ลี่หุยได้ฟังแล้วก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ฟังอลันพูดแบบผ่าน ๆ แล้วก็เล่นต่อ
อลันเห็นลี่หุยทำท่าทางได้ใจจนลืมตัว ก็โกรธจนชักสีหน้าทันที ลี่หุยรับรู้ได้ว่าอลันโมโหแล้ว จึงรีบยิ้มแล้วเอ่ยพูด : “ครับ คุณอลัน ผมทราบแล้วครับ ผมจะจำเรื่องที่คุณกับคุณซูซานสั่งให้ขึ้นใจ คุณใจเย็น ๆ นะครับ”
ลี่หุยพูดพลางเรียกผู้หญิงสองคนเข้ามา “พวกเธอดูแลคุณอลันให้ดีนะ”
อลันหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มหนึ่งอึก เห็นสีหน้ายิ้มแย้มของลี่หุย ก็กลอกตาใส่เขา รู้สึกไม่ชอบลี่หุยมากขึ้นกว่าเดิม
“ลี่หุยนี่มันโง่จริง ๆ ถูกฉันหลอกใช้ให้เป็นหมากตัวหนึ่งยังไม่รู้เรื่องอะไรอีก ยังเพ้อเจ้อคิดว่าจะได้เป็นผู้ครอบครองบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป เหอะ ฝันไปเถอะ”
ขณะที่ลี่หุยและลี่หยูนห่วนกำลังสนุกกันอยู่ที่คลับ ทางฝ่ายลี่จุนถิงได้ส่งคนไปเฝ้าจับตาดูคนของลี่หุย แล้วกลับมารายงานความเคลื่อนไหวในช่วงนี้ของลูกนอกสมรส
“ประธานลี่ครับ ช่วงนี้ลี่หุยมาทำงานเลิกงานตามปกติครับ ภายนอกไม่มีอะไรผิดปกติ แต่แอบทำอะไรอยู่บ่อย ๆ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ากำลังแอบทำอะไรอยู่กันแน่”
“แล้วก็ วันนี้ตอนค่ำลี่หุยและลี่หยูนห่วนอยู่ที่แม่น้ำเซนครับ ไม่รู้ว่าแอบวางแผนทำอะไรหรือแค่ไปเที่ยวเล่นสนุกเฉย ๆ”
คนคนนี้ไม่ได้เอาเรื่องของอลันรายงานลี่จุนถิง เพราะคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อนที่สำมะเลเทเมาด้วยกันเท่านั้น ไม่มีความจำเป็นที่ต้องรายงานลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงให้พวกเขาคอยเฝ้าจับตาดูต่อไป และให้จับตาดูอย่างใกล้ชิดมากขึ้น มีความคืบหน้ายังไงก็ให้รีบมารายงานด่วน
เพราะช่วงนี้บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปถูกแย่งงานไปไม่น้อย ลี่จุนถิงจึงรู้สึกว่าจะยอมปล่อยให้พวกเขาทำแบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว เลยให้ซู่จี้งยี้เอาโครงการที่ถูกแย่งไปมาให้เขาดู
เขาต้องการเลือกโครงการที่ค่อนข้างสำคัญมาสักจำนวนหนึ่งแล้วแย่งมันกลับมา ดังนั้นหลายวันมานี้ลี่จุนถิงจึงคอยไปเยี่ยมเยียนบริษัทต่าง ๆ อยู่ตลอด เพื่อเจรจาเงื่อนไขกับพวกเขา แล้วแย่งโครงการพวกนี้กลับมาทำ
กำจัดธุรกิจที่บริษัทเกลกรุ๊ปแย่งไป จากนั้นลี่จุนถิงก็แย่งงานของเกลกรุ๊ปมาจำนวนหนึ่ง ทั้งวงการธุรกิจต่างรู้ว่าทั้งสองบริษัทเริ่มแย่งธุรกิจกันแล้ว แต่ว่าพวกเขายังคงชื่นชอบบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมากกว่า
ยังไงซะบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปก็เป็นบริษัทชั้นนำของเมืองจิ่งเฉิงรวมถึงประเทศ S ด้วย มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ใหญ่สุดในประเทศ S และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในทุก ๆ ปี ความสามารถและวิธีการทำธุรกิจของประธานลี่จุนถิงก็เก่งกาจมาก อีกทั้งบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปเพิ่งได้โครงการที่ทำร่วมกับบริษัทแมกซ์เวลเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิคส์มาอีกด้วย
บริษัทเกลกรุ๊ปเป็นเพียงแค่บริษัทต่างชาติบริษัทหนึ่ง ถึงแม้จะมีอิทธิพลในต่างประเทศแต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีอิทธิพลในประเทศ S อีกทั้งบริษัทต่างชาติยังต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ยิ่งตอนนี้ควบคุมอย่างเข้มงวดมาก
และการขัดแย้งกันระหว่างสองบริษัท ทำให้คนที่ได้รับผลประโยชน์ก็คือบริษัทเหล่านี้นี่เอง ทั้งสองบริษัทแย่งโครงการกัน ฝ่ายไหนให้ผลประโยชน์มากกว่า ฝ่ายนั้นก็ได้โครงการไปทำ แต่ว่าบริษัทเล็ก ๆ เหล่านี้ก็ไม่กล้าเรียกร้องจนมากเกินไป
ซูซานกลับมาถึงประเทศประเทศเฉิน ก็พักผ่อนอยู่สองวัน แล้วไปเยี่ยมพ่อแม่ของอลันในวันหยุดสุดสัปดาห์
แต่ว่า เมื่อเธอมาถึงบ้านของอลัน คนรับใช้ก็บอกว่าพ่อแม่ของอลันอยู่ที่บริษัท ซูซานจึงรู้สึกสงสัยมาก
“เป็นไปไม่ได้ ปกติวันหยุดสุดสัปดาห์คุณลุงคุณป้าจะอยู่บ้านพักผ่อนหรือไม่ก็ออกไปเที่ยวละแวกนี้ ทำไมคราวนี้ถึงอยู่ที่บริษัทล่ะ?”
คนรับใช้เองก็ไม่ได้รู้อะไรมากนัก ทำให้ซูซานต้องไปหาพ่อแม่ของอลันที่บริษัทเอง
เมื่อซูซานมาถึงบริษัทเกลกรุ๊ป ก็รีบตรงไปยังห้องทำงานของพวกเขา หลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว พ่อแม่ของอลันก็ไม่มีเวลาสนใจเธอเท่าไหร่ ได้แต่ทักทายซูซานพอเป็นพิธี แล้วทำงานต่อ
ซูซานก็ไม่กล้าไปรบกวนพวกเขา จึงได้แต่อยู่ข้าง ๆ รอให้พวกเขาทำงานให้เสร็จ
ในที่สุดก็ถึงเวลาอาหารเที่ยง ซูซานคิดว่าพ่อแม่ของอลันจะหยุดพัก แต่พวกเขากลับสั่งอาหารง่าย ๆ มาทาน แล้วทำงานกันต่อ จนเมื่ออาหารมาส่ง พ่อแม่ของอลันถึงได้หยุดพักสักครู่
“ขอโทษด้วยนะ ซูซาน พวกเรางานยุ่งมากจริง ๆ ไม่มีเวลาพูดคุยกับเธอเลย”
แม่ของอลันเข้ามากอดซูซาน แล้วพูดกับเธอด้วยความรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้า ฉันเข้าใจ งานสำคัญที่สุดค่ะ อีกอย่างหนูก็ไม่ใช่คนนอก คุณป้าไม่ต้องเกรงใจหนูหรอกค่ะ”
“ไอหยา ที่จริงพวกเราก็ไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนี้”
ซูซานเห็นสีหน้าที่ดูเหนื่อยล้าของพ่อแม่อลัน ก็เอ่ยถามว่า
“คุณป้าคะ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? มีอะไรที่หนูพอจะช่วยได้ไหม”
“ไอหยา อย่าพูดถึงเลย ช่วงนี้ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับบริษัท ถึงได้ถูกบริษัทอื่นแย่งงานไปบ่อยมากเลย ทั้งที่ตอนแรกเจรจากันดิบดีแล้ว พอใกล้จะเซ็นสัญญา จู่ ๆ พวกเขาก็เปลี่ยนใจ”
ซูซานเอาอาหารมื้อเที่ยงมาวางให้พวกเขา แล้วยื่นอุปกรณ์ทานอาหารให้พวกเขา พ่อแม่ของอลันเห็นการกระทำของซูซาน ก็รู้สึกชื่นใจ ช่วยคลายความกลัดกลุ้มใจในช่วงสองสามวันนี้ลงไปได้
“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ล่ะคะ? เป็นการแข่งขันทางธุรกิจตามปกติหรือเปล่าคะ แต่เพียงแค่บังเอิญมาเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน”
“ไม่ใช่นะ พวกเราถามพวกบริษัทเหล่านั้นแล้ว พวกเขาบอกว่าเป็นบริษัทเดียวกันหมด อีกอย่างพวกเราก็ส่งคนไปสืบดูแล้ว บริษัทนั้นแย่งแต่งานของบริษัทพวกเราเท่านั้น”
ซูซานได้ยินแบบนี้ ก็นึกถึงลี่จุนถิงขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ ต่อให้บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมีอิทธิพลมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้มีบริษัทสาขาอยู่ในยุโรปนี่นา
ซูซานเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยพวกเขายังไงดี จึงได้แต่ปลอบใจพวกเขา
“แล้วทำไมคุณลุงคุณป้าไม่บอกหนูกับอลันล่ะคะ?”
“บอกไปแล้วได้อะไรขึ้นมา พวกเธอตั้งใจทำงานที่ประเทศ S ไปเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ ผ่านไปสักพักก็คงไม่มีอะไรแล้วล่ะ”
ซูซานรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้คงไม่ง่ายขนาดนั้น เมื่อออกมาจากบริษัทเกลกรุ๊ปก็ได้โทรศัพท์ไปหาอลันเพื่อบอกให้เขารู้
ทางด้านเจียงหยุนเอ๋อ หลังจากที่ถวนจื่อแข่งขันเสร็จแล้ว ก็พักผ่อนอยู่ที่บ้านตลอด เพื่อดูแลครรภ์ให้ดี อายุครรภ์ของเธอใกล้จะเจ็ดเดือนแล้ว อีกประมาณสองเดือนก็จะคลอดแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าไปไหนมาไหนนัก แม้แต่บริษัทก็ไม่ไปแล้ว
ถึงแม้ลี่จุนถิงยุ่งกับการแย่งธุรกิจจากบริษัทเกลกรุ๊ปทุกวัน แต่ทุก ๆ วันก็ยังคงเลิกงานตรงเวลา เพื่อกลับมาอยู่กับเจียงหยุนเอ๋อ
วันนี้เมื่อลี่จุนถิงเลิกงานกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นเจียงหยุนเอ๋อนั่งทำหน้ากลุ้มอยู่ที่โซฟา ถวนจื่อคอยเอาใจเธออยู่ข้าง ๆ แต่เธอก็ยังคงไม่สบายใจ
ลี่จุนถิงคิดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เลยรีบเข้าไปถาม
เจียงหยุนเอ๋อเห็นลี่จุนถิงกลับมา ก็ร้อง “หว่า” แล้วก็ร้องไห้ออกมา
“จุนถิง ฉันไม่สวยแล้ว นายดูท้องฉันสิ มีรอยแตกลายเต็มไปหมดเลย”
เจียงหยุนเอ๋อร้องไห้พลางเปิดเสื้อขึ้น เพื่อให้ลี่จุนถิงดูรอยแตกลายสีแดงทึบเหล่านั้นบนท้องของเธอ
พ่อบ้านยืนมองอยู่ข้าง ๆ ก็ทำตัวไม่ถูก ได้แต่ปิดเสื้อของเจียงหยุนเอ๋อลงมา แล้วพูดกับเธอว่า :
“คุณนาย ผมบอกคุณแล้ว ว่านี่คือรอยแตกลาย คนท้องเมื่อถึงช่วงเวลานี้ก็จะแตกลาย เพียงแค่คุณหมั่นทาน้ำมันมะกอกหรือพวกผลิตภัณฑ์ป้องกันรอยแตกลายอย่างสม่ำเสมอ รอยแตกลายพวกนี้ก็จะไม่แตกเยอะขึ้น หลังจากคลอดแล้วประมาณหกเดือน รอยพวกนี้ก็จะค่อย ๆ จางหายไป นี่เป็นร่องรอยของความเป็นแม่นะครับ”
ลี่จุนถิงกอดเจียงหยุนเอ๋อ ช่วยเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอ แล้วปลอบเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน