ตอนที่ 451 ไพ่ไม้ตายลับ (1)
หลังจากที่ปีศาจเสือดำให้พรเขา ปีศาจสองสามตัวก็กลับมาขณะที่พวกเขาพูดคุยและหัวเราะกัน
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วแอบซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ และจับสังเกต จากนั้น เขาก็พบว่า เหล่าปีศาจกำลังกลับไปที่ถ้ำของพวกเขาเท่านั้น เคหาสน์ถ้ำนั้นถูกซ่อนอยู่ริมหุบเขา
ปีศาจสองสามตัวเหล่านั้นได้ “บังเอิญ” ค้นพบเคหาสน์ถ้ำ ซึ่งปีศาจเสือดำเพิ่งเปิดออก แล้วพวกเขาก็ให้การต้อนรับเพื่อนบ้านอย่างจริงใจทันที
พวกเขาจับปีศาจน้ำและโจมตีปีศาจเสือดำ และในขณะที่พวกเขากำลังจะสร้างความอัปยศให้กับปีศาจน้ำต่อหน้าเสือดำ จู่ๆ ก็มีสายลมโชยพัดผ่านมา ทันใดนั้น เหล่าปีศาจก็กลอกตาแล้วล้มลงไปกับพื้นกะทันหัน กลิ่นอายของพวกมันหายไปและตานปีศาจของพวกเขาก็ซีดลง
มันเป็นเพียงปีศาจเซียนเทียนที่นำปีศาจสองสามตัวในขอบเขตเซียนเสิ่นเท่านั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนจินของหลี่ฉางโซ่วนั้น จัดการมันง่ายมาก…
เขาใช้ผงพิษและยาสลบจัดการพวกมัน
หากเขาไม่อาจเสียพลังเซียนได้ เขาก็จะไม่ยอมเสียมันไปเปล่าๆ นั่นคือ คู่มือสำหรับตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์
จากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ปรากฏตัวขึ้นนอกเคหาสน์ถ้ำ บนก้อนเมฆ แล้วหัวเราะเบาๆ
ปีศาจเสือดำดึงปีศาจน้ำ เหมียวเหมี่ยวออกไป ครั้นเมื่อเห็นหลี่ฉางโซ่ว ก็งอขาและคุกเข่าลง
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยข้า! ผู้อาวุโส ท่านนี่…”
“หุบปาก!” หลี่ฉางโซ่ว และปีศาจสาวร้องตะโกนเกือบพร้อมๆ กัน
ทันใดนั้น เสือดาวดำก็ตัวสั่นและยิ้มแหยๆ ออกมา
หลี่ฉางโซ่วกล่าวต่อว่า “ในหัวของเจ้า อย่าคิดอวยพรให้ข้าอีก ข้าโชคร้ายและไม่อาจรับได้”
เสือดำรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก และทำได้เพียงโขกหัวให้ซ้ำๆ
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยชีวิต! เชิญผู้อาวุโสเข้ามาพักผ่อนก่อนเถิดขอรับ!”
หลี่ฉางโซ่วกพยักหน้าอย่างสงบและกล่าวอย่างจริงจังว่า “อาเป้า ข้าช่วยเจ้าได้ครั้งหนึ่ง บางที ข้าก็อาจช่วยชีวิตเจ้าได้อีกเป็นครั้งที่สอง แต่ข้าไม่อาจช่วยชีวิตเจ้าได้เป็นครั้งที่สามหรือสี่ ตอนนี้ ข้าจะไปแล้ว เจ้าและภรรยาของเจ้าก็สามารถฝึกบำเพ็ญอยู่ที่นี่ได้อย่างสงบสุข ไม่ต้องพูดอะไรอื่นอีก… ย่อมเป็นการดีกว่าที่จะทำตัวเรียบง่าย ติดดิน และทำทุกอย่างให้ดีทีละอย่าง ให้พวกเจ้าลงมือทำดีกว่าพูด เข้าใจหรือไม่?”
เสือดำครุ่นคิดลึกซึ้งแล้วโค้งคำนับให้อย่างสุดซึ้งพลางกล่าวว่า “ผู้น้อยเข้าใจแล้วขอรับ!”
หลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็มองไปที่ปีศาจน้ำ เหมียวเหมี่ยว ด้วยสายตาที่ซับซ้อน
เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อยและถามว่า “ข้าสงสัยบางอย่างเล็กน้อย ไยภรรยาเจ้า… หรือว่าในใจลึกๆ แล้ว เจ้าไม่ได้พอใจภรรยาของเจ้า!?!”
“ผู้อาวุโส ท่านเข้าใจผิดแล้ว ผู้น้อยดีต่อภรรยาขอรับ …”
เปรี๊ยะๆ!
พร้อมด้วยเสียงดังคมชัด หัวของเสือดำก็พุ่งไปทางซ้าย ลำตัวของมันหมุนเป็นเส้นตรงตั้งแต่หัวจรดเท้าสามสิบหกรอบ!
ทันใดนั้น มือซึ่งรวดเร็วราวกับมือผีก็ลงมือตบทันที และหยุดไปชั่วขณะก่อนจะค่อยๆ ถอยกลับออกไปอย่างสงบแล้วซ้อนด้วยมือเรียวอีกข้างหนึ่งซึ่งวางไว้บนชายกระโปรงของปีศาจน้ำเหมียวเหมี่ยว
นางยิ้มอายๆ และกระซิบว่า “เรียนผู้อาวุโส ข้าไม่มีทางอื่น นอกจากต้องใช้มือตบให้ไว”
หลี่ฉางโซ่วถึงกับเงียบงันกะทันหัน
อาเป้าลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและเช็ดมุมตาของเขากับแก้มขวาที่บวมของเขาเงียบๆ
“ผู้น้อยละอายใจนัก ทำให้ผู้อาวุโสต้องขบขันแล้ว”
“ดีมาก” หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าอย่างสงบและกล่าวว่า “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ อาเป้า เจ้าเพียงแค่มุ่งเน้นในการฝึกบำเพ็ญของเจ้าเท่านั้นก็พอ”
“ผู้อาวุโส! ผู้อาวุโส!”
เสือดำตะโกน หยุดหลี่ฉางโซ่วเอาไว้ก่อนจะถามอย่างกังวลว่า “ท่านผู้อาวุโส ท่านบอกความจริงผู้น้อยได้หรือไม่? หากท่านพอนึกภาพออก ท่านพอใจเรื่องปากและทักษะการสื่อสารของผู้น้อยหรือไม่? หากท่านพอใจ ผู้น้อยจะขอทดแทนบุญคุณของท่านที่ช่วยชีวิตผู้น้อยในตอนนี้ ผู้น้อยจะยอมให้ร่างแหลกสลาย มอบชีวิตให้ท่านอย่างแน่นอน…”
หลี่ฉางโซ่วตะโกน “ช้าก่อน!”
เสือดำรีบหุบปากและหยุดคำพูดของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าจงรักภักดีกับข้า เจ้าไม่มีอะไรเกี่ยวอะไรกับข้า” หลี่ฉางโซ่วไตร่ตรองคำพูดของเขาในใจ แล้วกล่าวว่า “ข้าไม่ได้วางแผนคิดร้ายอะไรกับเจ้า และยังรู้ด้วยว่าปากของเจ้าจะใช้ไม่ได้ผลหากจงใจให้มันทำงาน
ว่ากันตามตรง ข้าเพียงพบว่าพลังเวทของเจ้าค่อนข้างแปลก
ผู้มีพรสวรรค์อย่างเจ้าจำเป็นต่อความเจริญรุ่งเรืองมหาศาลของเผ่าปีศาจ
“เจ้าสามารถฝึกบำเพ็ญอยู่ที่นี่อย่างสงบสุข เจ้าจะมีที่ส่องแสงและรุ่งเรืองอย่างแน่นอนหลังจากดูแลหล่อเลี้ยงปีศาจมานับพันปี จงใช้โอสถเหล่านี้เพื่อช่วยในการฝึกบำเพ็ญของเจ้าและภรรยาของเจ้า”
ปีศาจเสือดำรู้สึกซาบซึ้งใจนัก เขาโค้งคำนับให้หลี่ฉางโซ่วด้วยคารวะเต๋าอีกครั้ง
จากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็หันหลังกลับและขี่เมฆบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
ทันใดนั้น ปีศาจเสือดำตะโกนว่า “ผู้อาวุโส ช่วยทิ้งชื่อของท่านไว้ได้หรือไม่ขอรับ?”
แล้วเขาก็ได้ยินเสียงมาจากหมู่เมฆ
“ข้าเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญอิสระ อย่าได้ถามถึงเรื่องทางโลก ให้เรียกข้าว่า นักพรตเต๋าลู่หยา”
ปีศาจเสือดำพึมพำเบาๆ และชื่นชมว่า “เป็นผู้อาวุโสลู่หยาจริงๆ…
ข้าพูดไม่ได้ พูดไม่ได้ ฟู่ๆ
ฮูหยินรีบไปหยิบแผ่นป้ายจารึกบูชา แล้วจดชื่อผู้อาวุโสคนนี้ แม้ข้าจะไม่อาจอ้าปากอธิษฐานหรือคิดถึงได้ แต่ข้าก็ยังสร้างแผ่นป้ายจารึกบูชา และถวายเครื่องสักการะได้ทุกวัน”
“สามี” ปีศาจน้ำ เหมียวเหมี่ยวก้าวออกไปข้างหน้าและกล่าวเบาๆ ว่า “ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะพลังเวทธรรมชาติของเจ้า เราจึงได้รับการดูแลจากท่านปรมาจารย์”
“วันที่ดียังคง… แค่กๆ! แค่กๆ!”
เสือดำหุบปากทันเวลาและกล่าวว่า “ข้าจะจัดการกับศพก่อน ฮูหยินไปตั้งแผ่นป้ายจารึกบูชาเอาไว้เถิด”
“ได้” ปีศาจน้ำ เหมียวเหมี่ยวตอบกลับเบาๆ จากนั้น ทั้งคู่ก็มีงานยุ่งวุ่นว่ายทันที
ในอีกด้านหนึ่งนั้น หลี่ฉางโซ่วยังไม่ได้ไปไกล เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเสือดำ เขาก็ยิ้มและหรี่ตาลง…
เขาได้ทิ้งตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์สองตัวเอาไว้ที่นั่นเพื่อคอยปกป้องและเฝ้าติดตามปีศาจเสือดำในอนาคต
เขานึกถึงเรื่องการสังหารเหล่าปีศาจของศาลสวรรค์
ยังไม่ถึงเวลาเหมาะสม
ศาลสวรรค์ไม่นับว่าเป็นกองกำลังต่อสู้ระดับสูง ความแข็งแกร่งโดยรวมของกองกำลังยังไม่อาจเทียบได้กับความแข็งแกร่งโดยรวมของเผ่าปีศาจ แล้วศาลสวรรค์จะเอาชนะเผ่าปีศาจได้อย่างไร?
ปีศาจใต้ท้องทะเลเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเผ่าปีศาจ นอกจากนี้ พวกเขายังสูญเสียเหล่าปรมาจารย์จำนวนมากไปในระหว่างการต่อสู้กับเผ่ามังกร จึงจัดการพวกเขาได้ง่าย
ทว่าส่วนที่เหลือของศาลปีศาจที่ชายแดนของดินแดนเทวะอุดรและดินแดนเทวะประจิมนั้น ไม่ได้ขาดเหล่าปรมาจารย์ที่ทรงพลังจากรุ่นก่อน นี่เป็นฝันร้ายสำหรับศาลสวรรค์ในยามนี้
การสังหารปีศาจเป็นเพียงแผนการที่ศาลสวรรค์จะสร้างชื่อเสียงและได้รับบุญในอนาคต จึงถือได้ว่าเสือดำเป็นเครื่องมือเวทระดับยุทธศาสตร์
หลังจากนี้ ข้าจะหลอก… แค่กๆ ข้าจะสร้างความรู้สึกเป็นตัวตนของเสือดำตัวนี้กับเผ่าปีศาจ แล้วจะให้เสือดำหุบปากและนั่งสมาธิ จากนั้น ก็ไปหาที่หลบภัยจากเหล่าราชาปีศาจที่ทรงพลังอย่างจริงใจ
แล้วใช้อันตรายจากวาจาพิษของเขาทำลายป้อมปราการของเผ่าปีศาจ!
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและสั่งตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งสองที่กำลังเฝ้าติดตามดูเสือดำ ให้อยู่ห่างๆ จากเสือดำมากขึ้น
ความจริงแล้ว ต้องบอกว่า ดาบสองคมเช่นนี้ เขาย่อมไม่อาจไม่ระวังเช่นกัน
ในขณะที่หลี่ฉางโซ่วกำลังติดตามเสือดำ เหตุการณ์บนยอดเขาหยกน้อยก็สงบลงแล้ว
หลี่ฉางโซ่วไม่ได้มองโลกในแง่ดีกับการขึ้นสู่เซียนของหลิงเอ๋อร์เพราะนางยังขาดประสบการณ์และความยากลำบาก ที่สำคัญที่สุด แม้นางจะเสริมความแข็งแกร่งให้ฐานเต๋าตามวิธีการของเขาแล้ว แต่ก็ยังมีช่องว่างและข้อบกพร่องอีกมากมายหลงเหลืออยู่
อย่างมากที่สุด นางก็สามารถขึ้นไปถึงเซียนเสิ่นขั้นกลางถึงขั้นปลายได้เท่านั้น
เดิมทีจิ่วจิ่วได้เตรียมแผนการจัดงานเฉลิมฉลองทุกชนิดเพื่อฉลองความสำเร็จของ หลิงเอ๋อร์ แต่เมื่อหลิงเอ๋อร์เข้าปิดด่าน นางจึงพับแผนการพวกนี้ทั้งหมดเก็บเอาไว้ก่อน
ในอีกด้านหนึ่งนั้น ทางกลับกัน โหย่วฉินเสวียนหย่าก็รู้สึกกดดัน เมื่อหลิงเอ๋อร์เริ่มเข้าปิดด่าน นางจึงเข้าปิดด่าน เช่นกัน ดูเหมือนว่า นางจะไม่อยากตามหลังหลิงเอ๋อร์
ในวันนั้น หลังจากที่หลี่ฉางโซ่วเพิ่งจัดการเรื่องเสือดำไป เขาก็เปิดเตาหลอมในหอโอสถเพื่อหลอมโอสถและทำการวิเคราะห์… คำว่า ‘ไป’ วิธีการของจอมปราชญ์เทพนั้น ย่อมไม่ใช่สิ่งที่เขาจะคาดเดาได้อย่างแน่นอน
ความจริงแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องคิดว่าจอมปราชญ์เทพประสงค์จะให้เขาทำอะไร
จอมปราชญ์เทพได้หลุดพ้นจากพันธนาการแห่งเต๋าใหญ่แล้ว เขาออกจากท้องทะเลและนั่งอยู่บนฝั่งของแม่น้ำสายยาวแห่งกาลเวลาพลางมองดูสิ่งมีชีวิตในทะเลแห่งความทุกข์ยากที่ยังคงใช้ชีวิต เดินไปมาอย่างไร้จุดหมายอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่พวกเขาประสบและมองเห็นนั้น ย่อมแตกต่างจากสิ่งที่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ จะหยั่งรู้ได้
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องตั้งสมมติฐานนั้น หากเขาได้สัมผัสกับเสือดำในขณะนั้น ไม่ว่าเขาจะเลือกอะไร ไม่ว่าจะวางแผนโจมตีเสือดำ ใช้มัน หรือฆ่ามัน ทั้งหมดนั้น ล้วนนำไปสู่เรื่องราวที่จอมปราชญ์เทพย่อมรับรู้ได้ เช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าเขาจะคาดเดา หรือวางแผนอะไรในใจ หากจอมปราชญ์เทพไม่เข้ามาแทรกแซงด้วยโดยตรง นั่นก็ย่อมหมายความว่า เขายังไม่ได้เบี่ยงออกไปจากเส้นทางการพัฒนาจอมปราชญ์เทพได้วางไว้
………………………………………………………………..