บทที่ 641 ช่วยเหลือทาสอู๋ซาน

“หากท่านหลูอันโหวรับปากเป็นมั่นเหมาะ ข้าแน่ใจว่าต่อไปพฤติกรรมเขาย่อมดีขึ้นเป็นแน่”

“ข้ารับปาก!” หลูอันพยักหน้ารับปากซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากนั้นเขาจึงได้พูดว่า “ ข้าได้เตรียมของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้ให้ หวังว่าฮูหยินอู่จะยินดีรับเอาไว้ด้วย

“ข้าได้รับทราบความปรารถนาของท่านแล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องให้ของขวัญแก่ข้าหรอก” ถังหลี่ปฏิเสธ

“ฮูหยินอู่ ท่านควรยอมรับเอาไว้จะดีกว่า หากท่านไม่ยอมรับไว้ ข้าจะไม่สบายใจ”

ทั้งสองต่างพูดคุยเจรจาถ้อยทีถ้อยอาศัย ในที่สุดถังหลี่จึงได้ยอมรับของขวัญรวมไปถึงทาสอู๋ซานด้วย

หลังจากทำการขอโทษและส่งมอบของขวัญเสร็จสิ้นดีแล้ว หลูอันจึงได้เดินจากไปพร้อมกับหลูเสวี่ยน พวกเขาเดินสวนผ่านเด็กหญิงคนหนึ่ง

ซานเป่าเห็นหลูเสวี่ยน ดวงตาของนางเบิกกว้างเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เหตุใดอันธพาลผู้นี้ถึงได้มาที่บ้านของเธอ?

หลูเสวี่ยนเห็นซานเป่าเขาส่งยิ้ม เมื่อกำลังจะเดินผ่าน เขาหยุดฝีเท้า เรียกนาง

“น้องสาว..” บิดาเดินผ่านไปแล้ว เขาจึงลดเสียงลงพูดเบาเพื่อให้ได้ยินแค่สองคน

“น้องสาว เจ้าควรระวังตัวเอาไว้ให้ดี อย่าได้เผลอตกเข้ามาอยู่ในกำมือของข้าได้ล่ะ!” เสียงของเขาฟังดูเหี้ยมโหดราวกับต้องการที่จะชำแหละเนื้อเถือหนังของนาง ทำให้ซานเป่าถึงกับตัวสั่น นางกระโดดถอยหนีออกจากเขา พลางจ้องมองอย่างระมัดระวัง ใบหน้าของหลูเสวี่ยนเปลี่ยนไป เขายิ้มอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน

“น้องสาว วันหลังเจ้ามาเล่นที่จวนผิงหยางโหวกับข้าบ้างสิ” ซานเป่าไม่สนใจเขา นางเดินรี่ไปหามารดาที่ยังอยู่ในห้องโถงรับแขก จากนั้นจึงจับแขนมารดาเอาไว้

“ท่านแม่..แย่แล้ว! เหตุใดนายน้อยผู้นั้นถึงได้มาที่นี่ได้เจ้าคะ”

“หลูอันโหวพาเขามาขอโทษและรับผิดกับแม่”

“เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมรับผิด ท่านแม่ เขาขู่ข้าด้วย” ซานเป่าบ่นพึมพำ

สีหน้าของถังหลี่จริงจังขึ้นมาในทันที

“เขาขู่เจ้าว่าอะไร?” ซานเป่าพูดให้มารดาฟังถึงประโยคที่เขาขู่อาฆาตนาง ยิ่งฟังคิ้วของถังหลี่ก็ยิ่งขมวดแน่นมากขึ้น หลูเสวี่ยนผู้นี้เป็นบุคคลอันตราย เขาเป็นภัยคุกคามซานเป่าบุตรสาวของนาง ยิ่งคิดถังหลี่ยิ่งโกรธจนอยากจะกำจัดเขาให้เร็วที่สุด

นางถอนหายใจเข้าให้ลึก ระงับอารมณ์โกรธของตน นางจะกำชับองครักษ์เงาให้ติดตามซานเป่าเพื่อความปลอดภัยของบุตรสาว

“ไปเถอะ”

“ท่านแม่จะไปไหนหรือเจ้าคะ?”

“ไปดูทาสอู๋ซานผู้นั้น”

“ทาสอู๋ซาน? “ เมื่อซานเป่าคิดถึงทาสผู้น่าสงสารคนนั้น นางอดปวดใจไม่ได้ เมื่อคืนนางฝันว่าเขานอนจมกองเลือด ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขายื่นมือออกมาขอร้องให้ซานเป่าช่วยเขา

“เขาอยู่ในจวนเราหรือเจ้าคะ?”

“ใช่แล้ว หลูอันโหวส่งเขามาเป็นของกำนัลเพื่อขอโทษเรา”

“ถ้าเช่นนั้น เราไปดูเขากันเถอะ”

ซานเป่าเร่งฝีเท้า พลางดึงถังหลี่ให้เดินตามไปด้วยอย่างรวดเร็ว ถังหลี่สั่งให้บ่าวพาทาสอู๋ซานไปไว้ในห้องนอนรับรองแขก

เมื่อเปิดประตูเข้าไป ทั้งคู่ได้กลิ่นเน่าผสมกับกลิ่นเลือดคละคลุ้งอยู่ในห้อง ถังหลี่สะดุ้งเมื่อเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียง ทาสอู๋ซานผู้นี้น่าจะมีอายุประมาณสิบห้าหรือสิบหกปี โครงหน้าเขาดูมีมิติมากกว่าผู้คนทั่วไปในแคว้นต้าโจว เขามีรูปร่างหน้าตาดี หน้าอกกว้าง สูงกว่าชาวต้าโจว เขาสวมเสื้อผ้าสะอาดน่าจะได้อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้ว แต่กระนั้นก็ยังไม่อาจจะปิดบังกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นบาดแผลที่เน่าเปื่อยของเขาได้ แสดงให้เห็นว่าบาดแผลเขามีความรุนแรงมากเพียงไหน

ใบหน้าของเขาซีดเผือด ดวงตาปิดสนิท หน้าอกแทบไม่ขยับดูราวกับคนตาย…

“ท่านแม่..” ซานเป่าหน้าซีด นางผวาคว้าแขนมารดาเอาไว้ ซานเป่าคงคิดเหมือนถังหลี่เช่นกัน

ความฝันของเมื่อคืนยังชัดเจนอยู่ในใจ นี่จะสายเกินไปหรือไม่?

ถังหลี่ยื่นมือออกไปตรวจดูลมหายใจของเขา นางถอนหายใจโล่งอก

“เขายังมีชีวิตอยู่ หมอกำลังจะมาถึงแล้ว” ซานเป่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีที่เขายังมีชีวิตอยู่ ไม่นานหลังจากนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เมื่อเปิดออกไปจึงได้เห็นหมอยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับแบกล่วมยาไว้กลางหลัง

“หมอจาง เข้ามาก่อนเถอะ” ถังหลี่รีบเชิญเขาเข้ามาอย่างเร่งรีบ

หมอเข้ามาตรวจจับชีพจรให้เขา ชีพจรช่างอ่อนเหลือเกิน ท่านหมอขมวดคิ้วแน่น จากนั้นจึงได้ถอดเสื้อผ้าให้เขา เพื่อต้องการดูอาการบาดเจ็บของเขา ภาพที่เห็นทำให้เขากลั้นลมหายใจ เขาเป็นหมอมานานถึงสามสิบปีแล้วเคยเห็นคนไข้มาทุกรูปแบบ ทว่าไม่เคยเห็นคนไข้ที่ดูน่าเวทนามากขนาดนี้มาก่อนเลย

เขามีบาดแผลทั้งลึกและตื้นอยู่ตามตัว ทั้งแผลใหม่แผลเก่าปะปนกัน แผลเหล่านั้นยังไม่ทันจะหายดีเลย บ้างก็เน่าเปื่อยด้วยซ้ำ แทบจะไม่เหลือเนื้อดีๆ สักชิ้น คนผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่ได้ช่างน่ามหัศจรรย์จริงๆ

ถังหลี่ปิดตาซานเป่าเอาไว้ นางไม่อยากให้บุตรสาวได้เห็นภาพที่โหดร้ายเช่นนี้เลย ใบหน้าของถังหลี่บิดเบี้ยว นางสาปแช่งเจ้า ‘สัตว์ร้าย’ อยู่ในใจหลายรอบ

“ท่านแม่ ขอให้ข้าดูเขาหน่อยเถิด” เสียงของซานเป่าหนักแน่น เมื่อถังหลี่ได้ยิน นางจึงรู้ว่าลูกสาวตัวน้อยของนางมีความกล้าหาญและแข็งแกร่งมาก ถังหลี่จึงปล่อยมือของตนออกจากดวงตาของซานเป่า เมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของเขา ใบหน้าของซานเป่าเปลี่ยนไป นางหน้าแดงด้วยโทสะ “ข้าจะเอาคืน” ซานเป่าทำท่าเดินออกจากห้องด้วยความโมโห หากถังหลี่รั้งนางเอาไว้

“ซานเป่า เจ้าอย่าเพิ่งหุนหันไป คิดดูให้ดีก่อน”

“แม่จะช่วยลูกเอาคืนอย่าแน่นอน ไม่ต้องห่วง!” นางจับมือบุตรสาวเอาไว้

ซานเป่าหายใจเข้าลึกๆ สงบสติอารมณ์ของตน ก่อนที่จะพยักหน้าให้มารดา “ท่านลุงหมอ ได้โปรดช่วยเขาด้วยเถิด!”

“คุณหนู ไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยเขาให้ดีที่สุด” ท่านหมอรับคำแล้วหันไปพูดกับถังหลี่

“ฮูหยิน ข้าต้องการขูดเนื้อที่ตายแล้วเขาออกก่อน ไม่เช่นนั้นบาดแผลของเขาจะรักษาต่อไม่ได้ ท่านช่วยหาคนมาช่วยข้าเพื่อเตรียมยา..”

ถังหลี่เรียกบ่าวรับใช้สองสามคนมาเพื่อให้รับใช้ท่านหมอ

ขั้นตอนต่อไปคือต้องขูดเนื้อที่ตายแล้วของเขาออก เนื่องจากหญิงและชายมีความต่างกัน อีกทั้งฉากนั้นยังดูน่าหวาดเสียวจนเกินไป ถังหลี่จึงได้พาซานเป่าออกจากห้อง

ภายในห้อง ทั้งยาและเครื่องมือได้ถูกเตรียมไว้พร้อมสรรพแล้ว

ท่านหมอได้ขอให้บ่าวถอดเสื้อผ้าของผู้ป่วยออก จากนั้นจึงได้ป้อนน้ำแกงโสมให้เขา แล้วจึงได้ควักมีดออกมา ผู้ป่วยยังอยู่ในอาการหมดสติ ท่านหมอจึงได้คิดว่าดีแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเป็นแน่

หลังจากทำไปได้สักพัก ผู้ป่วยก็ตื่นขึ้นมา เขาประหลาดใจที่เด็กหนุ่มไม่ได้ดิ้นรนเลยแม้แต่น้อย แต่กลับพยายามระงับความเจ็บปวด เขาทำเสียงฮึดฮัดอยู่สองสามครั้ง จากแววตาของเขาดูเหมือนเขาจะสงสัยว่านี่อาจจะเป็นวิธีทรมานแบบใหม่ก็เป็นได้

“ข้าเป็นหมอ ข้ากำลังรักษาเจ้าอยู่ ไม่ต้องกลัวนะ” ท่านหมอจางปลอบเขา เด็กหนุ่มกัดฟัน เสียงเขาอู้อี้ด้วยความเจ็บปวด ไม่นานจึงหมดสติไปอีกครั้ง เจ็บกว่านี้เขายังทนมาได้ แค่นี้ไม่ได้มากกว่าแต่ก่อนเหตุใดเขาจะทนไม่ไหว แต่เมื่อดูจากบาดแผลของเขาแล้ว ก็คงจะเป็นไปตามที่เขาคิด

หมอจางถอนหายใจเบาๆ ช่างน่าสงสารเสียเหลือเกิน..

ที่ด้านนอกประตูนั่น ซานเป่ากอดแขนมารดาเอาไว้ ใหน้าเล็กๆ ของนางเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

“ท่านแม่ เขาโดนขูดเนื้อที่ตายแล้วเช่นนั้น เขาจะเจ็บหรือไม่เจ้าคะ เขาจะตายเพราะความเจ็บปวดหรือไม่?”

“เขาต้องเจ็บปวดเป็นธรรมดา แต่หลังจากขูดเนื้อที่ตายออกแล้ว เขาจะฟื้นตัวดีขึ้น”

ซานเป่าพยักหน้า นางเชื่อมารดาของตน ถ้าหากท่านแม่พูดว่าเขาจะไม่ตาย ก็คงจะเป็นไปตามที่มารดาได้เอ่ยปาก

ไม่นานหลังจากนั้น ประตูก็เปิดออก มารดาและบุตรสาวรีบเดินเข้าไปข้างใน หมอจางเหงื่อออกมากมายราวกับถูกงมขึ้นจากน้ำ

ทาสอู๋ซานนอนอยู่บนเตียงมีผ้าห่มคลุมตัวเอาไว้ ดวงตาเขาปิดสนิทไม่อาจจะรู้ได้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่?

“ข้าขูดเนื้อที่เน่าของเขาออกจนหมด และให้ยาเขาแล้ว เขาน่าจะฟื้นตัวได้” เมื่อหมอจางพูดเช่นนั้น ถังหลี่และซานเป่าจึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

——————————-