ตอนที่ 607 ชี้แนะ

My Disciples Are All Villains

ลู่โจวที่เห็นของรางวัลยิ้มออกมา ‘ในที่สุดโชคก็เข้าข้างสินะ!’
  ลู่โจวคุ้นเคยกับการ์ดเสริมพลังดี มันเป็นการ์ดที่จะทำให้ตัวเขาได้รับอายุขัย 1,000 วัน
  ‘แล้วหินส่องแสงคืออะไรกัน?’ จากความรู้ที่ลู่โจวมี อาวุธระดับสรวงสวรรค์ขั้นสุดยอดเป็นอาวุธที่เหนือกว่าอาวุธระดับสรวงสวรรค์ทั่วไป แล้วมันจะไปมีอาวุธที่เหนือไปกว่านั้นอีกอย่างงั้นเหรอ?
  ลู่โจวหวนนึกถึงการต่อสู้ของเขากับหลิวเก้อ ในตอนนั้นตัวเขาได้ทำลายอาวุธระดับสรวงสวรรค์ขั้นสุดยอดอย่างดาบแห่งความเงียบไปด้วยอาวุธนิรนาม หรือว่าอาวุธนิรนามจะสามารถเพิ่มพลังได้?
  ลู่โจวพลิกฝ่ามือ อาวุธนิรนามได้ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา “ใช้หินส่องแสง”
  “ติ้ง! อาวุธนิรนามจะแข็งแกร่งตามผู้เป็นเจ้าของ ไม่สามารถขัดเกลาได้ ไม่สามารถใช้หินส่องแสงได้”
  “…”
  ‘…แล้วจะเอาหินนี่ไปทำอะไรได้?’
  แม้ว่าหินจะดูไร้ประโยชน์สำหรับตัวเขา แต่มันก็ยังดีกว่าที่ไม่ได้อะไรเลย หลังจากนั้นลู่โจวก็เลือกที่จะดูการ์ดวิเศษต่อ
  หลังจากที่ระบบผ่านการอัปเกรด ลู่โจวก็ไม่เคยดูการ์ดวิเศษใบใหม่เลย
  เมื่อมองหาการ์ดวิเศษจากระบบ มีเพียงการ์ดแปลงโฉมและการ์ดปลอมแปลงพลังที่ยังถูกขายในรายการล่าสุด จากเท่าที่ดูลู่โจวไม่พบการ์ดอะไรที่แปลกใหม่
  ‘นี่มันเป็นเรื่องจริงอย่างงั้นเหรอ? ระบบที่อัปเกรดมันมีผลกับแค่เคล็ดวิชาอักษรสวรรค์อย่างงั้นสินะ?’
  ลู่โจวที่คิดแบบนั้นได้ปิดระบบไปในทันที ตัวเขาในตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจที่จะซื้อกลีบดอกบัวทองคำ ตัวเขาอยู่ในพระราชวังหลวงถ้าหากคิดที่จะผลิกลีบดอกบัวกลีบใหม่ที่นี่ มันจะต้องดึงดูดความสนใจจนเกิดปัญหาแน่
  เมื่อคิดได้แบบนั้นลู่โจวก็หลับตาลงก่อนที่จะทำสมาธิกับเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์
  ในเวลานั้นเองเสียงฝีเท้าอันแผ่วเบาก็ดังมาถึงหูของลู่โจว
  ‘มีใครบางคนกำลังเดินมา?’
  ลู่โจวที่ได้ยินแบบนั้นเริ่มใช้พลังวิเศษต่อ
  เสียงฝีเท้าอันแผ่วเบาเดินไปตามขั้นบันไดด้านนอกของห้องโถง มันฟังดูไม่เหมือนกับเสียงฝีเท้าของชนเผ่าอื่น
  ลู่โจวเริ่มขยายขอบเขตของพลังแห่งการฟัง พลังวิเศษเริ่มหมุนวนรอบหูของเขามากขึ้น พลังแห่งการฟังได้ขยายขอบเขตจากตำหนักต้าเฉิงไปสู่ตำหนักเขียวชอุ่มและตำหนักใกล้เคียง
  ไม่นานหลังจากนั้นเสียงทั้งหมดที่เคยได้ยินก็เงียบหายไป
  ลู่โจวลืมตาก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “พลังแห่งการฟังเองก็มีขีดจำกัดอย่างงั้นสินะ?”
  ขอบเขตของพลังแห่งการฟังครอบคลุมอยู่ในพระราชวังเท่านั้น แน่นอนว่ามันเป็นพลังที่เหนือไปกว่าผู้ฝึกยุทธทั่วไป แต่ถึงแบบนั้นพลังที่เคล็ดวิชาอักษรสวรรค์ทำได้ก็ควรจะทำได้ดีกว่านี้สิ?
  “หรือการใช้พลังจนถึงขีดสุดได้มีแต่จะต้องอัปเกรดระบบต่อ?”
  นอกจากพลังที่มีขีดจำกัด ลู่โจวยังสังเกตเห็นว่าพลังวิเศษของตัวเขาสูญเสียไปกับการใช้พลังไปเป็นจำนวนมาก
  “เอาเถอะ ทำสมาธิต่อเลยก็แล้วกัน” ลู่โจวไม่ได้คิดที่จะใช้พลังแห่งการฟังต่อ
  ในตอนนั้นเองก็มีเสียงดังจากด้านนอกห้อง
  “ท่านอาจารย์”
  ลู่โจวคุ้นเคยกับเสียงที่ดังขึ้นดี “เข้ามาได้”
  ยี่เทียนซินผู้สวมใส่ชุดขาวเดินเข้ามา  ลู่โจวลืมตาขึ้นก่อนที่จะเหลือบมองดูนางอย่างไร้ความรู้สึก “มีอะไร”
  ยี่เทียนซินคารวะก่อนที่จะตอบกลับ “ข้ามีคำถามที่อยากจะถามท่าน”
  “ว่ามา”
  “แม้ว่าบาดแผลของข้าจะหายดีแล้ว แต่ถึงแบบนั้นข้าก็ยังรู้สึกอ่อนแอกว่าที่เคยเป็น”
  “เจ้าได้สูญเสียพลังชีวิตให้กับพลังผนึกเครื่องรางมังกรทอง เพราะแบบนั้นเจ้าก็เลยรู้สึกเช่นนี้” ลู่โจวเองก็เคยคิดเรื่องนี้มาแล้ว ถ้าหากจะพูดตามตรง ในตอนนี้ยี่เทียนซินได้กลายเป็นผู้สูงอายุไปแล้วก็ว่าได้
  ยี่เทียนซินยังคงถามต่อ “ตามทฤษฎีการฝึกยุทธ พลังวรยุทธที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้ข้าได้อายุขัยที่เพิ่มมากขึ้นสินะคะ?”
  “ถูกต้อง” ลู่โจวพยักหน้า
  “ข้าจะสามารถยืดอายุขัยได้ไหมถ้าหากข้าฝึกฝนตัวเองจนมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ?” ยี่เทียนซินมองตรงไปที่ผู้เป็นอาจารย์นางรู้ดีว่าคำถามของนางหยาบคายมากแค่ไหน
  หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง ลู่โจวมองดูนางก่อนจะตอบกลับ “ชีวิตของเจ้าจะต้องยืดยาวกว่านี้ได้แน่ เจ้ากำลังหาวิธีที่จะฝึกฝนตัวเองจนมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบอยู่อย่างงั้นสินะ?”
  ยี่เทียนซินคุกเข่าก่อนที่จะตอบกลับอย่างร้อนรน “ศิษย์ไม่กล้าที่จะรบกวนท่านอาจารย์ถึงขนาดนั้น”
  “ตั้งแต่ที่เจ้ากลับมาที่ศาลาปีศาจลอยฟ้า เจ้าก็กลายเป็นศิษย์ของข้า เป็นธรรมดาที่ผู้เป็นอาจารย์จะมีหน้าที่สอนสั่งศิษย์อย่างเจ้า มันถูกต้องแล้วที่เจ้าจะถามข้า ข้าในฐานะอาจารย์ก็มีหน้าที่ที่จะต้องตอบคำถามเจ้า ไม่จำเป็นจะต้องรู้สึกผิดไป ลุกขึ้นได้แล้ว”
  ความภักดี: +1%
  “ติ้ง! ชี้แนะยี่เทียนซินสำเร็จ ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 500”   ยี่เทียนซินเงยหน้าขึ้นมองลู่โจว
  “ข้ารู้สึกลำบากใจที่จะต้องถามท่าน”
  “ว่ามา”
  “ข้ากำลังคิดที่จะตัดดอกบัวทองคำ” ยี่เทียนซินพูดออกมาอย่างไร้ความกลัว ลู่โจวไม่แปลกใจเลยที่ผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบจะคิดถึงเรื่องพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ
  “เจ้าจะต้องฝึกฝนตัวเองใหม่ตั้งแต่ต้น เจ้าเต็มใจแล้วอย่างงั้นสินะ?”
  “ข้ามีศิษย์พี่รองเป็นแบบอย่างแล้ว และท่านอาจารย์เองก็คอยชี้แนะข้า ข้าไม่มีอะไรจะต้องกลัว” ยี่เทียนซินตอบกลับไปในทันที
  ลู่โจวลูบเคราก่อนจะพูดต่อ “ไม่จำเป็น”
  “ท่านอาจารย์หมายความว่าอะไรกัน?” ยี่เทียนซินถามกลับมาด้วยความสงสัย
  “เฉินกวางเป็นสัตว์ในตำนาน ว่ากันว่าผู้ใดที่ได้ขี่มันจะมีอายุยืนยาวถึง 2,000 ปี…บางทีนั่นอาจจะเป็นวิธีที่จะทำให้เจ้าฝึกฝนตัวเองจนมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้”   ยี่เทียนซินเคยเล่าทุกสิ่งทุกอย่างในหุบเหวลึกให้กับลู่โจวฟังแล้ว อันที่จริงสิ่งที่นางได้พบเจอไม่ได้แตกต่างไปจากเรื่องเล่าหรือว่าตำนานใดเลย มีหลายอย่างที่แม้แต่ยี่เทียนซินก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ด้วยตรรกะ
  ลู่โจวพูดต่อ “ดอกบัวทองคำเป็นสิ่งที่ดูดซับพลังชีวิต เรื่องนี้ได้รับการยอมรับจากทั่วทั้งยุทธภพแล้ว ถ้าหากเจ้าสามารถเติมเต็มพลังให้กับดอกบัวทองคำได้ บางทีเจ้าอาจจะเอาชนะขีดจำกัดของผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบได้ แต่เป็นเพราะมนุษย์สามารถอยู่ได้นานสุด 1,000 ปี เพราะแบบนั้นจึงไม่มีใครเคยข้ามผ่านขีดจำกัดได้มาก่อน”
  “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านได้พิสูจน์เรื่องนี้ให้ข้าเห็นกับตาแล้วท่านอาจารย์”
  ลู่โจวได้แต่ไอกลบเกลื่อน ตัวเขากำลังแสร้งทำเป็นมีความรู้ แต่ถึงแบบนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ลู่โจวไม่รู้เลยว่าดอกบัวทองคำต้องการพลังชีวิตมากแค่ไหน โชคยังดีที่โลกแห่งการฝึกยุทธยังไม่มีเส้นทางที่แปลกใหม่  ยี่เทียนซินเคยเล่าทุกสิ่งทุกอย่างในหุบเหวลึกให้กับลู่โจวฟังแล้ว อันที่จริงสิ่งที่นางได้พบเจอไม่ได้แตกต่างไปจากเรื่องเล่าหรือว่าตำนานใดเลย มีหลายอย่างที่แม้แต่ยี่เทียนซินก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ด้วยตรรกะ
  ลู่โจวพูดต่อ “ดอกบัวทองคำเป็นสิ่งที่ดูดซับพลังชีวิต เรื่องนี้ได้รับการยอมรับจากทั่วทั้งยุทธภพแล้ว ถ้าหากเจ้าสามารถเติมเต็มพลังให้กับดอกบัวทองคำได้ บางทีเจ้าอาจจะเอาชนะขีดจำกัดของผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบได้ แต่เป็นเพราะมนุษย์สามารถอยู่ได้นานสุด 1,000 ปี เพราะแบบนั้นจึงไม่มีใครเคยข้ามผ่านขีดจำกัดได้มาก่อน”
  “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านได้พิสูจน์เรื่องนี้ให้ข้าเห็นกับตาแล้วท่านอาจารย์”
  ลู่โจวได้แต่ไอกลบเกลื่อน ตัวเขากำลังแสร้งทำเป็นมีความรู้ แต่ถึงแบบนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ลู่โจวไม่รู้เลยว่าดอกบัวทองคำต้องการพลังชีวิตมากแค่ไหน โชคยังดีที่โลกแห่งการฝึกยุทธยังไม่มีเส้นทางที่แปลกใหม่  ยี่เทียนซินเคยเล่าทุกสิ่งทุกอย่างในหุบเหวลึกให้กับลู่โจวฟังแล้ว อันที่จริงสิ่งที่นางได้พบเจอไม่ได้แตกต่างไปจากเรื่องเล่าหรือว่าตำนานใดเลย มีหลายอย่างที่แม้แต่ยี่เทียนซินก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ด้วยตรรกะ
  ลู่โจวพูดต่อ “ดอกบัวทองคำเป็นสิ่งที่ดูดซับพลังชีวิต เรื่องนี้ได้รับการยอมรับจากทั่วทั้งยุทธภพแล้ว ถ้าหากเจ้าสามารถเติมเต็มพลังให้กับดอกบัวทองคำได้ บางทีเจ้าอาจจะเอาชนะขีดจำกัดของผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบได้ แต่เป็นเพราะมนุษย์สามารถอยู่ได้นานสุด 1,000 ปี เพราะแบบนั้นจึงไม่มีใครเคยข้ามผ่านขีดจำกัดได้มาก่อน”
  “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านได้พิสูจน์เรื่องนี้ให้ข้าเห็นกับตาแล้วท่านอาจารย์”
  ลู่โจวได้แต่ไอกลบเกลื่อน ตัวเขากำลังแสร้งทำเป็นมีความรู้ แต่ถึงแบบนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ลู่โจวไม่รู้เลยว่าดอกบัวทองคำต้องการพลังชีวิตมากแค่ไหน โชคยังดีที่โลกแห่งการฝึกยุทธยังไม่มีเส้นทางที่แปลกใหม่เต็มพลังวิเศษที่มีได้
  แต่ไม่ทันที่จะได้ตอบ ซู่ฮ่องกงก็ได้วิ่งเข้ามาซะก่อน “ท่านอาจารย์ มีจดหมายจากศิษย์พี่เจ็ด”
  “อ่านซะ”
  ซู่ฮ่องกงอ่านจดหมายก่อนที่จะเริ่มออกเสียง “ท่านอาจารย์ ข้าแน่ใจว่าทุกอย่างในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์จะต้องราบรื่น ข้าไม่สงสัยเลยว่าท่านจะสามารถป้องกันเมืองได้อย่างแน่นหนาแค่ไหน ส่วนเรื่องขับไล่ชาวรั่วหลี่ที่นี่ท่านไม่ต้องห่วงไป เพราะข้าจะเป็นผู้ดูแลเอง นอกจากนี้…ข้ายังได้ข้อมูลที่สำคัญมา เป็นไปได้สูงที่ผู้ชี้แนะองค์จักรพรรดิดินแดนหยานจะยังมีชีวิตอยู่ ในตอนนี้เขากำลังอาศัยอยู่ร่วมกับชนเผ่าอื่น”
  ลู่โจวไม่แปลกใจเท่าไหร่กับข่าวที่ได้ฟัง ตัวเขาเองก็คิดในแบบเดียวกันในก่อนหน้านี้ ถ้าหากคนคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ แสดงว่าลู่โจวอาจจะค้นพบเบาะแสของพลังดอกบัวสีแดงและเรื่องของแม่นางแซ่หลัวได้ “บอกให้เจ้านั่นสืบเรื่องนี้ต่อไปซะ”
  “ครับ ท่านอาจารย์” ซู่ฮ่องกงโค้งคำนับก่อนที่จะเหลือบมองยี่เทียนซินและพูดออกมา “ข้ามีคำถามที่จะถามท่าน”
  “เป็นเรื่องดีแล้วที่เจ้าใฝ่รู้…” ลู่โจวไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับการตอบคำถาม ยังไงซะการสั่งสอนศิษย์ก็ยังทำให้ตัวเขาได้รับแต้มบุญอยู่ดี
  “ข้าไม่รู้ว่าทำไม…แต่ข้ารู้สึกว่ามีคนกำลังตามข้ามา”