ก่อนหน้านั้นซาติงผู้ช่วยของอันซีหนีโอนเงินให้กับเหยื่อผ่านบัญชีของคนอื่น แต่ตอนนี้สถานการณ์เร่งด่วน เขาจึงต้องนำเงินไปให้กับครอบครัวของเหยื่อเอง จากนั้นก็ได้มอบหมายงานบางอย่างให้กับพวกเขาด้วย
และในคืนนั้น เขาได้โทรหานัดแนะกับภรรยาของผู้เสียชีวิตเอาไว้ล่วงหน้า จากนั้นในกลางดึก ก็เดินทางมาถึงบ้านของผู้เสียชีวิตอย่างเงียบๆ เขาคิดว่าเขาเองซ่อนตัวมาอย่างดีแล้ว แต่การกระทำของเขาถูกคนของลี่จุนถิงจับตามองไว้ก่อนอยู่นานแล้ว
หลังจากที่ซาติงมาถึงยังบ้านของผู้เสียชีวิต เขาได้นำเงินที่เตรียมไว้แล้วให้กับภรรยาของผู้เสียชีวิต จากนั้นก็สั่งให้พวกเขาสร้างเรื่องและปัญหาต่อไปเรื่อยๆ ทางฝั่งของบริษัทลี่ซื่อให้เงินเท่าไรก็อย่าประนีประนอมยอมความ ต่อเมื่อแผนการทุกอย่างลุล่วงสำเร็จไปได้ จะมีเงินอีกก้อนจำนวนมหาศาลให้กับพวกเขา
คนของลี่จุนถิงไม่เพียงแต่ถ่ายภาพของซาติงที่เดินทางไปบ้านของผู้เสียชีวิต แต่ยังถ่ายภาพและวิดีโอที่เขานำเงินให้กับภรรยาของผู้เสียชีวิตอีกด้วย
วันรุ่งขึ้น แม่ของผู้ตายนำเถ้ากระดูกของผู้ตายออกมาจากบ้าน แล้วเดินทางไปยังใต้ตึกสาขาย่อยของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป เพื่อความปลอดภัย ภรรยาของผู้ตายก็เดินทางไปด้วยเช่นกัน
คนกลุ่มหนึ่งขึงดึงป้ายผ้าขาวอยู่ที่ใต้ตึกสาขาย่อยของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป แม่ของผู้เสียชีวิตและภรรยากับสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวพร้อมเถ้ากระดูก นั่งอยู่ที่ประตูของบริษัทแล้วร้องห่มร้องไห้ ทั้งร้องและทั้งตะโกน ขอให้บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปออกมาชี้แจง
คนของอันซีหนีก็คอยซุ่มมองดูอยู่ตลอด ทันทีที่เห็นว่าครอบครัวและคนอื่นๆมาอยู่ประจำที่แล้ว ก็ส่งข่าวไปยังสำนักสื่อต่างๆ ผ่านไปสักพักสำนักข่าวต่างๆก็มารวมตัวกันอยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งกล้องเล็กกล้องใหญ่ต่างก็จับภาพไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต จากนั้นก็ส่งภาพข่าวไปยังต้นสังกัดของตัวเอง แล้วเริ่มเขียนบทความเพื่อตีพิมพ์ เมื่อข่าวปรากฏออกมา จากที่เรื่องราวเงียบซาไปแล้วก็ถูกจุดติดมันขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้สถานีโทรทัศน์ต่างก็มาถ่ายทอดสด ทันทีทันใดนั้นบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปก็ถูกผลักให้มายืนอยู่ตรงปากเหวอีกครั้ง
ลี่จุนถิงที่ยืนมองดูอยู่ข้างบน ใบหน้าเรียบนิ่งจ้องมองไปยังผู้คนที่เอะอะโวยวายอยู่ด้านล่าง จากนั้นจึงได้ให้ผู้ช่วยของลี่จุนซินลงไปจัดการ
ผู้ช่วยได้ทำตามคำแนะนำของลี่จุนถิง ภายใต้การดูแลของหน่วยรักษาความปลอดภัย เชิญครอบครัวของผู้เสียชีวิตขึ้นมาพูดคุยเจรจา
เดิมทีครอบครัวของผู้เสียชีวิตไม่ประสงค์ที่จะเจรจา แต่ผู้ช่วยได้พูดว่า :“ก็ไหนคุณเรียกร้องต้องการให้ทางเราชี้แจง ตอนนี้ท่านประธานของเราเชิญคุณให้ขึ้นไปเพื่อปรึกษาหารือ ดูว่าจะจัดการกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ยังไง ”
ด้วยเหตุนี้ ทางฝั่งของครอบครัวผู้เสียชีวิตจึงได้ตามผู้ช่วยขึ้นมา
เมื่อมาถึงยังห้องประชุม ลี่จุนถิงนำเงินที่พร้อมจะชดเชยให้พวกเขาวางลงบนโต๊ะ แล้วถามพวกเขาไปว่า:
“พวกคุณคิดว่าเงินชดเชยนี้เพียงพอหรือเปล่า ? หากยังไม่พอเรามาคุยกันได้ ”
ภรรยาของผู้เสียชีวิตเห็นว่าพอเจอหน้ากันลี่จุนถิงก็เอ่ยปากพูดเสนอเงินให้ทันที แม้ว่าจะล่อตาล่อใจอยู่มาก แต่ก็ยังคงคิดถึงคำสั่งกำชับของซาติง เธอก็ปฏิเสธมันไปทันที
“ขอโทษค่ะ ประธานลี่ ไม่ว่าคุณจะเสนอเงินชดเชยให้เรามาเท่าไรเราก็ไม่สนใจ เราแค่อยากต้องการฟังคำอธิบาย สามีของฉันทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อบริษัทลี่ซื่อ แต่เพราะมาตรการป้องกันของสถานที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้สามีของฉันตายในที่เกิดเหตุ และตอนนี้คุณยังต้องการจะใช้เงินปิดปากพวกเราอีก ฉันขอบอกคุณตรงๆว่าไม่มีทาง”
แม่ของผู้ตายพอได้ยินก็พูดปฏิเสธไปทันที สีหน้าถมึงทึง ยกมือขึ้นจับแต่งเสื้อผ้าของตัวเอง
ลี่จุนถิงหัวเราเยาะออกมา “เหอะ ครับใช่ครับ คนเรา ก็อ่อนแอและเปราะบางแบบนี้แหละ แป๊บเดียวก็หายไปในพริบตา ”
ภรรยาของผู้ตายเมื่อได้ยินคำนี้ ในใจก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที แต่ก็ยังคงแสดงสีหน้าที่เรียบเฉย“ประธานลี่ นี่คุณกำลังขู่พวกเราเหรอ ? คุณไม่กลัวว่าฉันจะบอกเรื่องที่คุณข่มขู่พวกเรากับนักข่าวเหรอ ? ”
“ผมข่มขู่พวกคุณเหรอ ? ผมก็แค่ปลงกับความอ่อนแอเปราะบางของชีวิตคน ”
ภรรยาของผู้ตายโมโหจนหน้าดำหน้าแดง แต่ก็โต้แย้งกับคำพูดของลี่จุนถิงไม่ได้
“คำชี้แจงที่คุณต้องการ เราจะให้คุณในไม่ช้า เมื่อผลมันออกมา ค่าชดเชยก็คงจะไม่มากเท่านี้ คุณเองก็ต้องเตรียมใจไว้ด้วยเช่นกัน ”
“การเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางคุณยังต้องสืบอะไรอีก ก็เพราะมาตรการความปลอดภัยที่ไม่ได้มาตรฐานของพวกคุณ ทำให้สามีของฉันต้องมาจบชีวิตลง ทั้งหมดมันเป็นความผิดของพวกคุณ”
เมื่อลี่จุนถิงเห็นว่าภรรยาของผู้ตายไม่ให้ความร่วมมือ เขาก็หรี่ตาลง จ้องมองอย่างพินิจพิจารณา ราวกับจะมองจ้องให้ร่างนั้นละลาย
“ในเมื่อพวกคุณไม่ยอมให้ความร่วมมือ งั้นเราก็คงต้องไปคุยกันที่ศาล ”
ทางฝั่งของลี่จุนถิงได้นำเอาหลักฐานที่เธอถูกซื้อด้วยเงินออกมาให้ดู วางไปยังตรงหน้าของเธอ ทันใดนั้นใบหน้าของคนในครอบครัวผู้เสียชีวิตก็ซีดเผือดขึ้นมาทันที
“ทั้งหมดในนี่ล้วนเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าคุณถูกว่าจ้างวานมา อาทิเช่นเงินโอนที่เข้าบัญชีธนาคาร หรือเมื่อคืนนี้ที่มีคนไปที่บ้านของคุณเพื่อนำเงินไปให้คุณจำนวนหนึ่ง”
หลังจากที่ลี่จุนถิงพูดจบก็มองไปยังภรรยาของผู้เสียชีวิต เธอตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี สายตาจ้องมองไปยังหลักฐานที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เมื่อลี่จุนถิงเห็นว่าการข่มขู่ของเขานั้นได้ผล ก็ใช้นิ้วมือเคาะไปที่หลักฐานนั้น แล้วพูดต่อไปว่า
“หลักฐานเหล่านี้ เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ทั้งหมดในตอนนี้เข้าข่ายหมิ่นประมาท ถึงตอนนั้น หากบริษัทลี่ซื่อยื่นฟ้องขึ้นมา คุณจะต้องติดคุกไปตลอดชีวิต และจะไม่ได้ออกมาอีกตลอดไป ”
ภรรยาของผู้เสียชีวิตเมื่อเห็นว่าทุกอย่างถูกเปิดเผยแล้ว ก็เงยหน้าขึ้นแล้วร้องไห้อ้อนวอนต่อลี่จุนถิง
“ประธานลี่ ฉันขอโทษ ได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย พวกเราทุกคนถูกยุยงปลุกปั่น เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยทั้งนั้น ขอร้อง ได้โปรดปล่อยเราไปเถอะนะคะ”
ลี่จุนถิงประสานมือวางไปยังหัวเข่าของตัวเองด้วยท่าทีที่ผ่อนคลาย พูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยไปว่า:“ผมรู้อยู่แล้วว่าพวกคุณถูกปลุกปั่นมา หากต้องการให้ผมยกโทษให้ พวกคุณก็ต้องช่วยผม ”
“ได้ๆๆ คุณพูดมาเลยประธานลี่ ต้องการให้พวกเราช่วยคุณยังไง?”
“ไม่ต้องอะไรมาก แค่ช่วยเราชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด และคืนความบริสุทธิ์ให้กับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปของเรา”
“ถ้าอย่างนั้นประธานลี่ ฉันจะลงไปบอกกับนักข่าวพวกนั้นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ ”
ภรรยาของผู้เสียชีวิตพูดจบก็รีบลุกขึ้นทันที เพื่อที่จะลงไปพูดความจริงกับนักข่าวที่รออยู่ด้านล่าง แต่ลี่จุนถิงได้ร้องห้ามเธอเอาไว้
“ยังไม่ใช่ตอนนี้ พรุ่งนี้ผมจะจัดงานแถลงข่าว ถึงตอนนั้นคุณค่อยออกมาชี้แจงเรื่องราวทั้งหมด และอีกอย่างคุณอย่าคิดที่จะเล่นตุกติกกับผมเป็นอันขาด หากวันพรุ่งนี้คุณไม่พูดความจริง คุณและครอบครัวของคุณก็จะกลายเป็นคนลวงโลก ถึงตอนนั้นผมฟ้องพวกคุณแน่ และทั้งครอบครัวของคุณก็ไม่พ้นต้องติดคุกอย่างแน่นอน ”
คราวนี้ใบหน้าของภรรยาและแม่ของผู้เสียชีวิตก็ซีดเผือดขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากที่พูดจบ ลี่จุนถิงก็ให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตกลับไป แต่ลี่จุนถิงเองก็ยังคงไม่วางใจ
“จุนถิง ฉันยังคงไม่วางใจ ฉันกังวลว่าอันซีหนีจะยังมีแผนสำรอง”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว ดูท่าคราวนี้อันซีหนีคงได้ฆ่าคนปิดปาก แล้วป้ายความผิดมาให้ฉันแน่”
ทางฝั่งของอันซีหนีที่ได้รู้ข่าวว่าครอบครัวของผู้ตายนั้นถูกลี่จุนถิงเรียกขึ้นตึกไปเจรจา และคิดว่าคนพวกนั้นก็คงถูกลี่จุนถิงบีบบังคับจนกลับลำไปแล้วแน่ พอคิดมาถึงตรงนี้ แววตาของอันซีหนีก็ฉายแววความเหี้ยมโหด
“ซาติง จัดคนสักสองสามคน หาจังหวะในตอนดึกๆไม่มีใครไปจัดการกับคนพวกนั้นซะ ระวังอย่าให้ใครจับได้ ต้องระวังตัวให้มาก ถึงตอนนั้นก็ป้ายสีให้กับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป กุข่าวบอกว่าบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ แล้วฆ่าคนปิดปาก ”
“การฆ่าคนในต่างประเทศ มันคือการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ถึงตอนนั้นลี่จุนถิงอยากจะผลักปัญหาให้พ้นตัวก็เป็นไปไม่ได้”