ตอนที่ 592 ถูกกำหนดไว้แล้ว

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่ 592 ถูกกำหนดไว้แล้ว

เจียงโม่หานจับมือน้อย ๆ ที่อยู่ไม่สุขของนางแล้วยกขึ้นกัดเบา ๆ “เจ้านี่นะ ! เป็นตัวแสบที่ไม่เหมือนคนอื่นจริง ๆ ! ”

หลินเว่ยเว่ยแค่นเสียง ฮึ “ใครเป็นตัวแสบกันแน่ ? เจ้าโกหกเรื่องอายุ แถมยังทำตัวเป็นพี่ต่อหน้าข้า ! เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเราเกิดปีเดียวกัน ! ”

“ข้าไม่ได้อายุมากกว่าเจ้าสี่เดือนหรอกหรือ ? ” เจียงโม่หานพรมจุมพิตบนมือของนางแล้วพูดต่อด้วยรอยยิ้ม “ตัวข้ามีแต่กลิ่นสุรา ขอตัวไปอาบน้ำก่อน”

ภายใต้ความประสงค์ของหลินเว่ยเว่ย ห้องอาบน้ำและห้องสุขาของเรือนจอหงวนจึงถูกปรับปรุงใหม่อีกครั้ง ในห้องอาบน้ำมีฝักบัวและอ่างอาบน้ำ ห้องสุขาเป็นส้วมที่สามารถกดน้ำได้…แน่นอนว่าการกดน้ำได้ก็ยังไม่ใช่ระบบอัตโนมัติเหมือนชาติที่แล้ว

หลังจากเจียงโม่หานอาบน้ำเสร็จแล้วเข้าไปนอนข้างหลินเว่ยเว่ย นางกลับกลิ้งมาใกล้และเข้ามาโอบเขาไว้ “นับตั้งแต่วันนี้ เจ้าจะเป็นของข้าโดยสมบูรณ์ ฮ่าฮ่าฮ่า…”

เจียงโม่หาน “…” เจ้าสาวที่แต่งงานใหม่ ไม่จำเป็นต้องเขินอายหรือไร ? เจ้าสาวของเขาไม่เหมือนคนอื่นเกินไปหน่อยกระมัง ?

เจียงโม่หานกระแอมไอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เว่ยเอ๋อร์น้อย เจ้าแย่งบทพูดของข้าไป รู้หรือไม่ ? ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…เช่นนั้นข้าเปลี่ยนใหม่ นับตั้งแต่วันนี้ พวกเราจะเป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์!’” หลินเว่ยเว่ยโอบลำคอบัณฑิตน้อย ใบหน้าซุกเข้าไปแล้วสูดกลิ่นกายของเขา…บนตัวบัณฑิตน้อยมีกลิ่นหอมสดชื่นเหมือนกลิ่นดอกเหมยท่ามกลางหิมะ นางชอบมาก !

เจียงโม่หานถอนหายใจ “เจ้าจะทำตัวสงบไม่ได้เลยหรือ ? ถ้ายังทำแบบนี้ ข้าไม่รับประกันว่าจะทำอะไรกับเจ้าบ้าง ! ”

ร่างกายอันหอมกรุ่นและนุ่มนิ่มของเด็กสาวเข้ามาแนบชิดกับตัวเขาถึงขนาดนี้ ลมหายใจอบอุ่นจรดลงที่ลำคอของเขา…เขาไม่ใช่หลิ่วเซี่ยฮุ่ย1 ที่นั่งอยู่เฉย ๆ ได้สักหน่อย ยากนักที่ในสมองจะไม่มีภาพ ‘คู่มือการเข้าห้องหอ’ ที่เพิ่งเห็นเมื่อครู่ผุดขึ้นมา…

“มาสิ…เร็วสิ…ไม่ว่าอย่างไร…ก็มีเวลาทั้งคืน…”

“หุบปาก ! ” เจียงโม่หานขัดเสียงปิศาจของนางแล้วแอบกัดฟัน เด็กตัวแสบ เกิดมาเพื่อเป็นบททดสอบของเขากระมัง…นี่เพิ่งวันแรกเขาก็จะควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าอีกสองปีข้างหน้าเขาจะควบคุมตัวเองอย่างไร !

เหมือนว่าหลินเว่ยเว่ยจะรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเขา จึงทำตัวเหมือนลูกแกะขี้ขลาด รีบกลับไปนอนอย่างว่าง่าย ก่อนจะนำมือไปทาบหน้าอกแล้วบ่นพึมพำว่า “บัณฑิตน้อย เจ้าทรมานมากหรือเปล่า ? ให้ข้าช่วยหรือไม่ ? ”

“หุบปาก นอนได้แล้ว ! ” พอเจียงโม่หานได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งกายทันที…ช่วยเขา ? จะช่วยอย่างไร ? เหมือนในคู่มือนั้นน่ะหรือ ? หยุดเลย ! จะคิดอีกไม่ได้ ตรงนั้นเริ่มมีเลือดลมสูบฉีดเกินไปแล้ว !

“ช่างเถิด ! ” หลินเว่ยเว่ยนอนหลับอย่างว่าง่าย อันที่จริงแม้จะไม่ร่วมหอ นางก็สามารถช่วยเขาคลายความอึดอัดได้ แต่พอคิดว่าบัณฑิตน้อยเป็นแค่เด็กอายุ 16 ปี จะให้ร่างกายของเขาแก่เกินวัยก็คงไม่ดี…

เดิมทีหลินเว่ยเว่ยคิดว่าตนจะตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ แต่ใครจะรู้ว่าเพิ่งหลับตาลงไม่นาน ในห้องก็เริ่มมีเสียงกรนของนางเบา ๆ แล้ว วันนี้โดนทรมานด้วยพิธีการตั้งแต่เช้าตรู่ โดนคนจัดแจงทั้งวัน ไม่เหนื่อยก็แปลก !

“เด็กไม่มีหัวจิตหัวใจ ! ” เจียงโม่หานเห็นความสามารถในการนอนได้เพียงไม่กี่อึดใจของนาง จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น ต่อจากนั้นเขาก็พยายามสงบจิตใจ แต่ในขณะที่กำลังจะหลับ เด็กน้อยที่อยู่ข้าง ๆ กลับพลิกตัวมาแล้วพาดขาบนตัวเขา…เขายกขานางออกเบา ๆ แต่คาดไม่ถึงว่าผ่านไปไม่นานเด็กน้อยจะเข้ามากอดแขนอีก…ช่างเถิด ไม่ยุ่งกับนางแล้ว นอนดีกว่า !

เช้าวันต่อมา เจียงโม่หานถูกปลุกให้ตื่น เขารู้สึกปวดไปทั้งกาย พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าภรรยาเป็นเหมือนหนวดปลาหมึกที่กำลังกอดตัวเขาไว้แน่น ขาก็พาดบนตัวเขาด้วย…รู้แล้วว่าเหตุใดเขาจึงฝันว่าโดนเถาวัลย์รัดเอาไว้ !

เขาพยายามแกะแขนแกะขาของเด็กน้อยออกเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย กระดูกบนตัวส่งเสียงดังกรอบแกรบ…นอนหลับแต่เหนื่อยยิ่งกว่าสู้รบเสียอีก !

“อือ…” เด็กสาวที่กำลังนอนอยู่บนเตียงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น นางเริ่มมองรอบกาย…นี่ไม่ใช่ห้องนอนของนาง ! หรือนางฝัน ? หรือโดนโจรชั่วลักพาตัวมา ? น่าตกใจชะมัด !

“ตื่นแล้วหรือ ? ” เสียงของเจียงโม่หานดังขึ้นข้างหูของนาง หลินเว่ยเว่ยลูบหน้าลูบตาพลางลุกขึ้นนั่ง ดวงตาจับจ้องที่เจียงโม่หานสามช่วงลมหายใจเข้าออกแล้วถึงได้คิดออกว่าตนแต่งงานแล้ว…นางได้ผักกาดขาวหัวที่งดงามอย่างเจ้าบ่าวจอหงวนมาครอง…เยี่ยม !

“ยิ้มโง่งมอะไรอยู่ ? ลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตา เดี๋ยวเราต้องไปร่วมโต๊ะอาหารเช้ากับท่านแม่ ! ” เจียงโม่หานเลือกชุดสีแดงชุดหนึ่งออกมาจากหีบเสื้อผ้าของนาง…เพิ่งแต่งงานใหม่ต้องใส่ชุดสีแดงเป็นเวลาหนึ่งเดือน ! เด็กน้อยของเขาถือว่าเข้ากับสีแดงอยู่พอตัว เมื่อรวมกับดวงตาเปื้อนยิ้มรูปเสี้ยวพระจันทร์ของนางแล้วจึงเห็นได้ชัดว่าดูน่ารักมาก เหมือนกับ…เด็กสาวบริสุทธิ์ในภาพเหนียนฮว่า2

จริงสิ ต้องไปยกน้ำชาคารวะแม่สามีด้วย ! นางมองสีท้องฟ้า ยังไม่ถือว่าสายมาก ยังโชคดี ยังโชคดีที่ทันเวลา ! หลินเว่ยเว่ยรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ทาเครื่องประทินโฉมสีอ่อน ๆ แล้วเดินควงแขนเจ้าบ่าวจอหงวนของตนไปที่เรือนของนางเฝิง

นางเฝิงและนางหวงนั่งอยู่ด้วยกัน พวกนางกำลังสนทนากันเรื่องงานปัก เมื่อคืนแม่ทัพหลินก็หน้าด้านขอพักที่นี่ จึงได้พักอยู่ที่เรือนหน้าร่วมกับหลินจื่อเหยียนและเจ้าหนูน้อย…ขอแค่ได้อยู่กับภรรยา เขาทำหน้าหนาหน่อยจะเป็นอะไรไป ?

“หลานเอ๋อร์ เจ้าจะไปอยู่กับเจ้ารองและสามีของนางจริงหรือ ? อากาศทางตะวันตกเฉียงเหนือไม่ค่อยดี แดดแรง มีพายุทรายพัดมาบ่อยครั้ง มีบางครายังขาดแคลนน้ำอย่างหนัก อย่าว่าแต่อาบน้ำเลย แม้แต่จะดื่มน้ำก็ยังต้องประหยัด ถ้าอย่างไร…เจ้าอยู่ที่เมืองหลวงต่อเถิด ? ”

ดวงตาของแม่ทัพหลินจับจ้องที่ใบหน้าขาวสะอาดของภรรยา…เวลาหกปีไม่ได้มีผลต่อภรรยา แถมนางยังดูอ่อนเยาว์และงดงามมากกว่าเมื่อหกปีก่อนเสียอีก เขาอดไม่ได้ที่จะลูบใบหน้าอันสูงวัยของตน ถ้ายืนอยู่กับภรรยาแล้ว เขาจะเหมือนบิดาของนางหรือเปล่า ?

ทว่าพอฮ่องเต้ได้ทราบว่าเจ้ารองมีหน้าตาเหมือนเขามาก พระองค์ก็ตกตะลึงแล้วรับสั่งห้ามเขาโกนหนวดเคราเด็ดขาด ! ฝ่าบาท ทรงทำเกินไปแล้ว ! ขโมยบุตรสาวของกระหม่อมไปยังไม่ว่า ยังจะควบคุมเคราของกระหม่อมอีก…เฮ้อ ใครใช้ให้อีกฝ่ายเป็นฮ่องเต้ ? ขุนนางฝ่ายบู๊อย่างตนจะทำอะไรได้ ? ก็ได้แต่ทำตามเท่านั้น !

นางหวงมองเคราของสามีแล้วมักรู้สึกไม่คุ้นชิน เทียบกันแล้วนางยังเชื่อใจบุตรสาวคนรองมากกว่า ช่วงสองปีนี้เจ้ารองคนเก่งกลายเป็นกระดูกสันหลังของนางไปแล้ว !

“ท่าน…ท่านถามเจ้ารองเองเถิด ข้าเชื่อฟังนาง ! ” นางหวงมองงานปักในมือที่ยับย่นเพราะความประหม่า

แม่ทัพหลินรู้สึกหดหู่ทันที…ภรรยาของเขาหัวอ่อน ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองเสมอ เขาเพิ่งห่างไปได้เท่าไรก็โดนเจ้ารองตัวแสบควบคุมแล้ว ใครก็บอกว่าหญิงที่ออกเรือนต้องเชื่อฟังสามี สิ้นสามีเชื่อฟังบุตรชาย ไม่เคยได้ยินว่าต้องเชื่อฟังบุตรสาว ! บุตรสาวแต่งงานออกไปแล้วยังต้องติดตามสามีไปรับตำแหน่งต่างเมือง เห็นสามีอย่างเขาเป็นของตายไปแล้วหรือ ?

เจ้าหนูน้อยมองแม่ทัพหลินด้วยสายตาหวาดระแวง…ตอนที่พ่อหลินหายตัวไป เขายังเด็กมากจึงเป็นธรรมดาที่จะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับบิดาเลยสักนิด เจ้าตัวน้อยแสดงจุดยืนของตนอย่างแข็งขัน “ข้าจะไปกับพี่รอง ! ถึงแม้ที่นั่นจะลำบากมากเพียงใด คงไม่ลำบากได้เท่ากับสองปีที่ผ่านมาของพวกเราหรอกกระมัง ? พี่รองสามารถทำให้บ้านเรากลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง ภายใต้สถานการณ์แบบที่ท่านพูดมาแล้ว พี่รองจะยังดูแลพวกเราไม่ได้อีกหรือ ? ”

[i]
1 หลิ่วเซี่ยฮุ่ย คือ ตัวแทนของชายที่มีคุณธรรมและมีจิตใจแน่วแน่มั่นคง

2 ภาพเหนียนฮว่า คือ ภาพวาดอวยพรเทศกาลปีใหม่