บทที่ 640 สกุลหลูขอโทษ

องค์หญิงอันเยว่โกรธมาก นางหันหลังกลับเดินออกไปทันที แม้แต่สามีก็ห้ามนางไม่ทันเช่นกัน เมื่อพวกเขาเดินมาถึงประตูจวนโหว เห็นเกี้ยวคันหนึ่งกำลังจอดและวางลงกับพื้น ชายชราผมและเคราขาวผู้หนึ่งลุกออกมาจากเกี้ยว เขาเป็นชายสูงอายุ หน้าตาท่าทางดูใจดี สายตาคมเฉียบ ท่าทางสง่างาม เขาคือนายท่านหลูเกอ เป็นบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดของสกุลหลู เมื่อเห็นหลูเกอ องค์หญิงอันเยว่รีบสงบอารมณ์ที่คุกรุ่นของนางทันที นางเรียกขานเขาด้วยความเคารพ

“ท่านพ่อ” หลูเกอมองภรรยาของบุตรชายแล้วถามว่า

“เจ้าจะไปไหนหรือ?”

“ซวนเอ๋อร์ถูกมารดาและบุตรสาวสกุลอู่รังแกทันทีที่เขากลับเข้าเมือง” องค์หญิงอันเยว่ไม่พอพระทัยมาก

“ข้าอยากจะไปทูลฟ้องเสด็จพี่ให้ทรงตัดสินเรื่องนี้”

“เข้ามาก่อน” หลูเกอพูดกับลูกสะใภ้ หลูอันไม่อาจหยุดภรรยาให้นางกระทำตามอำเภอใจของตนได้ ทว่าองค์หญิงอันเยว่กลับเกรงกลัวบิดาของเขา เมื่อได้ยินผู้อาวุโสหลู่เกอพูดขึ้นมา นางจึงได้แต่ระงับอารมณ์โกรธ เดินตามเข้าไปข้างในจวน

เมื่อเข้าไปถึงห้องโถงที่ด้านใน หลูอันได้ยินว่าบิดากลับมาแล้ว เขาจึงพาหลูเสวี่ยนไปยืนรอ เมื่อเห็นบิดาเดินเข้ามาใกล้ เขาจึงให้บุตรชายรีบทำความเคารพทันที หลูเสวี่ยนไม่ได้เห็นท่านปู่ของตนมานานมากแล้ว ความรู้สึกที่มีต่อท่านปู่มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นคือความกลัว หลูเสวี่ยนระงับอารมณ์ทำทีขานเรียกอย่างเชื่อฟัง

“ท่านปู่” หลูเกอมองไปที่หลานชายของเขา หลานชายผู้นี้หน้าตาเหมือนกับหลูอันซึ่งเป็นบุตรชายที่เขารักและโปรดปรานที่สุด แต่น่าเสียดายที่หลูอันได้รับบาดเจ็บสาหัส จนไม่อาจจะไปสนามรบได้อีก เดิมทีเขาได้ตั้งความหวังไว้ที่หลานชายผู้นี้ แต่แล้วก็อดผิดหวังไม่ได้ เมื่อเห็นท่าทางที่ซีดเซียวอมโรคของเขา

“เจ้ารีบเข้าข้างเขา ไม่รู้หรือว่าบุตรชายของเจ้าทำอะไรลงไป!” เสียงของท่านผู้เฒ่าหลูสงบนิ่งแต่กลับแฝงไว้ด้วยความกดดัน

“ซวนเอ๋อร์สั่งสอนทาสของเขา แต่มารดาและบุตรสาวสกุลอู่กลับยื่นมือเข้ามาสอด ซ้ำยังกระชากซวนเอ๋อร์ออกจากเกี้ยวอีกด้วย” องค์หญิงอันเยว่ปกป้องบุตรชาย

“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาเอาธนูยิงสองแม่ลูกสกุลอู่กลางถนน!” เสียงของนายผู้เฒ่าหลูเย็นชามากยิ่งขึ้น องค์หญิงอันเยว่ตกตะลึงไป “ซวนเอ๋อร์ทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?” หลู่เกอกวาดสายตาคมกริบไปยังหลานชาย

“หลูเสวี่ยน..เจ้าทำเรื่องเช่นนี้หรือไม่?” หลูเสวี่ยนก้มหน้า กำมือแน่น “หลานชายถูกพวกนางสองแม่ลูกเข้ามาขัดขวางการลงโทษของทาส หลานโกรธมาก..จนระงับอารมณ์ไม่อยู่ หลานก็เลยใช้ธนูยิงเข้าใส่นาง แต่นางไม่ได้รับบาดเจ็บ”

หลังจากหลูเสวี่ยนพูดจบ องค์หญิงอันเยว่และหลูอันก็ตกใจ

นางไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่เป็นนางอู่ที่เข้ามาสอดเรื่องของบุตรชายของนางก่อนต่างหาก นางเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่หรือ?

แต่หลูอันรู้ดีว่าชื่อเสียงของบิดาเขาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด พฤติกรรมของซวนเอ๋อร์ที่ทำลงไปในที่สาธารณะย่อมทำให้ชื่อเสียงของสกุลหลูเสียหาย และนั่น ..บิดาเขาย่อมโกรธมากเป็นธรรมดา

“คุกเข่าลง!” หลูอันพูดขึ้น หลูเสวี่ยนนั่งลงคุกเข่าพร้อมกับโค้งคำนับทันที องค์หญิงอันเยว่ทุกข์ใจมาก แต่นางไม่กล้าขัดคำสั่งพ่อสามี จึงได้แต่กัดฟันมองดูบุตรชายอย่างปวดใจ

“ท่านพ่อ ข้าจะสั่งสอนซวนเอ๋อร์ให้ดีกว่านี้..ส่วนสกุลอู่…”

“นำของขวัญล้ำค่าไปขอขมาพวกเขา” หลูเกอกล่าวขึ้นอย่างเข้มงวด” ในเมื่อข้อพิพาทเกิดขึ้นจากทาสอู๋ซาน ให้เจ้ามอบให้กับสกุลอู่!”

หลูเสวี่ยนก้มหัวลง ความโกรธอย่างรุนแรงเกิดขึ้นในดวงตา เขากัดฟันอดทนจนแทบจะสูญเสียความควบคุมตนเอง

ทาสอู๋ซวน เป็นทาสคนโปรดของเขา แต่จะต้องมอบให้ผู้อื่น ทาสคนอื่นโดนโบยแค่ไม่กี่ทีก็ตายแล้ว เหลือแต่ทาสอู๋ซานเท่านั้นที่ยังอึดทนอยู่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เหตุใดเขาต้องยกทาสของเขาให้คนสกุลอู่ด้วย

“หลูเสวี่ยน! เจ้าได้ยินหรือไม่?” ผู้เฒ่าหลูเกอถาม หลูเสวี่ยนกัดฟันพยายามระงับความโกรธ

“หลาน..หลานทราบแล้วขอรับ”

“เจ้าจะมาทำนิสัยเช่นนี้ในเมืองหลวงไม่ได้ ทุกย่างก้าวของเจ้าจะถูกจับตามองโดยผู้คน เพราะเจ้าถือได้ว่าเป็นตัวแทนของสกุลหลู”

“ขอรับ”

ในที่สุดท่านปู่ของเขาก็จากไป

หลังจากหลูเกอจากไป บรรยากาศที่กดดันจึงได้หายไปด้วย องค์หญิงอันเยว่รีบช่วยบุตรชายให้ลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นบุตรชายหน้าซีด ใบหน้าบิดเบี้ยว ดวงตาคั่งแค้น นางตกใจมาก

“ซวนเอ๋อร์ ซวนเอ๋อร์” นางเรียกบุตรชายถึงสองครั้ง แล้วรีบปลอบ

“เจ้าเหนื่อยแล้วหรือ? พรุ่งนี้พวกเราค่อยไปขอโทษคนสกุลอู่ เจ้าไปพักผ่อนก่อน เรือนของเจ้าแม่จัดไว้ให้เรียบร้อยดีแล้ว ไปเถอะ”

หลูเสวี่ยนเข้าไปในลาน อารมณ์เกรี้ยวกราดบ้าคลั่งของเขาทวีความรุนแรงมากขึ้น

“ไปเอาตัวทาสอู๋ซานมาให้ข้า” เขาสั่งบ่าวรับใช้ ไม่ช้าบ่าวก็นำตัวอู๋ซานมา ดวงตาของทาสอู๋ซานว่างเปล่า เขาขดตัวรอพายุที่กำลังจะมาถึง

ทันใดนั้นแส้ก็ฟาดลงบนตัวเขา ที่ด้านนอกประตู บ่าวรับใช้ตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงแส้ที่ฟาดกระทบเนื้อ บ่าวรับใช้เหล่านี้ล้วนรับใช้หลูเสวี่ยนมานานหลายปีแล้ว เมื่อหลูเสวี่ยนกลับมายังจวน องค์หญิงอันเยว่จึงขอให้พวกเขารับใช้หลูเสวี่ยนต่อ

พวกเขาตระหนักถึงความโหดร้ายและบ้าคลั่งของนายน้อยมานานแล้ว เมื่อเขาเกิดอาการคลั่งขึ้นมา เขาจะทุบตีบ่าวเหล่านี้ ก่อนที่ทาสอู๋ซานจะถูกส่งตัวมา จะมีทาสตัวโชกไปด้วยเลือดถูกหามออกไป หลังจากทาสอู๋ซานมาถึง นายน้อยจะระบายความโกรธไปที่อู๋ซานทั้งหมด

ทาสผู้นี้ไม่ส่งเสียงร้องออกมาเลย พวกเขาจินตนาการได้ว่า เขาคงขดตัว นอนตัวสั่นอยู่กับพื้นเช่นนั้น

หลูเสวี่ยนระบายอารมณ์อย่างรุนแรง ไม่นานเขาก็อารมณ์สงบลง บ่าวพาตัวทางอู๋ซานไปนอนบนเตียง เขาสลบไปพร้อมกับกลิ่นเลือดที่ลอยอบอวลอยู่ในอากาศ

เช้าวันรุ่งขึ้นที่จวนอู่โหว ถังหลี่กำลังเล่นกับลูกแฝดของนาง เมื่อได้ยินว่ามีคนมายังจวน นางจึงออกไปรับแขกที่ห้องโถงด้านนอก

ที่นั่นมีหลูอันโหว แห่งจวนผิงหยางรออยู่พร้อมกับหลูเสวี่ยนบุตรชาย หลังจากได้ทำความเคารพและทักทายกันอย่างสุภาพแล้ว หลูอันก็ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ในการมาเยี่ยมเยียนของพวกเขาในครั้งนี้

“ฮูหยินอู่ บุตรชายของข้าไม่มีคำกล่าวขอแก้ตัวใดๆ ทั้งนั้น เขาเสียใจมากที่ทำให้ท่านและบุตรสาวต้องขุ่นเคือง ข้าพาเขามาเพื่อกล่าวขอโทษและชดใช้ให้แก่ท่าน” ผิงหยางโหวนำหลูเสวี่ยนมาเพื่อขอโทษ ไม่ว่าในใจของพวกเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่การกระทำในครั้งนี้ก็เท่ากับพวกเขามีความจริงใจอย่างแท้จริง

ถังหลี่ชำเลืองมองหลูเสวี่ยน แล้วพูดว่า “เมื่อวานนี้ข้าเห็นคนผู้หนึ่งโดนทุบตีที่ถนน จึงพยายามห้ามปรามและหยุดเขา พวกเราแปลกใจมากเมื่อได้ยินว่าเป็นท่านโหวน้อยที่สั่งให้บ่าวเฆี่ยนตีสั่งสอน ข้าเคยได้ยินมาว่าท่านหลูอันโหวมีความเมตตาอารีแก่บ่าวไพร่เป็นอันมาก กระทั่งนายผู้เฒ่าหลูเกอเองก็เป็นผู้อาวุโสใจดี แม้กระทั่งมดปลวกยังไม่เต็มใจแม้แต่จะทำร้ายด้วยซ้ำ แต่เหตุใดท่านโหวน้อยถึงได้มีความประพฤติเช่นนี้ ข้าคิดว่าเป็นผู้ใดมาแอบอ้าง ไม่คิดเลยว่าจะเป็นท่านโหวตัวจริง”

หลังจากถังหลี่พูดจบ นางเห็นเจ้าสัตว์ร้ายตัวน้อยจ้องมองนางด้วยสายตาเหี้ยมโหด ต่อเมื่อเขาเห็นบิดามองมา เขาจึงหลบสายตาของหลูอัน

ถังหลี่จึงได้รู้ว่าเจ้าสัตว์ร้ายตัวน้อยผู้นี้คงไม่ได้สำนึกผิดเป็นแน่ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้จักยับยั้งตนเอง นางพูดประโยคเหล่านี้ออกไป โดยไม่คำนึงถึงว่าจะทำให้เขาโกรธหรือเกลียดนางมากยิ่งขึ้นแต่อย่างใด นางจดจำขึ้นบัญชีดำหมายหัวเขาเอาไว้แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายผู้นี้ไปทำเรื่องเลวร้ายกับผู้ใดอีก

ใบหน้าหลูอันโหวเปลี่ยนเป็นสีแดง บุตรชายของเขาทำให้เสียชื่อเสียงสกุลหลู บิดาของเขาให้ความสำคัญกับสกุลหลูเป็นอย่างมาก สำหรับเรื่องเช่นนี้ย่อมไม่มีเป็นครั้งที่สองอย่าเด็ดขาด

เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า

“ข้าจะควบคุมเขาอย่างเข้มงวด และจะไม่ปล่อยให้เขาทำผิดอีกเป็นครั้งที่สองอย่างเด็ดขาด!”

——————————-