บทที่ 605 ใช้เงินรั้งตัว

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

ในคืนงานเลี้ยงฉลองนั้นกู้เฟยหลินได้สร้างความประทับใจไว้อย่างมาก และกู้เฟยหลินก็ยังได้ทำผลงานความดีความชอบให้กับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย ทำให้ได้รับความสนใจจากแผนก ผู้จัดการฝ่ายขายก็เห็นถึงความสามารถของกู้เฟยหลิน และในตอนที่รายงานกับลี่จุนซินก็ไม่ลืมที่จะพูดชื่นชมหญิงสาวไปด้วย

หลังจากที่ฟังรายงานของผู้จัดการฝ่ายขายจบ ลี่จุนซินก็รู้สึกว่าการตัดสินใจแรกของเธอนั้นถูกต้องแล้ว

“อืม เรื่องนี้ฉันรู้แล้ว บอกเธอให้ทำมันให้เต็มที่ และช่วงทดลองงานของเธอก็ให้สิ้นสุดลงได้ทันที ให้เธอเซ็นสัญญาจ้างงานได้เลย คุณก็ลองดูว่ามีโครงการไหนที่ยากก็ให้เธอเข้ามาช่วยดูแลได้เลย ”

“ให้สิ้นสุดช่วงทดลองงานได้เลยเหรอครับ ? แบบนี้มันจะไม่เป็นไปตามกฎระเบียบของฝ่ายบุคคลหรือเปล่า และหากต้องการจะร่นระยะเวลาของช่วงทดลองงานแล้วต้องแจ้งเรื่องไปที่ประธานนะครับ”

“ในส่วนของลี่จุนถิงคุณไม่ต้องเป็นกังวล ฉันจะแจ้งเรื่องนี้กับเขาเอง คุณอย่าลืมให้เงินเดือนเธอสูงหน่อย คนที่มีความสามารถแบบเธอเราต้องใช้เงินเพื่อรั้งเธอเอาไว้ ”

ผู้จัดการฝ่ายขายเองก็รู้สึกว่าการยุติทดลองงานของกู้เฟยหลินก็มีผลดีเหมือนกัน เพราะความสามารถในการทำงานของกู้เฟยหลินนั้นเห็นเป็นประจักษ์อย่างชัดเจน และความสามารถของเธอนั้นก็เหนือกว่าพนักงานเก่าบางคนเสียด้วยซ้ำ ไม่เพียงแค่ความสามารถ แต่ประสบการณ์ของเธอก็ยังมีมากกว่าพนักงานส่วนใหญ่อีกด้วย

เพียงแค่ว่าเรื่องนี้ต้องให้ลี่จุนซินเป็นคนตัดสิน หากวันข้างหน้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เขาก็ไม่ต้องรับผิดชอบมัน

หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากลี่จุนซิน เขาก็กดโทรตามตัวกู้เฟยหลินให้เข้ามาพบ แล้วยังนำเอกสารสำคัญของโครงการที่รับผิดชอบอยู่ในขณะนี้ เตรียมมันไว้ให้กับกู้เฟยหลินอีกชุด

กู้เฟยหลินเคาะประตู แล้วเข้ามาภายในห้อง ผู้จัดการฝ่ายขายได้ให้เอกสารที่เตรียมไว้กับกู้เฟยหลิน

“เฟยหลิน ผมได้รายงานกับประธานลี่แล้ว เธอชื่นชมและเห็นด้วยกับคุณ เธอบอกว่าช่วงทดลองงานของคุณสิ้นสุดลงได้ อีกสักครู่คุณก็ไปที่ฝ่ายบุคคลเซ็นสัญญาจ้างงานได้เลย เดี๋ยวผมจะแจ้งไปที่ฝ่ายบุคคลเอง และนี่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับโครงการที่เร่งด่วนและสำคัญในขณะนี้ ประธานลี่บอกให้คุณติดตามโครงการเหล่านี้ได้เลย คุณต้องทำอย่างเต็มที่นะ อีกเรื่อง ประธานลี่เพิ่มเงินเดือนให้คุณด้วยนะ”

“ได้ค่ะ ขอบคุณผู้จัดการนะคะ ขอบคุณความเมตตาที่คุณกับประธานลี่มีให้ ฉันจะทำมันอย่างเต็มที่คะ จะไม่ทำให้คุณกับประธานลี่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ”

กู้เฟยหลินรับเอกสารแล้วเดินออกจากห้องไป วางเอกสารลงแล้วมุ่งตรงไปยังฝ่ายบุคคล

ในตอนที่เธอมาถึงแผนกบุคคล สัญญาจ้างได้เตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว หลังจากที่กู้เฟยหลินเซ็นสัญญาเรียบร้อย เธอก็หยิบเอาหนังสือสัญญาจ้างนั่นวางไว้บนโต๊ะ แล้วขึ้นไปบนดาดฟ้า เพื่อโทรหาอลัน

“คุณอลันคะ ฉันผ่านช่วงทดลองงานแล้วนะคะ และผู้จัดการก็ได้มอบหมายโครงการสำคัญให้ฉันด้วย ฉันจะเลือกสุ่มโครงการที่สำคัญบางส่วน ส่งไปให้คุณดูนะคะ ”

“แล้วทำไมคุณไม่ให้ผมดูทั้งหมดล่ะ?”

“โครงการพวกนี้ล้วนอยู่ในมือฉัน หากทั้งหมดถูกเปิดเผย คนอื่นก็มองออกนะสิว่าฉันเป็นคนทำมันรั่วไหล เพื่อความปลอดภัยฉันจะให้คุณไปก่อนอันหนึ่ง ”

“ก็ได้ครับ ตามนั้นก็ได้ เพื่อฉลองที่คุณผ่านช่วงทดลองงานได้อย่างราบรื่น คืนนี้เรามาเจอกันที่จุดนัดพบของเรานะ ”

……

ทางด้านของอันซีหนีตั้งแต่เขาให้ซูซานบอกกับอลันว่าให้ไปลักพาตัวเจียงหยุนเอ๋อมา นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วก็ยังไม่มีข่าวคราวอะไร ตัวเขาเองก็ร้อนใจมาก เมื่อคิดไปถึงสภาพของน้องชายที่อยู่ในคุก เขาก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก

วันนี้เขาถามซูซานไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะถามมันไปอีกครั้ง

“คุณซูซาน ถึงตอนนี้แล้วผู้หญิงคนนั้นยังไม่ถูกนำตัวมาอีกเหรอ ? ทางฝั่งลี่จุนถิงนี้ไม่ใช่จะเล่นงานได้ง่ายๆ ตอนนี้ทางฝั่งนี้ก็ยังล่าช้าอีก และในไม่ช้าดูท่าแล้วลี่จุนถิงเองก็คงจะทำลายแผนการนั้นได้สำเร็จ ถึงตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้นเราเองก็ไม่อาจจะคาดเดาได้แล้ว”

“เพื่อป้องกันการเกิดเหตุ คุณให้ทางฝั่งโน้นเร่งมือหน่อย ผมต้องรีบช่วยน้องชายผมออกมาให้เร็วที่สุด หากช้ากว่านี้น้องผมต้องตายแน่ๆ และหากน้องชายผมเป็นอะไรไป ผมก็ไม่ปล่อยพวกคุณเอาไว้เหมือนกัน คุณคิดแล้วจัดการเอาเองก็แล้วกัน”

อันซีหนีพูดจบก็วางสายไปทันที ซูซานเองก็ไม่เคยถูกข่มขู่แบบนี้มาก่อนเหมือนกัน คำพูดนี้ของอันซีหนีทำให้ซูซานโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอไม่ได้สนใจว่าตอนนี้มันเป็นเวลาเท่าไรกดโทรออกไปหาอลันทันที

ทางฝั่งของอลันที่ยังคงนอนหลับอยู่ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง อลันไม่อยากสนใจกดวางสายไปทันที แต่อีกฝั่งก็ยังคงโทรไม่หยุด จนอลันทนไม่ไหวกดรับสายนั้น แต่เพราะว่าเขาง่วงมาก เลยไม่ได้ดูว่าใครโทรมา พอรับสายก็ด่าทออีกฝั่งขึ้นมาทันที

“ใคร ? บ้าหรือไง ดึกดื่นค่ำคืนไม่หลับไม่นอนโทรมาทำไม ? ประสาทหรือเปล่า ? ”

ซูซานที่โมโหอันซีหนีอยู่แล้ว พอโทรหาอลัน อลันก็ยังด่าว่าเธออีก ซูซานจึงระงับความโกรธแล้วพูดไปว่า

“อลัน ฉันเองซูซาน ขอโทษด้วย บอส รบกวนเวลานอนของคุณแล้ว ”

เมื่ออลันได้ยินว่าเป็นซูซานเขาก็ตื่นขึ้น แล้วรีบลุกขึ้นนั่งบนเตียง

“ขอโทษครับ ซูซาน ผมคิดว่าคนบ้าที่ไหนโทรมาก่อกวน เออไม่ไม่ใช่ ผมไม่ได้ว่าคุณเป็นคนบ้า อย่าโกรธเลยนะครับซูซาน”

ซูซานสูดหายใจเข้าลึก เพื่อระงับอารมณ์โกรธ แต่เธอรับประกันไม่ได้ว่าหากยังคุยกับอลัน ต่อ เธอจะไม่อารมณ์เสียขึ้นมาอีก และตอนนี้เธอทำได้เพียงอดทนแล้วบอกความต้องการของอันซีหนีให้เขาไป

“ฟู่ ~ คุณอันซีหนีให้ฉันถามคุณ ว่าทำไมยังไม่จับตัวเจียงหยุนเอ๋อมาอีก ? คุณจะจับตัวเธอมาได้เมื่อไหร่ ?”

“เรื่องมันเป็นแบบนี้ซูซาน ลี่หุยบอกผมว่าเจียงหยุนเอ๋อเคยถูกลักพาตัวมาแล้วหลายครั้ง เพราะฉะนั้นก่อนที่ลี่จุนถิงจะเดินทางไปนั้นคงต้องจัดคนไว้คอยดูแลคุ้มครองเจียงหยุนเอ๋ออย่างลับๆเป็นแน่ อีกอย่างเวลาที่เจียงหยุนเอ๋อออกจากบ้านรอบตัวก็จะมีคนคอยตามประกบอยู่ตลอด นอกนั้นเธอเองก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย เลยทำให้ไม่มีโอกาสลงมือได้สักที”

“พอแล้ว ฉันไม่อยากฟังคำพูดอธิบายเหล่านี้ ทำไม่ได้ก็ต้องหาวิธีทำ อันซีหนีบอกว่าหากช่วยน้องชายเขาออกมาไม่ได้ เราทั้งหมดก็จะโดนร่างแหไปด้วย ฉันไม่สนว่าคุณจะใช้วิธีอะไร ยังไง ก็ต้องพาตัวเจียงหยุนเอ๋อมาให้ได้”

หลังจากที่ซูซานพูดจบก็วางสายไป อลันโทรกลับไปหาเธออีกครั้ง แต่ซูซานก็กดตัดสายนั้นทิ้ง

และในเวลาเดียวกันนั้น ทางฝั่งของลี่จุนถิงก็ได้เริ่มตามสืบครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้ว ลี่จุนถิงบอกอั้นหยิ่งกับอั้นเย่ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตเหล่านี้คงถูกอันซีหนีซื้อไปแล้ว มิเช่นนั้นคงไม่สร้างเรื่องราวให้มันใหญ่โตถึงเพียงนี้แน่

อั้นหยิ่งกับอั้นเย่ก็รู้ถึงหลักความจริงในข้อนี้เช่นกัน วันนั้นหลังจากที่กลับมาจากที่เกิดเหตุ เขาก็ได้ไปตามสืบเรื่องราวของครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างลับๆมาแล้วเพราะการจัดการที่รัดกุมของอันซีหนี การสืบเสาะก็เป็นไปด้วยความยากลำบากอยู่พอสมควร

“ประธานลี่ครับ เราเจอแล้วครับ ผู้เสียชีวิตนี้มีภรรยาด้วย แต่กลุ่มคนที่สร้างปัญหาอยู่ในตอนนี้กลับไม่มีเธอรวมอยู่ด้วย มีเพียงแม่สามีของเธอที่คอยออกหน้าจัดการกับเรื่องทุกอย่าง ภรรยาของเขาเอาแต่เก็บตัวอยู่ที่บ้าน เพื่อนบ้านต่างก็คิดว่าเธอคงจะเศร้าเสียใจ ไม่อยากออกมาพบเจอผู้คน”

“แต่ว่า เธออยู่บ้านเก็บข้าวของอยู่ตลอด ดูท่าเหมือนคนที่กำลังจะย้ายบ้าน และบัญชีของเธอก็ยังมีเงินก้อนถูกโอนเข้ามา เป็นเงินก้อนจำนวนมาก ลำพังครอบครัวของพวกเขาที่เป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไปนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเงินจำนวนมากมายขนาดนี้ปรากฏ ”