ตอนที่ 421 เจ้าไม่ต้องเคารพข้าหากเจ้าไม่รับมันไว้ (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 421 เจ้าไม่ต้องเคารพข้าหากเจ้าไม่รับมันไว้ (1)

“เฮ้ แตะเบาๆ… สหายเต๋า แตะเบาๆ”

บนภูเขาเซียนที่อยู่ตรงมุมของทะเลสาบ ร่างสองร่างกำลังเขย่งเท้าและย่องตอดตรงขึ้นไปที่ยอดเขา

ชายร่างใหญ่กำยำที่อยู่ข้างหน้าเขา ถอดเสื้อกันฝนของเขาออกแล้ว เสื้อแขนสั้นและกางเกงขายาวของเขาค่อนข้างเรียบ ทว่าพลังแกร่งกล้ามหาศาลที่เขาแผ่พุ่งออกมาโดยมิได้ตั้งใจนั้น ทำให้ผู้คนไม่กล้าดูเบาได้

นี่คือ ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีกลิ่นอายของพลังปราณม่วงหงเหมิง!

เบื้องหลังชายร่างใหญ่กำยำผู้นั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนชราของหลี่ฉางโซ่วก็ค่อยๆ ตามไปช้าๆ เขาได้เตรียมของขวัญแยกเอาไว้ต่างหากเพื่อมอบให้ต้าอวี่แล้ว

เมื่อแม่ทัพตงมู่เตรียมของขวัญ แน่นอนว่า เขาได้เตรียมของขวัญเอาไว้แปดชุด ไม่ว่าในเวลานี้ ศาลสวรรค์จะอัตคัดเพียงใด พวกเขาก็ยังต้องการใบหน้า จึงย่อมเป็นไปไม่ได้ที่เทพแห่งท้องทะเลจะนำของขวัญเพียงชิ้นเดียวมาเป็นของขวัญแสดงความเคารพต่อปราชญ์มนุษย์ทั้งแปด

ทว่าสถานการณ์ในยามนี้เกินความคาดหมายของหลี่ฉางโซ่วมากนัก…

เขาอยากถามคำถามบางอย่างกับผู้อาวุโสต้าอวี่จริงๆ

ว่าเหตุใดกัน?

เหตุใดท่านถึงต้องลากข้าเข้าไปในบ้านของท่านด้วย?

ทุกคนล้วนเข้าใจโดยปริยายและยิ้มน้อยๆ ให้กับในเรื่องแบบนี้ได้ แล้วอดีตก็ล่วงผ่านไปเอง ไม่จำเป็นต้องมีผิวหนาแข็งแรง…

หลังจากเดินผ่านอาคารสองสามหลังมาอย่างกังวล หลี่ฉางโซ่วก็ได้ติดตามจักรพรรดิต้าอวี่เข้าไปในค่ายกลใหญ่สองสามชั้น ครั้นเมื่อมาถึงยอดเขา พวกเขาทั้งสองก็ถอนหายใจโล่งอก

พวกเขามองหน้ากันและหัวเราะเสียงดัง แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอันใดเกิดขึ้นในตอนนี้

“เชิญเถิด!” ต้าอวี่ยกมือขึ้น เผยท่าทางแห่งจักรพรรดิผู้ทรงอำนาจ เขาผายมือและกล่าวว่า “บ้านที่ต่ำต้อยของข้านั้นเรียบง่าย โปรดอย่าได้รังเกียจเลย วันนี้พวกเราได้ร่วมผ่านปัญหาทุกข์ยากมาด้วยกัน เช่นนั้น พวกเราก็ควรจะเป็นสหายสนิท เป็นคนสนิทกัน!”

หลี่ฉางโซ่วเงียบงันทันที

เขากำลังพยายามจะปิดปากข้าหรือไม่?

หลี่ฉางโซ่วยิ้มขื่น ต่อให้ข้าจะกระโดดออกไปและร้องตะโกนบอกทุกคนว่า จักรพรรดิมนุษย์ต้าอวี่กลัวถูกภรรยาดุและร้องไห้ทุกวัน ย่อมไม่มีผู้ใดเชื่อข้าใช่หรือไม่

ยิ่งกว่านั้น เมื่อเทียบกับการนินทาของจักรพรรดิต้าอวี่แล้ว ผู้ฝึกบำเพ็ญมนุษย์ก็ห่วงเรื่องความปรารถนาสูง แค่กๆ และวิธีการบรรลุสู่ความเป็นอมตะและแสวงหาเต๋ามากกว่า!

“ผู้อาวุโส ไม่ต้องกังวล” หลี่ฉางโซ่วกล่าวเสียงต่ำว่า ““ผู้น้อยไม่เห็นหรือได้ยินอะไรเลยในระหว่างการเดินทางครั้งนี้ รู้เพียงว่า ท่านทรงพลังมหาศาลและรักภรรยาของท่านมาก ท่านเป็นแบบอย่างของบุรุษจริงๆ!”

ต้าอวี่ยิ้มและถอนหายใจทันทีพลางกล่าวว่า “ข้าแค่กลัว ไม่ต้องใช้ถ้อยคำสละสลวยมากนักหรอก ข้าเป็นหนี้นาง ย่อมสมควรแล้วที่ข้าจะให้ความรักต่อนางมากๆ”

หลังจากกล่าวเช่นนั้น ต้าอวี่ก็วางคันเบ็ดและตะกร้าปลาลง เขาแขวนเสื้อกันฝนฟางไว้ด้านข้างและบอกให้หลี่ฉางโซ่วรอที่โต๊ะหินใต้ต้นไม้

“ไม่ต้องสงวนท่าที ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ ในลานเล็กๆ แห่งนี้”

“ขอบคุณที่ท่านผู้อาวุโสให้การต้อนรับขอรับ” หลี่ฉางโซ่วประสานมือคารวะและนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่ด้านข้างอย่างว่าง่ายแล้วรอจักรพรรดิต้าอวี่ดื่มชาร่วมกับเขา

สำหรับหลี่ฉางโซ่วแล้ว การได้สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับจักรพรรดิต้าอวี่นั้น ย่อมประโยชน์เป็นประโยชน์ยิ่งและไม่มีอันตรายอย่างแน่นอน

ทว่าหลี่ฉางโซ่วก็เริ่มมองดูกองสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ในลานเล็กๆ แห่งนี้

ที่มุมด้านข้างมีแผ่นศิลา ข้างแผ่นศิลา มีแท่งเหล็กขึ้นสนิม และที่ข้างๆ นั้นก็มีขวานหิน ในคราแรก หลี่ฉางโซ่วไม่ได้สนใจมัน ครั้นเขาเพิ่งเห็นมันโดยบังเอิญ และเมื่อได้มองมันมากขึ้นอีกครั้ง เขาก็ไม่อาจละสายตาจากมันได้…

มีพลังบุญแข็งแกร่งมหาศาลอะไรปานนี้!

ความจริงแล้ว ในเวลานี้ แต่ละอย่างล้วนมีจำนวนบุญจากเครื่องสักการะเพิ่มขึ้นหลายเท่า! นอกจากนี้ยังเป็นบุญแห่งเต๋าสวรรค์ที่บริสุทธิ์ หรือว่านี่คือสมบัติวิญญาณบุญโฮ่วเทียนของจักรพรรดิต้าอวี่ ชุดผ่าภูเขาที่เขาเคยใช้เมื่อยามที่เขาดูแลแม่น้ำเพื่อควบคุมน้ำท่วม? เขาเพียงทิ้งมันไว้ในมุมเก็บฝุ่นเช่นนี้หรือ?

“หือ?”

ต้าอวี่ได้เปลี่ยนชุดเป็นสวมเสื้อคลุมยาวเดินออกมาจากบ้าน เขาเดินมาตามสายตาของหลี่ฉางโซ่วและยิ้ม จากนั้นก็แบมือออกไปแล้วคว้าแท่งเหล็กมา แล้วต้าอวี่ก็นำมันออกไปข้างหน้าและกล่าวว่า “ที่นี่!” ต้าอวี่หัวเราะลั่น “เพื่อปิดฝีปากเจ้า นี่คือไม้บรรทัดที่ข้าเคยใช้วัดระดับน้ำในสมัยนั้น มันไม่มีประโยชน์มากนัก ขนาดของมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ มันแข็งแรงและไม่พังง่ายๆ แน่นอนว่า ย่อมมีบุญส่วนหนึ่งอยู่ในนั้น วางของสิ่งนี้ไว้ที่บ้านก็ไม่เลวเลย มันรองรับคานหลังคาและค้ำกระโจมได้”

หลี่ฉางโซ่วถึงกับพูดไม่ออก

เข็มสงบเทพทะเล? เหตุใดเขาถึงใช้ของสิ่งนี้? เขาเป็นเทพแห่งท้องทะเลของศาลสวรรค์ เขาไม่อาจใช้รูปลักษณ์เซียนเฒ่าต่อสู้กับผู้อื่นด้วยแท่งไม้เรียวได้ใช่หรือไม่ ? หรือว่าหลังจากที่ข้าได้รับของสิ่งนี้ไปแล้ว ค่อยดึงเอาบุญของมันออกมา ปรับแต่งมันอีกครั้ง ลงสลักคำว่า ‘แท่งทองหรูอี้’ ลงไป แล้วส่งไปที่วังมังกรเพื่อเป็นเครื่องประดับสำหรับลิงตัวหนึ่งที่อาจเพียงปรากฏตัวออกมาในหลายหมื่นปีเท่านั้น?

ยิ่งกว่านั้น ภัยพิบัติในการเดินทางไปยังตะวันตกน่าจะเป็นแผนการของจอมปราชญ์และการต่อสู้ระหว่างสำนักใหญ่ เขาไม่กล้าแตะต้องเข็มสงบเทพทะเลจริงๆ!

ความจริงแล้ว ในตอนนี้ เขาขาดสมบัติ แต่เขาก็ไม่ต้องการรับสิ่งใดๆ

หลี่ฉางโซ่วจะไม่ยอมรับสิ่งของที่มาพร้อมกับกรรมใหญ่เช่นนี้อย่างแน่นอน “ไม่ ไม่ ข้าจะรับของขวัญชิ้นใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร!?!”

“ฮ่าๆๆๆ!” ต้าอวี่หัวเราะและกล่าวว่า “อย่าล้อข้าเล่นน่า เมื่อข้ามาที่ถ้ำเมฆไฟ ข้าก็ได้ละทิ้งทุกสิ่งที่ข้าสามารถฝากไว้ให้สหายร่วมเผ่าของข้าได้ ข้าเพียงนำสมบัติที่เจือด้วยบุญเหล่านี้มาเท่านั้น ตอนนี้ข้าฝึกบำเพ็ญสำเร็จแล้ว มีบุญไปก็ไร้ประโยชน์ เอาไปเถิด! เหตุใดกัน เจ้ายังอยากได้ขวานผ่าภูเขาของข้าหรือไม่? นั่นคืออาวุธของข้า ข้าไม่อาจให้สมบัติสังหารใดๆ ให้แก่เจ้าตามต้องการได้ ยิ่งกว่านั้น แท่งเหล็กและขวานผ่าภูเขานี้ ล้วนเป็นไท่ซ่างเหล่าจวินมอบให้ข้า มันเป็นโชคชะตาที่ข้าจะคืนพวกมันให้กับศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินในวันนี้ ”

ไฉนไม้เรียวนี้ถึงไม่ใช่สมบัติสังหาร?

ท่านกำลังดูถูกลิงอยู่หรือไม่?

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “ผู้อาวุโส ผู้น้อยมาที่นี่ในนามขององค์เง็กเซียน ย่อมไม่สะดวกที่จะรับสมบัติที่ท่านมอบให้ขอรับ”

“เฮ้ ที่นี่ ไม่มีจักรพรรดิมนุษย์หรือเสนาบดีแห่งศาลสวรรค์” ต้าอวี่โยนแท่งเหล็กขึ้นสนิมมาตรงหน้าหลี่ฉางโซ่วและกล่าวว่า “หากชอบก็เอาไปเลย หากไม่ ก็ไม่ต้องรับมันไป”

หลังจากกล่าวเช่นแล้ว ต้าอวี่ก็ยิ้มให้หลี่ฉางโซ่ว

หากเขาไม่รับค่าธรรมเนียมปิดปากนี้ เรื่องก็ย่อมไม่จบในวันนี้แน่… ทว่าต่อหน้าแท่งเหล็ก จริงๆ แล้ว เขา..

“ผู้อาวุโส ผู้น้อยขอเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่?”

หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดทันที และทันใดนั้นเขาก็มีวิธีจัดการเรื่องนี้

เมื่อต้าอวี่ได้ยินคำถามของหลี่ฉางโซ่ว เขาก็ตะลึงงันไปจริงๆ เขามองลงไปที่แท่งเหล็กในมือและสงสัยว่า “มีคำชี้แจงในเรื่องนี้หรือไม่” หลี่ฉางโซ่วจึงกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโส หากท่านอยากมอบของขวัญให้ผู้น้อย ผู้น้อยจะไม่ปฏิเสธ ทว่าโปรดอย่าให้สมบัติล้ำค่าที่ไท่ซ่างเหล่าจวินสร้างขึ้นมา มอบให้ผู้น้อย เมื่อผู้น้อยไปพบไท่ซ่างเหล่าจวินที่วังดุสิต เขาได้ถ่ายทอดเต๋าหลอมโอสถให้ผู้น้อย หาใช่สมบัติไม่ และหากไท่ซ่างเหล่าจวินเห็นของสิ่งนี้ ก็ย่อมจะคิดว่าผู้น้อยไม่พอใจอย่างแน่นอน…”

แม้เหตุผลนั้นช่างแสนไกล แต่ก็ไม่ใช่ยอมรับไม่ได้ ต้าอวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้ววางแท่งเหล็กไว้ข้างๆ เขารู้สึกขัดแย้งกันเล็กน้อย

จากนั้น ต้าอวี่ก็ตบต้นขาของเขาและกล่าวว่า “ข้าลืมสมบัตินั้นไปได้อย่างไรกัน? เจ้าคือเทพแห่งท้องทะเล ของสิ่งนั้นน่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้ามาก! รอเดี๋ยวนะ ข้าจะเข้าไปหาก่อน!”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและตกลงขณะที่ใจกระตุก

เมื่อจักรพรรดิต้าอวี่รีบไปที่ตัวบ้าน หลี่ฉางโซ่วก็จ้องมองไปที่แท่งเหล็กที่อยู่ใกล้เท้าของเขา

เขายกมือขึ้น คว้าแท่งเหล็ก แต่ก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างหนัก

โชคดีที่พลังเซียนในร่างของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นั้นเป็นพลังเซียนจินบริสุทธิ์ ก่อนที่จะกลายเป็นเซียนจิน ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วอาจต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อหยิบมันขึ้นมา หลี่ฉางโซ่วยกแท่งเหล็กขึ้นและเช็ดสนิมออก แล้วเห็นว่าสลักไว้ด้วยเส้นขีดระยะการวัดที่หนาแน่นอยู่ เขาก็เข้าใจอะไรบางอย่างกระจ่างขึ้น

เหตุผลที่แท่งนี้ไม่ได้ไปที่ทะเลบูรพา ก็อาจเป็นเพราะว่ายังไม่แปลงเป็นแท่งทองหรูอี้

พลังบุญมหาศาลอะไรเช่นนี้…

หลี่ฉางโซ่วไม่อาจได้บอกว่าเขาไม่ได้ถูกล่อลวง

นอกจากนี้ เขายังคิดว่า หากเขาเอาของออกไป เอาบุญไป หลอมมันใหม่ ขากนั้นก็วางไว้ในทะเลบูรพา แล้วขอให้วังมังกรทะเลบูรพาดูแลมัน และแท้จริงแล้ว ยังสามารถเติมเต็มจุดหมายปลายทางสุดท้ายของของสิ่งนี้ได้อีกด้วย

ทว่าหลี่ฉางโซ่วก็ปัดความคิดนั้นออกไป ตามหลักการที่เขาควรต้องหลีกเลี่ยงกรรมให้มากที่สุด

เพื่อความปลอดภัย ไม่ควรรับไปเลยจะดีกว่า

จากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ยืนขึ้นและวางแท่งเหล็กนั้นกลับเข้าไปในมุม

พื้นของลานเล็กๆ นี้ก็ถูกปกคลุมไปด้วยค่ายกลเช่นกัน ไม่เช่นนั้น มันย่อมไม่อาจรับน้ำหนักของแท่งเหล็กได้ หลี่ฉางโซ่วมองไปที่ขวานผ่าภูเขาที่เป็นสนิมและแผ่นศิลาบุญที่เกือบจะเลือนรางแล้ว เขาก็ถอนหายใจในใจ ในอดีตพระองค์เคยเป็นผู้ดูแลควบคุมน้ำและเป็นจักรพรรดิ สร้างรากฐานอาณาจักรของเก้ามณฑล

บัดนี้พระองค์มาอยู่ตามลำพังกับภรรยาอย่างสันโดษและเกราะสะสมบุญของเขาก็ถูกซ่อนเร้นเอาไว้จนขึ้นสนิม

ปราชญ์แห่งเผ่ามนุษย์เช่นพระองค์นี้ ควรค่าแก่การยกย่องสรรเสริญอย่างแท้จริง

………………………………………………………………..