ซู่จี้งยี้รู้สึกชื่นชมในตัวลี่จุนถิง จนลืมไปว่าตอนนี้เขากำลังรายงานสถานการณ์ให้ลี่จุนถิงได้รับทราบอยู่
และลี่จุนถิงเองก็ยังคงสั่งงานเขาอยู่ไม่ขาด แต่แล้วจู่ๆก็รู้สึกว่าเสียงฝ่ายตรงข้ามนั้นเงียบไป เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็เห็นว่ายังไม่ได้วางสาย จึงเอ่ยเรียกซู่จี้งยี้ไป
เมื่อซู่จี้งยี้ได้ยินเสียงที่ลี่จุนถิงเอ่ยเรียกชื่อตัวเอง ก็เพิ่งจะมานึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังคุยโทรศัพท์กับเจ้านายอยู่
“ขอโทษครับ ประธานลี่ ผมขอโทษ พอดีผมเหม่อลอยไปหน่อยครับ”
“คุณแน่มากนะ เวลาแบบนี้ยังเหม่อลอยได้ หรือโบนัสสิ้นปีนี้ของคุณจะสละมันให้ผม”
“ขอโทษครับ ประธานลี่ เมื่อสักครู่มัวแต่ชื่นชมในความสามารถของคุณ ”
“ชื่นชมผมจนเหม่อลอยเนี่ยนะ แล้วเมื่อกี้ที่ผมพูดไปคุณได้ยินรึเปล่า ?”
“ขอโทษครับ ประธานลี่ รบกวนคุณช่วยพูดใหม่อีกรอบได้ไหมครับ”
ซู่จี้งยี้ที่เอาแต่พูดขอโทษก็โก้งโค้งตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยเช่นกัน แต่พอนึกขึ้นได้ว่าลี่จุนถิงไม่ได้อยู่ตรงหน้า ก็กลับมามีสภาพเหมือนเดิม
“ผมบอกว่า ให้คุณคอยจับตาดูลี่หุยกับลี่หยูนห่วนเอาไว้ และทางเกลกรุ๊ปนั้นก็ต้องคอยสังเกตการณ์เอาไว้ด้วย อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น อีกอย่าง คอยดูเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ดีๆด้วย ให้คนที่คอยติดตามดูแลเธอนั้นมีสติและเตรียมพร้อมรับมืออยู่ตลอดเวลา ห้ามให้เธอเกิดอุบัติเหตุอะไรเป็นอันขาด ”
“ครับ รับทราบครับประธานลี่”
“หากคราวหน้ายังเหม่อลอยอีก ผมจะให้โบนัสของคุณลอยไปด้วย”
หลังจากที่ลี่จุนถิงพูดเตือนซู่จี้งยี้จบเขาก็วางสายไป
หลังจากที่ซู่จี้งยี้วางสายไป เขาก็ถอนหายใจแล้วส่ายหัว “เจ้านายนะเจ้านาย นี่ผมประจบสอพลอคุณขนาดนี้แล้ว คุณยังอยากจะได้โบนัสสิ้นปีของผมอีกเหรอ หากไม่มีโบนัสสิ้นปีนี้ ผมเดาว่าแม่ผมคงไม่ยอมให้เข้าบ้านเป็นแน่ เจ้านายครับ อย่าใจร้ายกับผมนักเลย ”
และในเวลาเดียวกันนี้ คฤหาสน์ไท่หัวในเขตชานเมืองของเมืองจิ่งเฉิง ในนั้นมีวิลล่าส่วนตัวที่เป็นของลี่หุยอยู่ ค่ำคืนดึกดื่นมีรถขับเข้ามาในบริเวณวิลล่านี้ และก็มีคนลงจากรถคันนี้แล้วเข้าไปยังวิลล่าของลี่หุยด้วยท่าทีลับๆล่อๆ
“ลูกพี่ครับ จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ”
“เอามา”คนผู้นั้นหยิบUSBออกมาแล้วยื่นให้กับลี่หุย
“ลูกพี่ ข้อมูลที่ลูกพี่ต้องการผมได้คัดลอกเอาไว้ทั้งหมดแล้ว”
ลี่หุยรับ USBนั้นมา แล้วพลิกเล่นไปมาในมือ และรู้สึกประหลาดใจมาก
“ห้องทำงานของลี่จุนถิงที่ลับและจำเพาะขนาดนั้น นายเข้าไปแล้วขโมยเอาข้อมูลออกมาได้ง่ายๆอย่างนั้นเลยเหรอ ”
คนผู้นั้นพูดอย่างนอบน้อมไปว่า “เพราะในตอนที่ผมไป ทุกคนในบริษัทต่างก็เลิกงานกันไปหมดแล้ว และกลอนประตูห้องทำงานของลี่จุนถิงก็สะเดาะง่ายมากๆ แต่เขาก็ระมัดระวังตัวเป็นอย่างดี คอมที่โต๊ะทำงานของเขาติดตั้งรหัสผ่าน ไม่เพียงตั้งล็อกรหัสเดียว แต่ทุกรหัสนั้นถอดยากหมดทุกตัว ผมต้องใช้ความพยายามอยู่นานกว่าที่จะถอดรหัสเหล่านั้นได้ และในระหว่างที่ทำก็เกือบจะถูกรปภ.ที่ลาดตระเวนจับได้ ยังดีที่กระจกในห้องทำงานของเขาคนอยู่ภายนอกไม่สามารถมองทะลุเข้าไปได้ แสงจากภายนอกก็สาดส่องเข้าไปไม่ถึง ”
ลี่หุยพยักหน้า “งั้นก็ดี”
จากนั้นลี่หุยก็โบกมือ ให้คนผู้นั้นกลับไป
หลังจากที่คนผู้นั้นออกไปแล้ว ลี่หุยก็กดโทรออก
“เฮ้ ที่รัก คืนนี้คุณว่างไหม ? มาหาผมที่วิลล่าแล้วมามีความสุขกันไหม”
ไม่รู้ว่าคนผู้นั้นตอบกลับมาว่ายังไง ลี่หุยถึงกับหัวเราะจนร่างสั่นไหว
“ตกลง เบบี้ ผมจะล้างให้สะอาดแล้วรอคุณอยู่ที่บ้านนะ”
หลังจากที่ลี่หุยวางสายไป เขาก็หัวเราะออกมา อย่างพึงพอใจ
“ลี่จุนถิง ฉันคิดว่ามาตรการป้องกันการขโมยของนายจะล้ำและไฮเทคแค่ไหนกัน หากเป็นแค่ติดตั้งรหัสเพียงเท่านี้ นายฉลาดหรือโง่กันแน่ มีข้อมูลพวกนี้ บวกกับความร่วมมือของกู้เฟยหลิน ระบบภายในของลี่ซื่อก็จะถูกเราพังทลายมันไปง่ายๆ ถึงตอนนั้น ยังจะกลัวว่าจะไม่ได้รับมอบอำนาจของลี่ซื่ออีกเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…กลัวว่าบางทีนายอาจจะยังไม่กลับมาจากต่างประเทศ ลี่ซื่อก็คงจะตกเป็นของฉันแล้ว”
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ลี่หุยก็ยิ้มอย่างพึงพอใจมากขึ้นไปอีก
ลี่หุยลุกขึ้นยืน หัวเราะแล้วหมุนUSBในมือไปมา เดินขึ้นไปยังชั้นบนแล้วเก็บUSBไว้ในที่ปลอดภัย จากนั้นก็ไปอาบน้ำ
หลังจากที่ลี่หุยอาบน้ำเสร็จ ก็สวมใส่เสื้อคลุมอาบน้ำสีน้ำตาลแดง วางเท้าไปบนโต๊ะ มือหยิบแก้วไวน์หมุนมันไปมา แล้วเปิดฟังเพลงแจ๊ซ อย่างสบายอารมณ์
หากไม่รู้ว่าใจเขามืดหม่นเกินไป ใบหน้าของเขาที่มีส่วนคล้ายคลึงกับลี่จุนถิงนั้น สวมใส่เสื้อคลุมอาบน้ำที่สุภาพและสง่าเช่นนี้ ก็เหมือนเทพบุตรเช่นกัน เพียงแต่เขามีหน้าตาที่คล้ายจ้าวเฟยเฟยเสียมากกว่า ดูสวยสุภาพและอ่อนโยน หากเขาแต่งตัวเป็นผู้หญิง ก็คงจะเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆคนหนึ่ง
ลี่หุยยังดื่มด่ำกับความพึงพอใจอยู่ แต่จู่ๆก็ได้กลิ่นน้ำหอม เขาลืมตาขึ้น ก็เห็นผู้หญิงที่เขาชอบนั้นมากถึงแล้ว
ลี่หุยรั้งตัวเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน โถมตัวเข้าหา แล้วประคองศีรษะจูบเธออย่างดูดดื่ม หญิงสาวก็จูบตอบกลับเขาเช่นกัน ทั้งสองจูบกันจนยากที่จะแยกออกไปง่ายๆ
ลี่หุยยังคงจมอยู่กับความสุขที่ได้ใกล้ชิดนี้ แต่เขากลับไม่รู้เลยว่าทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของลี่จุนถิง
วันรุ่งขึ้น ลี่หุยก็ได้นำ USBนี้ไปให้กับอลัน
หลังจากที่อลันได้รับUSBนั้นแล้วก็ยื่นมันให้กับผู้ช่วย แล้วผู้ช่วยของเขาก็ได้นำมันไปตรวจสอบอยู่หลายรอบ และได้แจ้งกับอลันว่าข้อมูลที่มีด้านในนั้นไม่มีปัญหาอะไร
อลันเองก็เบาใจลง ในใจรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก หยิบแก้วไวน์ขึ้นแล้วแสดงเชิงเคารพไปให้กับลี่หุย
“ประธานลี่ ถือว่าคุณได้ทำงานสำเร็จไปเรื่องหนึ่งแล้ว ยินดีด้วยครับ”
“นี่ คุณอลัน ประโยคนี้ของคุณไม่น่าฟังเท่าไร อะไรคือประธานลี่ทำสำเร็จไปเรื่องหนึ่งแล้ว เรื่องก่อนหน้าที่ผมทำมันก็เพียงแค่ไม่ได้สมบูรณ์แบบเป็นพิเศษก็เท่านั้น”
แม้ว่าภายนอกอลันจะยิ้มแย้มให้กับลี่หุย แต่ภายในใจเขาก็ยังคงดูถูกลี่หุยอยู่มาก
“ออ ใช่ ใช่ครับ ประธานลี่ ผมพูดผิดไปแล้ว ครั้งนี้คุณทำมันได้ดีมาก ก่อนหน้านี้ผมมีตาหามีแววไม่ จากนี้ไปคงต้องขอความช่วยเหลือจากคุณแล้ว ”
“ได้ครับไม่มีปัญหา ต่อไปก็ขอมีสุขร่วมเสพ แล้วแบ่งปันความสุข ”
อลันกลอกตาดูถูก แล้วยิ้มแห้งออกมา
“ครับได้ครับ งานของคุณเสร็จสมบูรณ์แล้ว จากนี้ก็ต้องคอยทางกู้เฟยหลิน ขอเพียงให้กู้เฟยหลินสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น แผนของเราก็จะสำเร็จลุล่วงไปครึ่งทาง”
ก่อนที่ที่ลี่หุยจะแยกออกมาจากอลัน เขาได้ดื่มมันเข้าไปอึกใหญ่
“อลันคนนี้ คิดว่าฉันโง่นักหรือไง ? ถ้อยคำทั้งดีและร้ายนั่นเขาคิดว่าฉันฟังมันไม่ออกหรือยังไง ? คำพูดแต่ละคำนั้นก็แสนจะเย่อหยิ่ง ก็แค่มีเงินเท่านั้นแหละ หากฉันได้สืบทอดบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป อันดับแรกคือคว้านซื้อเกลกรุ๊ปของนาย ถึงตอนนี้ดูสิว่าจะอ้อนวอนขอร้องฉันยังไง ฮึ คอยดูแล้วกัน ”
“หากไม่ใช่เพราะต้องการจะสืบทอดอำนาจ ฉันเหรอจะร่วมงานกับคนใจแคบอย่างนาย หนำซ้ำยังต้องฝืนทนเพื่อรักษาผลประโยชน์ สารรูปอย่างนาย ก็ไม่น่าแปลกเท่าไรที่ซูซานจะไม่ชอบ”
ลี่หุยรู้สึกอารมณ์ไม่ดี จึงได้ขับรถไปที่แม่น้ำเซน แล้วตามตัวลี่หยูนห่วนออกมาด้วย แล้วบอกเล่าเรื่องUSBให้เขาฟัง จากนั้นก็พูดแขวะนินทาเรื่องของอลัน ลี่หยูนห่วนต้องการที่จะปลอบใจเขา จึงได้ชวนผู้หญิงอีกสองสามคนออกมาด้วย ตลอดทั้งคืนทั้งสองคนนั่งกันอยู่ที่แม่น้ำเซน และมีช่วงเวลาที่ดีร่วมกัน