ตอนที่ 1163 ตบหน้าเป็นหมู่คณะครั้งที่สอง (4) / ตอนที่ 1164 ตบหน้าเป็นหมู่คณะครั้งที่สอง (5)
ตอนที่ 1163 ตบหน้าเป็นหมู่คณะครั้งที่สอง (4)
หลินเซียวหรี่ตาลงมองแม่ทัพทั้งสอง
“เจ้าสองคนจะบอกว่าพวกเจ้าไม่คิดจะสู้ต่อแล้วสินะ”
แม่ทัพทั้งสองตอบโต้ทันที “เราจะสู้อย่างไรเล่า นั่นคือฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนเชียวนะ! พวกเรามาที่นี่เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือกองทัพรัฐจิ้วเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะกวาดล้างรัฐชีเสียหน่อย เราเสียเวลาที่นี่ไปเยอะและทำมากพอแล้ว ถ้าจะต้องเป็นศัตรูกับรัฐเหยียน ข้าเกรงว่าเราจะไม่สามารถทำได้!”
ไม่ว่ารัฐจิ้วจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน มันก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตของพวกเขาหรอก
หลินเซียวไม่พูดอะไร แต่ดวงตาของเขาฉายแววอำมหิตขึ้นมา แม่ทัพใหญ่ของรัฐจิ้วจับความเปลี่ยนแปลงในตัวชายหนุ่มคนนี้ได้และอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็สายเกินไปแล้ว!
พลังวิญญาณขั้นสีม่วงสองสายถูกยิงออกจากมือของหลินเซียว มันพุ่งไปพันรอบคอของแม่ทัพทั้งสอง!
ในชั่วพริบตาแม่ทัพที่ร่างกายแข็งแรงกำยำในชุดเกราะทั้งสองซึ่งนั่งอยู่บนหลังม้าก็ถูกยกลอยขี้นไปบนอากาศด้วยพลังวิญญาณสองสายนั้น คอของพวกเขาถูกบีบด้วยแรงมหาศาลทำให้ขาดอากาศหายใจไปทีละน้อย ชายทั้งสองดิ้นรนตะเกียกตะกายอยู่กลางอากาศ สายตาหวาดกลัวของพวกเขามองไปที่หลินเซียวซึ่งมีพลังวิญญาณขั้นสีม่วงเปล่งแสงออกมาจากร่าง
พลังวิญญาณขั้นสีม่วง!
ชายหนุ่มที่ดูบอบบางอ่อนแอแบบนั้นแท้จริงแล้วคือผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง!
แม่ทัพทั้งสองรู้สึกหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างด้วยความกลัว
“เจ้าสองคนฟังให้ดี จะอยากหรือไม่อยากวันนี้พวกเจ้าก็ต้องสู้ ถ้าข้าเห็นว่ามีคนคิดหนีละก็ ข้าจะทำให้มันรู้ว่าการมีชีวิตที่มีชะตากรรมเลวร้ายกว่าความตายมันเป็นอย่างไร!” หลินเซียวพูดพร้อมกับหรี่ตาลง สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย
“เข้าใจหรือไม่” เขาถามต่อ
แม่ทัพทั้งสองพยักหน้าทันที ไม่กล้าคัดค้านอีกต่อไป
หลินเซียวดึงพลังวิญญาณกลับ ชายทั้งสองหล่นลงมากระแทกกับพื้น พวกเขาอ้าปากหายใจพร้อมเอามือกุมลำคอเอาไว้ แววตาของพวกเขายังมีร่องรอยของความตกใจขณะที่มองหลินเซียว
“ไสหัวกลับไปที่กองทัพของพวกเจ้าเสีย แล้วพอแตรสัญญาณของรัฐจิ้วดังขึ้น เจ้าทั้งสองจะต้องสั่งโจมตีทันที!” หลินเซียวขู่เสียงเย็น
แม่ทัพทั้งสองรีบตะกายขึ้นม้าแล้วควบหนีกลับไปยังกองทัพของตน
“เอาล่ะ ส่งสัญญาณโจมตีได้ อย่าทำให้ข้าเสียเวลาอีก แค่ขยะสองคนก็ทำให้พวกเจ้ากลัวกันถึงขนาดนี้ได้” หลินเซียวพูดอย่างเย้ยหยันขณะที่มองแม่ทัพใหญ่ของรัฐจิ้ว
คำสั่งของหลินเซียวทำให้แม่ทัพใหญ่รัฐจิ้วไม่มีทางเลือก แตรสัญญาณดังขึ้นทันที หลังจากนิ่งเงียบกันไปครู่หนึ่ง ในที่สุดกองทัพทั้งสามรัฐก็บุกโจมตีเมืองหลวงรัฐชีอีกครั้ง!
จวินอู๋เสียยืนอยู่กลางอากาศ นางมองกองทัพทั้งสามรัฐเคลื่อนพลบุกเข้ามาอีกครั้งและไม่อาจเก็บแววตาอำมหิตเอาไว้ได้อีกต่อไป
“ก่อนที่กองทัพรัฐเหยียนจะมาถึงที่นี่ เราจะปล่อยให้พวกนั้นผ่านเข้าประตูไปไม่ได้” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับหรี่ตาลง นางต้องซื้อเวลาเอาไว้จนกว่าความหวังสุดท้ายของรัฐชีจะมาถึง!
“ตามที่เจ้าต้องการ” จวินอู๋เย่าหันไปมองจวินอู๋เสียยิ้มๆ
ตราบใดที่นางต้องการ ตราบใดที่นางแสวงหา เขาจะตอบสนองทุกอย่างให้นางพอใจ
ตอนแรกมีเพียงพายุหมุนไม่กี่ลูกขวางกั้นเส้นทางอยู่นอกเมืองหลวง แต่ทันทีที่จวินอู๋เย่าพูดจบ พายุหมุนพวกนั้นก็เพิ่มจำนวนขึ้นอีกสิบเท่า!
พายุหมุนที่รวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นได้ขวางทางไปยังกำแพงเมืองเอาไว้ทุกตารางนิ้ว ไม่ให้ใครมีโอกาสโจมตีเมือง!
พวกที่บุกเข้าไปล้อมเมืองหลวงถูกดูดเข้าไปในพายุหมุนและหายไปจากสายตาทันที!
พายุหมุนที่น่ากลัวเพิ่มจำนวนขี้นอย่างรวดเร็ว สร้างความหวาดกลัวให้แก่แม่ทัพใหญ่ของรัฐจิ้วเป็นอย่างมาก กระทั่งหลินเซียวที่เยือกเย็นอยู่ตลอดก็เริ่มแสดงอาการออกมาบ้างแล้ว
ตอนที่ 1164 ตบหน้าเป็นหมู่คณะครั้งที่สอง (5)
ทันใดนั้นหลินเซียวก็พุ่งจากแนวหลังกองทัพไปที่ด้านหน้า เขาไม่คิดจะเข้าไปยุ่งกับการรบระดับเด็กอนุบาลของพวกสามโลกเบื้องล่างเลย แต่คนที่สร้างพายุหมุนพวกนั้นไม่ใช่พวกกระจอกแน่นอน เพื่อให้แผนการดำเนินต่อไปเขาจึงต้องลงมือ!
หลินเซียวกลายเป็นแสงสีม่วงขณะที่พุ่งไปยังด้านหน้ากองทัพ ปีกคู่หนึ่งที่สร้างขึ้นจากกระดูกปรากฏขึ้นที่หลังของเขา พาเขาบินขึ้นไปบนอากาศเพื่อเผชิญหน้ากับจวินอู๋เสียและจวินอู๋เย่า!
“เจ้าเป็นใคร” หลินเซียวหรี่ตาลง เขาไม่ได้เหลือบมองจวินอู๋เสียเลยสักนิด แต่จ้องไปที่จวินอู๋เย่าตรงๆ เขารู้ว่าพายุหมุนแปลกๆ พวกนี้ทั้งหมดเป็นฝีมือของชายหนุ่มที่หน้าตางดงามอย่างร้ายกาจคนนี้
จวินอู๋เย่าเลิกคิ้ว เขามองปีกที่สร้างขึ้นจากกระดูกแล้วยิ้มมุมปาก
“เผ่าเคลื่อนกระดูกอย่างนั้นหรือ ภูติวิญญาณประเภทบินได้”
หลินเซียวแสดงสีหน้าประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าจะมีคนในสามโลกเบื้องล่างรู้จักต้นกำเนิดของเขาเพียงมองแค่ครั้งเดียว และรู้กระทั่งว่าปีกบนหลังของเขาแท้จริงแล้วเป็นภูติวิญญาณ
“เจ้ามาจากสามโลกชั้นกลางอย่างนั้นหรือ” หลินเซียวถามอย่างระวัง แต่เขาจับพลังวิญญาณจากตัวของจวินอู๋เย่าไม่ได้เลย
จวินอู๋เย่าเมินเขาแล้วหันไปมองจวินอู๋เสีย
“ให้จับเป็นหรือเปล่า”
จวินอู๋เสียพยักหน้า
หลินเซียวมองจวินอู๋เย่าพร้อมกับกัดฟันแน่นและคิดว่าคำพูดของเขาหมายถึงอะไร
แต่เมื่อจวินอู๋เย่าหันกลับมา หลินเซียวก็เห็นดวงตาสีม่วงคู่นั้นที่ดูราวกับปีศาจ ทำให้โลหิตในกายของเขาแข็งตัวขึ้นมาทันที
“เป็นไปได้อย่างไร…” หลินเซียวทำตาพองอย่างเหลือเชื่อ ในโลกนี้คนที่มีนัยน์ตาสีม่วงมีเพียงบุรุษในตำนานคนนั้นเพียงคนเดียวเท่านั้น!
เขาไม่ได้ตายไปแล้วหรอกหรือ
เป็นไปไม่ได้!
ความหวาดกลัวแล่นไปทั่วร่างของหลินเซียว เขากระพือปีกทันที ใบหน้าของเขาขาวซีดปราศจากสีเลือด เขาทำท่าราวกับเห็นผีและหันหลังกลับเพื่อบินหนีไปยังทิศตรงกันข้าม!
หนี!
ข้าต้องหนี!
ไม่อย่างนั้นตายแน่!
“คิดจะหนีหรือ” จวินอู๋เย่าเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง เขายกมือขึ้นทันทีและยิงหมอกสีดำเข้าใส่หลินเซียวที่พยายามจะหนี หมอกสีดำเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าหลินเซียว ในชั่วพริบตาหลินเซียวก็ถูกหมอกสีดำรัดตัวเอาไว้ เขาร้องออกมาเสียงดังลั่น!
ไม่ว่าเขาจะกระพือปีกเท่าไรเพื่อที่จะหนีออกไปจากสถานที่แห่งฝันร้ายนี้ หมอกสีดำก็ลากเขากลับไปอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เย่าได้อย่างรวดเร็ว!
“ปล่อยข้า! ปล่อยข้าไป! อย่าฆ่าข้า!” สีหน้าเย่อหยิ่งจองหองของเขาหายไป ความหวาดกลัวตื่นตระหนกบนใบหน้าของเขาทำให้เขาดูน่าเวทนาไม่น้อย
จวินอู๋เย่าค่อยๆ กำมือที่ยกอยู่อย่างช้าๆ
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงกระจายไปทั่วทุกตารางนิ้วในร่างของหลินเซียว เขาส่งเสียงร้องโหยหวนและอ้อนวอนไม่หยุด เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะได้มาพบกับปีศาจร้ายที่ทำให้สามโลกชั้นกลางทั้งหมดต้องยอมสยบในสามโลกเบื้องล่างแห่งนี้!
“ขอร้อง อย่าฆ่าข้าเลย! ยะ…” ก่อนที่หลินเซียวจะพูดจบ หมอกสีดำก็พันรอบตัวเขาจนมิด กลืนเขาเข้าไปในความมืดพร้อมกับคำพูดที่ยังพูดไม่จบของเขา
นัยน์ตาสีม่วงของจวินอู๋เย่าถูกแทนที่ด้วยสีดำอีกครั้ง รังสีอำมหิตถูกซ่อนเอาไว้ด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก เขาหันหน้ากลับไปมองจวินอู๋เสียที่ร่างเปล่งแสงสีน้ำเงินออกมา “นี่หมายความว่าเสี่ยวเสียเอ๋อร์คิดจะสู้อย่างนั้นหรือ”
จวินอู๋เสียตอบเสียงเย็นชาว่า “ข้าอยากแก้แค้นให้กองทัพรุ่ยหลินด้วยมือของข้าเอง!”
พูดจบนางก็สลัดออกจากอ้อมกอดของจวินอู๋เย่าทันที และกระโจนเข้าใส่กองทัพที่เบียดกันแน่นอยู่ที่ใต้เท้านาง!