ตอนที่ 622 ไป๋เซี่ยมาเยือนถึงหน้าประตู

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 622 ไป๋​เซี่ย​มาเยือน​ถึงหน้า​ประตู​

ไป๋​ซวง​ส่าย​หัว​ “ไม่ต้อง​!”

ไป๋​เซี่ย​ถามแกม​ประชดประชัน​ “ทำไม​? กลัว​ความผิด​งั้น​เหรอ​?”

“ไม่ใช่! แต่​เชื่อ​เสียง​ของ​ศาสตราจารย์​ฟางโด่งดัง​มาก​ ฉัน​กลัว​ว่า​ถ้าเปลี่ยนไป​โรงพยาบาล​อื่น​แล้ว​ เขา​ก็​จะยัง​เล่น​ตลบหลัง​อยู่ดี​ ไว้ใจ​อะไร​ใน​โรงพยาบาล​ที่​เจียง​เฉิน​ไม่ได้​หรอก​!”

หลิน​ม่าย​ถอนหายใจ​ ยก​ยิ้ม​และ​ถามพ่อ​ไป๋​กับ​แม่ไป๋​ “พวกคุณ​คิด​ว่า​จั๋ว​หรา​น​ใหญ่​ขนาด​ปิด​ฟ้าได้​ด้วยมือ​ข้างเดียว​เลย​เหรอ​คะ​?”

แต่​ก่อนที่​พ่อ​ไป๋​จะพูด​อะไร​ แม่ไป๋​กลับ​โพล่ง​ขึ้น​ว่า​ “เรา​จะพา​ซวงเอ๋อร์​กลับ​ไป​ตรวจ​สุขภาพ​ที่​ปักกิ่ง​ โรงพยาบาล​ที่​ปักกิ่ง​เก่ง​กว่า​ที่นี่​มาก​”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​อย่าง​มีเลศนัย​ “ที่​คุณ​พูด​มามัน​ก็​ถูก​ค่ะ​”

จากนั้น​จึงคิดได้​ว่า​มีธุระ​ที่​ต้อง​ทำต่อ​ จึงบอกลา​และ​จากไป​

หลิน​ม่าย​กับ​เถาจืออวิ๋น​ไป​จัดแจง​งาน​ที่​โรงงาน​สิ่งทอ​ และ​กลับ​ออกมา​พร้อมกัน​

เธอ​จะปล่อย​ให้​เรื่อง​ผ้า​ล่าช้า​ไม่ได้​อีกต่อไป​ และ​วางแผน​จะไป​ซื้อ​เศษผ้า​คุณภาพ​สูงที่​กว่าง​โจว​ใน​เย็น​วันนี้​

เดิมที​เธอ​จะไป​กว่าง​โจว​เพียงลำพัง​ ทว่า​เถาจืออวิ๋น​ยืนกราน​ที่จะ​ไป​กับ​เธอ​ด้วย​ เพราะ​อีก​ฝ่าย​มีความ​เชี่ยวชาญ​ใน​การ​เลือก​ประเภท​ผ้า​มากกว่า​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​คิด​และ​พยักหน้า​ตอบ​ตกลง​ อีก​ทั้ง​ยัง​บอก​หล่อน​ว่า​ไม่ต้อง​เข้าไป​ทำงาน​ใน​ช่วง​บ่าย​ จะกลับบ้าน​ไป​เตรียม​เสบียง​สำหรับ​การ​เดินทาง​

ทั้งสอง​บอกลา​กันที่​ชั้นล่าง​ของ​สำนักงาน​

หลิน​ม่าย​ขับรถ​ส่วนตัว​กลับ​ไป​ ในขณะที่​เถาจืออวิ๋น​เดิน​กลับบ้าน​

เมื่อ​เดิน​มาถึงมุมหนึ่ง​ หญิง​วัย​กลางคืน​หน้าตา​ดี​คน​หนึ่ง​ได้​เข้ามา​หยุด​หล่อน​ไว้​

เถาจืออวิ๋น​จำหญิง​วัยกลางคน​ผู้​นี้​ได้ดี​ หล่อน​คือ​หวัง​เห​วิน​ฟางแม่ของ​ฟางจั๋วเยวี่ย​

หวัง​เห​วิน​ฟางเป็น​ฝ่าย​ถามด้วย​ถ้อยคำ​เย่อหยิ่ง​ “เธอ​เป็นเพื่อน​กับ​หลิน​ม่าย​ ชื่อ​เถาจืออวิ๋น​ที่​ผ่าน​การหย่า​มาสินะ​”

เถาจืออวิ๋น​รู้สึก​อึดอัด​มาก​เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนั้น​ ขมวดคิ้ว​และ​ถามว่า​ “คุณ​มาหา​ฉัน​มีเรื่อง​อะไร​คะ​?”

หวัง​เห​วิน​ฟางหัวเราะ​เหอะ​ ๆ “แน่นอน​ว่า​อยู่​ใกล้​ชาด​ติด​สีแดง​ อยู่​ใกล้​หมึก​ติด​สีดำ​ เป็นเพื่อน​กับ​หลิน​ม่าย​ได้​ แสดงว่า​คงจะ​ไร้​การศึกษา​เหมือนกัน​ล่ะ​สิ!”

เถาจืออวิ๋น​อยาก​จะโต้เถียง​สัก​สอง​สามคำ​ แต่​เพราะ​เห็น​ว่า​หล่อน​เป็น​แม่แท้ ๆ​ ของ​ฟางจั๋ว​เย​วี่ย​ จึงทำได้​เพียง​ระงับ​ความโกรธเคือง​เอาไว้​ และ​ตอกกลับ​อย่าง​เย็นชา​ “คุณ​จะมาขวาง​ฉัน​ทำไม​คะ​? ถ้าไม่มีอะไร​แล้วก็​หลีกทาง​เถอะ​ค่ะ​”

หวัง​เห​วิน​ฟางเชิดหน้า​ขึ้น​ด้วย​ความ​อวดดี​ “ก็​ไม่มีอะไร​หรอก​ ฉัน​แค่​อยาก​จะมาเตือน​เธอ​หน่อย​ว่า​อย่า​ไป​หลอกลวง​ลูกชาย​ฉัน​ ไม่อย่างนั้น​ฉัน​จะทำให้​เธอ​ได้​เห็นดี​แน่​!”

หวัง​เห​วิน​ฟางได้​แอบ​ตาม​สืบ​เรื่องราว​ของ​เถาจืออวิ๋น​ลับ​ ๆ ตั้งแต่​เห็น​ฟางจั๋วเยวี่ย​อยู่​กับ​แม่ลูก​เถาจืออวิ๋น​เมื่อ​ครั้งก่อน​

หาก​ไม่ตาม​สืบ​ดู​ก็​คง​ไม่รู้​ และ​ยิ่ง​สืบ​ดู​ก็​ยิ่ง​ตกใจ​

เถาจืออวิ๋น​เป็น​เพื่อนสนิท​กับ​หลิน​ม่าย​ ทั้ง​ยัง​เป็น​ผู้หญิง​ที่​ผ่าน​การ​หย่าร้าง​และ​มีลูก​มาแล้ว​

หล่อน​โมโห​แทบตาย​ และ​รู้สึก​ว่า​ลูกชาย​ของ​ตน​ต้อง​มาพบปะ​กับ​เถาจืออวิ๋น​ก็​เพราะ​หลิน​ม่าย​

แต่​ภายหลัง​หล่อน​ก็​พบ​ว่า​เถาจืออวิ๋น​มีแฟน​หนุ่ม​แล้ว​ และ​ไม่ต้องการ​อยู่​กับ​ลูกชาย​ของ​ตน​ หล่อน​จึงไม่ได้​ไป​ตาม​ด่า​ถึงหน้า​ประตู​บ้าน​ แต่​มายืน​ขวางทาง​เถาจืออวิ๋น​กลาง​ท้องถนน​ และ​พูด​ตักเตือน​อีก​ฝ่าย​สอง​สามคำ​

หวัง​เห​วิน​ฟางรู้เรื่อง​ที่​ฟางจั๋วเยวี่ย​เข้าไป​ติดพัน​เถาจืออวิ๋น​ทั้งหมด​

ลูกชาย​ของหล่อน​ทั้ง​สูง หล่อ​ ยัง​หนุ่ม​ยัง​แน่น​ หล่อน​จึงกลัว​ว่า​เถาจืออวิ๋น​จะล่อลวง​ลูกชาย​ให้​มาอยู่​ด้วยกัน​

ดังนั้น​หล่อน​จึงอยาก​จะล้อมคอก​ก่อน​วัว​หาย​ และ​สั่งให้​เถาจืออวิ๋น​สลัด​ความคิด​นั้น​ทิ้ง​ไป​เสีย​

เดิมที​เถาจืออวิ๋น​อยาก​จะทำให้​เรื่อง​เงียบ ๆ​ ทว่า​หวัง​เห​วิน​ฟางกลับ​ทำตัว​ก้าวร้าว​ หล่อน​จึงไม่อยาก​ทน​อีกต่อไป​

และ​พูด​ด้วย​สีหน้า​มืดมน​ว่า​ “ฉัน​ไป​ล่อลวง​ลูกชาย​คุณ​งั้น​เหรอ​? เพราะว่า​เขา​มีแม่อย่าง​คุณ​ไง ต่อให้​เอา​เงิน​ห้า​ล้าน​หยวน​มาวาง​กอง​ให้​ฉัน​ ฉัน​ก็​ไม่แม้แต่​จะแล​เขา​หรอก​ อย่า​ว่าแต่​ไป​ล่อลวง​เขา​เลย​! คุณ​เอง​ก็​ดูแล​ลูกชาย​ตัวเอง​ให้​ดี​ซะ อย่า​ให้​ตามมา​รังควาน​ฉัน​อีก​”

หล่อน​พูด​และ​จงใจขมวดคิ้ว​แน่น​ “คุณ​บอ​กว่า​จะทำให้​ฉัน​เห็นดี​ใช่ไหม​? คุณ​เอง​ก็​ผ่าน​การหย่า​และ​ถูก​ลดตำแหน่ง​ลง​ไม่ใช่หรือไง​ จะมาทำให้​ฉัน​เห็นดี​อะไร​อีก​?และ​ขอ​แนะนำ​ให้​คุณ​หัด​พูดจา​ให้​มัน​น้อย​ ๆ หน่อย​ จะได้​ไม่มีเวลา​มาหัวเราะเยาะ​ใคร​ได้​อีก​!”

เถาจืออวิ๋น​พูด​จบ​และ​หันหลัง​กลับ​ไป​ ก่อน​จะเห็น​ฟางจั๋วเยวี่ย​ยืน​อยู่​ข้างหลัง​

หล่อน​รู้สึก​ตื่นตระหนก​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ฟางจั๋วเยวี่ยคง​ได้ยิน​คำพูด​หล่อน​หมด​แล้ว​ และ​มัน​คง​กระทบใจ​เขา​น่าดู​

แต่​หลังจาก​คิดดู​แล้ว​ ก็​คิด​ว่า​ให้ยา​แรง​กับ​เขา​แบบนี้​ก็ดี​ไป​อย่าง​ เขา​จะได้​ยอมแพ้​ไป​เสียที​

เถาจืออวิ๋น​เดินผ่าน​ฟางจั๋วเยวี่ย​ไป​ด้วย​สีหน้าที่​เรียบ​นิ่ง​

หวัง​เห​วิน​ฟางนึกไม่ถึง​ว่า​ลูกชาย​จะมาบังเอิญ​เห็น​ขณะที่​หล่อน​กำลัง​คุย​กับ​เถาจืออวิ๋น​อยู่​

ภายในใจ​รู้สึก​ผิด​และ​ประหลาดใจ​ “ลูก​มาที่นี่​ทำไม​?”

ฟางจั๋วเยวี่ย​แวะ​มาที่นี่​เพราะ​ห้อง​แช่เย็น​ขนาดเล็ก​ใน​ตลาดสด​ฝูตัว​ตัว​เกิด​ปัญหา​ จ้าว​เลี่ยง​จึงโทร​เรียก​เขา​ให้​มาซ่อม​

เขา​ผ่าน​มาทาง​นี้​และ​บังเอิญ​เห็น​หวัง​เห​วิน​ฟางขวางทาง​เถาจืออวิ๋น​เอาไว้​ จึงค่อย ๆ​ ย่อง​เข้า​ไปดู​ว่า​แม่ตนเอง​มาตามหา​เถาจืออวิ๋น​ทำไม​

สีหน้า​ของ​เขา​มืดมน​ลง​ “ถ้าผม​ไม่บังเอิญ​เดินผ่าน​มาทาง​นี้​ ผม​คง​ไม่รู้​เลย​สินะ​ว่า​แม่เข้ามา​เจ้ากี้เจ้าการ​ชีวิต​ผม​ยังไง​บ้าง​!”

เขา​พูด​และ​เดิน​จากไป​

หวัง​เห​วิน​ฟางรีบ​ร้อง​ตะโกน​ไล่หลัง​ “แม่ทำ​ทุกอย่าง​ก็​เพื่อ​ตัว​แกนะ​ ผู้หญิง​ที่​ชื่อ​เถาจืออวิ๋น​จะคู่ควร​กับ​แก​ได้​ยังไง​?”

“หล่อน​คู่ควร​กับ​ผม​ทุกอย่าง​ แต่​ผม​ไม่คู่ควร​กับ​หล่อน​ต่างหาก​! ถ้าแม่ยัง​มายุ่ง​กับ​ชีวิต​ผม​อีก​ ผม​จะตัดขาด​ความ​เป็น​แม่ลูก​ซะ”

หวัง​เห​วิน​ฟางกระทืบเท้า​ด้วย​ความ​โกรธจัด​ที่​ไม่สามารถ​ทำ​อะไร​ฟางจั๋วเยวี่ย​ได้​

หลิน​ม่าย​ขับรถ​ไป​ที่​ตลาดสด​ฝูตัว​ตัว​ก่อนหน้านี้​

เมื่อวาน​นี้​เฉินเฟิง​บอ​กว่า​เค​อจื่อฉิง​อยาก​กิน​ลิ้นจี่​ เธอ​จึงโทร​หา​จ้าว​เลี่ยง​ ฝาก​ให้​เก็บ​ลิ้นจี่​ลูก​สวย​ ๆ และ​สด​ใหม่​เอาไว้​ให้​เธอ​สัก​หนึ่ง​กิโลกรัม​ และ​เธอ​จะส่งมัน​ไป​ให้​เค​อจื่อฉิง​

สมาชิก​ครอบครัว​ของ​เค​อจื่อฉิง​ไม่ได้​อยู่​ที่นี่​แล้ว​ ถึงแม้ว่า​จะมีพ่อแม่​สามีอยู่​ แต่​ทั้งหมด​ล้วน​มาจาก​ต่างถิ่น​

นอกจาก​เฉินเฟิง​แล้ว​ รอบตัว​หล่อน​ไม่มีใคร​ช่วยดูแล​หล่อน​สัก​คน​

และ​เธอ​อยาก​จะดูแล​อีก​ฝ่ายใน​ฐานะ​เพื่อน​คนสนิท​ให้​มากขึ้น​

หลังจากที่​เฉินเฟิง​กับ​เค​อจื่อฉิง​แต่งงาน​กัน​ พวกเขา​ก็​อาศัย​อยู่​ใน​บ้านพักตากอากาศ​บน​ถนน​เส้น​เดียว​กับ​บ้าน​ของ​หลิน​ม่าย​

เค​อจื่อฉิง​กำลัง​นั่ง​ดูโทรทัศน์​อยู่​ใน​บ้าน​ หล่อน​มีความสุข​มาก​เมื่อ​เห็น​หลิน​ม่าย​เดิน​เข้ามา​พร้อมกับ​ลิ้นจี่​ และ​ขอให้​อีก​ฝ่าย​มาร่วม​รับประทาน​อาหาร​กัน​อย่าง​อบอุ่น​

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​และ​พูด​ติดตลก​ว่า​ “เธอ​กับ​เฉินเฟิง​ทำอาหาร​ไม่เป็น​ทั้งคู่​ แต่​ดัน​ขอให้​ฉัน​มากินข้าว​ด้วย​เนี่ย​นะ​!”

เค​อจื่อฉิง​ปอก​ลิ้นจี่​กิน​ “ถึงเรา​สอง​คน​จะทำอาหาร​ไม่เป็น​ แต่​ป้า​แม่บ้าน​ที่​เรา​จ้างมาทำอาหาร​อร่อย​มาก​นะ​”

หลิน​ม่าย​โบกมือ​ปฏิเสธ​และ​สอบถาม​สถานการณ์​ของหล่อน​ ซึ่งเค​อจื่อฉิง​บอ​กว่า​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​ดี​และ​ทุกอย่าง​อยู่​ใน​ความสงบ​

และ​ทันทีที่​ขับรถ​มาถึงลานบ้าน​ ใบหน้า​อัน​หล่อเหลา​ของ​ไป๋​เซี่ย​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​นอก​กระจกรถ​

หลิน​ม่าย​ถามด้วย​ความประหลาดใจ​ “มาหา​ฉัน​มีอะไร​เหรอ​คะ​?”

ไป๋​เซี่ย​พยักหน้า​เบา​ ๆ

หลิน​ม่าย​ค่อนข้าง​ประทับใจ​ใน​ตัว​เขา​ จึงพูด​เชิญชวน​ว่า​ “เข้าไป​กินข้าว​ด้วยกัน​ก่อน​สิคะ​ กิน​ไป​ด้วย​คุย​ไป​ด้วย​”

ไป๋​เซี่ย​แสดง​สีหน้าท่าทาง​อึดอัด​ราวกับ​ท้องผูก​ “ฉัน​ไม่อยาก​ให้​คนอื่น​ได้ยิน​เรื่อง​ที่​ฉัน​จะคุย​กับ​เธอ​น่ะ​”

หลิน​ม่าย​พูด​ตอบ​ “นาย​อยาก​พูด​อะไร​ก็​พูด​มาเลย​เถอะ​”

บน​ท้องถนน​แห่ง​นี้​มีผู้คน​อยู่​ไม่มาก​นัก​ และ​ตอนนี้​เป็นเวลา​เที่ยง​แล้ว​ ทำให้​คน​น้อยลง​ไป​อีก​ หาก​ต้องการ​จะพูด​อะไร​เป็นการ​ส่วนตัว​ไม่จำเป็นต้อง​กลัว​ว่า​จะมีใคร​มาแอบ​ฟัง

ไป๋​เซี่ย​จึงปริปาก​พูด​ “เธอ​เต็มใจ​ให้​ไป๋​ซวง​อยู่​ใน​บ้าน​สกุล​ไป๋​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​และ​พูดว่า​ “ถ้านาย​ไม่อยาก​ให้​ไป๋​ซวง​อยู่​ใน​บ้าน​สกุล​ไป๋​ เรื่อง​นี้​ก็​ง่าย​นิดเดียว​ ไป๋​ซวง​บอ​กว่า​หลังจาก​กลับ​ไป​ที่​ปักกิ่ง​แล้ว​หล่อน​จะเข้า​รับ​การ​ตรวจ​อีกครั้ง​ไม่ใช่เหรอ​? ถ้าตอนนั้น​นาย​เปิดโปง​หล่อน​ได้​ ลุง​ไป๋​ป้า​ไป๋​ก็​อาจจะ​ผิดหวัง​ใน​ตัว​หล่อน​ ส่วน​นาย​ก็​แค่​เติม​เชื้อเพลิง​ให้​ลุง​ไป๋​ป้า​ไป๋​ส่งหล่อน​กลับ​ไป​อยู่​กับ​พ่อแม่​ผู้ให้กำเนิด​ แบบนี้​หล่อน​จะได้​ถูก​ไล่​ออกจาก​บ้าน​สกุล​ไป๋​ไป​ไม่ใช่หรือไง​?”

ไป๋​เซี่ย​ขมวดคิ้ว​ “แต่​แผนก​รักษา​โรคหัวใจ​ที่​ดี​ที่สุด​ใน​ปักกิ่ง​อยู่​ใน​โรงพยาบาล​ฉือ​ซิน​ ไป๋​ซวง​ไปหา​หมอ​ที่​โรงพยาบาล​ฉือ​ซิน​ตลอด​ และ​ทุกครั้งที่​วินิจฉัย​ว่า​เป็นโรค​หลอดเลือด​หัวใจ​ตีบ​ขั้น​รุนแรง​ พ่อแม่​ถึงได้​ดูแล​หล่อน​ทุก​วิถีทาง​ ฉัน​สงสัย​ว่า​หล่อน​กำลัง​ติดสินบน​แพทย์​ใน​ห้อง​ปฏิบัติ​ของ​ทาง​โรงพยาบาล​ แล้ว​แบบนี้​ฉัน​จะเปิดโปง​หล่อน​ได้​ยังไง​?”

“เรื่อง​นี้​จัดการ​ง่าย​มาก​ ก็​แค่​เปลี่ยน​ให้​หล่อน​ไป​ตรวจร่างกาย​ที่​โรงพยาบาล​อื่น​ซะ แต่​นาย​ต้อง​ระวัง​ให้​ดี​ เพราะ​ถ้าหล่อน​ติดสินบน​ผล​ตรวจร่างกาย​กับ​โรงพยาบาล​ฉือ​ซิน​มาตั้งแต่​อายุ​สิบเอ็ด​สิบสอง​ปี​ ต่อให้​ย้าย​ไป​โรงพยาบาล​อื่น​ก็​อาจจะ​ใช้กลอุบาย​เดิม​ ๆ อีก​ นาย​จะต้อง​คอย​จับตาดู​ อย่า​เปิดโอกาส​ให้​หล่อน​หรือ​อย่า​ให้​หล่อน​แสดงตัว​ได้​เด็ดขาด​ ด้วย​วิธีการ​นี้​เท่านั้น​นาย​ถึงจะเปิดโปง​โฉมหน้าที่​แท้จริง​ของหล่อน​ให้​พ่อแม่​นาย​เห็น​ได้​”

ไป๋​เซี่ย​พยักหน้า​และ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เป็นกังวล​ “ฉัน​กลัว​ว่า​ถ้าฉัน​เปิดเผย​ความจริง​ของ​ไป๋​ซวง​ได้​แล้ว​ แม่จะเอาแต่​ปกป้อง​หล่อน​ท่าเดียว​น่ะ​สิ ถึงตอนนั้น​ความพยายาม​ของ​ฉัน​คง​เปล่าประโยชน์​”

“แค่​ทำให้​ดี​ที่สุด​ ไม่ว่า​อะไร​จะเกิด​ขึ้นอยู่​ที่​ฟ้าลิขิต​” หลิน​ม่าย​เอ่ย​ถามด้วย​ความ​งุนงง​ “ทำไม​ป้า​ไป๋​ถึงรัก​ไป๋​ซวง​มาก​ขนาด​นี้​?”

ไป๋​เซี่ย​ครุ่นคิด​ “น่าจะเป็น​เพราะ​หล่อน​ร่างกาย​ไม่แข็งแรง​มาตั้งแต่​เด็ก​ พ่อแม่​ถึงได้​ทุ่มเท​ทุกอย่าง​เพื่อ​หล่อน​มาก​ เพราะ​งั้น​ต่อให้​ไป๋​ซวง​จะทำตัว​ไม่ดี​แค่​ไหน​ พ่อแม่​ก็​ยัง​ชอบ​หล่อน​มาก​”

หลิน​ม่าย​ถอนหายใจ​เบา​ ๆ หลังจาก​ได้ยิน​เช่นนั้น​

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ก่อน​จะด่า​ใคร​น่ะ​ดู​ตัวเอง​ก่อน​นะ​ยัย​ป้า​ สภาพ​ป้า​ก็​ไม่ต่าง​จาก​เขา​เท่าไหร่​หรอก​ ต่างกัน​ตรง​ที่​เขา​รู้จัก​ปรับปรุง​ตัวเอง​เป็น​คน​ที่​ดีขึ้น​เท่า​นั้นแหละ​

เรื่อง​ตระกูล​ไป๋​นี่​แล้วแต่​ชะตา​ฟ้าลิขิต​แล้วกัน​นะ​ บางที​อาจ​มีเหตุ​ทำให้​ยัย​ไป๋​ซวง​ออกจาก​บ้าน​ตระกูล​ไป๋​โดยที่​ไม่ต้อง​ลงมือทำ​อะไร​ก็ได้​ เพียงแต่​ตอนนี้​ยัง​ไม่ถึงเวลา​ของ​มัน​

ไหหม่า​(海馬)