บทที่ 593 ทะลวงขั้น ความเชื่อทางวิทยาศาสตร์

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 593 ทะลวงขั้น ความเชื่อทางวิทยาศาสตร์

“ข้าจะไปพบเขา!”

หวงจุนเทียนลุกขึ้นพลางกล่าว สำนักพุทธส่งบรรพชนพุทธมา เขาจะนั่งมองอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร

เมื่อศิษย์แจ้งข่าวได้ยินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

หวงจุนเทียนเคลื่อนไหวทันที

สงครามของครึ่งอริยะกำลังจะปะทุขึ้นแล้ว!

….

ผ่านไปห้าร้อยปีเต็ม หานเจวี๋ยเพิ่งทะลวงขั้นสำเร็จ

เขาจงใจยื้อเวลาไว้ เดิมทีต้องการใช้เวลานานกว่านี้ พอถึงโค้งสุดท้าย เขาค่อยเพิ่มความเร็วในการทะลวงระดับ

พลังเวทเพิ่มขึ้นฉับพลัน!

หานเจวี๋ยทำให้ตบะเสถียรไปพลาง เรียกหน้าต่างค่าสถานะของตนออกมาตรวจสอบไปพลาง

[ชื่อ: หานเจวี๋ย]

[อายุ: 939000/12, 999, 999, 999, 999, 999, 999, 999, 999]

[เผ่าพันธุ์: เทพมารอนธการ (มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต)]

[ตบะ: เซียนทองต้าหลัวเบิกฟ้าระยะสมบูรณ์ (อริยะสมบูรณ์แบบ)]

[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ (ระดับมหามรรค), วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]

[มหามรรค: มหามรรคเวียนว่ายตายเกิด, มหามรรคแห่งกรรม, มหามรรคต้นกำเนิด]

….

เยี่ยม!

อายุขัยเพิ่มขึ้นมาสิบเท่าเลย!

หานเจวี๋ยมองตัวเลขที่เรียงกันเป็นพรืด ในใจเต็มด้วยไปด้วยความรู้สึกเปรมปรีดิ์

เท่ากับว่าเขาเป็นอมตะมิวางวายแล้ว!

หานเจวี๋ยสงบอารมณ์ ทำให้ตบะเสถียรต่อ

เวลาผ่านไปสี่สิบปีเต็ม ตบะของเขาถึงได้มั่นคง

หานเจวี๋ยเริ่มยกระดับพลังวิเศษมรรคกระบี่ ใช้เวลาเพียงครึ่งปีเท่านั้น

หานเจวี๋ยไม่ได้ฝึกฝนร่างจำลองเสรีสุญญตาในทันที แต่เลือกตรวจดูจดหมาย ใส่ใจสถานการณ์ในระยะนี้

[จักรพรรดิเซียนวัฏจักรสหายของท่านออกจากแดนเซียน]

[หานมิ่งสหายของท่านออกจากแดนเซียน]

[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากมารสวรรค์เบิกฟ้าสหายของท่าน]

[จักรพรรดิเซียนวัฏจักรสหายของท่านก่อตั้งมิติวัฏจักร]

[มารสวรรค์เบิกฟ้าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากหลี่เต้าคงสหายของท่าน]

[สือตู๋เต้าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเจ้าแห่งมหาเคราะห์โบราณ]

[ผานซินสหายของท่านเข้าร่วมวังเทพ ดวงชะตาเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

….

มารฟ้าเบิกสวรรค์และหวงจุนเทียนตีกันได้อย่างไร

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว เพื่อป้องกันไม่ให้สองสายลับโมโหจนฆ่ากันตาย เขาจำเป็นต้องไปเข้าฝันทั้งคู่

ค่าความประทับใจที่ทั้งสองมีต่อเขาบรรลุถึงระดับหกดาว หานเจวี๋ยไม่กลัวว่าจะถูกหักหลัง

เมื่อทั้งสองได้ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นพวกเดียวกัน ก็ล้วนตกตะลึง

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่กล้าก่อเรื่องต่อหน้าหานเจวี๋ย ได้แต่รับปากว่าจะไม่ผูกความแค้นกัน

หานเจวี๋ยไปเข้าฝันหลี่เต้าคงต่อ

หลี่เต้าคงคนนี้ตึงเกินไป หานเจวี๋ยกังวลว่าเขาจะทุบตีจนมารสวรรค์เบิกฟ้าดับดิ้น

หลี่เต้าคงเงียบงัน

ผ่านไปพักใหญ่

หลี่เต้าคงถามขึ้น “เจ้าสำนัก ท่านจัดวางไส้ศึกไว้มากแค่ไหนกันแน่”

เขาคิดว่ารากฐานของหานเจวี๋ยไม่ลึกล้ำมากนัก รู้จักแต่พากเพียรบำเพ็ญ จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าตนมองผิดไปเสียแล้ว

รากฐานลึกล้ำเกินไปแล้ว!

แม้แต่บรรพชนพุทธแห่งสำนักพุทธก็ยังเป็นคนของหานเจวี๋ย!

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า ”เรื่องนี้ไม่อาจประกาศต่อภายนอกได้ ข้าไว้ใจเจ้า วันหน้าเจ้าจะกลายเป็นอริยะแห่งสำนักซ่อนเร้น ดังนั้นถึงได้บอกให้เจ้ารู้แต่เนิ่นๆ”

หลี่เต้าคงพยักหน้ารับ “ขอบพระคุณในความเมตตาของเจ้าสำนัก ข้ามีเรื่องจะแจ้ง ข้ารับหานอวี้เป็นศิษย์แล้ว”

“ข้ารู้แล้ว”

“ข้าคิดว่าจะให้หานอวี้เป็นผู้สืบทอด เขาอาจจะได้รับความยากลำบากสักหน่อย ถึงขั้นที่อาจต้องสิ้นชีพ…”

ยามที่กล่าวประโยคนี้ออกมาหลี่เต้าคงมีความลังเลยิ่ง ถึงแม้เขาจะมีนิสัยมุทะลุ แต่มิได้โง่

หานเจวี๋ยเอ่ยสั้นๆ “แล้วแต่เจ้าเถอะ”

พอกล่าวจบ หานเจวี๋ยก็สลายแดนความฝันทันที

กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง หานเจวี๋ยแค่นเสียงออกมาคราหนึ่ง

“ถ้าข้าคิดจะปกป้องเขา เจ้าจะทำให้เขาตายได้อย่างไร!”

หานเจวี๋ยคิดด้วยความผยอง

เขามิใช่ตัวเขาในอดีตอีกต่อไปแล้ว ในแดนเซียนแห่งนี้ เขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม!

หลังจากจัดการทุกอย่างนี้เสร็จ หานเจวี๋ยก็เริ่มฝึกฝนร่างจำลองเสรีสุญญตา

ยิ่งเรียนรู้ร่างจำลองเสรีสุญญตาลึกเข้าไปเท่าไร ก็ยิ่งฝึกฝนยากขึ้นเท่านั้น มิใช่เพราะคุณสมบัติของเทพมารแข็งแกร่งขึ้น แต่เป็นเพราะพลังของร่างจำลองเทพมารขัดแย้งกันเอง ยากจะเข้ากันได้

การฝึกฝนครั้งนี้ใช้เวลาถึงสองร้อยปี หานเจวี๋ยฝึกฝนร่างจำลองเทพมารได้ห้าสิบตน ก็ไม่สามารถฝึกฝนร่างจำลองเทพมารเพิ่มได้อีก

แบ่งออกเป็น เทพมารฝ่ามรรค เทพมารถาโถม เทพมารบุกตะลุย เทพมารวังวน เทพมารยิ้มลวง เทพมารสี่สิบเก้าลักษณา เทพมารลักษณ์มังกร เทพมารสรรค์สร้าง เทพมารดินแดน เทพมารไร้แก่นสาร เทพมารปนเปื้อน เทพมารประสาทสัมผัส เทพมารกลืนความทรงจำ เทพมารแรงกรรม เทพมารดารา เทพมารทุกแห่งหน เทพมารชั่วช้า เทพมารเคลิบเคลิ้ม เทพมารยอดบรรพกาล เทพมารปฐมบรรพชน เทพมารลมหายใจ เทพมารบงกชเขียว เทพมารจู่โจม เทพมารตัวตน เทพมารพหุภพ เทพมารลบล้าง เทพมารเทียมวิญญาณ เทพมารสิ้นซาก เทพมารไร้ระยะ เทพมารโรยรา เทพมารเดือนปี เทพมารโบราณ เทพมารเลิศฟ้า เทพมารตามมรรค เทพมารไร้วิญญาณ เทพมารราชธรรม เทพมารอารมณ์ เทพมารกำเนิดใหม่ เทพมารชั่วพริบตา เทพมารหวนปัจฉิม เทพมารหมื่นสรรพสิ่ง เทพมารกำเนิดวิญญาณ เทพมารเถ้าธุลี เทพมารเหนือฟ้า เทพมารเห็นแจ้ง เทพมารกำหนดกฎ เทพมารบัญญัติ เทพมารประทานพร เทพมารธุลีแดง เทพมารอุปาทาน

หานเจวี๋ยเริ่มใช้แบบจำลองการทดสอบ ปรับตัวให้เข้ากับพลังของร่างจำลองเทพมารตนใหม่เหล่านี้

เพียงพริบตาเดียว

ผ่านไปอีกสิบปี

นอกจากปรมาจารย์ลัญจกรสรวงและตี้จวิน หานเจวี๋ยสามารถสังหารตัวตนทั้งหมดในแบบจำลองการทดสอบในเสี้ยววินาทีได้!

มีร่างจำลองเทพมารสะสมรวมกันสองร้อยยี่สิบตนแล้ว เมื่อสำแดงออกมาพร้อมกัน ในระดับต่ำกว่าอริยะเสรีลงไปไม่มีผู้สามารถต้านทานได้!

ยอดเยี่ยม!

พลังเพิ่มขึ้นฉับพลัน ทำให้ความเลือดร้อนของหานเจวี๋ยเช่นในครั้งอดีตกลับมาอีกครั้ง

อยากไปท้าสู้กับอริยะเสรีสักคนจริงๆ!

ช่างเถอะ

ต้องสงบไว้หน่อย จะวุ่นวายไม่ได้

หานเจวี๋ยเดินออกจากอารามเต๋า เพื่อเทศนาธรรมให้สรรพสิ่ง

ยังคงเทศนาเป็นเวลาร้อยปีเช่นเดิม

ร้อยปีต่อมา หานเจวี๋ยกลับถึงอารามเต๋า เขาเริ่มสอดส่องมิติวัฏจักร

มิติวัฏจักรมิได้อยู่ในแดนเซียน แต่อยู่ในซอกมุมหนึ่งของแดนต้องห้ามอันธการ ห่างไกลอย่างยิ่ง

ต่อให้เป็นอริยะอย่างหานเจวี๋ยก็ไม่สามารถสอดส่องสถานการณ์ของมิติวัฏจักรได้

หานเจวี๋ยจำเป็นต้องเข้าฝันจักรพรรดิเซียนวัฏจักร จากนั้นให้จักรพรรดิเซียนวัฏจักรฉายสถานการณ์ของมิติวัฏจักร

ตอนนี้ มิติวัฏจักรมีผู้กลับชาติมาเกิดหลายพันคนแล้ว รวบรวมก่อเป็นแดนมายานับร้อยแห่งขึ้นในแม่น้ำโชคชะตาของแดนเซียน

ต้องใช้พลังเวทจำนวนมากเพื่อสร้างดินแดนขึ้น เนื่องจากดินแดนเหล่านี้ตั้งอยู่ในแม่น้ำโชคชะตา ผู้กลับชาติมาเกิดต้องปรับเปลี่ยนชะตาชีวิตของผู้มีดวงชะตายิ่งใหญ่ในแดนมายา ทำให้ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำโชคชะตา

จักรพรรดิเซียนวัฏจักรฉายสถานการณ์ของมิติวัฏจักรให้หานเจวี๋ยดู

ภายในมิติวัฏจักรมีเมืองอยู่แห่งหนึ่ง พื้นที่กว้างไกลนับล้านลี้ เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับผู้กลับชาติมาเกิด เมืองแห่งนี้มีความคล้ายคลึงกับเมืองในยุคโบราณยิ่งนัก แต่ก็มีเค้าโครงของเทคโนโลยีอยู่บ้างเช่นกัน

“วิถีบำเพ็ญของแดนเซียนพิภพขาดช่วงไปแล้ว ยามนี้สิ่งที่กำลังเป็นกระแสคือสิ่งที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์ มีการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ ทำให้สิ่งมีชีวิตสามารถเดินทางออกนอกดาวเคราะห์ของตน ออกท่องอวกาศ ผู้สรรค์สร้างวิทยาศาสตร์ขึ้นคือเทพมารฟ้าบุพกาลตนหนึ่ง เขาตัดขาดจากพลังวิญญาณ ใช้วิทยาศาสตร์ดึงดูดความศรัทธาจากสิ่งมีชีวิตในแดนเซียนพิภพ เพิ่มดวงชะตาให้ตน พลังลึกล้ำเกินหยั่ง ทว่าเทพมารฟ้าบุพกาลตนนี้ก็ยำเกรงเจิ้นหยวนจือเช่นกัน ตามปกติไม่กล้าเผยตัวนัก” จักรพรรดิเซียนวัฏจักรชี้แจง

หานเจวี๋ยเลิกคิ้ว นี่ก็คือความจริงของวิทยาศาสตร์อย่างนั้นหรือ

ท้ายที่สุดแล้ววิทยาศาสตร์ก็คือเทวศาสตร์สินะ

เป็นเพียงคำโป้ปดที่เทพมารฟ้าบุพกาลสร้างขึ้นใช่หรือไม่

หานเจวี๋ยถามต่อ “มีดาวโลกหรือไม่”

จักรพรรดิเซียนวัฏจักรตอบ “มี ในอดีตดาวโลกเคยเป็นศูนย์กลางแดนเซียนพิภพ เพียงแต่ยามนี้อ่อนแอยิ่งนัก”

“ดาวโลกมีประวัติศาสตร์ยาวนานแค่ไหน”

“ดาวโลกคงอยู่มานับหมื่นล้านปี ประวัติศาสตร์ตามปฏิทินดวงดาวคือสามพันสองร้อยปี”

หานเจวี๋ยเงียบไป

บางทีที่นี่อาจจะไม่ใช่ดาวโลกในอดีตชาติของเขา หรือไม่ก็ผ่านไปนานมากเหลือเกินแล้ว ดาวโลกที่เขารู้จักเปลี่ยนแปลงไปนานแล้ว

ถึงอย่างไรหานเจวี๋ยก็ไม่สนใจดาวโลกเลย เขาไม่ได้ยึดติดอาวรณ์กับอดีตชาติมากนัก เขาสนใจแค่ชาตินี้เท่านั้น

………………………………………………………………