ตอนที่ 1103 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (5) / ตอนที่ 1104 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (6)
ตอนที่ 1103 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (5)
ชวีซินรุ่ยเงยหน้าขึ้นมอง
ที่บนกำแพงประตูเมืองพันอสูร มีร่างเล็กๆ ยืนต้านลมอยู่อย่างสง่างาม
สายตานั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ผมสีดำสนิทสะบัดพลิ้วอยู่ด้านหลัง ร่างเล็กๆ เช่นนั้นกลับสร้างความหวาดกลัวขึ้นในใจของผู้คน
“จวินเสีย!” ชวีซินรุ่ยมองจวินอู๋เสียที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองอย่างตกใจเล็กน้อย
นางรอให้จวินอู๋เสียปรากฏตัวอยู่หลายวัน ไม่คิดเลยว่าจู่ๆ จวินอู๋เสียจะมาปรากฏตัวตรงหน้านางเอาตอนวุ่นวายแบบนี้!
สยงป้าประหลาดใจมากที่เห็นจวินอู๋เสีย เขาอยากพูดอะไรบางอย่างแต่ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าคู่ควรที่จะเรียกอีกฝ่าย เขาได้แต่ยืนกำหมัดแน่นด้วยความละอายใจ
สายตาเย็นชาของจวินอู๋เสียมองไปที่ชวีซินรุ่ยและไม่ได้มองไปที่คนอื่นเลย
“บังเอิญจังที่เจ้ามาเอาตอนนี้ ข้านึกว่าเจ้าไม่อยากได้สัตว์วิญญาณของเจ้าแล้วเสียอีก” ชวีซินรุ่ยพูดพลางหัวเราะ เห็นจวินอู๋เสียปรากฏตัวขึ้นแบบนี้นางไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย กลับมีแต่ความดีใจ การเสียเมืองพันอสูรไปไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกแล้ว ตราบใดที่นางยังมีเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังรัฐเหยียน นางก็จะสามารถสั่งการกองกำลังที่แข็งแกร่งกว่ามากได้!
“วางใจเถอะ สัตว์วิญญาณของเจ้ายังอยู่กับข้า ข้าดูแลมันเป็นอย่างดี ไม่ปล่อยให้มันเป็นอะไรไปแน่” ชวีซินรุ่ยพูดยิ้มๆ จากนั้นก็เบนสายตาไปมองชาวเมืองพันอสูรแล้วพูดว่า “แต่วันนี้ยังไม่เหมาะที่เราจะคุยกัน คุณชายจวินรอข้าจัดการพวกสุนัขเลี้ยงไม่เชื่องพวกนี้ก่อน แล้วเราค่อยมานั่งคุยกันยาวๆ จะได้มีเวลาคุยกันอย่างเหลือเฟือ”
“น่าเสียดาย แต่ข้าไม่อยากเสียเวลากับสตรีน่ารังเกียจ” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา
รอยยิ้มบนใบหน้าของชวีซินรุ่ยหายวับไปทันที นางหรี่ตาลงอย่างไม่พอใจ
“จวินเสีย ข้าปฏิบัติกับเจ้าอย่างดี จะดีกว่าหากเจ้าจะรู้ที่ทางของตัวเอง เจ้าเป็นฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนแล้วอย่างไร อย่าลืมว่าตอนนี้เจ้าอยู่ในเมืองพันอสูร! ไม่ได้มีกองทหารอยู่ด้วย! ถ้าเจ้ายังไม่รู้ว่าอะไรดีกับตัวเองและทำให้ข้าโกรธไปมากกว่านี้ ข้าจะไม่เมตตาเจ้าอีก หรือเจ้าจะบอกข้าว่า…”
ชวีซินรุ่ยเหลือบมองไปที่ชวีเหวินเฮ่า
“เจ้าจะเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่นกัน”
จวินอู๋เสียพูดว่า “ข้าจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”
ชวีซินรุ่ยหัวเราะเสียงดังทันที “จวินเสีย เจ้าซื่อเกินไปแล้ว เมืองพันอสูรทำกับเจ้าไว้อย่างไร อย่าลืมสิว่าชวีเหวินเฮ่าเป็นคนส่งสัตว์วิญญาณของเจ้ามาให้ข้าด้วยตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ข้าจะไปบังคับให้สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติมาอยู่ข้างกายข้าได้อย่างไร”
คำพูดของชวีซินรุ่ยทำให้ชาวเมืองพากันอ้าปากค้างอย่างตกใจ มีคนไม่มากนักที่เคยเห็นจวินอู๋เสีย แต่พวกเขาเคยได้ยินว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติปรากฏตัวขึ้นที่ลานประลองสัตว์วิญญาณ และไม่ได้คิดว่าเด็กหนุ่มคนนั้นคือจวินอู๋เสีย แต่ที่พวกเขาตกใจก็คือเจ้าเมืองของพวกเขาได้ขโมยสัตว์วิญญาณไปจากจวินอู๋เสียและส่งมันให้แก่ชวีซินรุ่ย!
ไม่มีวี่แววความโกรธอยู่ในดวงตาของจวินอู๋เสียเลย นางยังคงมองชวีซินรุ่ยด้วยสายตาสงบนิ่งเย็นชา
เมื่อชวีซินรุ่ยเห็นว่าจวินอู๋เสียไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย นางก็กัดฟันแล้วพูดว่า “อย่าบอกนะว่าที่เจ้าพยายามช่วยเมืองพันอสูร ลืมความอยุติธรรมที่พวกเขาทำกับเจ้า ทั้งหมดนั่นก็เพื่อชวีหลิงเย่ว์ เช่นนั้นก็น่าเสียดายมาก สาวน้อยบริสุทธิ์ไร้มลทินในใจเจ้าตอนนี้ได้กลายเป็นรองเท้าเก่าๆ พังๆ ที่ถูกใช้งานแล้ว เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมชวีเหวินเฮ่าถึงยอมทำทุกอย่างตามที่ข้าสั่ง ถึงขนาดที่ยอมใช้ขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณเพื่อเอาสัตว์วิญญาณของเจ้ามาให้ข้า”
ชวีซินรุ่ยหรี่ตาลง ดวงตาของนางทอประกายชั่วร้ายน่ากลัว
“เพราะข้าให้เขาได้เห็นกับตาตัวเองว่าบุตรีที่รักของเขาถูกบุรุษทั้งกลุ่มทำให้แปดเปื้อนอย่างไรบ้างอย่างไรเล่า! ฮ่าๆๆ!”
ตอนที่ 1104 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (6)
“ฮ่าๆๆ! ข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่รู้ ตอนที่ข้าจับเด็กนั่นมา ในใจนางคิดถึงแต่เจ้า! ตอนที่นางถูกย่ำยี นางก็เอาร้องไห้เรียกชื่อเจ้า! ฮ่าๆ น่าสงสารนะ ไม่มีใครมาช่วยนางเลย” สีหน้าของชวีซินรุ่ยบิดเบี้ยวและเจือความบ้าคลั่งอยู่นิดๆ นางมองจวินอู๋เสียอย่างน่ากลัวพร้อมกับรู้สึกเจ็บและเสียใจอย่างไม่มีเหตุผล
“อย่าโทษข้าที่ใจร้ายเลย ใครให้เจ้าใจดำปฏิเสธข้าแล้วไปอี๋อ๋อกับนังแพศยานั่น เมื่อข้าไม่ได้ คนอื่นก็อย่าหวังจะได้”
ดูเหมือนชวีซินรุ่ยอยากให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ได้รู้ว่าชวีหลิงเย่ว์ต้องเจอกับอะไร เสียงของนางดังไปถึงนอกประตูเมืองพันอสูร
ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้ยินถึงสิ่งที่ชวีหลิงเย่ว์เจออย่างชัดถ้อยชัดคำ!
พวกเขาเบิกตากว้างมองอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเขาถูกกระทำเช่นนั้นโดยฝีมือของชวีซินรุ่ย!
พรหมจรรย์ที่เป็นสิ่งมีค่าที่สุดของสตรีถูกทำลายอย่างโหดร้ายแค่เพราะความอิจฉาเพียงเล็กน้อยของชวีซินรุ่ย!
ชวีเหวินเฮ่าเสียสติไปแล้ว เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ชวีซินรุ่ยพูดเลยสักคำ ได้แต่นั่งน้ำตาไหลเป็นสายโลหิตอยู่บนพื้นอย่างเงียบๆ ดวงตาของเขาว่างเปล่าไม่มีประกาย
สยงป้ากับชิงอวี่ก้มหน้ากัดฟัน
ก่อนหน้านี้ตอนที่ชวีเหวินเฮ่าอยากใช้ขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณควบคุมใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ พวกเขาได้เตรียมพร้อมจะปกป้องใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะอย่างสุดชีวิตแล้ว ต่อให้ต้องหนีไปพร้อมใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะพวกเขาก็จะไม่เสียใจแม้แต่น้อย
แต่พอชวีเหวินเฮ่าบอกพวกเขาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับชวีหลิงเย่ว์ พอพวกเขาได้สติจากอาการตกใจ พวกเขาก็เลือกที่จะยอมแพ้
พวกเขาจะไม่ยอมแพ้เลยถ้าชวีซินรุ่ยใช้วิธีทรมานชวีหลิงเย่ว์ แต่นางได้ใช้วิธีที่สตรีทั้งโลกไม่อาจรับได้มากที่สุดด้วยการขยี้ศักดิ์ศรีและจิตวิญญาณให้แหลกสลายไปทีละน้อย
ตอนนั้นเสิ่นฉือจับตัวชวีเหวินเฮ่าไปที่หอเมฆาสวรรค์และบังคับให้ดูบุตรีสุดที่รักของเขาถูกกลุ่มบุรุษที่เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์กระทำย่ำยี เขาทั้งดิ้นรนและอ้อนวอน แต่ก็สู้ความแข็งแกร่งของผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงไม่ได้ แม้แต่จะหลับตาเพื่อไม่ให้เห็นภาพอันแสนปวดใจนั้นก็ยังทำไม่ได้
ชวีซินรุ่ยสั่งให้คนทำให้เขาลืมตา บังคับให้เขาดูสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด…
สยงป้ากับชิงอวี่ไม่อาจจินตนาการถึงความเจ็บช้ำทรมานที่ชวีเหวินเฮ่ากับชวีหลิงเย่ว์ต้องเจอได้เลย ตอนนั้นพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากยอมจำนน
เฉียวฉู่ที่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนมีสีหน้าตกตะลึง การถูกเมืองพันอสูรทรยศทำให้เขาหมดความเชื่อมั่นในเมืองนี้และรู้สึกว่าการกระทำของชวีเหวินเฮ่าเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้…
แต่เขาไม่คิดเลยว่าชวีซินรุ่ยจะใช้วิธีโหดเหี้ยมน่ารังเกียจถึงขนาดนี้เพื่อบังคับให้ชวีเหวินเฮ่ายอมจำนน!
เฉียวฉู่เงยหน้ามองจวินอู๋เสียที่นิ่งเงียบอยู่…
จวินอู๋เสียจ้องชวีซินรุ่ยเขม็ง สายตาเย็นชาของนางดูเย็นยะเยือกขึ้นทันที
นางลองเดาถึงเหตุผลที่ชวีเหวินเฮ่าทรยศและคิดว่าชวีซินรุ่ยอาจจะใช้ชวีหลิงเย่ว์บังคับให้ชวีเหวินเฮ่ายอมจำนน แต่นางไม่คิดเลยว่าชวีซินรุ่ยจะทำเรื่องที่บ้าคลั่งและโหดเหี้ยมเลวร้ายที่สุดแบบนี้!
และทั้งหมดนั้น…ก็เป็นเพราะนาง!
แค่เพราะนางปฏิเสธชวีซินรุ่ย และพูดกับชวีหลิงเย่ว์ไม่กี่คำ ชวีซินรุ่ยก็ทำเรื่องที่ทั้งมนุษย์และเทพก็ไม่อาจให้อภัย!
จวินอู๋เสียรู้สึกได้ว่ามีไฟที่อธิบายไม่ได้ถูกจุดขึ้นในใจนาง นางรังเกียจและชิงชังคนที่ข่มเหงรังแกและกระทำย่ำยีสตรีมาตลอด แม้แต่กับศัตรูของนางเอง นางยังไม่เคยคิดจะใช้วิธีการทำให้สตรีต้องแปดเปื้อนมีมลทินแบบนี้เลย