ตอนที่ 558 ร่วมเป็นร่วมตาย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 558 ร่วมเป็นร่วมตาย

ต่งฉางหลานกำหมัดรับคำ “ท่านพ่อวางใจได้ขอรับ ข้าจะระวังให้มากที่สุดขอรับ”

ต่งชิงเยว่กำหมัดแน่นวางบนโต๊ะ มองไปทางไป๋ชิงเหยียนและต่งฉางหลาน “อาเป่า นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทุกคนในตระกูลต่งจะมีชีวิตอยู่เพื่อทำให้ใต้หล้าสงบสุข ยุติความวุ่นวายในใต้หล้าแห่งนี้เช่นเดียวกับตระกูลไป๋ ท่านยายของเจ้า ข้า จวบจนญาติผู้น้องของเจ้าทุกคนพร้อมบุกน้ำลุยไฟ ร่วมเป็นร่วมตายไปพร้อมกับตระกูลไป๋!”

ขอบตาของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าวอย่างรุนแรง หญิงสาวกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น “ร่วมแรงร่วมใจ เผชิญทุกข์สุขไปด้วยกัน ไม่มีวันทรยศหักหลัง!”

“ชาตินี้ต่งฉางหลานยินดีรับใช้พี่หญิงขอรับ!” ต่งฉางหลานกำหมัดคาราวะไป๋ชิงเหยียน “ฉางหลานเชื่อว่าพี่หญิงจะทำให้ฉางหลานได้เห็นวันที่ใต้หล้าสงบสุขและรวมเป็นหนึ่ง ดังนั้นฉางหลานไม่กลัวตาย ไม่เสียดายชีวิตขอรับ!”

เลือดของคนตระกูลต่งยังคงร้อนระอุ มีชีวิตอยู่ในกลียุค ผู้ใดไม่อยากเป็นผู้ยุติความวุ่นวายเหล่านี้บ้าง ผู้ใดไม่อยากเห็นวันที่ใต้หล้าสงบสุขอย่างแท้จริงบ้าง ผู้ใดไม่อยากมีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ทำให้ใต้หล้าแห่งนี้สงบสุขบ้าง

ตระกูลต่งเริ่มดำเนินการตามแผนเดิมที่ได้วางไว้ นอกจากรับรู้อยู่ในใจว่าแม่ทัพหน้ากากผีแห่งหนานหรงคืออาอวี๋ ทุกอย่างยังคงดำเนินการตามเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลงเพื่อป้องกันว่าหากวันหนึ่งไป๋ชิงอวี๋ไม่อาจควบคุมหนานหรงได้แล้ว ชายหนุ่มจะได้มีแผนสำรองไว้ป้องกันตัว

วันที่ยี่สิบสี่ เดือนแปด ชาวบ้านในเติงโจวเห็นประตูเมืองถูกเปิดออกในตอนกลางคืน ขบวนบรรทุกสิ่งของมากมายทยอยออกจากเมือง วันต่อมาชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันอย่างเซ็งแซ่

ตลอดสามวันที่ผ่านมา รถม้าเคลื่อนตัวออกจากจวนต่งยามวิกาลหลายคัน มีข่าวลือว่าต่งชิงเยว่ได้รับสารว่าหนานหรงจะบุกโจมตีเมืองเติงโจว เขาจึงขนย้ายของมีค่าออกจากเมืองล่วงหน้า

ชาวบ้านที่รับรู้ข่าวต่างพากันซ่อนของมีค่าไว้ในที่ลับ ของมีค่าใดพกติดตัวไปได้พวกเขาก็รีบเก็บใส่ยาม หากหนานหรงบุกโจมตีเมืองจริงๆ พวกเขาจะได้หนีเอาตัวรอดได้ทัน

คืนวันที่ยี่สิบเจ็ด เดือนแปด ต่งฉางเม่าที่ถูกต่งชิงเยว่ส่งไปสำรวจสถานการณ์ของหนานหรงขี่ม้าเร็วกลับเข้ามาในเมืองเติงโจว มุ่งหน้าไปยังจวนต่ง

ขุนนางทั้งหมดในเมืองเติงโจวถูกต่งชิงเยว่เรียกตัวมาพบในคืนนั้น ต่งชิงเยว่แจ้งทุกคนว่าต่งฉางเม่าสืบข่าวมาได้ว่าหนานหรงเตรียมกองกำลังทั้งแคว้นเพื่อบุกโจวตีเมืองเติงโจว เป็นดั่งที่ต่งชิงเยว่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ขุนนางทุกคนล้วนเชื่อคำกล่าวของต่งชิงเยว่

ต่งชิงเยว่กล่าวว่าบัดนี้ทหารในกองทัพเติงโจวไม่พอใจที่ฮ่องเต้นำเบี้ยเลี้ยงและเสบียงอาหารที่พวกเขาควรจะได้ไปซ่อมแซมพระราชวัง เหล่าทหารไม่มีกำลังใจในการสู้รบในสงครามครั้งนี้ เกรงว่าอาจพ่ายแพ้ได้ เพื่อป้องกันชาวบ้านในเมืองจะเดือดร้อน ต่งชิงเยว่เสนอให้ทหารเติงโจวอพยพครอบครัวของเหล่าขุนนางออกจากเมืองก่อนที่หนานหรงจะบุกโจมตี จากนั้นทยอยอพยพชาวบ้านออกจากเมืองตามไป ทหารและขุนนางทั้งหมดอยู่คุ้มกันเมืองเติงโจว

ขุนนางทุกคนล้วนเห็นด้วย เพราะทุกคนล้วนกลัวว่าหากหนานหรงบุกโจมตีมาถึงในเมือง ภรรยาและบุตรของพวกเขาอาจพลอยเดือดร้อนไปด้วย

เช้าวันที่ยี่สิบแปด เดือนแปด ชาวบ้านที่ตื่นเช้ามองเห็นซอยซึ่งเป็นที่พักของครอบครัวขุนนางมีรถม้าจอดเต็มตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย หน้าประตูใหญ่สีแดงเคลือบน้ำมันของคนตระกูลสูงศักดิ์มีรถม้าจอดเรียงรายเต็มไปหมด บรรดาสตรีของแต่ละตระกูลหอบของมีค่าของตัวเองขึ้นไปบนรถม้า สมบัติอื่นๆ ถูกมัดจนสูงอยู่บนเกวียนขนสินค้าโดยมีผ้าใบคลุมทับอีกชั้น ขบวนเคลื่อนตัวออกจากเมืองโดยมีทหารเติงโจวคอยคุ้มกัน

ครอบครัวของขุนนางอพยพออกจากเมืองเช่นนี้ ชาวบ้านเริ่มหวั่นวิตกขึ้นมาทันที บางคนถลกแขนเสื้อตะโกนโหวกเหวกโวยวาย บางคนรีบกลับไปเก็บของมีค่าของตัวเองแล้วเดินตามขบวนของครอบครัวขุนนางออกไปจากเมือง

ชาวบ้านบางคนเริ่มก่นด่าต่งชิงเยว่ ตราหน้าว่าต่งชิงเยว่ทิ้งเมืองหนีเอาตัวรอดโดยไม่สนใจชาวบ้านในเมืองเติงโจว

บางคนไปสืบสถานการณ์ที่จวนต่ง ได้ยินว่าตระกูลต่งขนย้ายของมีค่าของจากจวนออกไปอกเมืองเป็นรายแรก สตรีตระกูลต่งก็อพยพออกจากเมืองเป็นพวกแรก บัดนี้ในบรรดาสตรีทั้งหมดมีเพียงต่งเหล่าไท่จวินยังไม่ได้จากไป ต่งชิงเยว่ ต่งฉางหลานและต่งฉางเม่าก็ล้วนยังอยู่ในจวน

บ่ายวันนั้น เมื่อขบวนของครอบครัวขุนนางอพยพออกจากเมืองจนหมด ต่งชิงเยว่จึงตีกลองเรียกรวมพลชาวบ้านทั้งหมดอยู่บนตึกสูง

เมื่อเห็นต่งชิงเยว่ ชาวบ้านที่กำลังเดือดดาลตะโกนด่าต่งชิงเยว่โดยไม่สนมารยาทใดๆ อีกทั้งสิ้น “ใต้เท้าต่ง ได้ยินว่าหนานหรงจะบุกโจมตีเมือง ขุนนางและครอบครัวของพวกเขาล้วนอพยพออกจากเมืองไปหมดแล้ว ใต้เท้าต่งจะทอดทิ้งชาวบ้านอย่างพวกเราไปโดยไม่ใยดีอย่างนั้นหรือ!”

สิ้นเสียงของคนผู้นั้น รถม้าไม้สนซึ่งมีสัญลักษณ์ของตระกูลต่งจอดลงหน้าประตูเมือง ไป๋ชิงเหยียนประคองต่งเหล่าไท่จวินออกมาจากตัวรถ

ต่งเหล่าไท่จวินถือไม้เท้าไม้ยืนนิ่งอยู่บนรถม้า ดวงตาทั้งสองข้างคมกริบ กล่าวเสียงดังกังวาน “ตระกูลต่งของข้าดูแลปกป้องเมืองเติงโจวมาไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น ไม่เคยมีผู้ใดทอดทิ้งเมืองเติงโจวหรือชาวบ้านของเมืองเติงโจวมาก่อน เมื่อก่อนไม่มี ตอนนี้ก็ไม่มีเช่นเดียวกัน!”

ไป๋ชิงเหยียนประคองต่งเหล่าไท่จวินลงมาจากรถม้า ต่งเหล่าไท่จวินกวาดสายตามองไปยังบรรดาชาวบ้านที่มารวมตัวกันด้วยแววตาที่คมกริบ นางหยัดกายตรง มือหนึ่งถือไม้เท้าไม้สีดำมันวาว มือหนึ่งจับมือของไป๋ชิงเหยียนเอาไว้พลางเดินไปบนตึกที่ตั้งกลองอยู่

สายตาของทุกคนมองตามร่างในชุดหรูหราของฮูหยินเก้ามิ่งต่งเหล่าไท่จวิน ผมของต่งเหล่าไท่จวินขาวโพลน ใบหน้าตึงเครียด หญิงชราอายุมากแล้ว เครื่องประทินโฉมปกปิดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าของนางไว้ไม่ได้ ทว่า นางยืนตัวตรงด้วยท่าทีที่น่าเกรงขาม บนร่างไม่มีความอ่อนโยนเมตตาเหมือนดั่งที่เคยเห็นเป็นประจำ ร่างทั้งร่างดูหนักแน่นและเด็ดขาด

ต่งชิงเยว่พาต่งฉางหลานและต่งฉางเม่าเดินลงบันไดมารับต่งเหล่าไท่จวินด้วยตัวเอง ทว่า ต่งเหล่าไท่จวินกลับโบกมือไล่พวกเขา นางหยุดอยู่ตรงหน้าของบรรดาชาวบ้าน กล่าวเสียงดังลั่น “ตั้งแต่เดือนหกเป็นต้นมา ต่งชิงเยว่บุตรชายของข้าถวายฎีกาให้ฝ่าบาทไม่รู้กี่ฉบับต่อกี่ฉบับว่าปีนี้หนานหรงอาจรวบรวมกำลงทั้งแคว้นบุกโจมตีเมืองเติงโจว ขอให้ฝ่าบาทส่งกำลังเสริมมาเตรียมป้องกัน ทว่า ฝ่าบาททรงไม่พระราชอนุญาต อีกทั้งงดเบี้ยของกองทัพเติงโจวเพื่อนำไปบูรณะพระราชวังแทน!”

ชาวบ้านได้ยินเสียงดังกังวานของต่งเหล่าไท่จวินจึงพากันเดินเข้าไปใกล้หญิงชรา

“ฝ่าบาทสามารถทอดทิ้งชาวบ้านเมืองเติงโจวอย่างไม่สนใจใยดีได้ ทว่า ตระกูลต่งไม่มีทางทำเช่นนั้น! กองทัพเติงโจวก็ไม่มีวันทำเช่นนั้น! ดังนั้นบุตรชายของข้าจึงทำได้เพียงแสร้งขนย้ายของมีค่าของตระกูลต่งออกไปนอกเมืองก่อน จากนั้นส่งทหารเติงโจวออกไปจัดเตรียมกระโจมที่พักนอกเมืองไว้รองรับชาวบ้านที่อพยพทุกคน เมื่อชาวบ้านอพยพออกจากเมืองไปจะได้มีที่พักพิง ไม่ต้องกลายเป็นชาวบ้านเร่ร่อน!”

“ถ้าเป็นเช่นนั้น เหตุใดเหล่าขุนนางถึงพาครอบครัวของตัวเองอพยพหนีไปก่อนเช่นนี้ เหล่าไท่จวินกำลังหลอกชาวบ้านที่ไม่รู้หนังสืออย่างพวกข้าอย่างนั้นหรือ!” ชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนถาม

ต่งเหล่าไท่จวินมองไปทางชาวบ้านที่ตะโกนถามผู้นั้น “เพราะในบรรดาขุนนางมีสายลับของราชวงศ์อยู่ ให้ทหารเติงโจวคุ้มกันพวกเขาออกไปจากเมืองก็เพื่อจับตาดูไม่ให้พวกเขาเขียนจดหมายไปฟ้องฝ่าบาท มิเช่นนั้นฝ่าบาทอาจคิดว่าบุตรชายของข้าทำให้ชาวบ้านวิตกกังวลเกินจริงแล้วยึดอำนาจของบุตรชายข้าได้ มีเพียงจับกุมตัวขุนนางเหล่านั้นไว้ก่อน ตระกูลต่งจึงกล้าบอกความจริงกับทุกท่านเช่นนี้!”

ต่งเหล่าไท่จวินกล่างพลางยื่นไม้เท้าในมือให้ไป๋ชิงเหยียน จากนั้นเดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว “พี่น้องทุกท่าน ตระกูลต่งของข้าปกป้องคุ้มครองเติงโจวมาช้านาน ผู้ใดกล้ากล่าวว่าตระกูลต่งเคยทอดทิ้งเมืองเติงโจวบ้าง คนในตระกูลต่งคนใดไม่สนใจชีวิตของชาวบ้าน ตระกูลต่งได้รับการสนับสนุนและปกป้องจากชาวบ้านเติงโจว พวกเราย่อมคุ้มครองชาวบ้านเมืองเติงโจวให้ปลอดภัยเช่นเดียวกัน!”