ตอนที่ 1135 แต่งฮูหยิน (5) / ตอนที่ 1136 ไฟสงครามปะทุ (1)
ตอนที่ 1135 แต่งฮูหยิน (5)
จวินอู๋เสียยกตัวเจ้าแมวดำตัวน้อยที่อยู่บนบ่านางส่งไปตรงหน้าจวินอู๋เย่า
“มันสอนข้า” จวินอู๋เสียพูดหน้าตาเฉย
เจ้าแมวดำตัวน้อยขดตัวเป็นลูกบอลทันที มันพยายามทำตาให้ดูใสซื่อไร้เดียงสามากที่สุดเท่าที่ทำได้ต่อหน้าจวินอู๋เย่า แต่ในใจลึกๆ ของมันกำลังด่าเจ้านายของมันเป็นล้านๆ ครั้งสำหรับการทรยศมันในครั้งนี้
เจ้านายอยากให้มันตายหรืออย่างไร!
นางต้องอยากให้ข้าโดนฆ่าแน่ๆ!
จวินอู๋เย่าหรี่ตาลงมองเจ้าแมวดำตัวน้อยที่กำลังสั่นขนาดหนักจนเกือบเป็นลม เขายกมือขึ้นหยิบเจ้าแมวดำตัวน้อยแล้วโยนมันออกไป…
เจ้าแมวดำตัวน้อยพุ่งไปในอากาศเหมือนดาวหางสีดำ หางตาของมันเป็นประกายวาวจากน้ำตาแห่งความเสียใจ
โชคดีที่เยี่ยเม่ยรับมันเอาไว้ได้โดยไม่ให้เจ้าแมวดำตัวน้อยหน้าทิ่มดินเสียก่อน
“อย่าไปเรียนเรื่องแบบนั้นจากมัน เดี๋ยวก็ได้นิสัยแย่ๆ มาหรอก” จวินอู๋เย่าพูดพร้อมกับหัวเราะขณะที่กอดจวินอู๋เสียเอาไว้
เจ้าแมวดำตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของเยี่ยเม่ยน้ำตาไหลเป็นทางแล้ว
จะได้นิสัยแย่ๆ มาได้อย่างไรเล่า!
จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เย่า หลังจากแน่ใจว่าวันนี้เขาเป็น ‘ปกติ’ นางก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอกอยู่ในใจ นางไม่สงสัยเลยว่าถ้าจวินอู๋เย่ารู้สึกแบบที่เขาเป็นเมื่อสามวันก่อน สิ่งที่ทำให้เมืองพันอสูรเป็นสีแดงในวันนี้คงไม่ใช่ทะเลบุปผา แต่เป็นทะเลโลหิตแทน
“อยากไปดูหรือไม่” จวินอู๋เสียถาม
จวินอู๋เย่าส่ายหน้า
“งานเอะอะหนวกหูแบบนั้นเสี่ยวเสียเอ๋อร์ก็ไม่ชอบใช่หรือไม่” ให้เขาไปดูฮวาเหยาที่ปลอมใบหน้าเป็นจวินอู๋เสียเข้าพิธีแต่งงานกับชวีหลิงเย่ว์น่ะหรือ เขาไม่มีความอดทนพอหรอก ถึงแม้ว่า…ใบหน้านั้นจะไม่ใช่ใบหน้าที่แท้จริงของจวินอู๋เสียก็ตาม
เจ้าแมวดำตัวน้อยแอบมองจวินอู๋เย่ากับจวินอู๋เสียด้วยความกลัว
เจ้านาย ได้โปรดอย่าถามเขาแบบนั้น ไม่เห็นหรือว่าตอนราชาปีศาจตนนี้หึงขึ้นมาน่ะมันน่ากลัวมากขนาดไหน
ถ้าเขาอยากไปขึ้นมาจริงๆ งานแต่งงานได้ชโลมด้วยโลหิตแน่!
สุดท้ายจวินอู๋เสียก็ไม่สามารถไปดู ‘ตัวเอง’ แต่งงานกับชวีหลิงเย่ว์ได้ นางกลับไปที่ห้องกับจวินอู๋เย่าเพื่อคุยกันเรื่องพลังวิญญาณของนาง
ในขณะเดียวกันพื้นที่อื่นของหอเมฆาสวรรค์กำลังเฉลิมฉลองกันอย่างรื่นเริง ชวีหลิงเย่ว์สวมผ้าคลุมหน้าสีแดงมาเข้าพิธีแต่งงานกับฮวาเหยาที่ปลอมตัวเป็นจวินเสีย
สำหรับการแต่งงานนี้ จวินอู๋เสียถึงกับใช้การรักษาด้วยเข็มเงินที่กินพลังงานอย่างมากมาทำให้ชวีเหวินเฮ่ากลับเป็นปกติชั่วคราว เพื่อให้เขาได้เห็นกับตาตัวเองว่าบุตรีของเขาเจอสถานที่ที่ ‘เป็นของนาง’ ให้ได้พักพิงแล้ว
หลังจากพิธีจบลง ชวีหลิงเย่ว์ก็ถูกส่งตัวเข้าไปในห้องหอ
ฮวาเหยาถูกสยงป้ากับคนของเขาลากไปดื่มด้วยกัน พอดื่มกันรอบที่สาม สยงป้ากับคนของเขาก็เมามากแล้ว บุรุษร่างใหญ่ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดังกับบ่าของฮวาเหยา คร่ำครวญว่าเขาทำให้จวินอู๋เสียผิดหวังและทำผิดต่อนาง กล่าวยกย่องบรรพบุรุษของจวินอู๋เสียไปถึงแปดรุ่น ขอบคุณจวินอู๋เสียที่ช่วยเมืองพันอสูรเอาไว้ และยังช่วยชวีหลิงเย่ว์อีกด้วย…
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้คนที่ได้รับคือฮวาเหยาที่ปลอมตัวเป็นจวินอู๋เสีย โชคดีที่ฮวาเหยาคอแข็ง เขาจึงไม่เมาหลังจากที่ดื่มสุราแก้วแล้วแก้วเล่าที่ผู้คนต่างยกมาอวยพรเขา
ขณะที่เมืองพันอสูรกำลังอยู่ในบรรยากาศเฉลิมฉลอง ที่นอกประตูเมืองมีทหารสวมเกราะเบาหน่วยหนึ่งปรากฏตัวขึ้น พวกเขาขี่ม้าศึกยืนอยู่ท่ามกลางทะเลบุปผาที่ปกคลุมด้านนอกประตูเมืองพันอสูรเต็มไปหมด
ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าสุดมีใบหน้าหล่อเหลา เขามองบรรยากาศเฉลิมฉลองในเมืองพันอสูรอย่างงุนงง สายตาของเขาดูประหลาดใจมาก ขณะที่ชายหนุ่มอีกคนบนม้าอีกตัวก็มีแววตาตกตะลึงขณะที่มองเข้าไปในเมืองพันอสูร
“เสด็จพี่ เมืองพันอสูรกำลังเฉลิมฉลองกันอยู่หรือ”
ชายหนุ่มอีกคนหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “จะอะไรก็ช่างเถอะ เราต้องไปส่งข่าวให้ถึงมือจวินเสีย ข้าหวังว่าเขา…จะยังไม่ได้ออกจากเมืองพันอสูร”
ตอนที่ 1136 ไฟสงครามปะทุ (1)
ขณะที่ความสนุกสนานรื่นเริงยามค่ำคืนกำลังดำเนินไปด้วยดี คนกลุ่มหนึ่งก็เข้าเมืองมาอย่างเงียบๆ
ทหารจากประตูเมืองไปที่หอเมฆาสวรรค์เพื่อรายงานพวกหัวหน้าตึกทันที แต่เนื่องจากงานเลี้ยงดำเนินไปมากกว่าครึ่งแล้ว พวกหัวหน้าตึกจึงเมาไม่ได้สติ เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น พวกเขาจึงได้แต่ส่งข่าวไปที่ชวีหลิงเย่ว์ที่กำลังนั่งอยู่ในห้องหอ
จากการที่จวินอู๋เสียจัดขบวนรับชวีหลิงเย่ว์เป็นเจ้าสาวอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ตอนนี้จึงไม่มีใครในเมืองพันอสูรกล้าไม่ให้เกียรตินาง
ชวีหลิงเย่ว์ที่กำลังนั่งอยู่คนเดียวในห้องก็ดึงเอาผ้าคลุมหน้าออกทันทีเมื่อได้ข่าวและรีบไปที่ห้องของจวินอู๋เสียอย่างร้อนใจ
“จวินเสีย! คนจากรัฐเหยียนมาที่นี่!” ชวีหลิงเย่ว์ตะโกนขณะที่ยืนอยู่นอกห้อง
ประตูห้องเปิดออกและจวินอู๋เสียก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าชวีหลิงเย่ว์
“รัฐเหยียนหรือ” จวินอู๋เสียแปลกใจเล็กน้อย
ชวีหลิงเย่ว์พยักหน้า “ดูเหมือนว่าเป็นเหลยเชินกับเหลยชิว พวกเขาพาคนของเขามาด้วย บอกว่าพวกเขามีเรื่องด่วนต้องพบท่าน”
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นและเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เข้าใจแล้ว ข้าจะไปพบพวกเขาเดี๋ยวนี้”
มันเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองสำหรับเมืองพันอสูร นางไม่อยากให้กองทหารของรัฐเหยียนเข้ามาในเมือง จึงตรงไปที่ประตูเมืองพันอสูรพร้อมกับจวินอู๋เย่าทันที
ที่นอกประตูเมือง เหลยเชินควบอยู่ม้าด้วยสีหน้ากระวนกระวาย เขามองผ่านประตูเข้าไปข้างในอย่างร้อนใจ และในที่สุดก็เห็นจวินอู๋เสียปรากฏตัวขึ้น!
“เสด็จพี่! นั่นฝ่าบาท!” เหลยชิวตะโกนอย่างตื่นเต้น ขณะที่เหลยเชินรีบกระโดดลงจากหลังม้าโดยไม่รอให้จวินอู๋เสียเข้ามาใกล้ เขาก้าวเข้าไปหาอย่างรีบร้อน
“ถวายบังคมฝ่าบาท!” เหลยเชินเดินมาตรงหน้าจวินอู๋เสียและคุกเข่าลงทำความเคารพทันที
จวินอู๋เสียรู้แล้วว่าหลังจากที่นางจากมา รัฐเหยียนได้ยัดตำแหน่งใส่มือนางฝ่ายเดียว แต่บัลลังก์ที่ถูกบังคับให้นั่งแบบนี้นางไม่สนใจเลยสักนิด
“ข้าไม่ใช่ฝ่าบาทของท่าน ไม่ต้องถวายบังคมข้า” จวินอู๋เสียพูดอย่างเย็นชา
เหลยเชินยืนขึ้น ไม่สนใจความเย็นชาของจวินอู๋เสีย
“ก่อนที่ฝ่าบาทจะปฏิเสธเรา มีเรื่องหนึ่งที่กระหม่อมอยากให้ฝ่าบาทเข้าใจก่อนจะตัดสินใจว่าจะเป็นฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนหรือไม่”
“เรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียถามพลางมองเหลยเชิน
เหลยเชินอธิบายว่า “หลายวันก่อนเราได้ข่าวว่าสี่รัฐนำโดยรัฐจิ้ว ได้นำกองทัพเข้าบุกโจมตีรัฐชี!”
พอเหลยเชินพูดออกมา จวินอู๋เสียก็เบิกตากว้าง
ความยิ่งใหญ่ของรัฐจิ้วในสามโลกเบื้องล่างเป็นรองแค่รัฐเหยียนเท่านั้น มันคือรัฐที่ยิ่งใหญ่เป็นที่สองในสามโลกเบื้องล่าง แต่แตกต่างจากรัฐเหยียนที่มีกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดคอยปกป้อง รัฐจิ้วนั้นมักจะเข้ายึดครองรัฐเล็กๆ ติดชายแดน ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่และมักจะชอบก่อสงคราม ถ้าไม่ใช่เพราะรัฐเหยียนยิ่งใหญ่มั่นคงและฟื้นสภาพได้เร็ว รัฐจิ้วคงจะยื่นกรงเล็บเข้าใส่รัฐเหยียนไปแล้ว
เมื่อไม่นานมานี้รัฐจิ้วรวมกับกองทัพพันธมิตรอีกสามรัฐที่ติดกับรัฐชีบุกเข้าโจมตีรัฐชีทั้งสี่ทิศทาง!
ความคิดของจวินอู๋เสียหมุนติ๋วอย่างรวดเร็ว กองทัพรุ่ยหลินแข็งแกร่งก็จริง แต่เจอกับการโจมตีจากกองทัพทั้งสี่และถูกบุกจากทั้งสี่ทางแบบนี้ พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากสุดๆ อย่างเห็นได้ชัด!
“กระหม่อมจำได้ว่าคุณหนูใหญ่จวินที่ฝ่าบาทเชิญมาที่รัฐเรามาจากจวนหลินอ๋องแห่งรัฐชี กองทัพรุ่ยหลินที่อยู่ใต้บัญชาการของจวนหลินอ๋องก็เป็นกองกำลังหลักของรัฐชี กระหม่อมคิดว่า…ฝ่าบาทควรรู้เรื่องนี้” เหลยเชินพูดพลางมองจวินอู๋เสีย เขากับเหลยชิวเดินทางมาทั้งวันทั้งคืนโดยไม่หยุดพักเพื่อส่งข่าวนี้ให้ถึงจวินอู๋เสียโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขาเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ‘จวินเสีย’ กับจวินอู๋เสียนั้นไม่ใช่แค่คนรู้จักแน่
เมื่อรู้ว่าจวนหลินอ๋องกำลังเดือดร้อน จวินอู๋เสียย่อมไม่ยอมอยู่เฉยแน่นอน