บทที่ 618 การกลับมา
บทที่ 618 การกลับมา
ซูอันปฏิเสธที่จะยุติการเชื่อมต่อ ในที่สุดฉู่ชูเหยียนก็ทนไม่ไหวและเอ่ยขึ้น “เจ้าอาจจะมีเงิน แต่ข้ามีหินพลังชี่ไม่พอ!”
เป็นเรื่องหนึ่งถ้าเขามีเรื่องสำคัญจะพูดจริง ๆ แต่เขาก็แค่คุยเรื่องชีวิตประจำวันกับนาง นางต้องระวัง แม้ว่าตระกูลฉู่จะมั่งคั่ง ก็ไม่ควรสิ้นเปลืองอะไรอย่างนี้!
เมื่อเห็นว่าฉู่ชูเหยียนเริ่มกังวล ซูอันก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าจะวางเมื่อเจ้าเรียกข้าว่าสามีที่ดีที่สุด!”
“ข้าจะไม่พูดอย่างนั้น ข้าวางแล้วนะ!”
“เจ้าจะปฏิเสธความรักที่มีต่อสามีสุดที่รักของเจ้าจริง ๆ เหรอ?”
ฉู่ชูเหยียนกัดฟันแต่ยังคงเงียบ
อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด ภายใต้การรบกวนของเขาอย่างต่อเนื่อง นางก็ยอมพูด “เจ้า…เจ้า…เป็นสามีที่ดีที่สุด…” นางพูดเบา ๆ
ซูอันยิ้มกว้าง เขาขยับหูเข้าไปใกล้กระจก “เจ้าพูดอะไร ข้าไม่ได้ยิน มันเบาเกินไป เจ้าช่วยพูดให้ดังขึ้นหน่อยได้ไหม?”
“ให้ตายสิ!”
ใบหน้าของฉู่ชูเหยียนแดงก่ำ นางไม่สามารถทนได้อีกและตัดการเชื่อมต่อไป
ซูอันพูดไม่ออก วิดีโอแชตในโลกก่อนหน้าของเขาสะดวกกว่ามากนัก
อย่างไรก็ตาม ผู้คนในโลกนี้สามารถบ่มเพาะจนแข็งแกร่งราวกับเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ได้ ทุกสิ่งย่อมมีข้อดีและข้อเสียอยู่เสมอ…
ซูอันนอนลงบนเตียงและคิดถึงว่าตัวเองจะทำอย่างไรต่อไป?
ชายหนุ่มรู้ว่าแม้ว่าคนนอกตระกูลจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ แต่ก็ไม่มีทางที่ตระกูลเว่ยจะไม่รู้
อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากนัก นี่อาจเป็นความสงบก่อนเกิดพายุ
เขารู้สึกผิดนิดหน่อย เพราะเว่ยต้านเป็นปู่บุญธรรมของเว่ยสั่ว
แม้ว่าเว่ยต้านจะไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของเขา แต่ชายหนุ่มเองก็จัดว่ามีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ เว่ยสั่วไม่ได้ดูเศร้าหมองเลย ในช่วงเวลาถัดมาที่เขาพบอีกฝ่ายในสถาบันจันทร์กระจ่าง ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป
บางทีตัวตนของเว่ยต้าน อาจเป็นความลับจนแม้แต่คนในตระกูลเว่ยก็ยังไม่น่าจะรู้จัก?
นอกจากนี้เรื่องของซ่างหง แม้ว่าจะให้คำมั่นสัญญา ซูอันก็รู้ว่าไม่มีทางที่จิ้งจอกเฒ่าจะปล่อยให้เรื่องจบลงง่าย ๆ
การเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่น่าเสียดายที่ตัวเองไม่ได้ปลุกพลังธาตุใด ๆ เลยหลังจากสำเร็จระดับที่ห้าแล้ว ถ้าซูอันปลุกความสามารถของธาตุไฟได้ ความเร็วในการบ่มเพาะของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
การใช้คะแนนความโกรธแค้นเพียงอย่างเดียวนั้นช้าเกินไป
เขาคิดจะปรึกษากับชิวฮัวเล่ย จึงไปเยี่ยมหอสุขนิรันดร์อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของนาง ราวกับว่านางได้หายตัวไปในอากาศ
…
สองวันต่อมา ในที่สุดฉู่จงเทียนก็กลับมา
คฤหาสน์ตระกูลฉู่ถูกประดับประดาด้วยเครื่องตกแต่งมากมายราวกับมีเทศกาลเพื่อต้อนรับการกลับมาของเขา ทั้งตระกูลเต็มไปด้วยความสุขและความมีชีวิตชีวา
ฉู่จงเทียนดูผอมลงกว่าแต่ก่อนมาก แต่เพราะสถานะ ‘อ๋อง’ เขาจึงไม่ได้ถูกทรมานแต่อย่างใดในระหว่างอยู่ในคุก เพราะเขายังไม่ได้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดจริง สิ่งที่ทำให้เขาผอมลงคล้ายกับเป็นเพราะความกังวลและความเศร้าสร้อยที่เกาะกินจิตใจซะมากกว่า
ท้ายที่สุด เขาเกือบจะทำลายตระกูลฉู่ทั้งหมดไปพร้อมกับเขาด้วย สิ่งนี้ได้รบกวนจิตใจของท่านอ๋องตลอดเวลา
โชคดีที่ซูอันและภรรยาของเขาได้แก้ไขความกังวลทั้งหมดของตระกูลไปได้
เปลือกตาของฉู่จงเทียนสั่นเมื่อนึกถึงบทสนทนาของผู้คุมในขณะที่อยู่ในคุก แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลกันมาก แต่บทสนทนาของพวกเขาจะหลุดพ้นจากหูของผู้บ่มเพาะระดับแปดได้อย่างไร?
“พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าภายในตระกูลฉู่เกิดความโกลาหลวุ่นวาย?”
“ข้าได้ยินมาว่านายน้อยชื่อซูอัน หรืออะไรก็ตามลักลอบเล่นชู้กับฉินหว่านหรู น้องชายท่านอ๋องฉู่เป็นคนจับได้ด้วยตัวเองเลยนะ!”
“พวกเขาไม่ได้บอกว่าฮูหยินฉู่ถูกบังคับเหรอ?”
“เจ้าไร้เดียงสาเกินไป! นั่นเป็นแค่เรื่องที่ตระกูลฉู่บอกกับคนภายนอก จริง ๆ แล้วมีสาวใช้คนหนึ่งบอกว่าพวกเขาสองคนสนิทสนมกันอยู่ก่อนแล้ว และถ้าฮูหยินฉู่ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจ เรื่องราวมันจะพัฒนาไปได้ขนาดนี้เหรอ?”
“บอกตามตรง ข้าค่อนข้างอิจฉาซูอันคนนั้น ข้าได้ยินมาว่าภรรยาของเขาก็เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ ซึ่งเป็นหญิงงามล่มเมือง แต่นี่เขากลับยังจัดการรวบแม่ยายมาได้อีกคน เขาได้ลิ้มรสทั้งแม่และลูก โชคของเขากับผู้หญิงช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ”
…
ถ้ามีคนพูดแบบนี้ต่อหน้าฉู่จงเทียน เขาคงไม่เชื่อสักคำ
อย่างไรก็ตาม คนพวกนี้พูดถึงเรื่องทั้งหมดในขณะที่กินดื่มและคุยโอ้อวดจากระยะไกลมากและไม่รู้ว่าเขากำลังแอบฟังอยู่ ผู้คนมักจะให้ความน่าเชื่อถือมากขึ้นกับข้อมูลที่ตัวเองบังเอิญได้รู้มากกว่าที่มีคนมาบอกโดยตรง
เขาอดไม่ได้ที่จะหวั่นไหวกับข่าวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมกับอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับในอดีตซึ่งทำให้เขาไม่สามารถนอนกับฉินหว่านหรู ได้ เรื่องนั้นจึงทำให้เขาเจ็บปวดใจอยู่เสมอ
ก่อนหน้านี้เขาวางใจว่าภรรยาจะไม่ทำเรื่องดังกล่าวโดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โตเต็มวัย และความต้องการด้านนี้ของนางก็ถูกมองข้ามมาหลายปี แน่นอนว่านางคงอดไม่ได้ที่จะเก็บกดความต้องการไว้ภายใน …
คำทักทายที่สดใสของฉินหว่านหรูตัดเข้ามาในความคิดของเขา “สามีข้า ท่านกลับมาแล้ว!”
ฉู่จงเทียนรู้สึกอบอุ่นเมื่อได้รับคำทักทายอย่างกระตือรือร้นจากภรรยา และเขาก็ยิ้ม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของนางและการแสดงออกที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ก็มีเสียงเตือนดังขึ้นภายในหัวของเขา
ฉินหว่านหรูไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ตอนนี้ นางได้จัดเตรียมเตาอั้งโล่ไว้ที่ทางเข้าเป็นพิเศษ นางดึงเขาเข้ามาแล้วพูดว่า “สามีข้า ข้ามเตาอั้งโล่นี้ไป เราจะได้กำจัดโชคร้ายไปให้หมด”
ฉู่จงเทียนเมินเฉย “ความเชื่อโชคลางเช่นนี้จะมีประโยชน์อะไร?”
เขาไม่ได้เข้าไปใกล้เตาอั้งโล่เลย แต่เดินผ่านมันไปด้วยใบหน้ามืดมน
ซูอันถือโอกาสเดินไปหาเขา
“อืม!” ฉู่จงเทียนพยักหน้าทักทายอย่างเฉยเมย และตรงเข้าไปข้างใน
ซูอันตกตะลึงเมื่อเห็นท่าทีของฉู่จงเทียน และคะแนนความโกรธแค้นที่เข้ามานี่มันอะไรกัน?
เมื่อครั้งที่ทุกคนในตระกูลฉู่ยังคงเหยียดหยามซูอัน ฉู่จงเทียนเป็นคนเดียวที่ปฏิบัติต่อเขาอย่างดี นับประสาอะไรกับการให้คะแนนความโกรธแค้นมากมายแก่เขา
“ท่านพ่อ เป็นอะไรหรือเปล่า?” ฉู่ฮวนเจาไม่ได้ไปสถาบันจันทร์กระจ่าง นางอยู่รอต้อนรับพ่อของนางกลับมา
“ไม่มีอะไรหรอก ฮวนเจายังคงเป็นลูกสาวที่น่ารักมากของพ่อ” ฉู่จงเทียนยิ้มเมื่อเห็นลูกสาวของเขา แต่น่าเสียดายที่ฮวนเจาน้อยโตขึ้นแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถอุ้มนางเล่นเหมือนเมื่อก่อนได้
ฉินหว่านหรูเดินไปที่ด้านข้างของซูอันและพูดอย่างเงียบ ๆ “อาซู เจ้าคิดหรือเปล่าว่าพ่อตาของเจ้าทำตัวแปลกไป?”
“นั่นสิ” ซูอันตอบ