที่เป็นเจ้าเมืองของเมืองพันอสูร ชวีเหวินเฮ่าจะไม่รู้เรื่องของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตัวนี้ที่มีอยู่แต่ในตำนานได้อย่างไร!

เขาเคยได้ยินจากชิงอวี่มาก่อนว่าจวินอู๋เสียได้ช่วยชีวิตกระต่ายหูใหญ่ที่บาดเจ็บสาหัสเอาไว้จากลานประลองสัตว์วิญญาณ แต่เขาไม่ได้ให้ความสนใจมันมากนัก ตอนที่เห็นมันในห้องเมื่อครู่เขาก็ไม่ได้คิดอะไร

แต่ตอนนี้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่กระต่ายหูใหญ่ที่ไร้ทางสู้!

แต่เป็นสัตว์วิญญาณที่มีพลังระดับภัยพิบัติ…กระต่ายโลหิต!