ตอนที่ 434 เหรียญทองแดงลั่วเป่า! (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 434 เหรียญทองแดงลั่วเป่า! (1)

ความจริงแล้ว…หลี่ฉางโซ่วได้เตรียมการเพื่อการล่าสมบัติของเขาในครั้งนี้มามากกว่าสิ่งของที่อยู่ตรงหน้าเขา

ในขณะนั้น มีแผนที่ภูมิประเทศที่มีภูเขาไร้หัวเจ็ดถึงแปดลูก แม่น้ำใหญ่ และหุบเขาในหลายๆ ส่วนของดินแดนเทวะมัชฌิมาและดินแดนเทวะทักษิณ ซึ่งมีตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์และทหารถั่วเซียนจำนวนมากฝังตัวอยู่ที่นั่น

สถานที่เหล่านั้น ล้วนเป็นสถานที่รกร้างและไร้ผู้คนอาศัยอยู่ แต่หลี่ฉางโซ่วจะสร้างสถานการณ์หลังศึกสู้ และจะทิ้งร่องรอยบางอย่างของ ‘สำนักที่ถูกทำลาย’ เอาไว้บ้าง

ทั้งหมดเหล่านี้ ล้วนเป็นมาตรการป้องกัน

หลี่ฉางโซ่วเคยพิจารณาทุกสิ่งอย่างละเอียดถี่ถ้วนและครอบคลุมเอาไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว

หากเขาค้นหาสมบัติ เขาย่อมจะทิ้งร่องรอยเอาไว้เบื้องหลัง และยิ่งไปกว่านั้น มันก็ยากเกินไปที่เขาจะเอาสมบัติของปีศาจกระทิงไปได้โดยไม่ทำให้พวกเขาตื่นกลัว

ส่วนฝูซี เซวียนหยวน เสิ่นหนง และต้าอวี่ ซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่นั้น พวกเขาย่อมรู้เส้นทางแสวงหาสมบัติ

มันย่อมจะมีความโกลาหลเกิดขึ้นบ้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากมีคนรู้เรื่องนี้ ก็ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเปิดเผยร่างหลักของข้าได้

ดังนั้น เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็มีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น

เขาอาจเลิกการล่าสมบัติและหาวิธีอื่นในการเสริมสร้างตัวเอง เช่น การศึกษาเวทลึกลับที่ได้รับมาจากผู้อาวุโสเซวียนหยวน

หรือไม่เช่นนั้น ก็จัดเตรียมการบางอย่างมากขึ้นโดยใช้ตัวตนของเทพแห่งท้องทะเลแห่งศาลสวรรค์เพื่อค้นหาสมบัติในพื้นที่ต่างๆ

และนั่นจะทิ้งข้อมูลรบกวนจิตใจบางอย่างเอาไว้ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่ร่างหลักและร่องรอยของเขาจะถูกเปิดเผยได้

เมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้ที่ไม่รู้จักเส้นทางค้นหาสมบัติของเขา ย่อมจะรู้เพียงว่า เทพแห่งท้องทะเลแห่งศาลสวรรค์กำลังสร้างเรื่องยุ่งยากบางอย่าง

บรรดาผู้ที่รู้เกี่ยวกับเส้นทางค้นหาสมบัติของหลี่ฉางโซ่ว ย่อมไม่อาจระบุได้โดยตรงว่าร่างหลักของหลี่ฉางโซ่วอยู่ที่ใดเมื่อเขาเข้าไปในถ้ำเมฆไฟ

แม้เขายังต้องพิจารณาในเรื่องที่สำนักตู้เซียนอยู่ในฝ่ายของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน แต่หลี่ฉางโซ่วก็ยังคงมีแผนพเนจรของยอดเขาหยกน้อยในอนาคต

ไม่ใช่ว่าหลี่ฉางโซ่วไม่เชื่อจักรพรรดิมนุษย์ที่สละโลกแล้วทั้งสี่คนนี้ แต่ประเด็นหลักก็คือ ไม่เพียงมีสามกษัตริย์และห้าจักรพรรดิในถ้ำเมฆไฟเท่านั้น แต่ยังมีนางสนมอีกกว่าสามพันคน…

เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์โดยรวมได้ หลี่ฉางโซ่วจึงไม่อาจทำให้ปีศาจในเมืองซื่อเถี่ยและหุบเขาปีศาจกระทิงต้องบาดเจ็บล้มตายมากเกินไป

ความจริงแล้ว ในช่วงเวลาที่เห็นคลังสมบัติของปีศาจกระทิง หลี่ฉางโซ่วก็ตัดสินใจว่าจะไม่แตะต้องสมบัติและอาวุธเหล่านั้น เขาเพียงอยากมองหาสมบัติที่มีชะตาลิขิตกับเขาให้ตัวเขาเองเท่านั้น

แต่ในยามนี้ เนื่องจากลักษณะที่แปลกประหลาดของศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย การเตรียมการที่ครอบคลุมและการจัดการอย่างรอบคอบเหล่านี้ จึงได้หายไปจนหมดสิ้น…

เหตุใดกัน?…

หลี่ฉางโซ่วย้ำถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สาเหตุที่แท้จริงคืออันใดกัน?

ข้าใช้ทรัพยากรและเล่ห์กลมากมาย และปล่อยการโจมตีหลอกๆ อย่างเต็มที่ ทั้งยังสูญเสียตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนจิน แต่ผลเก็บเกี่ยวที่ข้าได้รับ มีเพียงอย่างเดียวคือ…

ตึ้ง! ท่านได้ค้นพบความแปลกประหลาดของผู้ยิ่งใหญ่แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยแล้ว

ผู้ใดจะให้เหตุผลกับข้าได้บ้าง!?!

ในชีวิตก่อนหน้านี้ หลี่ฉางโซ่วได้เห็นสถานการณ์แปลกๆ มาทุกประเภทภายใต้แรงกดดันของสังคม เขาก็ไม่รู้สึกว่าเรื่องเช่นนั้น น่าอับอาย

เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนไม่สมบูรณ์แบบ นั่นคือ วิถีธรรมชาติ

แต่กล่าวได้ว่าหนึ่งพันหนึ่งหมื่นคำ[1] เหตุใดนักพรตเต๋าตั๋วเป่าจึงได้ปรากฏกายขึ้น?

เพียงแค่ข้าจะมองหาสมบัติโฮ่วเทียน แล้วเหตุใดจึงเป็นเรื่องยากเช่นนี้? ข้ายังต้องเอาชนะนักพรตเต๋าตั๋วเป่าด้วยหรือไม่?

หลี่ฉางโซ่วคร่ำครวญและตระหนักว่า เขารู้สึกหนักใจเล็กน้อย จึงท่องคาถาสงบใจทันทีเพื่อทำให้ตัวเองสงบใจลงได้อย่างรวดเร็ว

หากมีอันใดเกิดขึ้น แน่นอนว่า ย่อมมีแผนฉุกเฉิน

ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่า ข้าไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน…

ช่างเถิด ข้าไม่เคยพิจารณาถึงสถานการณ์นั้นมาก่อนหน้านี้เลยจริงๆ!

ในขณะนั้น บาตรจื่อจินได้ปกคลุมพื้นดินและปิดผนึกพื้นที่นับพันลี้

บัดนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วพลันเงยหน้าขึ้นและตัดสินใจอย่างมีเหตุผลที่สุดในทันที

ทำลายตัวเอง!

ในเวลานั้น กองทัพทหารถั่วเซียนยังอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองซื่อเถี่ยอยู่บ้าง

เหล่าทหารถั่วเซียนเปรียบเสมือนนาฬิกาจับเวลา เมื่อพวกเขามาถึงด้านหน้าค่ายกลนอกเมือง มันก็จะเป็น “เวลาปฏิบัติการ” ของหลี่ฉางโซ่ว

น่าเสียดายที่ไม่อาจใช้มันได้อีกต่อไป

หลี่ฉางโซ่วสั่งให้ทหารถั่วเซียนอยู่นิ่งเฉย และตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์กว่ายี่สิบคนที่ปะปนอยู่กับทหารถั่วเซียน ก็ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในแบบเดียวกัน

พวกเขายกมือขึ้นเพื่อค้ำจุนท้องฟ้า[2]!

ทันใดนั้น ลูกเปลวเพลิงสมาธิแท้ได้พุ่งออกมาจากฝ่ามือของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เหล่านี้ แล้วกลายเป็นมังกรไฟที่โหมกระหน่ำ สร้างความหายนะไปทั่วบริเวณโดยรอบ และในชั่วพริบตานั้น มันก็แผดเผาทหารถั่วเซียนหลายหมื่นคนอย่างสมบูรณ์!

กองทัพทหารที่รับผิดชอบทำหน้าที่แสร้งโจมตีหลอกล่อ และกดดัน ล้วนเกิดจากพลังเวททั้งหมด

ในขณะนั้น พวกเขากำลังถูกกัดกร่อนด้วยเปลวเพลิงสมาธิแท้ที่ก่อตัวขึ้นจากพลังเซียนระดับเซียนจินของหลี่ฉางโซ่ว

และในชั่วพริบตา ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ยี่สิบคนก็ถูกเปลวเพลิงเผาผลาญท่วมตัวจนกลายเป็นเถ้าถ่านเต็มท้องฟ้า!

หลี่ฉางโซ่วไม่รู้สึกเจ็บปวดใจใดๆ กับการสูญเสียเช่นนี้

ทหารถั่วเซียนดำรงอยู่ได้ไม่เกินสิบสองชั่วยามเท่านั้น และเมื่อเวลาผ่านไปหลังจากนั้น พลังเซียนจะสลายไปเองและพวกเขาก็จะทำลายตนเอง

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่ไม่ได้อยู่ในขอบเขตเซียนจินจะใช้เพียงต้นไม้วิญญาณบนยอดเขาหยกน้อยเท่านั้น

ไม่นานหลังจากนั้น เมื่อบาตรจื่อจินร่อนลงมาและทหารถั่วเซียนเผาทำลายตัวเอง เหล่าปีศาจในเมืองทั้งหมดก็ล้วนตะลึงงัน

ในขณะนั้น ปีศาจเซียนจินทั้งสามตัวที่อยู่นอกเมืองต่างก็ตื่นตระหนก

จากนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนจินทั้งสามที่พัวพันกับปีศาจวัวกระทิงใหญ่ทั้งสามต่างก็ระเบิดพลังเซียนออกมา แล้วพัดปีศาจทั้งสามกระเด็นออกไปในทันที!

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งสามหันไปรอบๆ และใช้หลีกลมเร้นกาย หายวับไปจากสายตาและสัมผัสเซียนรับรู้ของอีกฝ่ายในทันที

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วมีลักษณะโดดเด่นชัดเจน พลังการต่อสู้ของมันอยู่ในระดับปานกลาง แต่เวทหลบหนีของมันนั้น เหนือชั้นกว่าในระดับเดียวกันอย่างแน่นอน…

………………………………………………………………..

[1] ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร หรือเรื่องใด แต่บทสรุปสุดท้ายก็มีเพียงอย่างเดียว

[2] เปรียบดั่งคนที่แบกรับภาระหน้าที่และความรับผิดชอบที่สำคัญและยิ่งใหญ่มาก