หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อเดินออกไป ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งถูกบอดี้การ์ดจับกดคุกเข่าอยู่ในมุมของห้องรับแขก ซูม่านลีประคองตัวเจียงหยุนเอ๋อเดินลงไปยังชั้นล่าง หัวหน้าบอดี้การ์ดก็เข้ามาทำความเคารพ
พอเจียงหยุนเอ๋อเห็นมีคนเดินเข้ามา เอ่ยถามไปด้วยสีหน้าตื่นตกใจว่า :“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ทำไมจู่ๆถึงได้มีคนมากมายแบบนี้?”
“คุณนายครับ คนเหล่านี้ลักลอบเข้ามาในวิลล่า พวกเขาบอกว่าเข้ามาเพื่อขโมยของเท่านั้น แต่จำนวนคนที่เข้ามานั้นมีมากเกินไป เพราะฉะนั้นเราจึงคาดเดาว่าพวกเขาต้องมีจุดประสงค์อื่นหรือพูดอีกอย่างก็คือเป้าหมายของพวกเขาก็น่าจะเป็นคุณ”
“ฉันเหรอ?”
“ครับ พวกเขาคงต้องการจะลักพาตัวคุณ แล้วไปข่มขู่ประธานลี่ คุณไม่ต้องกลัว คนของพวกเขาถูกเราจัดการจนเรียบไม่เหลือแล้วครับ ”
“อืม ฉันเข้าใจแล้ว รบกวนด้วยแล้วกัน”
“คุณนายครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมเอาตัวพวกเขาไปก่อนนะครับ ”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้ารับด้วยท่าทีที่แข็งทื่อ
ทันทีที่บอดี้การ์ดพาคนเหล่านั้นออกไปซู่จี้งยี้ก็ตามมาถึงที่บ้านแล้วเช่นกัน
“คุณนายครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
ซู่จี้งยี้เอ่ยถามด้วยอาการหอบหายใจอย่างหนัก เพราะเร่งรีบจนเหงื่อไหลท่วมตัว เมื่อเจียงหยุนเอ๋อเห็นสภาพของเขา ก็รีบยื่นกระดาษทิชชูไปให้กับซู่จี้งยี้ แล้วยังขอให้ห้องครัวเทน้ำมาให้ด้วยแก้วหนึ่ง
“ผู้ช่วยซู่ คุณเช็ดเหงื่อก่อน นั่งลงแล้วค่อยๆพูด ฉันไม่เป็นอะไรคะ เพียงแค่ตกใจในตอนแรกเท่านั้น ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว ”
ซู่จี้งยี้รับกระดาษทิชชูนั้นมาแล้วเช็ดเหงื่อออก ดื่มน้ำบนโต๊ะหมดในลมหายใจเดียว
“ขอบคุณครับคุณนาย คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว คุณไม่ต้องกลัว บริเวณโดยรอบนี้มีคนของประธานลี่คอยดูแลคุ้มครองอยู่ ทางที่ดีช่วงนี้คุณก็อยู่แต่ในวิลล่าไปก่อน มีคนใช้อยู่ด้วย หากต้องการอะไรเพิ่มเติม คุณแจ้งมาที่ผม แล้วผมจะให้คนนำมาให้คุณเอง”
“ในส่วนของนายน้อยคุณเองก็ไม่ต้องเป็นกังวล นายน้อยอยู่โรงเรียนทหาร ที่นั่นปลอดภัยมาก ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นได้แน่นอนครับ ”
“ค่ะ ฉันรู้แล้ว รบกวนคุณแล้ว”
“ไม่รบกวนครับ คุณนาย หากไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน จะไปดูคนพวกนั้นสักหน่อย คุณก็ไปพักผ่อนได้แล้วครับ ”
หลังจากที่ซู่จี้งยี้ไปแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็กลับไปพักผ่อนที่ห้อง แต่เมื่อเธอหลับตาลงก็จะเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ได้แต่พลิกตัวไปมาจนนอนไม่หลับ
มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ทำให้เจียงหยุนเอ๋อคิดถึงวันคืนที่มีลี่จุนถิงอยู่ข้างกาย แล้วเธอก็หยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา แล้วคำนวณ ที่อังกฤษตอนนี้เป็นเวลากลางวัน เธอจึงวิดีโอคอลล์ไปหาลี่จุนถิง
เจียงหยุนเอ๋อโทรไปไม่ถึงวินาที อีกฝั่งก็กดรับสายนั้นแล้ว
“ว้าว จุนถิง ทำไมคุณรับสายเร็วจัง หรือคุณกำลังรอฉันโทรไปหาคุณอยู่ ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น แต่เพราะผมกำลังจะโทรหาคุณต่างหาก ไม่คิดว่าคุณจะโทรมาหาผมก่อน เมื่อกี้ซู่จี้งยี้ได้โทรมาบอกผมแล้ว คุณเป็นยังไงบ้าง ? ตกใจกลัวหรือเปล่า ?”
“ตอนแรกที่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนดังแล้วลงมาเห็นคนเหล่านั้นก็ตกใจมาก แต่ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกกลัวแล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วง”
ลี่จุนถิงพยักหน้า มองดูใบหน้าที่ขาวนวลของเจียงหยุนเอ๋อ ความคิดถึงที่มีต่อเจียงหยุนเอ๋อก็พรั่งพรูขึ้นมาทันที จับจ้องไปที่เจียงหยุนเอ๋อที่ยังวิดีโอคอลกันอยู่ ห้ามใจตัวเองไม่ได้พูดกับเจียงหยุนเอ๋อไปว่า :“เจียงหยุนเอ๋อ ผมคิดถึงคุณจังเลย มีหน้าจอกั้นอยู่ ผมเหมือนรับรู้ได้ถึงกลิ่นหอมบางเบาบนตัวคุณ”
พอเจียงหยุนเอ๋อได้ยินที่ลี่จุนถิงบอกว่าคิดถึงตัวเอง ใบหน้าก็แดงระเรื่อขึ้นมาทันที
“จุนถิง ฉันก็คิดถึงคุณเหมือนกัน ถ้าหากในตอนนี้มีคุณอยู่ข้างๆมันจะดีแค่ไหนกัน คุณกอดฉันไว้ แล้วฉันก็จะไม่กลัวอะไร”
“เจียงหยุนเอ๋อ รอผมอีกสักหน่อย รอให้จัดการกับเรื่องที่นี่ให้เสร็จ แล้วผมจะรีบบินกลับไปทันที ”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ค่ะ!ฉันจะรอคุณกลับมา”
“แค่นี้นะ ตอนนี้มันดึกมากแล้ว คุณควรนอนได้แล้ว”
“แต่จุนถิงคะ ฉันนอนไม่หลับนี่”
“ให้แม่มาอยู่เป็นเพื่อนไหม ?”
“ไม่ดีกว่าค่ะ คืนนี้แม่เองก็ตกใจกลัวเหมือนกัน คืนนี้ให้พวกท่านได้พักผ่อนเถอะ อย่าไปรบกวนพวกท่านอีกเลย ”
“อืม…ก็ได้ แล้วคุณจะทำยังไง คุณจะอยู่แบบนี้ไปตลอดทั้งวันไม่ได้ มันไม่ดีต่อสุขภาพ ”
“ฉันขอคิดดูก่อน…หรือไม่คุณก็ร้องเพลงกล่อมฉันเป็นไง”
“ได้สิ คุณอยากฟังเพลงอะไรล่ะ ? ”
“เออ……ฉันอยากฟังเพลงของEason Chanที่เขาร้องไห้ลูกของเขาเพลง 《babysong》”
“ได้”
“ดวงตาของเธอ สุกใสดั่งคริสทัล มีจักรวาลอันไร้ขอบเขตอยู่ในนั้น เธอที่ตัวเล็กๆ ในความฝันน้อยๆของเธอ ช่วยปัดเป่าเรื่องราวของฉันให้ปลิวไปกับสายลม ฉันขอโทษกับเรื่องที่เคยโกหกเธอ เมื่อเธอพบว่าขาวกับดำนั้นมันไม่ชัดเจน และโลกก็ไม่ได้ยุติธรรม อย่าผิดหวังกับมันมากนัก……”
ลี่จุนถิงร้องเพลง แล้วมองใบหน้าเรียวเล็กที่ค่อยๆหลับไปของเจียงหยุนเอ๋อ มุมปากยกยิ้มโดยไม่รู้ตัว เขาจูบเจียงหยุนเอ๋อผ่านหน้าจอมือถือ แล้วพูดเสียงเบาไปว่า :“ที่รัก ราตรีสวัสดิ์”
จากนั้นก็วางมือถือไปยังในที่ที่สามารถมองเห็นได้ มองใบหน้าที่หลับใหลของเจียงหยุนเอ๋อแล้วทำงานต่อไป
ในตอนที่เจียงหยุนเอ๋อตื่นขึ้นมานั้น พบว่าโทรศัพท์นั้นยังไม่ได้วางสายไป ทางฝั่งของลี่จุนถิงนั้นก็ยังคงขะมักเขม้นทำงานอยู่ เจียงหยุนเอ๋อมองดูลี่จุนถิงที่ทำงานอย่างตั้งใจ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเรียกเบาๆไปว่า “จุนถิง”
เพราะว่าเพิ่งตื่น เสียงของเจียงหยุนเอ๋อจึงยังคงแหบแห้ง แต่มันทำให้หัวใจของลี่จุนถิงคันยุบยิบ
ทั้งสองคนก็คุยกันอีกสองสามคำ เจียงหยุนเอ๋อก็เร่งให้ลี่จุนถิงไปนอน จากนั้นก็วางสายไป หลังจากที่วางสาย เจียงหยุนเอ๋อนึกถึงที่เมื่อคืนลี่จุนถิงกล่อมเธอนอน ในใจก็รู้สึกหวานแหวนขึ้นมา
เมื่อคืนคนของอลันย่องเบาเข้าวิลล่าแล้วทำงานล้มเหลว อลันก็รู้เรื่องแล้ว และโกรธมาก
“ไร้ประโยชน์!ไร้ประโยชน์ทั้งนั้น !ลี่จุนถิงนายนี่มันแน่จริงๆ ! มาดูสิว่าถ้าฉันเล่นงานบริษัทลี่ซื่อของนายจนพัง นายจะขอร้องอ้อนวอนฉันยังไง!”
แม้ว่าแผนการจะล้มเหลว แต่อลันก็ต้องรายงานให้ซูซานได้รู้
“ซูซาน ผมขอโทษด้วย แผนการล้มเหลว”
“ล้มเหลว?นี่ทำงานกันยังไง?”
“คนของฉันเข้าไปปุ๊บก็ถูกจับทันที ตอนนี้ยังไม่ได้ไปช่วยออกมา”
“จะช่วยทำไม ไอพวกไร้ประโยชน์ จะเก็บไว้ทำไมอีก เก็บไว้บอกรักหรือไง?”
“ซูซานคุณอย่าโกรธเลยนะ ผมจะคิดหาวิธีอื่น ยังไงผมก็จะต้องช่วยคุณให้ได้อย่างแน่นอน”
เมื่อซูซานรู้เข้า ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หากไม่ใช่เพราะอลันรั้งเอาไว้ เธอคงได้ตัดสัมพันธ์กับชายหนุ่มเป็นแน่
ตอนนี้ซูซานรู้สึกปวดหัวอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะอธิบายกับอันซีหนียังไงดี แต่เธอก็กัดฟันโทรไปหาอันซีหนี
“ขอโทษค่ะ คุณอันซีหนี คุณให้เวลาฉันอีกหน่อยได้ไหม ยังไงก็จะนำตัวเธอให้คุณได้อย่างแน่นอน”
อันซีหนีถึงกับผิดหวัง แล้วยังขอให้ตัวเองให้เวลาพวกเขาอีกหน่อย เขาต่อว่าซูซานว่า“ไร้ประโยชน์”แล้ววางสายไป
หลังจากที่ซูซานถูกกดตัดสายทิ้ง เธอก็ยิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก เธอปาโทรศัพท์ลงพื้นจนมันแตกกระจาย
ผู้ช่วยของอันซีหนีเห็นอันซีหนีโกรธเป็นฟืนไฟแบบนี้ ก็หวาดกลัวไปด้วย แต่ก็ยังคงกัดฟันถามไปว่า “บอสครับ หลังจากนี้เราจะทำยังไงกันต่อไปดีครับ ?”
อันซีหนีสูดหายใจเข้าลึกสั่งการกับผู้ช่วยด้วยใบหน้าที่เหี้ยมโหด
“คุณติดต่อไปหาครอบครัวของคนคนนั้น ให้พวกเขาหาเรื่องก่อความวุ่นวายต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งบานปลายใหญ่โตเท่าไรก็ยิ่งดี”
ผู้ช่วยรับคำสั่ง