ตอนที่ 1133 แต่งฮูหยิน (3) ตอนที่ 1134 แต่งฮูหยิน (4)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1133 แต่งฮูหยิน (3) / ตอนที่ 1134 แต่งฮูหยิน (4)
ตอนที่ 1133 แต่งฮูหยิน (3)

ไม่นานข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองพันอสูรอย่างรวดเร็ว จวินอู๋เสียที่ดึงเมืองพันอสูรให้พ้นจากขุมนรกกำลังจะแต่งงานกับคุณหนูใหญ่ของเมืองพันอสูร…ชวีหลิงเย่ว์!

เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ทั่วทั้งเมืองก็แตกตื่นกันทันที!

ถ้าเป็นก่อนเกิดเรื่องนั้นขึ้น การที่จวินอู๋เสียตัดสินใจเช่นนั้น ทุกคนในเมืองพันอสูรคงยกมือทั้งสองข้างเห็นด้วยอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าชวีหลิงเย่ว์โดนกระทำเช่นไรมา เรื่องที่ชวีหลิงเย่ว์จะขึ้นเป็นเจ้าเมืองพวกเขายังไม่เห็นด้วย แล้วพวกเขาจะทนเห็นผู้มีพระคุณของพวกเขาแต่งงานกับสตรีที่มีมลทินได้อย่างไร

หลังจากนั้นไม่นาน พวกชอบสอดรู้สอดเห็นในเมืองพันอสูรก็เริ่มซุบซิบกันถึงเรื่องนี้ บางคนถึงขั้นมาที่หอเมฆาสวรรค์เพื่อขอให้จวินอู๋เสีย ‘คิดทบทวน’ อีกครั้ง

แต่จวินอู๋เสียไม่สนใจฟังคำพูดพวกนั้นเลยสักนิด

เมื่อเสียงที่ไม่เห็นด้วยพวกนั้นเพิ่มขึ้นมากๆ เข้า ก็เกิดเรื่องที่ทำให้เสียงพวกนั้นหายไปในทันที

เหล่าชายหนุ่มคนโปรดที่หนีออกมาจากหอเมฆาสวรรค์จู่ๆ ก็พากันตายไปกว่าครึ่งภายในคืนเดียว สภาพการตายของคนพวกนั้นน่ากลัวมาก และพวกที่ตายไปนั้นคือคนที่แตะต้องชวีหลิงเย่ว์ ข้างๆ ศพของคนพวกนั้นมีตราหยกสีดำที่สลักคำว่า ‘เสีย’ วางอยู่

นั่นคือคำเตือนถึงทุกคน

จวินอู๋เสียใช้วิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดและโหดเหี้ยมที่สุดเพื่อกำราบข้อข้องใจทั้งหมดและให้ทุกคนรู้จุดยืนของนางอย่างชัดเจน

ชวีหลิงเย่ว์จะเป็นฮูหยินของ ‘จวินเสีย’ อย่างแน่นอน!

ถ้าใครกล้าพูดออกมาอีกคำ พวกเขาได้จบแบบเดียวกับเหล่าชายหนุ่มคนโปรดที่ชอบซุบซิบนินทาแน่!

เสียงซุบซิบนินทาเรื่องของชวีหลิงเย่ว์ในเมืองพันอสูรลดลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะยังมีการถกเถียงกันในที่ลับตาอยู่บ้าง แต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูดอย่างเปิดเผยโดยไม่ระวังอีกแล้ว

เฟยเยียนกับพวกตึกเพลิงพิโรธช่วยกันแขวนธงและโคมแดงไปตามถนน ทุกที่ถูกประดับด้วยผ้าไหมและผ้าแพรสีแดง ทั่วทั้งเมืองพันอสูรเต็มไปด้วยบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง

สำหรับการตัดสินใจของจวินอู๋เสียนั้น สยงป้าย่อมรู้สึกสบายใจมากๆ และเขาก็ยินดีที่สุดที่ได้ร่วมมือกับเฟยเยียน ถึงหัวหน้าตึกคนอื่นๆ จะไม่ช่วย แต่สยงป้าก็ระดมคนของตึกเพลิงพิโรธทุกคนให้เข้ามาช่วย พวกเขาทำงานกันหนักมากเพื่อทำให้งานนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้

สามวันผ่านไปในชั่วพริบตา และตอนเย็นวันนั้นด้านนอกประตูเมืองพันอสูรในรัศมีสิบลี้ก็เต็มไปด้วยดอกไม้สีแดง

ทะเลบุปผาสิบลี้ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการเพื่อรับเจ้าสาวนี้ทำให้บรรดาหญิงสาวมากมายตาร้อนเป็นไฟด้วยความอิจฉา!

พวกนางปรารถนาจะได้เป็นเจ้าสาวคนนั้นมาก!

‘จวินเสีย’ ขี่ม้าสีขาวที่สง่างามมาท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็นสีทอง ด้านหลังเขาคือขบวนรับเจ้าสาวที่เป็นแถวยาวเหยียดเหยียบย่างไปบนทะเลบุปผา สายลมพัดกลีบดอกไม้โปรยปรายเป็นสาย พวกเขาเคลื่อนขบวนเข้ามาในเมืองพันอสูรอย่างช้าๆ

สยงป้าที่อยู่บนประตูเมืองมองภาพตรงหน้าอย่างตื้นตัน น้ำตาอุ่นๆ คลอเต็มดวงตา เขารู้ว่าทำไมจวินอู๋เสียถึงทำทุกอย่างนี้ แต่เขาไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะจัดเสียอลังการขนาดนี้ คุณหนูใหญ่แห่งเมืองพันอสูรรุ่นก่อนๆ ทุกคนเวลาแต่งงานมีใครบ้างที่ได้รับการปฏิบัติถึงขนาดนี้!

ทะเลบุปผากว้างสิบลี้! เมืองพันอสูรเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอบอวลในอากาศ กลิ่นหอมจางๆ นั้นได้กระตุกหัวใจของบรรดาหญิงสาวมากมาย

นั่นเป็นพิธีแต่งงานในฝันที่บรรดาหญิงสาวมากมายได้แต่ฝันถึงเท่านั้น!

แสงสีทองของอาทิตย์ยามอัสดงทำให้สีของดอกไม้แดงจ้าเปล่งประกายจากข้างนอกเมืองไปจนถึงกลางเมือง โคมแดงแกว่งไกวอยู่ท่ามกลางกลีบดอกไม้ที่โปรยปรายงดงามราวกับภาพวาด ภาพนั้นกลายเป็นสิ่งที่เด็กสาวทุกคนในเมืองพันอสูรต่างปรารถนาไปตลอดกาล เป็นสิ่งที่พวกนางใฝ่ฝันจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกันนี้ หรือเพียงแค่เศษเสี้ยวเล็กๆ ก็ยังดี

ตอนที่ 1134 แต่งฮูหยิน (4)

พวกคนที่ยังแอบคิดว่าจวินอู๋เสียจะแค่แต่งงานกับชวีหลิงเย่ว์แบบรีบๆ เพื่อให้พ้นๆ ไปนั้น เมื่อได้เห็นขบวนต้อนรับเจ้าสาวที่ยิ่งใหญ่อลังการเช่นนั้นก็พากันหุบปากเงียบ

พวกเขาทำได้แค่กัดฟันมองสตรีที่พวกเขาถือว่าเป็นความน่าอับอายขายหน้ามีความสุขในพิธีแต่งงานที่เด็กสาวทุกคนได้แต่ฝันถึง!

ที่หอเมฆาสวรรค์ ชวีหลิงเย่ว์ในชุดแต่งงานสีแดงยืนวิตกกังวลอยู่ข้างหน้าต่าง ด้านนอกหน้าต่างที่ปิดล็อกแน่นหนานั้นมีเสียงฆ้องและฉาบดังลอยมา มือที่ชุ่มเหงื่อของนางดึงชุดแต่งงานที่ปักอย่างประณีตงดงามแรงๆ

สุดท้ายนางก็รวบรวมความกล้าใช้มือที่สั่นอย่างเห็นได้ชัดผลักหน้าต่างให้เปิดออก!

ทันทีที่หน้าต่างเปิด สายลมก็พัดกลีบดอกไม้สีแดงสดปลิวเข้ามาลงบนใบหน้าของนาง นางเห็นเมืองพันอสูรถูกปกคลุมไปด้วยทะเลบุปผาสีแดง ดอกไม้จำนวนนับไม่ถ้วนทำให้เมืองที่เพิ่งพ้นหายนะอันน่าสะพรึงกลัวมาได้มีชีวิตชีวาขึ้น กลิ่นหอมของดอกไม้ซึมซาบเข้าสู่จมูกของนาง!

สายลมอันอ่อนโยนพัดผ่านเส้นผมของนาง ดวงตาของนางเบิกกว้างขณะมองภาพที่งดงามจนลืมหายใจที่อยู่ตรงหน้า

ทะเลบุปผางดงามจนทำให้นางตกตะลึง ทุกอย่างดูเหมือนความฝันที่งดงามจนนางไม่อยากตื่น

“ชอบหรือไม่” เสียงที่เจือความเย็นชาเล็กน้อยดังขึ้นข้างหลังชวีหลิงเย่ว์

ชวีหลิงเย่ว์หันกลับมาอย่างประหลาดใจ นางเห็นจวินอู๋เสียยืนกอดอกมองนางอยู่ตรงประตูท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครม

นางหลบหน้าจวินอู๋เสียมาหลายวัน แต่ใบหน้านั้นสลักลึกอยู่ในหัวใจนางจนไม่อาจลบเลือนได้ ทันทีที่นางเห็นจวินอู๋เสีย ดวงตาของนางก็ฉายแววตื่นตระหนกปนกับความเขินอาย

ถึงนางจะรู้ว่าร่างนั้นก็เป็นเหมือนกับนาง ทั้งสองคนล้วนเป็นสตรี แต่ไม่รู้ว่าทำไมชวีหลิงเย่ว์ถึงยังไม่สามารถระงับอาการสั่นไหวของหัวใจได้ เมื่อนางมองหน้าของจวินอู๋เสีย หัวใจนางก็ยังเต้นรัวอย่างที่เคยเป็นเสมอตอนที่เจอ ‘เขา’ ความรู้สึกนี้ทำให้ใบหน้าของนางกลายเป็นสีแดง

“ท่าน…ท่านไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้…ข้ารู้…ท่านทำเช่นนี้ก็เพื่อข้า…” ชวีหลิงเย่ว์พูดตะกุกตะกักพร้อมกับก้มศีรษะ จู่ๆ นางก็รู้สึกว่าตัวเองน่ารังเกียจมาก นางเข้าใจว่าทำไมจวินอู๋เสียถึงทำเช่นนี้และรู้ว่าจวินอู๋เสียเป็นสตรี แต่ในใจลึกๆ ของนางก็ยังไม่สามารถลบความปรารถนานั้นออกไปได้…

แค่ชั่วขณะหนึ่งก็พอแล้ว ต่อให้ต้องตายในวินาทีต่อมา นางก็หวังเพียงว่า…ให้ความฝันนี้คงอยู่นานขึ้นอีกสักหน่อย

นางไม่อยากตื่น…ไม่อยากตื่นขึ้นมาจริงๆ

ขอให้นางอยู่ในความสุขนี้อีกสักนิด…แค่อีกนิดเดียว…

“วันนี้เจ้างดงามมากจริงๆ” จวินอู๋เสียพูดอย่างจริงจังขณะมองไปที่ชวีหลิงเย่ว์

ดวงตาของชวีหลิงเย่ว์เบิกกว้าง สายลมเย็นพัดผ่านหน้าต่างเข้ามา นำพากลีบดอกไม้เข้ามาปลิววนอยู่ระหว่างนางกับจวินอู๋เสีย ทำให้เกิดภาพอันงดงามที่ทำให้คนปรารถนาจะหยุดเวลาในช่วงนั้นเอาไว้

จวินอู๋เสียแตะจมูกนางแล้วไอเบาๆ ก่อนจะพูดว่า “วันนี้คนที่จะทำพิธีแต่งงานคือฮวาเหยา เพราะข้า…ไม่รู้อะไรในเรื่องนี้เลย แต่วางใจเถอะ อย่างไรข้าก็คือคนที่แต่งงานกับเจ้า”

ตาของชวีหลิงเย่ว์เป็นประกายขึ้นมาแวบหนึ่ง ใบหน้าของนางแดงเป็นลูกตำลึง นางก้มหน้าลงพร้อมกับพยักหน้าอย่างว่าง่าย

“ถ้าเจ้าพร้อมแล้ว อย่างนั้นก็ลงข้างล่างเถอะ” จวินอู๋เสียพูด

“ได้” ชวีหลิงเย่ว์ยังคงก้มหน้า ไม่กล้าเงยขึ้นมามองจวินอู๋เสีย

จวินอู๋เสียหันหลังเดินออกจากห้องโดยไม่พูดอะไรอีก แต่นางเดินลับสายตาของชวีหลิงเย่ว์ไปไม่ทันไรก็ถูกวงแขนที่คุ้นเคยสวมกอดทันที

“ข้าไม่ยักรู้ว่าเสี่ยวเสียเอ๋อร์กล่อมคนได้เก่งขนาดนี้” จวินอู๋เย่าพูดพร้อมกับยิ้มให้จวินอู๋เสีย