บทที่ 527 ขยานีถูกประหารชีวิต

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

“จะเพื่ออะไรอีกละ ก็ต้องเพื่อเงินอยู่แล้วสิ!” ขยานีทำหน้าบึ้ง “ฉันอยู่กับปวิชเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว แต่ครอบครัวที่เราเกิดมานั้นไม่ดีเลย เพื่อที่จะสามารถอยู่ในจังหวัดจันทร์และมีทะเบียนบ้านที่จังหวัดจันทร์ ปวิชกับฉันจึงวางแผนคบคนรวย”

เมื่อได้ยินดังนั้น สุภัทร จึงเข้าใจบางอย่างในทันที น่าเสียดายเนื่องจากจังหวะนั้นร่างกายเป็นอัมพาตจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ทำได้เพียงกระตุกผิวหนัง “คุณ…ที่พวกคุณเล็งคือฉันเหรอ?”

“ใช่ พวกเราสำรวจคนรวยจำนวนมากในจังหวัดจันทร์ รวยเกินไปเข้าถึงไม่ได้ รวยน้อยไปเราก็ไม่ชอบมัน ดังนั้นเลือกไปเลือกมา จึงเลือกโดนคุณ”

ขยานีมองดูอารมณ์ที่โกรธของสุภัทรา พูดเยาะเย้ยว่า “คุณเกิดเหมือนเรา คือพึ่งวรยาที่มีทรัพย์สินเล็กๆ น้อยๆ ถึงสามารถก่อตั้งบริษัท ศรีสุขคํา กรุ๊ปได้ จริงๆแล้ว คุณเกาะผู้หญิงกิน โดยไม่มีความรู้ด้านธุระอะไรมาก แต่คิดว่าตัวเองเก่งมีความสามารถมาก จึงไม่ยอมให้วรยามีสถานะที่สูงกว่าในบริษัท ศรีสุขคํา กรุ๊ปมากกว่าคุณ และอิจฉาวรยาที่มีความสามารถมากกว่าคุณ”

“พูดไร้สาระ!” สุภัทรชราหน้าแดงด้วยความโกรธ

เขาจะไม่มีความสามารถทางธุรกิจได้อย่างไร เขาจะอิจฉาวิยาได้อย่างไร

เป็นเพราะเธอโกหกเขา

“ฉันพูดไร้สาระเหรอ” ขยานีปิดปากแล้วยิ้ม “สุภัทร ฉันพูดไร้สาระหรือไม่คุณรู้ดีอยู่แก่ใจจริงๆแล้วคุณรู้ว่าทักษะของตัวเองมีดีมากแค่ไหน แต่แค่คุณไม่ยอมรับมันเท่านั้นเอง ก็เหมือนกับที่คุณเกาะวรยากิน แต่กลับคิดว่าวรยาพึ่งพาคุณถึงประสบความสำเร็จเหมือนกับคุณหญิงตระกูลศรีสุขคำ”

“หุบ…….หุบปาก!” สุภัทรตะโกนอย่างโกรธจัด

ขยานีมองบน “ฉันไม่เงียบ ยังไงก็เถอะเรื่องระหว่างฉันกับปวิช คุณก็รู้หมดแล้ว วันนี้ฉันจะพูดทุกเรื่องให้เคลีย เพราะพวกเราเกิดมาเหมือนกันและปฏิเสธชีวิติแบบเดียวกัน ดังนั้นในใจคุณคิดอะไรอยู่พวกเรารู้ดี พวกเรารู้ว่าคุณทนกลิ่นอายของวรยาไม่ได้ และค่อยๆเกลียดชังวรยา แล้วจากนั้นฉันก็ปรากฏตัวเป็นสาวงามสมคบคุณ จริงๆ… ”

เธอหัวเราะคิกคักอีกสองครั้ง “คุณโดดเข้ามาในกับดักของฉันกับปวิชอย่างเชื่อฟัง ยิ่งฉันอ่อนโยนกับคุณมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งว่านอนสอนง่าย ยิ่งทำกับคุณเหมือนเทพ คุณก็ยิ่งเกลียดวรยากับลูกทั้งสองที่วรยาคลอดออกมา ไม่สิ คุณทำเพื่อให้ฉันกับพิชญา และวรยาหย่ากัน และยังไล่ลูกทั้งสองของวรยาออกจากบ้าน”

“หุบปาก หุบปาก!” สุภัทร์ไม่อยากฟังอีกต่อไป ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกโง่

ครั้งหนึ่งเขาเคยรู้สึกมีความสุขเมื่อทรยศวรยาเพียงใด ตอนนี้เขาก็เสียใจมากเท่านั้น

ขยานีพูดถูก เขารู้เสมอว่าใจตนสูงส่งกว่าฟ้าแต่ไม่มีกำลังเพียงพออีกทั้งยอมรับไม่ได้และอิจฉาวรยา

ถ้าตอนนั้นใจเขาเบิกบานและคิดในแง่ดีกว่านี้ ถึงแม้จะเกาะผู้หญิงกิน อย่างน้อยก็อยู่อย่างมีความสุข และจะไม่เหมือนกับตอนนี้ตกต่ำจนถึงขนาดนี้

“ก็ได้ ในเมื่อคุณไม่อยากฟัง ฉันก็จะไม่พูดถึงมัน ยังไงซะฉันก็พูดไปเกือบหมดแล้ว ฉันน่ะรอคุณตายอยู่ ตราบใดที่คุณตาย มรดกของคุณจะเป็นของฉัน ดีจัง “ขยานีหันกลับมาอย่างมีความสุขแล้วดึงเก้าอี้ออกไปนั่งลง

หลังจากสุภัทราโกรธ จู่ๆ เขาก็ยิ้ม “ขยานี คุณคิดว่าคุณทำเช่นนี้กับฉันแล้ว ฉันจะยังให้มรดกแก่คุณอีกหรือ?”

ขยานีชะงัก “หมายความว่าไง คุณไม่ให้มรดกฉัน แล้วจะให้ใคร”

“ฉันไม่ได้ไม่มีลูก ทำไมฉันต้องให้คุณด้วย” สุภัทราหัวเราะ

ขยานีสีหน้าบิดเบี้ยว “สุภัทร คุณมันบ้าไปแล้ว ฉันคือเมียของคุณ มรดกของคุณก็ควรเป็นของฉัน จะให้วารุณีพวกเขาทำไม ถึงจะไม่ให้ฉันก็ยังมีพิชญา อย่าลืมพิชญายังไม่ตาย!”

“คุณยังมีหน้ามาพูดกับฉันเรื่องพิชญา คิดว่าฉันไม่รู้หรอ พิชญาไม่ใช่สายเลือดของฉัน แต่เป็นของคุณกับปวิช!” สุภัทรมองขยานีด้วยสายตาอาฆาต

ขยานี ทำตาเล็กลง ใบหน้าเริ่มลุกลี้ลุกลน “คุณพูดอะไร คุณ…คุณ…”

“คุณจะบอกว่า ฉันรู้ได้อย่างไรว่าพิชญาไม่ใช่สายเลือดของฉันใช่ไหม ไม่เพียงเท่านี้ แต่ฉันยังรู้ด้วยอีกว่าถิตก็เป็นของคุณกับปวิช คุณกับปวิชเพื่อที่จะให้ฉันตายเร็วๆ เพื่อสืบทอดมรดกของฉัน เลยใส่ยาให้ฉันตายอย่างเงียบ ๆ ขยานี เธอวางยาพิษ เธอรู้ไหมว่าจะมีจุดจบแบบไหน ไม่ คุณไม่ร็หรอก!” สุภัทรหน้าซีดเผือด ขยานีหัวเราะอย่างสบายใจ

ขยานีเดินโซเซถอยหลังไปสองสามก้าว ใบหน้าเต็มไปด้วยความน่าเหลือเชื่อ มีเพียงประโยคเดียวในใจของเขา “เขารู้แล้ว สุภัทรรู้แล้ว”

สุภัทรรู้ว่าพิชญาเป็นของปวิช และยังรู้อีกว่าเธอกับปวิชวางยาเขา

จะทำอย่างไรดี?

สุภัทรารู้ความลับที่ใหญ่ที่สุดทั้งสองข้อของเธอและจะไม่ปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน

ขยานีถุยน้ำลายภายในใจยิ่งตื่นตระหนก

เธอมองไปที่สุภัทรที่อยู่บนเตียง มองดูดวงตาของสุภัทรที่มีความเกลียดชังและเจตนาฆ่า มีจิตวิญญาณที่รุนแรงอยู่ในใจของเธอ แล้วเธอก็สงบลงในทันที

ใช่สิ สุภัทรรู้แล้ว เห็นได้ชัดว่าจะไม่ปล่อยเธอไป

และเมื่อมองไปที่แววตาของสุภัทราก็รู้ได้ทันที สุภัทรอยากจะฆ่าเธอ

ในเมื่อเป็นแบบนี้งั้นเธอจะลงมือก่อนเป็นการดีที่สุด กำจัดสุภัทรก่อน

ยังไงก็ตาม สุภัทรตอนนี้เป็นอย่างนี้แล้ว ยังไงเขาก็กำลังจะตายในเร็วๆนี้ ถ้าเขาตายตอนนี้ คนอื่นๆก็ไม่สงสัยว่าเธอเป็นคนฆ่า สุดท้ายแล้ว ก็จะคิดว่าถึงเวลาของสุภัทรแล้ว

ขยานีคิดแล้วก็ยิ้ม จากนั้นเอนตัวลงไปบีบคอสุภัทร “ไปลงนรกซะ ในเมื่อคุณรู้แล้ว งั้นก็ไปตายซะ!”

สุภัทรคาดไว้นานแล้วว่าถ้าพูดแบบนี้ ขยานีจะหงุดหงิด และทำให้ขยานีเป็นสุนัขที่จนตรอก

ดังนั้นเขาเลยไม่ตื่นตระหนก ก็แค่นอนบนเตียงผ็ป่วย แล้วให้ขยานีลงมือ

ในตอนที่สุภัทรลูกตานูนออกมา ใบหน้าแดงก่ำ และกำลังจะหายใจไม่ออก จู่ๆ ก็มีใครบางคนเตะประตูและเดินเข้ามา

“อย่าขยับ ยกมือขึ้น!” ตำรวจทั้งสามที่นำหน้าเห็นที่เกิดเหตุขยานีกำลังทำร้ายร่างกาย จึงหยิบอาวุธที่เอวออกมาทันทีและเล็งไปที่ขยานี

วารุณีและศรัณย์เข้ามาข้างหลังและเห็นที่เกิดเหตุ ต่างก็ตกตะลึง

ขยานีอยากจะฆ่าสุภัทราจริงๆ!

ขยานีไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าตอนกำลังจะลงมือฆ่าจะถูกคนอื่นพบแล้วยังเป็นตำรวจอีก ตอนนั้นเธอกลัวจนตกใจ จนปล่อยคอของสุภัทราไปโดยไม่รู้ตัว

สุภัทรรอดจากความตายมาได้ เขาไออย่างรุนแรงไปด้วยและหัวเราะอย่างมีความสุขไปด้วย “ขยานี ขยานี ดูสิ จุดจบของคุณมาแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า…”

ขยานีเปิดปากพยายามจะพูดบางอย่างแต่พูดไม่ออก

เพราะเธอกลัว อาวุธที่อยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนที่เล็งมาที่เธอ

เธอกลัวว่าเมื่อเธอขยับตัวพวกเขาจะเหนี่ยวไก

เธอเป็นคนเห็นแก่ตัว รักเงิน และกลัวความตาย

ดังนั้นเธอจึงกลัวจริงๆว่าพวกเขาจะฆ่าเธอทันที

เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนมองไปที่ขยานีที่กำลังกลัว และยืนนิ่ง พวกเขาเก็บอาวุธลง แล้วก้าวไปข้างหน้าเพื่อจับขยานี

ในตอนที่ขยานีถูกจับเธอก็ได้สติทันที แล้วมองไปที่สุภัทรด้วยความตกใจกลัว “ที่รัก ช่วยฉัน ด้วย ฉันไม่อยากติดคุก คุณช่วยฉันด้วย บอกพวกเขา ฉันแค่ล้อเล่น ไม่ได้ทำร้ายเธอ ที่รัก…”

“ตำรวจ” สุภัทรนั่งขึ้นมาด้วยความช่วยเหลือของศรัณย์ มองดูเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสามคนขยานี “รบกวนพวกคุณหน่อย ผู้หญิงคนนี้ต้องการจะฆ่าฉัน ช่วยพาเธอไปที”

“ไม่ต้องห่วง พวกเราเห็นหมดแล้ว” เจ้าหน้าที่พยักหน้า

ขยานีเห็นว่าสุภัทรไม่ช่วยตัวเอง รู้ว่าขอร้องไปก็ไม่มีประโยชน์ เขาก็เลยแสดงธาตุแท้ออกมาและสาปแช่ง “สุภัทร กล้าทำแบบนี้กับฉันรึ ขอสาปแช่งไม่ให้ตายดี สุภัทรา คุณจะไม่ตายดีแน่…”

เสียงค่อยๆจางหายไป ขยานีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไป

วารุณีเดินไปที่เตียงผู้ป่วยและมองสภัทรที่กำลังอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ราวกับว่าจะหายไปในทันทีพูดด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน “คุณตั้งใจใช่ไหม”