เจียงหยุนเอ๋อตามลี่จุนถิงกลับไปยังห้องทำงานของเขา คอยมองเขาด้วยสีหน้าคาดหวัง
“จุนถิง ตอนค่ำพวกเราไปเดทกันที่ไหนเหรอ?”
“เดี๋ยวค่ำแล้วเธอก็รู้เองแหละ”
ลี่จุนถิงยิ้มแล้วมองเจียงหยุนเอ๋ออย่างลึกซึ้ง เจียงหยุนเอ๋อเห็นในดวงตาของลี่จุนถิงมีเงาสะท้อนของตัวเอง ก็ยิ้มอย่างมีความสุข
เมื่อเลิกงาน ลี่จุนถิงได้ขับรถพาเจียงหยุนเอ๋อออกไปเดท เดิมทีเจียงหยุนเอ๋อรู้สึกดีใจมาก แต่จู่ ๆ ก็เห็นว่าเป็นทางกลับไปบ้าน เธอเลยคิดว่าลี่จุนถิงลืมไปแล้ว เลยรีบเตือนเขา
“จุนถิง นายขับไปผิดทางแล้วหรือเปล่า? นี่มันทางกลับบ้านพวกเรานี่นา นายลืมว่าพวกเราต้องไปเดทกันแล้วเหรอ?”
ลี่จุนถิงหันกลับมา มองเธอแล้วหัวเราะ
“ไม่ได้ลืม ฉันพาเธอกลับไปเดทที่บ้าน”
“เหอะ! นายหลอกฉัน ที่บ้านจะเรียกเดทได้ยังไงกัน”
มือของลี่จุนถิงที่ขับรถอยู่ได้ยื่นออกมาข้างหนึ่งเพื่อจับมือของเจียงหยุนเอ๋อ ตอนแรกเจียงหยุนเอ๋อคิดจะสะบัดออก แต่เธอกลัวกระทบกับการขับรถของลี่จุนถิง เลยแค่อิดออดเล็กน้อย แต่ก็บิดมือไม่ออก
“กลับบ้านทำไมถึงเรียกว่าเดทไม่ได้ล่ะ ตอนนี้เธอท้องโตขนาดนี้ ไม่เหมาะที่จะไปในที่ที่คนพลุกพล่าน ไว้รอเธอสุขภาพกลับมาปกติเมื่อไหร่ ฉันค่อยชดเชยการเดทให้เธอนะ ดีไหมครับ?”
เจียงหยุนเอ๋อเห็นว่าลี่จุนถิงทำเพื่อเธอ จึงไม่ได้โต้เถียงอะไรกับเขา
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ลี่จุนถิงก็ลงมือทำอาหารเอง ทำอาหารที่เจียงหยุนเอ๋อชอบทานจนเต็มโต๊ะ เมื่อทานเสร็จ ลี่จุนถิงก็ให้ถวนจื่อไปฝึกเขียนหนังสือที่ห้องหนังสือของตัวเอง จากนั้น ตัวเองก็โอบเจียงหยุนเอ๋อไปที่ห้องฉายภาพยนตร์
ห้องฉายภาพยนตร์ห้องนี้ทำขึ้นเพราะตอนนั้นเจียงหยุนเอ๋อบอกว่าเธอชอบดูภาพยนตร์มาก ลี่จุนถิงเลยให้คนรีโนเวทขึ้นมา เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาทั้งสองคนไม่มีเวลาดูภาพยนตร์ด้วยกันเลยสักเรื่อง ปกติมีเพียงเจียงหยุนเอ๋อคนเดียวที่ดูภาพยนตร์ที่ตัวเองชอบในห้องนี้เวลาที่เธอรู้สึกเบื่อ
หลังจากที่ลี่จุนถิงประคองเจียงหยุนเอ๋อนั่งลงแล้ว แล้วจัดแจงให้เธอนั่งได้สบาย ๆ หน่อย จากนั้นจึงได้เดินไปตรงหน้าตู้เก็บแผ่นซีดี แล้วถามเจียงหยุนเอ๋อว่าอยากดูภาพยนตร์เรื่องอะไร
เจียงหยุนเอ๋อครุ่นคิดสักครู่ ก็พูดว่า : “ฉันอยากดูเรื่องวิมานลอย (Gone with the Wind) แต่ก็อยากดูเรื่องโรมรำลึก (Roman Holiday) เรื่องเอมิลี่ สาวน้อยหัวใจสะดุดรัก (Amelie) และเรื่องหลายแผ่นดิน แม้สิ้นใจ ก็ไม่ลืม (Farewell My Concubine) แล้วก็เรื่องไททานิค (Titanic) ด้วย”
“วันนี้พวกเราดูเรื่องวิมานลอย (Gone with the Wind) ก่อนแล้วกัน ที่เหลือไว้มีเวลาจะมาดูเป็นเพื่อนเธอทุกเรื่องเลย”
ลี่จุนถิงเอาแผ่นหนังใส่ลงไป แล้วกลับไปนั่งข้างเจียงหยุนเอ๋อ โอบเจียงหยุนเอ๋อเข้ามาไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง ทั้งสองคนอิงแอบแนบชิดกัน สวีทหวานมากเลยทีเดียว
ขณะเดียวกัน ที่คลับแม่น้ำเซน ลี่หุยและลี่หยูนห่วนแล้วก็อลันกำลังนั่งดื่มเหล้ากันอยู่ด้านใน
จู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออก กู้เฟยหลินสวมชุดคอลึกรัดรูปสีแดงทั้งตัว และสวมรองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตรสีเงินเดินเข้ามาจากด้านนอก
เมื่ออลันเห็นกู้เฟยหลินเข้ามา ก็ส่งสัญญาณให้เธอมานั่งข้างตัวเอง หลังจากที่กู้เฟยหลินนั่งลง อลันก็รินเหล้าให้เธอ แล้วชนแก้วกับเธอ
“เป็นยังไงบ้าง? ราบรื่นดีหรือเปล่า?”
แขนข้างหนึ่งของอลันวางไว้ด้านหลังของกู้เฟยหลิน โอบเธอไว้ กู้เฟยหลินก็เอนพิงไปบนตัวของอลัน เมื่ออลันก้มหน้าก็สามารถเห็นสัดส่วนด้านในของเธอได้เลย
กู้เฟยหลินยิ้มให้กับอลัน ในดวงตาของเธอเหมือนมีตะขอมองไปที่อลัน
“ฉันออกโรงเอง สิ่งที่คุณต้องการ รับรองว่าสำเร็จแน่นอน คุณวางใจได้เลย”
อลันเห็นกู้เฟยหลินมองตัวเองด้วยสายตายั่วยวน ก็ยิ้มให้กู้เฟยหลินอย่างมีเลศนัย แล้วเข้าไปสูดดมกลิ่นหอมบนตัวกู้เฟยหลิน
“เธอรู้ดีว่าฉันต้องการอะไร พยายามล้วงความลับมาให้ได้มากที่สุด ฉันเชื่อในความสามารถของเธอ เธอไม่มีทางทำให้ฉันผิดหวังแน่นอน”
กู้เฟยหลินและอลันชนแก้วกันอีกครั้ง “ขอแค่คุณรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับฉัน ฉันจะพยายามช่วยคุณอย่างสุดความสามารถ”
อลันแสดงท่าทีปกติ
กู้เฟยหลินยกแก้วให้กับลี่หุยและลี่หยูนห่วน “ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะคะ ผู้จัดการลี่ทั้งสองท่าน”
ตั้งแต่ที่กู้เฟยหลินเข้ามา สายตาของลี่หุยและลี่หยูนห่วนต่างก็จับจ้องไปที่เรือนร่างของกู้เฟยหลิน เห็นเธอกับอลันแนบชิดกัน ก็อิจฉาตาร้อนมาก
ทั้งสองคนเห็นกู้เฟยหลินเป็นฝ่ายขอชนแก้วกับพวกเขาก่อน ก็ยิ้มหวานกลับไปให้เธอทันที
วันถัดมา เมื่อกู้เฟยหลินมาถึงที่บริษัท ก็ถูกลี่จุนซินเรียกเข้าประชุมพนักงานใหม่พร้อมกับคนที่ถูกรับเข้าทำงานเมื่องาน จากนั้นก็แจ้งพวกเขาว่าตอนบ่ายมีประชุมที่ห้องประชุม ช่วงเช้าให้ไปทำความคุ้นเคยกับสภาพการทำงานและเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ในแผนกก่อน
กู้เฟยหลินหน้าตาดึงดูดผู้คน หลังจากที่ลี่จุนซินกลับไปยังห้องทำงานแล้ว พวกพนักงานผู้ชายก็เข้ามารุมล้อมถามไถ่เธอ จนทำให้พนักงานผู้หญิงคนอื่นในแผนกโมโหจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว
ตอนบ่าย ลี่จุนซินให้ผู้ช่วยไปแจ้งพวกเขาให้มาประชุม การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมเพื่อประมูลงานงานหนึ่ง ลี่จุนซินให้พนักงานที่เข้ามาใหม่ช่วยกันหารือ จากนั้นแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมา ลี่จุนซินถือโอกาสทดสอบพวกเขาอีกครั้งไปในตัว
กิจการต่าง ๆ ในเครือของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปนั้นมีมากมาย หนึ่งในนั้นมีอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปไม่เพียงแต่มีเหล้าขาวและเหล้าเหลืองที่เป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นคุณภาพเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังมีไวน์คุณภาพดีอีกด้วย โรงกลั่นไวน์ชื่อดังจากต่างประเทศได้มีความร่วมมือระยะยาวกับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป
เพราะผู้คนในประเทศที่ได้ดื่มไวน์ของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป ต่างก็พากันชื่นชม ดังนั้นโรงกลั่นไวน์โรงบ่มไวน์ลาหร์ที่เป็นโรงกลั่นไวน์แห่งใหม่ของประเทศฝรั่งเศสจึงต้องการที่จะตีตลาดในประเทศ S และพันธมิตรที่ทางนั้นเลือกเป็นอันดับแรกก็คือบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป
โรงกลั่นไวน์แห่งนี้ถึงแม้เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แต่ก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงในต่างประเทศ ยิ่งในประเทศของพวกเขาถือว่าเป็นโรงกลั่นไวน์ชั้นนำของประเทศเลยทีเดียว ในปีค.ศ.2005 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในโรงกลั่นไวน์ชั้นหนึ่งของประเทศ
ถึงแม้โรงกลั่นไวน์โรงบ่มไวน์ลาหร์เป็นโรงกลั่นไวน์น้องใหม่ เพิ่งเข้าสู่ตลาดได้ไม่ถึงยี่สิบปี แต่โรงกลั่นไวน์แห่งนี้มีไร่องุ่นที่มีพื้นที่มากถึง 107.5 เอเคอร์ อายุเฉลี่ยขององุ่นคือ 35 ปี ในไร่ปลูกองุ่นประมาณ 10,000 ต้นต่อพื้นที่หนึ่งเฮกตาร์ ผลผลิตไวน์ต่อปีอยู่ที่ประมาณ 20,000 ลัง
ก่อนที่ไวน์องุ่นของโรงกลั่นไวน์โรงบ่มไวน์ลาหร์จะเข้าสู่ตลาด ทางโรงกลั่นได้มอบไวน์ให้กับสมาชิกในครอบครัวดื่ม และผ่านการทดสอบอีกหลายครั้ง กว่าจะได้ผลิตออกมาเป็นไวน์องุ่นที่รสชาติกลมกล่อมอย่างนี้
ประเทศฝรั่งเศสมีสุภาษิตที่กล่าวว่า “มีเพียงองุ่นที่มองเห็นแม่น้ำเท่านั้นถึงจะสามารถบ่มออกมาเป็นไวน์ชั้นดีได้” ปากแม่น้ำการอง (Garonne) ที่ตั้งอยู่ในเมืองท่าบอร์โด (Bordeaux) ของประเทศฝรั่งเศสมีหอคอยโบราณสีขาวตั้งตระหง่านอยู่หนึ่งหลัง ซึ่งในสมัยโบราณเคยเป็นป้อมปราการที่ใช้ป้องกันกลุ่มโจรสลัด ปัจจุบันด้านล่างหอคอยศิลาแห่งนี้ มีไร่องุ่นแห่งหนึ่งที่ถูกล้อมรอบด้วยดอกกุหลาบตั้งอยู่ห่างจากริมฝั่งแม่น้ำการองประมาณ 300 เมตร ที่นี่ก็คือโรงกลั่นไวน์ที่มีชื่อเสียงของเมืองท่าบอร์โดที่ชื่อลัลเบิร์กนั่นเอง
ดังนั้นไวน์องุ่นที่พวกเขาผลิตออกมา จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทำให้มีผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนต่างพากันทุ่มเงินก้อนโตเพื่อแย่งมันมา
ถึงแม้ตัวเลือกอันดับแรกของอีกฝ่ายคือบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป แต่ก็มีบริษัทมากมายที่ต้องการแย่งโครงการนี้ไปจากบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป อย่างเช่น บริษัทเกลกรุ๊ป ฉะนั้นลี่จุนซินจึงจำเป็นต้องเอาโครงการนี้มาให้ได้ ลี่จุนซินจึงได้สอบถามคนอื่น ๆ ว่าใครมีแผนการดี ๆ บ้าง
และนี่คือจุดประสงค์ที่ลี่จุนซินจัดประชุมในครั้งนี้
การได้รับโครงการนี้มาทำไม่เพียงแต่เป็นการโจมตีบริษัทเกลกรุ๊ปเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้ตลาดต่างประเทศของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปพัฒนาก้าวไกลยิ่งขึ้นอีกด้วย