ตอนที่ 1095 ใบผ่านทางของคนต่ำช้า (5) ตอนที่ 1096 การแสดงกำลังจะเริ่ม (1)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1095 ใบผ่านทางของคนต่ำช้า (5) / ตอนที่ 1096 การแสดงกำลังจะเริ่ม (1)
ตอนที่ 1095 ใบผ่านทางของคนต่ำช้า (5)

ด้วยการนำทางของเยี่ยซา เฉียวฉู่กับฮวาเหยาจึงมาถึงโรงเตี๊ยมที่จวินอู๋เสียพักอยู่

เมื่อเฉียวฉู่ผลักประตูเข้าไป สีหน้าของเขายังคงเจือความไม่พอใจคนทรยศจากเมืองพันอสูรอยู่เล็กน้อย ทว่าทันทีที่ประตูเปิดออกและเขาได้เห็นคนที่อยู่ในห้อง เขาก็ตะลึงตาค้าง

จวินอู๋เย่านั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างหน้าต่าง แสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาอาบไล้ร่างของเขา เขายกมือขึ้นเท้าคางมองจวินอู๋เสียพร้อมกับยิ้มบางๆ ภาพนั้นงดงามราวกับภาพวาด

วินาทีที่เฉียวฉู่เห็นจวินอู๋เย่า ในหัวสมองของเขาก็เบลอทันที

“พี่…พี่ใหญ่อู๋เย่า…”

จวินอู๋เย่าเงยหน้าขึ้นมองเฉียวฉู่และฮวาเหยาที่ยืนอยู่ตรงประตูแล้วยิ้มให้พวกเขา

“ท่านกลับมาแล้ว” เฉียวฉู่พูดพร้อมกับเกาหัว เขาไม่คิดว่าจะเจอจวินอู๋เย่าที่นี่ เขาเป็นห่วงว่าจวินอู๋เสียจะเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่พอเขาเห็นจวินอู๋เย่า เขาก็รู้สึกโล่งอกทันที

มีจวินอู๋เย่าอยู่ด้วยแบบนี้ เขาจะไม่ยอมให้จวินอู๋เสียต้องทนทุกข์กับความอยุติธรรมใดๆ อย่างแน่นอน

“ใช่” จวินอู๋เย่าพูดยิ้มๆ

ฮวาเหยามองเฉียวฉู่ที่ยืนโง่ๆ คาประตูอยู่แล้วก็ยกเท้าเตะเฉียวฉู่ให้เข้าไปข้างใน

เฉียวฉู่แทบจะล้มกลิ้งลงกับพื้น เขาหันหน้าไปมองฮวาเหยาอย่างเคืองๆ แต่ฮวาเหยาไม่ปรายตามองเขาเลยสักนิด กลับหันไปหาจวินอู๋เสียแทน

“เกิดอะไรขึ้น” ฮวาเหยาขมวดคิ้วถาม

จวินอู๋เสียเงยหน้าขี้นมองแล้วถามว่า “พวกเจ้าไปที่ตึกเพลิงพิโรธมาหรือ”

“ใช่” ฮวาเหยาพยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็น่าจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น” จวินอู๋เสียไม่ได้ไปที่ตึกเพลิงพิโรธอีกตั้งแต่วันนั้น แต่นางยังจำได้ว่านางเคยพูดอะไรกับเฉียวฉู่และคนอื่นๆ เมื่อเฉียวฉู่กับคนอื่นๆ พบสถานที่ที่คนพวกนั้นถูกขังอยู่ พวกเขาจะไปที่ตึกเพลิงพิโรธเพื่อบอกให้นางรู้ ดังนั้นจวินอู๋เสียจึงให้เยี่ยซาคอยเฝ้าดูที่ตึกเพลิงพิโรธ และเมื่อเขาเห็นเฉียวฉู่กับฮวาเหยาออกมาจากตึกเพลิงพิโรธ เขาก็พาทั้งสองคนมาที่นี่

สีหน้าของเฉียวฉู่ตอนที่ผลักประตูเข้ามาก็เพียงพอจะบอกให้จวินอู๋เสียรู้แล้ว

ทำให้เฉียวฉู่ไม่พอใจได้แบบนั้น สยงป้ากับคนของเขาคงบอกเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เขารู้แล้ว

“เมืองพันอสูรมันบัดซบสิ้นดี! ถ้ารู้แต่แรก เราคงไม่ตกลงจะช่วยพวกเขาแล้วปล่อยให้พวกนั้นไปเผชิญหายนะเอาเอง” พอเฉียวฉู่นึกถึงสิ่งที่ได้ยินมาเมื่อครู่ ไฟโทสะก็ถูกจุดขึ้นอีก

จวินอู๋เสียไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นอยู่แล้ว ถึงนางจะมีนิสัยเย็นชา แต่นางก็ไม่เคยทำใครก่อน ตราบใดที่ไม่ไปแหย่เกล็ดย้อนของนางเข้า นางก็แทบจะไม่ทำใครอย่างโหดร้ายเลย เรื่องของเมืองพันอสูรนี่สยงป้ากับคนอื่นๆ ก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อนแท้ แล้วตอนนี้พวกเขาก็โดนคนทรยศกัดเอา ต่อให้เป็นนักบุญก็ทนพวกทรยศตีสองหน้าแบบนี้ไม่ได้หรอก!

จวินอู๋เสียมองเฉียวฉู่ที่กำลังเดือดด้วยสายตาสงบนิ่ง

ฮวาเหยามองไปทั่วห้อง เขาเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนถามขึ้นว่า “ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะอยู่ไหนเล่า”

คำพูดของฮวาเหยาทำให้เฉียวฉู่ชะงักไปอย่างประหลาดใจ ตอนที่พวกเขาอยู่ที่ตึกเพลิงพิโรธ สยงป้าบอกว่าชวีซินรุ่ยเล็งสัตว์วิญญาณของจวินอู๋เสียเอาไว้ แต่พวกเขาคิดว่าด้วยไหวพริบของจวินอู๋เสีย นางจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น แต่ตอนนี้พวกเขาไม่เห็นวี่แววของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะในห้องเลย เฉียวฉู่ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที

จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นมองไปยังพระจันทร์นอกหน้าต่าง นางพูดด้วยเสียงสงบนิ่งว่า “อยู่ในมือของชวีซินรุ่ย”

เฉียวฉู่เบิกตากว้างอย่างตกใจ สีหน้าเหลือเชื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย

ตอนที่ 1096 การแสดงกำลังจะเริ่ม (1)

จวินอู๋เสียมองสีหน้าตกใจของเฉียวฉู่นิ่ง

“บัดซบ…อย่างนั้นเราก็ไปทรมานยัยแก่นั่นให้ตายเลย!” เฉียวฉู่พูดพร้อมกับลูบหมัดเตรียมจะก่อพายุลูกใหญ่ ถ้าพวกเขารู้ว่าจวินอู๋เสียจะต้องเจอเรื่องเช่นนี้ในเมืองพันอสูร ถึงตายพวกเขาก็ไม่ปล่อยให้จวินอู๋เสียมาที่นี่คนเดียวหรอก

“ไม่ต้องรีบ” จวินอู๋เสียพูดพลางส่ายหน้า นางหันไปทางฮวาเหยาแล้วพูดว่า “พวกเจ้าเจอสถานที่ที่คนพวกนั้นถูกขังแล้วหรือ”

ฮวาเหยาพยักหน้า “พวกเขาถูกขังอยู่ไม่ไกลมากนักหรอก มันเป็นคุกใต้ดินน่ะ คนที่เฝ้าอยู่ก็ไม่ได้เก่งกาจมาก แต่เพราะนักโทษส่วนใหญ่เป็นสตรีอ่อนแอไร้ทางสู้ พวกนางก็เลยขัดขืนไม่ได้”

คนที่ชวีซินรุ่ยส่งไปเฝ้าที่นั่นก็ไม่ได้ระวังตัวอะไรมากนัก คงเป็นเพราะผ่านมาหลายปีแล้วก็ยังไม่เคยมีใครกล้าต่อต้านพวกเขา ทำให้พวกเขาชะล่าใจและลดการระวังตัวลง

จวินอู๋เสียพยักหน้า

เฉียวฉู่ทำตาโต “ไอ้เจ้าเมืองสารเลวนั่นทรยศเจ้าขนาดนี้แล้ว ยังคิดจะช่วยคนของมันอีกหรือ เจ้าบ้าไปแล้วหรืออย่างไร”

เฉียวฉู่คิดว่าหลังจากที่ชวีเหวินเฮ่าทำผิดถึงขนาดนั้น การที่จวินอู๋เสียไม่ฆ่าเขาก็เป็นความเมตตาอย่างมากแล้ว นี่ยังจะช่วยสตรีเมืองพันอสูรที่ถูกจับตัวไปพวกนั้นอีก เป็นสิ่งที่คิดไม่ถึงจริงๆ

“ข้าไม่ได้ทำเพื่อเมืองพันอสูร” จวินอู๋เสียพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ข้าย่อมมีเหตุผลของตัวเองที่ทำเช่นนี้”

การร่วมมือกับเมืองพันอสูรจบสิ้นลงแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างที่นางทำก็เพื่อให้ได้แผนที่มาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เท่านั้น

“แผนการมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าชวีเหวินเฮ่ากับคนของเขาอยากทำอะไร ข้าก็จะทำตามแผนของข้าต่อไป เมื่อเราร่วมมือกันต่อไปไม่ได้ ข้าก็จะทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวไปตามแผนการของข้า” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับหรี่ตาลง

เฉียวฉู่ประหลาดใจมาก เขาถามขึ้นว่า “เจ้าคิดจะทำอะไรอย่างนั้นหรือ”

จวินอู๋เสียตอบว่า “เอาแผนที่มา ชิงใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะคืน แล้วส่งชวีซินรุ่ย…ไปลงนรก”

“ตอนนี้เฟยเยียนกับคนอื่นอยู่ที่ไหน” จวินอู๋เสียถาม

“เฝ้าที่นั่นอยู่ เผื่อมีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้น” ฮวาเหยาพูด

“บอกพวกเขาให้ลงมือเร็วที่สุด ข้าอยากผลักชวีซินรุ่ยลงนรกไปทีละนิด” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับยิ้มเย็น ตอนแรกนางแค่อยากได้แผนที่เท่านั้น แต่ในเมื่อชวีซินรุ่ยเลือกเอาตัวใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะไป นางก็จะไม่ใจดีด้วยอีก

“ได้เลย!”

คุยจบจวินอู๋เสียก็บอกให้ฮวาเหยากับเฉียวฉู่ไปพักผ่อนกันก่อน แต่เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองพันอสูร ทั้งสองคนจึงไม่ยอมพักและใช้ความมืดตอนกลางคืนแอบย่องออกจากเมืองไปเพื่อนำข่าวไปบอกพรรคพวกคนอื่นๆ

จวินอู๋เสียมองท้องฟ้ายามค่ำคืนและความมืดที่ครอบคลุมเมืองพันอสูรด้วยแววตาเย็นเยียบ

……

ตอนต้นเดือนตัวประกันกลุ่มใหม่จะถูกส่งกลับเข้ามาในเมืองเพื่อพบกับครอบครัวอีกครั้ง เช้าตรู่ที่สดใสวันนี้ ผู้คนพากันมารวมตัวที่ประตูเมืองพันอสูร ต่างเฝ้าคอยอย่างคาดหวังว่าในจำนวนคนที่ได้กลับมาครั้งนี้จะมีคนในครอบครัวของพวกเขาหรือเปล่า

ในหอเมฆาสวรรค์ ชวีซินรุ่ยนั่งอยู่หน้าโต๊ะแต่งตัวของนางด้วยความร้อนรนไม่สบายใจ การเปลี่ยนสภาพลามไปทั่วแขนขวาแล้ว ผิวหนังที่เคยเรียบเนียนตอนนี้เหี่ยวย่นเหมือนเป็นคนแก่ เมื่อก่อนมันมีขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้น แต่ตอนนี้มันลามไปทั่วทั้งแขนและกำลังเข้าสู่ไหล่ของนางอย่างช้าๆ

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เสิ่นฉือ! เจ้าสังเวยเสร็จไปแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมข้าถึงไม่รู้สึกอะไรเลย” ชวีซินรุ่ยถามอย่างฉุนเฉียวพร้อมกับปากระจกทองแดงลงบนพื้น