บทที่ 584 ชอบคุณจังเลย

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

เวียร์รู้สึกเบิกบานใจมาก เขาสั่งเหล้าสาเกเหยือกเล็กมาหนึ่งเหยือก ดื่มเหล้ากับลี่จุนถิง แล้วพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเฮฮา

ทั้งสองคนพูดคุยกันตั้งแต่เรื่องวิถีชีวิตวัฒนธรรมไปจนถึงการพัฒนาเศรษฐกิจ เมื่อพูดถึงเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจก็คุยกันต่อถึงเรื่องธุรกิจ พูดคุยกันจนเพลินไปเลยทีเดียว

แต่ลี่จุนซินและเจียงหยุนเอ๋อที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ ก็กลอกตาใส่พวกเขา ลี่จุนซินฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว เลยพูดขัดขึ้นว่า :

“พวกนายนี่น่าเบื่อจังเลย อยู่ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงามอย่างนี้แล้วยังมัวแต่พูดเรื่องธุรกิจอะไรอยู่ได้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”

“พวกเราทานกันเสร็จแล้ว พวกนายค่อย ๆ ทานแล้วกัน ฉันกับเจียงหยุนเอ๋อจะพาถวนจื่อไปเดินเล่นที่ถนนโบราณสักหน่อย ในนั้นมีของสวย ๆ งาม ๆ ขายอีกเยอะแยะ”

“ฉันยังได้ยินมาว่าถ้าโชคดี อาจได้เจอกับของโบราณล้ำค่าอีกด้วย ดังนั้นพวกเราจะไปเดิยหาซื้อของมีค่าหน่อย”

เจียงหยุนเอ๋อก็ชะโงกหน้าพูดกับพวกเขาด้วยท่าทางดูลึกลับ

ลี่จุนถิงและเวียร์เห็นว่าถนนเส้นนี้ไม่ได้ไกลนัก เลยไม่ได้ตามทั้งสองคนไปด้วย แต่ลี่จุนถิงก็ได้กำชับเจียงหยุนเอ๋อไว้ว่า

“หยุนเอ๋อ เธอต้องคอยพักด้วยนะ เดินสักพักก็หยุดพักผ่อนหน่อย ไม่อย่างนั้นจะเป็นอันตรายได้”

“ไอหยา ฉันรู้แล้วน่า ฉันเหนื่อยแล้วจะพักผ่อนนะ ฉันรู้สภาพร่างกายของฉันดี นายไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก”

ลี่จุนถิงเห็นเจียงหยุนเอ๋อรับปากตัวเองแบบขอไปที เลยหันไปพูดกับถวนจื่อว่า :

“ถวนจื่อ เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ต้องดูแลหม่ามี้ให้ดีรู้ไหม ต้องให้หม่ามี้พักผ่อนด้วยนะ”

ถวนจื่อตบหน้าอกตัวเอง แล้วรับปากว่า :

“ไม่มีปัญหาครับ แด๊ดดี้ ผมจะดูแลหม่ามี้และน้องสาวเป็นอย่างดีเลยครับ”

จากนั้นก็ได้จูงมือเจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนซินออกไปอย่างอดใจรอไม่ไหวแล้ว ถวนจื่อเองก็คาดหวังที่จะได้ซื้อของเช่นกัน

หลังจากเจียงหยุนเอ๋อออกมาแล้ว ก็ยังคงบ่นลี่จุนถิงไม่หยุด

“ไอหยา พี่ดูสิ ตอนนี้จุนถิงบ่นปากเปียกปากแฉะมากเลย เหมือนกับคนแก่ไม่มีผิด”

ลี่จุนซินเห็นหน้ายิ้ม ๆ ของเจียงหยุนเอ๋อ ก็รู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อแค่บ่นพึมพำไปอย่างนั้นแหละ

“เธอเนี่ยนะ ไม่รู้จักพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ เธอเคยเห็นลี่จุนถิงบ่นใครแบบนี้บ้างล่ะ แม้แต่แม่และพี่สาวแท้ ๆ ของเขา เขายังไม่เคยใส่ใจอย่างนี้เลย ฉันว่าเธอกำลังโอ้อวดฉันมากกว่า”

“ไม่ใช่นะคะ พี่ ฉันเปล่าน้า~”

“เอาเถอะ ฉันรู้น่า ฉันแค่แกล้งเธอเท่านั้น อย่ารีบเดินอย่างนั้นสิ ตอนค่ำกลับไปขาเธอจะได้ไม่บวมขึ้นมา ไม่งั้นจุนถิงก็ได้โทษฉันว่าดูแลเธอไม่ดีอีกหรอก”

ทั้งสองคนเดินคุยกันเรื่อยเปื่อยจนไม่นานก็มาถึงถนนโบราณ

ฟู้ชูเหม่ยคอยแอบตามดูอยู่ตลอด เมื่อเธอเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนซินพาถวนจื่อออกไปตามลำพัง ก็คิดว่านี่เป็นโอกาสดี จึงรีบตามไป

ร้านค้าในถนนโบราณมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่ไม่ใช่ว่าทั้งหมดจะเป็นร้านขายของ ระหว่างร้านค้าหลายร้านติดกันตรงกลางจะมีบ้านโบราณหรือไม่ก็มีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม ซึ่งสามารถช้อปปิ้งและเที่ยวชมได้ไปในตัว

เจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนซินพาถวนจื่อเข้าไปเดินเที่ยวทีละร้าน พบว่าร้านแต่ละร้านไม่ขายของซ้ำกันเลย และมีของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่สวยงามเยอะแยะไปหมด ตระการตาเหลือเกิน เลือกซื้อกันจนเจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนซินตาลายเลยทีเดียว

โดยเฉพาะเมื่อมาถึงร้านขายเครื่องสำอาง ทั้งคู่ก็แทบไม่ขยับไปไหนกันเลย จึงได้ถือโอกาสที่เลือกซื้อของพักผ่อนไปในตัว

พนักงานในร้านเห็นทั้งสองคนที่ถึงแม้แต่งตัวธรรมดา ๆ แต่ปกติได้อ่านนิตยสารแฟชั่นอยู่บ่อย ๆ ก็จะรู้ได้ว่า ที่พวกเธอใส่นั้นล้วนเป็นคอลเลคชั่นใหม่ทั้งนั้น แม้แต่เด็กที่พามาด้วยก็ยังสวมชุดธรรมดา ๆ ที่ราคาแพง

พนักงานเห็นว่าลูกค้ารายใหญ่มาแล้ว ก็ไม่รีรอ รีบเอาเก้าอี้มาให้นั่งรินน้ำมาให้ดื่ม แม้แต่ถวนจื่อก็มีคนคอยเล่นอยู่กับเขา พวกเขาทั้งสามคนสบตากันแล้วยิ้มโดยไม่พูดอะไร ต่างก็พอใจที่ได้รับบริการจากพนักงาน

ฟู้ชูเหม่ยที่อยู่ด้านนอกเห็นท่าทางของพวกเธอ ก็ยิ่งอิจฉาตาร้อน สายตาที่มองไปยังเจียงหยุนเอ๋อยิ่งดูอำมหิตมากขึ้นไปอีก

แม้ว่าพนักงานร้านนี้จะเอาใจใส่ดีมาก แต่ร้านเครื่องสำอางแห่งนี้ก็เป็นร้านเก่าแก่อายุกว่าร้อยปีแล้ว ร้านแห่งนี้เป็นร้านเครื่องสำอางแห่งแรกของประเทศจีน ซึ่งย้อนไปยังช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิเต้ากวังแห่งราชวงศ์ชิง แป้งทาหน้าที่ผลิตออกมานั้นมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยรูปลักษณ์ที่คล้ายกับไข่เป็ด โดยทำถวายให้กับราชสำนักชิง ซึ่งใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ย้อมสีจากดอกไม้สด ผ่านกระบวนการใส่สารหอมเพื่อให้คงความหอม มีลักษณะเด่นคือเบา มีสีแดง สีขาว และมีกลิ่นหอม

หลังใช้ผิวหน้าก็จะขาว ๆ แดง ๆ สีขาวและแดงตัดกัน ทำให้ใบหน้าดูงดงาม และปกปิดรอยด่างดำ รวมถึงลบเลือนริ้วรอยด้วย

เจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนซินฟังพนักงานแนะนำแล้วก็รู้สึกถูกใจ และร้านแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแป้งหอมเท่านั้น ยังมีผลิตภัณฑ์ความหอมอีกมากมายที่ทางร้านคิดค้นและผลิตขึ้นมาเอง ผู้ชายก็สามารถใช้ได้

ทั้งสองคนเลือกของในร้านอยู่นาน ในที่สุดก็เลือกได้สักที เจียงหยุนเอ๋อเลือกถุงหอมแบบเดียวกันให้ตัวเอง ถวนจื่อและลี่จุนถิง สามารถพกพาติดตัวได้ตลอดเวลาหรือวางไว้ในห้องก็ได้ และซื้อกระดานธูปให้ลี่จุนถิงหนึ่งชิ้น สามารถใส่ไว้ที่นิ้วโป้งแล้วสูดดมได้ นอกจากนั้นเธอได้ซื้อแป้งหอมและลูกประคำหอมอย่างละชิ้นให้โม่เสี่ยวฮุ่ยและซูม่านลีอีกด้วย

ลี่จุนซินก็ซื้อกระดานธูปให้กับเวียร์หนึ่งชิ้นเช่นกัน

แน่นอนว่า ในฐานะผู้หญิงที่รักสวยรักงาม เธอทั้งสองคนได้ซื้อแป้งหอมให้ตัวเองด้วยคนละหนึ่งชุด นับตั้งแต่ที่ทั้งสองคนเข้ามาในร้านจนออกไปจากร้านนี้ เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าเลยทีเดียว

ฟู้ชูเหม่ยยืนตากแดดอยู่ด้านนอกหนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว และด้านนอกก็ไม่มีร้านกาแฟหรือร้านอะไรที่พอจะนั่งพักได้อีกด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พักผ่อนเลย ทำให้ฟู้ชูเหม่ยโกรธจนแทบอยากจะซัดเจียงหยุนเอ๋อสักหมัด

ทั้งสามคนเดินช้อปปิ้งกันต่อ ระหว่างทางได้เจอกับช่างทำงานฝีมือที่ทำน้ำตาลปั้น ว่าว และโคมไฟด้วย ถวนจื่อรู้สึกชื่นชอบมากเลยทีเดียว เจียงหยุนเอ๋อเห็นท่าทางไร้เดียงสาของถวนจื่อ ก็ซื้อให้เขาทุกอย่าง

ลี่จุนซินเจอร้านขายหยก ก็ลากเจียงหยุนเอ๋อและถวนจื่อเข้าไปเลือกหยกในร้าน และได้กระซิบกระซาบกับเจียงหยุนเอ๋อว่า :

“หยุนเอ๋อ พวกเราเข้าไปดูกันเถอะ ดูสิว่าจะได้เจอกับของล้ำค่าหรือเปล่า”

ถึงแม้บนเคาน์เตอร์จะมีหยกสวย ๆ วางอยู่เต็มไปหมด แต่เมื่อดูอย่างละเอียดแล้ว ต่างก็มีรอยตำหนิทั้งนั้น และดูปุ๊บก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่สินค้ามีคุณภาพเท่าไหร่ ทำให้ลี่จุนซินรู้สึกผิดหวังมาก

เจ้าของร้านเห็นการแต่งตัวของลี่จุนซินและเจียงหยุนเอ๋อก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นคนรวย อีกทั้งใบหน้าลี่จุนซินแสดงออกว่าผิดหวังอย่างชัดเจน จึงได้เชิญทั้งสามคนเข้าไปในห้องด้านในร้าน เมื่อลี่จุนซินเข้าไปในร้าน ก็ตาลุกวาวขึ้นมาทันที

ลี่จุนซินชี้ไม้ชี้มือไปที่เจ้าของร้าน เธอส่ายหน้า แล้วยิ้มพลางเอ่ยพูดว่า :

“เถ้าแก่ คุณนี่ใช้ได้เลยนะเนี่ย ที่แท้ของล้ำค่าก็อยู่ด้านในนี่เอง”

สุดท้าย เจียงหยุนเอ๋อก็ถูกใจหยกชิ้นหนึ่ง ตั้งใจจะซื้อกลับไปแล้วแกะสลักด้วยตัวเอง เพื่อมอบให้ลี่จุนถิง

ลี่จุนซินก็ถูกใจหลายชิ้นเลยทีเดียว จึงซื้อทั้งหมดเลยละกัน มอบให้คนในครอบครัวคนละชิ้นพอดี แล้วก็มีของเวียร์อีกหนึ่งชิ้นด้วย เจ้าของร้านเห็นพวกเธอซื้อกันเยอะขนาดนี้ ก็ดีใจสุด ๆ ไปเลย

ถวนจื่อก็ถูกใจหยกชิ้นหนึ่งเช่นกัน ดู ๆ ไปแล้วก็ไม่มีอะไรพิเศษ เพียงแต่มีลวดลายที่สวยงามอยู่บนนั้น

“หม่ามี้ครับ ผมอยากได้หยกชิ้นนี้ ผมอยากเอากลับไปแกะสลักเป็นกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง จากนั้นรอให้น้องสาวหรือน้องชายที่อยู่ในท้องคลอดออกมา ผมจะมอบให้เขาเป็นของขวัญ ผมอยากให้ของขวัญชิ้นแรกที่เขาได้รับเป็นของขวัญที่ผมมอบให้”

“ไอหยา ถวนจื่อ ช่างฉลาดเข้าใจอะไรดีซะเหลือเกิน ป้าชอบหนูจังเลย”

ลี่จุนซินได้ยินถวนจื่อพูดอย่างนี้ ก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก เลยนั่งยอง ๆ ลงไปจับหน้าของถวนจื่อมาจุ๊บหนึ่งที

เจียงหยุนเอ๋อก็ลูบหัวถวนจื่อด้วยความปลาบปลื้มใจ