เมื่อลี่จีถองมาถึงบริษัท ก็เชิญคนของสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์เข้ามาที่บริษัท
“ไอ้หยา ประธานลี่ คุณกำลังทำอะไร เมื่อวันกว่าจะได้พักผ่อน วันนี้พวกเราก็ถูกคุณเรียกเข้ามาอีก”
เมื่อคนของสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์เข้ามา ชกเบาๆ ลงไปที่ร่างกายของลี่จีถอง
ลี่จีถองทำการทักทายกับพวกเขา จากนั้นเชิญพวกเขาเข้าไปที่ห้องประชุม
“เรื่องนี้ผมไม่ได้เป็นคนทำนะ คนที่เรียกพวกคุณมาไม่ใช่ผม พวกคุณมาที่นี่เพราะได้รับบัตรเชิญจากบุคคลนิรนามไม่ใช่เหรอ?”
“มันก็เหมือนกัน แหละ เพราะยังไงก็เป็นฝีมือของคุณ”
“ก็ได้ พวกคุณจะพูดแบบนี้ผมก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัว ที่ผมเชิญพวกคุณมา ก็เพราะเชิญพวกคุณมาเป็นพยานให้พวกเรา และจะได้ช่วยพวกคุณให้เสร็จภารกิจอีกด้วย”
จากนั้น ลี่จีถองให้ซู่จี้งยี้ไปเชิญนักข่าวเข้ามา เมื่อคนของสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์เห็นนักข่าวเข้ามา จึงรีบจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย และนั่งลงทำท่าจริงจังอยู่ตรงนั้น
หลังจากนักข่าวเข้ามาหมดแล้ว ลี่จีถองทักทายกับพวกเขาก่อน จากนั้นพูดถึงวัตถุประสงค์ที่เชิญพวกเขามาในวันนี้
“ที่ผมเชิญพวกคุณมา หลักๆ คือต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณ”
“ประธานลี่ คุณเกรงใจมากไปแล้ว”
ลี่จีถองยิ้ม แล้วพูดต่ออีกว่า: “ตอนนี้ประชาชนสนใจข่าวของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมาก ดังนั้นผมต้องการให้พวกคุณช่วยผมถ่ายทอดสด เพื่อต้องการยืนยันความบริสุทธิ์ อีกอย่างคนของสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ก็อยู่ที่นี่
“ไม่มีปัญหา ประธานลี่”
“ถ้าไม่มีปัญหา พวกเราเริ่มต้นตอนนี้กันเลย”
หลังจากการถ่ายทอดสดเริ่มต้น ลี่จีถองทำการทักทายกับทุกคนก่อน แล้วจึงอธิบายจุดประสงค์ของการถ่ายทอดสดในครั้งนี้ให้ทุกคนฟังหนึ่งรอบ
“เพื่อให้ทุกคนเชื่อมั่นในลี่ซื่อกรุ๊ปของพวกเราอีกครั้ง ตอนนี้ผมจะโทรหาพันธมิตรทีละคนเพื่อแจ้งให้พันธมิตรยกเลิกทำการค้ากับเรา แน่นอนหากพวกเขายังต้องการทำการค้ากับพวกเราอีก สามารถทำสัญญากับพวกเราใหม่ได้ หากทุกคนต้องการให้มีการถ่ายทอดสดตอนเซ็นสัญญากันนั้น เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราก็สามารถทำการถ่ายทอดสดอีกครั้งก็ได้”
หลังจากที่ลี่จีถองโทรศัพท์เสร็จ บอกให้ซู่จี้งยี้ไปเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย
“ต่อจากนี้ ผมจะชี้แจงให้ทุกคนทราบ โปรเจคเมื่อกี้ที่เรียกว่าได้มาโดยวิธีการด้วยเล่ห์หรือด้วยกลนั้นตอนแรกได้มายังไง?
ลี่จีถองส่งสัญญาณให้ซู่จี้งยี้เอาหลักฐานออกมา
“ในนี้เป็นเอกสารบันทึกการประชุมและวิดีโอการประชุมทั้งหมดก่อนที่พวกเราจะทำธุรกิจร่วมกัน เช่นเดียวกับโปรเจคอื่นๆ หลักฐานทั้งหมดนี้ยืนยันได้ว่าบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป ได้โปรเจคทั้งหมดมา ด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งนั้น ถ้าทุกคนยังไม่เชื่อสามารถไปสอบถามลูกค้าที่ทำธุรกิจกับเราได้”
เมื่ออลันดูถ่ายทอดสดถึงตรงนี้ โมโห หันกลับไปถามลี่หุย
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?ไหนคุณว่าไม่มีปัญหาไง?ผมดูเอกสารพวกนั้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าโปรเจคพวกนั้นมีปัญหาทั้งหมด”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เอกสารพวกนี้คนของผมเป็นคนก๊อบปี้มาให้ผมกับมือตัวเอง เขาต้องถอดรหัสผ่านตั้งหลายชั้น และเกือบถูกคนจับได้อีกด้วย”
“ขยะ ไอพวกขยะ!”
หลังจากที่อลันด่าเสร็จ และสงบสติอารมณ์ลงได้ในที่สุด ทันใดนั้นฉุดนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอาจโดนหลอก ทำให้สีหน้าของเขายิ่งดิ่งลงอีก
“พวกเราโดนหลอกแล้ว”
ลี่หุยตกใจหยุดอยู่กับที่ “ห๋า?อะไรนะ?พวกเราโดนหลอกเหรอ?”
อลันเหลือบไปมองลี่หุยที่ทำท่าเซ่ออยู่ แล้วพยักหน้า
“มันเป็นไปได้ยัง……”
ลี่หุยยังไม่ทันพูดจบ ฉุดนึกขึ้นได้ในที่สุด
“ไอ้เหี้ยลี่จีถอง!กล้าหลอกฉันเหรอ!”
และความจริงก็เป็นไปตามอย่างที่คิด ลี่จีถองคาดการณ์ไว้แล้วต้องมีคนฉวยโอกาสตอนที่เขาไม่อยู่ ย่องเข้าไปในออฟฟิศทำงานของเขาเพื่อขโมยเอกสาร จึงสั่งให้ซู่จี้งยี้ ใส่ข้อมูลปลอมลงไปในคอมพิวเตอร์ของเขา จากนั้นใส่รหัสไว้หลายชั้น แต่เป็นรหัสที่ถอดได้ง่ายๆ
นอกเหนือจากนั้น ในออฟฟิศได้ติดตั้งกล้องวงจรไว้ และได้ถ่ายคนที่แอบย่องเข้าไปไว้อย่างชัดเจน
พนักงานคนนั้นเป็นพนักงานแผนกการตลาด ชื่อจางต้าฟู่ เขาเข้าทำงานที่บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยมีผลงานใหญ่อะไร คิดไม่ถึงว่าจะถูกลี่หุยซื้อตัวไป ถูกหลอกใช้เหมือนหมาตัวหนึ่ง
หลังจากที่ลี่จีถองรู้เรื่องนี้ ได้สั่งให้ซู่จี้งยี้ไปตามตัวจางต้าฟู่ที่แผนกการตลาดขึ้นมา แต่ซู่จี้งยี้ไปแล้วกลับมาแจ้งว่า:
“ประธานลี่ ผู้จัดการแผนกการตลาดแจ้งว่าจางต้าฟู่ไม่ได้มาทำงานหลายวันแล้ว และไม่ได้ลางานด้วย”
ลี่จีถองขมวดคิ้วเข้าหากัน “ไปแจ้งความ แล้วเอาวิดีโอส่งให้ตำรวจ ให้พวกเขาไปจับต้วจางต้าฟู่”
หลังจากที่ตำรวจได้รับแจ้งความ รีบลงมือปฏิบัติทันที แต่เมื่อตำรวจบุกเข้าไปที่บ้านของจางต้าฟู่นั้น ปรากฏว่าข้างในไม่เหลือใครสักคน จางต้าฟู่ได้หลบหนีคดีไปแล้ว
ตำรวจรีบเร่งออกหมายจับ จากนั้นจัดจุดตรวจในแต่ละจุดของถนนที่เขาน่าจะใช้ในการหลบหนี และจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวดที่สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง และสนามบิน
ทันใดนั้น ตำรวจได้รับแจ้งว่า ถนนทางขึ้นทางด่านข้างหน้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น มีรถบรรทุกคันใหญ่ชนกับรถเก๋งและพลิกคว่ำไปพุ่มหญ้าข้างทาง คนในรถเก๋งน่าจะเป็นจางต้าฟู่
หลังจากที่พวกเขาได้รับข่าว รีบไปสถานที่เกิดเหตุทันที และเมื่อเทียบดูแล้วเขาคือจางต้าฟู่จริง
จางต้าฟู่ในตอนนี้ติดอยู่ในรถเก๋ง ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด อยู่ในสภาพหมดสติ จึงรีบโทรแจ้งรถโรงพยาบาลโดยด่วนเพื่อส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
เมื่อช่วยจางต้าฟู่ออกมาและส่งตัวถึงโรงพยาบาลแล้ว ตำรวจโทรแจ้งซู่จี้งยี้ ซู่จี้งยี้กับลี่จีถองจึงรีบตามไปที่โรงพยาบาล
ตำรวจแจ้งว่าตอนนี้จางต้าฟู่อยู่ในสภาพที่ไม่ได้สติ และอาจมีอันตรายถึงชีวิต
“ประธานลี่ นี่เป็นอุบัติเหตุทางจราจร”
“เป็นไปไม่ได้ เขาขโมยความลับทางธุรกิจของลี่ซื่อกรุ๊ป ต้องมีคนบงการเขาอยู่เบื้องหลังแน่ๆ ต้องไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาทั่วไปแน่นอน”
“แต่ว่า ดูจากสถานที่เกิดเหตุแล้ว เป็นอุบัติเหตุจราจรทั่วไปจริงๆ”
“รถคันที่ชนเขาล่ะ?หาเจอไหม?”
“ตอนนี้ยังหาไม่เจอ ประธานลี่ อีกอย่างช่วงนี้กล้องวงจรปิดของถนนสายนั้นเสียพอดี ตอนนี้อยู่ระหว่างการซ่อมแซมอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีภาพบันทึกที่สามารถตามรถคันนั้นได้”
หลังจากฟังคำอธิบายของตำรวจแล้ว ลี่จีถองเก็บความโกรธไว้อย่างเห็นได้ชัด ถ้าหาคนก่อเหตุไม่เจอ ก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าเรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุหรือเป็นการจงใจกันแน่
หลังจากที่กลับมาถึงบริษัทแล้ว ซู่จี้งยี้ถามลี่จีถองว่าเรื่องนี้ควรทำยังไง
“ประธานลี่ แล้วพวกเราควรทำยังไงต่อ?เราจะปล่อยให้คนผิดลอยนวลอยู่ข้างนอกเหรอ?”
“นายหาคนไปที่กระทรวงคมนาคมหาเทปบันทึกภาพจราจรในช่วงเวลานั้นมา จากนั้นให้คนของพวกเราวิเคราะห์ แล้วไปหาตัวผู้ก่อเหตุ ฉันไม่เชื่อว่าจะหาตัวมันไม่เจอ”
“ลี่หุยกับลี่หยูนห่วนพวกเขาคิดว่าชนคนให้ตายก็จะหลุดรอดจากเรื่องนี้ได้อย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ นายไปเตรียมการก่อน อีกสองวันปล่อยข่าวออกไป”
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันลี่หุยลูกนอกสมรสคนนี้ ผมของฉันจะช่วยมันยังไง”
คืนนั้น เมื่อลี่จีถองกลับถึงบ้าน เจียงหยุนเอ๋อกับโม่เสี่ยวฮุ่ยเป็นห่วงและโกรธมาก
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?ช่วงนี้ทำไมมีแต่คนหาเรื่องลี่ซื่อ?ลูกนอกสมรสคนนั้นเป็นคนทำใช่ไหม?”
ลี่จีถองดันโม่เสี่ยวฮุ่ยให้นั่งลงที่โซฟา แล้วพูดปลอบใจขึ้นว่า
“แม่ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนี้ผมจัดการเอง ส่วนคนเดี๋ยวผมก็จะจับตัวมาเอง เมื่อถึงเวลานั้นแม่ได้ล้างแค้นแน่นอน”