ตอนที่ 1125 ลองพูดอีกสักคำสิ (2) / ตอนที่ 1126 ลองพูดอีกสักคำสิ (3)
ตอนที่ 1125 ลองพูดอีกสักคำสิ (2)
เมื่อพวกหัวหน้าตึกมาประชุมกันเรื่องสถานการณ์ในอนาคตของเมืองพันอสูร หัวข้อเกี่ยวกับชวีหลิงเย่ว์ว่าจะสามารถเป็นเจ้าเมืองได้หรือไม่ก็ถูกยกมาถกเถียงกันอย่างดุเดือด
สยงป้าทุบโต๊ะและทะเลาะกับหัวหน้าตึกคนอื่นๆ เสียงดังลั่น พอที่ประชุมได้ข้อสรุปเขาก็เดินฮึดฮัดออกไปและเดินตรงไปที่หอเมฆาสวรรค์
“ว้าว มีคนเดินหน้าดำหน้าแดงมาด้วย” เฉียวฉู่กำลังนั่งกัดผิงกั่ว อยู่ในหอเมฆาสวรรค์ เมื่อเขาเห็นสยงป้าเดินปึงปังเข้ามาก็อดแซวไม่ได้
คงเป็นเพราะท่าทีสำนึกผิดอย่างมากของสยงป้ากับชิงอวี่ที่ทำให้เฉียวฉู่กับคนอื่นๆ รู้สึกถึงความจริงใจของพวกเขา ทำให้ความแค้นเคืองในใจของพวกเขาค่อยๆ หายไป แต่…ถึงความเป็นศัตรูจะหายไป แต่จะให้พวกเขายอมรับกลับมาเป็นสหายอีกครั้งนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้
สยงป้ามีสีหน้าละอายใจ เขาเกาหัวแล้วพูดว่า “คุณชายเฉียวอย่าล้อข้าเล่นสิ”
“เกิดอะไรขี้น เห็นช่วงนี้ท่านไม่สบายใจเอาเสียเลย พวกท่านก็ได้ตัวชวีซินรุ่ยไปขังไว้แล้วนี่ เป็นอย่างไรบ้าง นังแก่นั่นยังอยู่ดีหรือไม่” เฉียวฉู่ถาม
พอถูกเฉียวฉู่ถาม สยงป้าก็นึกถึงสภาพของชวีซินรุ่ยในตอนนี้ทันที ความทรงจำของการได้เห็นคนคนหนึ่งเนื้อเน่าไปหมดทั้งตัวแล้วก็ฟื้นคืนกลับมานั้นทำให้คนที่แข็งแกร่งและใจกล้าอย่างสยงป้าถึงกับขนหัวลุก ในที่สุดสยงป้าก็เข้าใจว่าทำไมจวินอู๋เสียถึงอยากให้ชวีซินรุ่ยมีชีวิตอยู่ การมีชีวิตแบบนั้น จะคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง เป็นความเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าตายเสียอีก ในตึกเพลิงพิโรธนั้นเสียงกรีดร้องของชวีซินรุ่ยดังให้ได้ยินทุกวัน เสียงนั้นเหมือนเสียงร้องของภูตผีจากขุมนรก
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของสยงป้า เฉียวฉู่ก็รู้ว่าสภาพของชวีซินรุ่ยจะต้อง ‘น่าดูและน่าตื่นเต้น’ มากแน่
“ว่ามา วันนี้ท่านมาที่นี่ทำไม” เฉียวฉู่ถาม
สยงป้าเปิดปากพูดอย่างกระอักกระอ่วน “วันนี้…ข้า…มาหาคุณชายจวิน”
เฉียวฉู่เลิกคิ้วขึ้นทันที เขากำลังจะพูดก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้นเสียก่อน
“ท่านมาหาข้าทำไม” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับเดินลงบันไดช้าๆ สายตาเย็นชาของนางมองไปที่ร่างของสยงป้าที่ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงประตู
จวินอู๋เสียรู้เรื่องที่สยงป้ามาที่หอเมฆาสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อแสดงความสำนึกผิดและเจตนาดี แต่นางก็ไม่เคยพบเขาเลย
สยงป้ามองจวินอู๋เสียอย่างตกใจ ตั้งแต่ชวีซินรุ่ยถูกจับเขาก็ไม่ได้พบจวินอู๋เสียเลยสักครั้ง จู่ๆ ก็มาเจอนางแบบนี้ ทำเอาเขาเกือบหัวใจวาย
“ข้า…ข้า…ไม่ใช่ข้า บ้าเอ๊ย! คุณชายจวิน คือว่า…พวกหัวหน้าตึกกับบรรดาผู้อาวุโสได้ปรึกษากันแล้ว เมืองพันอสูรผ่านพ้นวิกฤตมาได้แล้วแต่ท่านเจ้าเมืองกลับกลายเป็นแบบนั้น…เมื่อขาดผู้นำ…พวกเขาก็เลยคิดว่า…จะขอ…ขอให้ท่านรับตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นการชั่วคราวได้หรือไม่…” ขณะที่พูดสยงป้าก็รู้สึกหวั่นกลัวมาก
จวินอู๋เสียเป็นฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน แม้ว่าเมืองพันอสูรจะไม่ได้อ่อนด้อย แต่พวกเขาก็ยังไม่อยู่ในสายตาของจวินอู๋เสียอยู่ดี
“เป็นเพราะท่านเมืองพันอสูรจึงรอดพ้นภัยมาได้ในครั้งนี้ ชาวเมืองทุกคนเห็นท่านเป็นผู้กอบกู้ของพวกเขา ถ้าท่านยอมรับตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นการชั่วคราว ข้าเชื่อว่า…ทุกคนจะเห็นด้วย” สยงป้าพูดพร้อมกับมองจวินอู๋เสียอย่างประหม่า เมืองพันอสูรตอนนี้วุ่นวายเพราะขาดผู้นำ พวกเขาต้องการคนที่จะเข้ามาช่วยทำให้สถานการณ์สงบลง
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เฉียวฉู่ทำตาโตอย่างประหลาดใจ ต่อให้ตีเขาให้ตาย เขาก็ไม่คิดว่าคนของเมืองพันอสูรจะอยากให้จวินอู๋เสียขึ้นเป็นเจ้าเมือง!
ตอนที่ 1126 ลองพูดอีกสักคำสิ (3)
จวินอู๋เสียไม่พูดอะไร ความเงียบของนางทำให้สยงป้ายิ่งกระสับกระส่ายมากขึ้น แต่ในขณะที่สยงป้ากระสับกระส่ายจนแทบจะวิ่งหนีออกนอกประตู หัวหน้าตึกอีกคนของเมืองพันอสูรก็เข้ามาตามรอยสยงป้า
“คุณชายจวิน!” หัวหน้าตึกคนนั้นอายุมากแล้วและเคยพบจวินอู๋เสียมาก่อน แต่ตอนนั้นเขาอยู่กับชวีเหวินเฮ่าที่กำลังพยายามจับตัวใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ
เมื่อสยงป้าเห็นหัวหน้าตึกคนนั้น เขาก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันทีและทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็รู้สึกว่าการทะเลาะกันต่อหน้าจวินอู๋เสียกับเฉียวฉู่นั้นไม่เหมาะสมนัก จึงได้แต่กัดฟันมองหน้าหัวหน้าตึกคนนั้น
“คุณชายจวิน ท่านคือผู้มีพระคุณของเมืองพันอสูร ตอนนี้เจ้าเมืองของเราเสียสติไปแล้ว เมืองพันอสูรจึงต้องการคนขึ้นมารับตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นการชั่วคราว คุณชายจวินก็ไม่ได้เกลียดชังพวกเราและยังช่วยเหลือเมืองพันอสูรเอาไว้ ตาเฒ่าคนนี้ไม่มีทางเลือกนอกจากหอบสังขารมาอ้อนวอนให้คุณชายจวินช่วยเหลือเราอีกครั้งด้วยการขึ้นเป็นเจ้าเมืองของเราเป็นการชั่วคราว” หัวหน้าตึกคนนั้นคารวะจวินอู๋เสีย ถ้อยคำที่เขาเอ่ยออกมานั้นชัดเจนไม่เหมือนสยงป้า
สยงป้ามองชายชราคนนั้นอย่างระวัง เขาอยากจะซัดตาแก่นั่นให้ตายเต็มทน
เรื่องที่ใครจะขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองนั้น ตาแก่คนนี้คือคนที่เถียงกับเขาหนักที่สุด ชายแก่คนนี้จงรักภักดีกับเมืองพันอสูร แต่ความหัวรั้นของเขาก็ทำให้สยงป้าโกรธจนอยากจะต่อยกับเขาอยู่บ่อยๆ
“เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับข้า” จวินอู๋เสียตอบพร้อมกับหรี่ตาลง
หัวหน้าตึกคนนั้นชะงักไป เขารู้ว่าจวินอู๋เสียเคยประกาศตัดความสัมพันธ์กับเมืองพันอสูร แต่ในช่วงเวลาคับขันที่สุดของเมืองพันอสูร จวินอู๋เสียก็มาช่วยพวกเขาซึ่งนั่นทำให้เขามีความหวังขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงประหลาดใจที่จวินอู๋เสียปฏิเสธโดยไม่หยุดคิดเลยสักนิด
เฉียวฉู่ที่ดูอยู่ด้านข้างก็อดกลั้นไว้ไม่ไหว จวินอู๋เสียเข้าไปยุ่งก็เพราะนางมีเรื่องต้องสะสางกับชวีซินรุ่ย ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเมืองพันอสูรเลย พวกเขารอดตายเพราะเรื่องนั้นยังไม่พออีก ยังจะมีหน้ามาขอให้จวินอู๋เสียเป็นเจ้าเมืองให้! โคตรหน้าด้าน!
“เดี๋ยวนะ ตาแก่นี่เป็นใคร เจ้าคู่ควรมาพูดที่นี่ด้วยหรือ เจ้าเมืองของเจ้าเสียสติไปแล้ว แต่บุตรีเขายังอยู่นี่ ในเมื่อพวกเจ้าอยากได้เจ้าเมืองคนใหม่ อย่างนั้นตัวเลือกที่ถูกต้องก็ควรเป็นชวีหลิงเย่ว์สิ! ทำไมต้องมาขอให้น้องเสียของเรารับหน้าที่นี้ด้วย!” เฉียวฉู่ถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
สำหรับสยงป้าเขายังนับว่าเป็นมิตรได้ แต่กับหัวหน้าตึกแก่ๆ ผอมแห้งคนนี้ เขาไม่เห็นจะอยากพูดดีด้วยสักนิด
ใครจะไปรู้ ทันทีที่ชื่อของชวีหลิงเย่ว์ถูกเอ่ยขึ้นมา สีหน้าของหัวหน้าตึกชราคนนั้นก็บึ้งตึงทันที
“ด้วยชื่อเสียงอันดีงามของเมืองพันอสูร เราจะยอมให้สตรีชั้นต่ำน่ารังเกียจแบบนั้นมาเป็นเจ้าเมืองของเราได้อย่างไร ถ้าข่าวแพร่ออกไป พวกเราไม่กลายเป็นตัวตลกกันหรอกหรือ!”
จวินอู๋เสียหรี่ตาลงทันที นางมองหัวหน้าตึกชราคนนั้นอย่างเย็นชา ความอบอุ่นทั้งหมดหายไปจากสายตานางทันที
“ร่างกายของนางแปดเปื้อนไปแล้ว ถ้านางขึ้นเป็นเจ้าเมืองของเมืองพันอสูร ชาวเมืองจะยอมรับได้อย่างไร หญิงสกปรกแบบนั้น ถ้าเก็บไว้ให้เป็นแค่คนธรรมดาก็พอจะมองข้ามไปได้หรอก แต่จะให้เป็นผู้นำความรุ่งโรจน์ของเมือง…” คิ้วของหัวหน้าตึกชราขมวดเป็นปม สายตาเต็มไปด้วยความรังเกียจเหยียดหยาม
สยงป้าโกรธมากจนสั่นไปทั้งตัว ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ เขาได้ยินคำพูดพวกนี้มามาก เขาโกรธจัดจนพุ่งเข้าไปจะชกหน้าตาแก่นั่นสักที
แต่มีคนหนึ่งเร็วกว่าสยงป้า!
ชายชราคนนั้นยังพูดไม่ทันขาดคำ จวินอู๋เสียก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขาทันที และเตะทีเดียวตาแก่นั่นก็ลอยละลิ่วออกนอกประตูหอเมฆาสวรรค์ไป!